ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
นิสิตปริญญาเอก (DBA) ชั้นเรียนแรกในมหาวิทยาลัยนเรศวรที่ผมสอน

ผมเคยสอนชั้นเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะอาจารย์พิเศษเมื่อวันครูปีนี้ (วันเสาร์ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓) แต่เมื่อทางคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์บรรจุเป็นอาจารย์ประจำ ผมรับผิดชอบสอนวิชา "กลยุทธ์ธุรกิจแบบบูรณาการ" แก่นิสิตหลักสูตรปริญญาเอกทางด้านบริหารธุรกิจ


นิสิตหลักสูตรปริญญาเอกรุ่นที่สอนเป็นชั้นปีที่ ๑ เป็นรุ่นที่ ๔ ตั้งแต่คณะฯเปิดหลักสูตรปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจขึ้นมา


ผมเคยเจอนิสิตปริญญาเอกปี ๑ มาแล้วครั้งแรกตอนงานปฐมนิเทศเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายนที่ผ่านมา ตอนนั้นเอาประสบการณ์ตอนเรียนหลักสูตรปริญญาเอกในญี่ปุ่นมาแชร์ให้พวกเขาฟัง ให้เข้าใจว่ากว่าจะเรียนจนจบได้เป็นดุษฎีบัณฑิต มีคำว่า "ดร." นำหน้า มันผ่านความยากลำบากมาอย่างไร อาจารย์เป็นตัวอย่างให้ลูกศิษย์เห็นว่า

"ความพยายามของผู้คนไม่เคยจบลงด้วยความสูญเปล่า"


คณะฯมอบหมายให้ผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสำหรับนิสิตปริญญาเอกรุ่นที่ ๔ ด้วย นับจากวันปฐมนิเทศผมยังไม่มีโอกาสได้เจอนิสิตปริญญาเอกรุ่นนี้พร้อมหน้าเท่าไหร่ ผมทราบข่าวจากนิสิตว่ามีคนขอลาออกจากหลักสูตรปริญญาเอกเพราะมีปัญหาสุขภาพ ๒ ราย ดังนั้นรุ่นนี้จึงเหลือเพียง ๘ ราย


วันนึงจิตราแวะเข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องปัญหาในการเรียน จิตราไม่อยากเป็นภาระแก่คนในชั้นเพราะมีปัญหาเรื่องของภาษาอังกฤษ ผมพูดให้กำลังใจแก่จิตรา โดยยกตัวอย่างของผมให้จิตราดูว่า

ถ้าภาษาอังกฤษยากสำหรับจิตรา...ขอให้ดูตัวอย่างของผมที่ไปเรียนในญี่ปุ่น ต้องเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาทางวิชาการที่เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นที่ผมเรียนไปเพียงแค่ ๑ ปี ภาษาญี่ปุ่นช่วงแรกๆไม่ว่าใครจะดูถูกว่าภาษาญี่ปุ่นของผมไม่ดี ผมไม่สนใจ ผมต้องการพัฒนาภาษา เอาชนะปัญหาเรื่องของภาษาญี่ปุ่นให้ได้ ถ้าผมไม่สามารถเอาชนะได้...ผมจะอยู่ประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข

ทุกภาษากว่าจะพัฒนาให้สามารถสื่อสารได้ดีมันใช้เวลาทั้งนั้น แต่ถ้าเราไม่ละทิ้งความพยายาม เราจะเห็นการพัฒนาเป็นลำดับจนเราประหลาดใจ ผมเชื่อมั่นว่าคนเราถ้ามีความตั้งใจ มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค สุดท้ายเราจะได้ความสำเร็จเป็นของตอบแทนเสมอ


วิธีพัฒนาภาษาไม่ใช่ตะบี้ตะบันท่องศัพท์กันอย่างที่เราสอนๆกัน มันเป็นวิธีที่ผิด การใช้ดิกไฟฟ้าก็เป็นวิธีไม่ช่วยจำเพราะมันไม่ใช่วิธีการจดจำตามธรรมชาติของมนุษย์ เพราะวิธีเรียนที่คนไทยทำกันอยู่มันผิด เราจึงโทษตัวเองว่าภาษาอังกฤษของเราไม่ดีขึ้นเสียที ทำไมท่องศัพท์แทบตายไม่จำเลย ทำไมพูดไม่ได้เลย ก็เพราะวิธีการฝึกภาษามันผิด มันฝืนธรรมชาติในการจดจำของมนุษย์

การจะจดจำเรื่องๆหนึ่ง คำศัพท์ใหม่ๆ เราน่าจะอ่านผ่านตาบ่อยๆแทนการท่องจำ และนี่เป็นวิธีจดจำทางธรรมชาติที่ได้ผลและจดจำได้นานกว่าการท่องศัพท์ที่นิยมทำกัน


แนะนำให้จิตราลองอ่านบทความภาษาอังกฤษบ่อยๆ ฝึกอ่านบ่อยๆ จะเห็นการพัฒนาภาษาเป็นลำดับ


ก่อนจะมาสอนวิชา "กลยุทธ์ธุรกิจแบบบูรณาการ" ผมสอบถามบรรดานิสิตปริญญาเอกรุ่นก่อนหน้าเพื่อประมวลปัญหาของการเรียน วิเคราะห์ว่าอะไรเป็นปัญหาที่ทำให้งานวิทยานิพนธ์ของนิสิตปริญญาเอกไม่คืบหน้า อะไรคือสิ่งที่จะช่วยเสริมให้นิสิตปริญญาเอกสามารถจบได้เร็วขึ้น


พอรู้จุดบกพร่องแล้ว....ผมก็ออกแบบหลักสูตรของวิชาที่สอนเพื่อที่จะช่วยพัฒนาทักษะของนิสิตปริญญาเอกรุ่นที่ ๔ ที่ผมอยากจะดันให้เป็นรุ่นแรกที่น่าจะสามารถจบหลักสูตรปริญญาเอกภายในเวลาไม่เกิน ๕ ปี


๗ สิงหาคมเป็นวันแรกที่ผมได้ไปสอนนิสิตปริญญาเอกรุ่นที่ ๔ ยอมรับว่าตื่นเต้น แต่ไม่ประหม่า มีอาการเครียดที่แสดงออกจากอาการเข้าห้องน้ำถี่ๆ


ผมมีโอกาสได้แนะนำหลักสูตรวิชาที่ผมสอนแก่นิสิตและเงื่อนไขที่ผมสร้างขึ้นมาในชั้นเรียนวิชาที่ผมสอนเพื่อช่วยพัฒนาทักษะเรื่องของภาษาอังกฤษและการเขียนบทความของนิสิตรุ่นนี้ เพราะการตีพิมพ์บทความเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาให้สำเร็จการศึกษา ดังนั้นพวกเขาควรจะคุ้นเคยกับการฝึกเขียนบทความวิชาการตั้งแต่ปี ๑


ผมบอกกับนิสิตว่า

"...ทุกคนเข้ามาเรียนหลักสูตรนี้มีเป้าหมายเหมือนกัน ต้องการมีคำว่า "ดร." นำหน้า ดังนั้นผมจะพยายามผลักดันให้รุ่น ๔ เป็นรุ่นแรกที่สามารถสำเร็จการศึกษาให้ได้ภายใน ๕ ปี ตอนที่พวกคุณสำเร็จการศึกษามีคำว่า "ดร." นำหน้า ไม่เพียงแต่คุณที่ภูมิใจ ผมในฐานะคนสอนก็มีความภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน"


ชั้นเรียนผมกระตุ้นให้นิสิตแสดงความคิดเห็น โดยมีคะแนนแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน เพราะพวกเขาต้องสามารถวิพากษ์วิจารณ์งานและบทความต่างๆ เพื่อต่อยอดความคิดมาเขียนงานวิทยานิพนธ์ดีๆชิ้นหนึ่งเป็นของตนเองได้


ในชั้นเรียนนิสิตทุกคนต้องอ่านบทความวิชาการจากวารสารต่างประเทศร่วมกันในชั้นเรียน และพวกเขาต้องสรุปค้นหาประเด็นสำคัญจากบทความเหล่านั้นที่ให้อ่านแล้วมาสังเคราะห์เป็นบทความใหม่จากแนวความคิดของเขา มีงานมอบหมายให้ทุกคนต้องส่งบทความให้ผมภายในอาทิตย์ถัดไปเพื่อฝึกให้พวกเขาคุ้นเคยกับการเขียนบทความเพื่อไปตีพิมพ์ลงวารสารทางวิชาการในอนาคตซึ่งเป็นเงื่อนไขในการขอจบการศึกษา


การที่พื้นฐานของนิสิตรุ่นนี้ใกล้เคียงกันเลยทำให้วัฒนธรรมองค์กรของชั้นเรียนที่ผมสอนไม่มีปัญหา ทกุคนเคารพความคิดของคนอื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


นาวาโทวิเศษเป็นประธานรุ่น เขาเป็นนายทหารเรือแต่มีภรรยาเป็นอาจารย์ที่คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เขาสร้างวัฒนธรรมของชั้นเรียนให้นิสิตแสดงความเคารพอาจารย์ก่อนและหลังเรียนเสร็จ ผมไม่เคยเจอวัฒนธรรมแบบนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ก็เป็นวัฒนธรรมการเรียนที่น่าชื่นชมสำหรับสังคมไทย





ผมเล็คเชอร์หัวข้อที่สำคัญของหลักสูตรวิชานี้ช่วงเช้าและนำนิสิตในชั้นให้พวกเขาถกประเด็นที่ผมหยิบยกขึ้นมาในชั้นเรียน....








ผศ.ปาณิสรา มักจะแสดงความคิดเห็นบ่อยที่สุดในชั้นเรียน จุดประเด็นต่อให้คนอื่นถกในประเด็นเหล่านั้นต่อ จิระเป็นลูกน้องของ ผศ.ปาณิสราที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ กำแพงเพชร มักจะแสดงความคิดเห็นสอดแทรกจากประสบการณ์สมัยทำงานที่สหฟาร์ม


ในขณะที่ประทีปจะอธิบายขยายความในเวลาที่ต้องการจะเสนอความคิดเห็นต่างๆจนเพื่อนๆหัวเราะเพราะมักจะโยงไปเรื่องอื่นนานมากก่อนจะเข้าประเด็น





ปกรณ์เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาเรียนพร้อมกับสมพงษ์เพราะทั้งคู่ทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สมพงษ์ทำงานด้านบริษัทที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานของรัฐและเอกชน





จิตรามักจะนั่งจดสิ่งผมอธิบายและสิ่งที่เพื่อนๆในชั้นเรียนถกประเด็นสำคัญมากกว่า แต่ก็มาทำแต้มแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนเอาวันท้ายๆ


บางครั้งก็เอาคลิปหนังที่มีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับหัวข้อที่สอนมาใช้ประกอบการสอน แล้วให้นิสิตเขาวิเคราะห์ว่าเขาค้นพบอะไรจากหนังที่หยิบขึ้นมาใช้ประกอบการสอน





พอนิสิตเขาถกกันเสร็จ ในฐานะอาจารย์ก็จะสรุปประเด็นสำคัญให้นิสิตฟังว่าในหัวข้อที่หยิบขึ้นมาถกกันมีมุมไหนบ้างที่พวกเขาอาจจะมองข้ามหรือสรุปประเด็นสำคัญที่เราน่าจะให้ความสำคัญ






ที่ดีใจมากเห็นจะเป็นการที่ผมมีโอกาสได้นำหัวข้อ "การจัดการกับวิกฤตการณ์ (Crisis Management)" งานวิจัยที่ผมทุ่มเทมาตลอดระยะเวลาที่เรียนหลักสูตรปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเคโอ ในญี่ปุ่น มาถ่ายทอดแนวคิดที่เป็นประโยชน์ให้แก่นิสิตหลักสูตรปริญญาเอก DBA รุ่นที่ ๔ ขอเพียงแต่พวกเขาเข้าใจแนวคิดและความหมายของคำว่า "การจัดการกับวิกฤตแบบบูรณาการ (Integrated Crisis Management)" อย่างถูกต้อง มันช่วยหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้คนบนโลกนี้ได้อย่างมหาศาล





ตอนบ่ายจะเป็นการอ่านและวิเคราะห์บทความทางวิชาการจากวารสารต่างประเทศร่วมกัน...บรรยากาศการเรียนการสอนจะต่างจากตอนเช้า






ตอนที่ผมอ่านบทความทางวิชาการไปพร้อมๆกับลูกศิษย์เหมือนกับว่าผมกลับมาเรียนหลักสูตรปริญญาเอกใหม่อีกครั้ง.... เครียดพอๆกับลูกศิษย์







ผลของการอ่านบทความทางวิชาการร่วมกันและฝึกให้นิสิตเขาเขียนบทความ..ทำให้หลายๆคนรู้สึกว่าภาษาอังกฤษของตนเองมีการพัฒนาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเริ่มพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์บทความที่พวกเขาอ่าน นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในชั้นเรียนนี้


บรรยากาศสังสรรค์ระหว่างนิสิตและอาจารย์เกิดขึ้นหลังวันเกิดพี่นัท (นิสิตอีกคนของรุ่น ๔) หนึ่งวัน งานนี้ลูกศิษย์เชิญอาจารย์ให้ร้องคาราโอเกะ แพทย์แผนโบราณจีนแนะนำผมว่าการร้องเพลงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอาการเครียด...เพราะตอนที่เราร้องเพลงออกมาเราปลดปล่อยความเครียดออกมาพร้อมกับเสียงเพลง ยอมรับว่าการได้ร้องเพลงหรือฟังคนอื่นทำฮาเวลาร้องคาราโอเกะ...มันช่วยปลดปล่อยภาวะเครียดได้ชั่วเวลาหนึ่ง






แต่งานเลี้ยงไม่ได้อยู่ดึกจนเกินไปเพราะยังมีชั้นเรียนครั้งสุดท้ายในวันรุ่งขึ้น





บรรยากาศของชั้นเรียนครั้งสุดท้าย ผมกล่าวอะไรกับลูกศิษย์เล็กน้อยก่อนอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนหลักสูตรนี้และหวังว่าจะเป็นรุ่นแรกที่สามารถสำเร็จการศึกษาภายใน ๕ ปี

นิสิตเขามีพวงมาลัยมามอบเป็นสัญลักษณ์ของการเคารพและเชิดชูที่ได้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้แก่เขา จิตราเป็นตัวแทนฝ่ายหญิง






ประทีปกล่าวอะไรในฐานะลูกศิษย์และขอฝากตัวให้ผมช่วยแนะนำจนกว่าเขาจะจบหลักสูตรปริญญาเอก ประทีปเอาพวงมาลัยมามอบให้ในฐานะตัวแทนนิสิตชายของรุ่น







ถ่ายภาพร่วมกันกับนิสิตหลักสูตรดุษฎีบัณฑิตบริหารธุรกิจชั้นปีที่ ๑ โดยมี Comparative Integrated Crisis Management Model ของผมที่ทำการวิจัยมาหลายปีเป็นฉากหลังประกอบรูปนี้





แล้วก็มาถึงวันสอบปลายภาค....






ทุกคนตั้งใจทำสอบมาก ภายในเวลา ๓ ชั่วโมงกับข้อสอบ ๕ ข้อที่ต้องอธิบายโดยโยงเอาความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดจากชั้นเรียนวิชานี้ใช้อธิบายตอบคำถามในข้อสอบ






ไม่รู้มาก่อนว่าหลายคนนัดกันใส่เสื้อโปโลของรุ่นสีเขียวอ่อนสดๆตัวนี้ ไม่อย่างนั้นคงสวมเสื้อโปโลสีเขียวของรุ่นนี้มาด้วย









จบหลักสูตรวิชา "กลยุทธ์ธุรกิจแบบบูรณาการ" สำหรับนิสิตหลักสูตรดุษฎีบัณฑิตบริหารธุรกิจรุ่นที่ ๔ แต่สำหรับพวกเขาแล้วจริงๆเป็นเพียงก้าวเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาตัวเองต่อไปจนกระทั่งบรรลุเป้าหมายของการมาศึกษาหลักสูตรนี้ต่างหาก


วันที่นิสิตเหล่านี้ได้สวมครุยดุษฎีบัณฑิตบริหารธุรกิจของคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะครูที่เคยสอนนิสิตเหล่านี้มาคงเป็นวันหนึ่งที่มีความสุขมากๆสำหรับผม


Create Date : 26 กันยายน 2553
Last Update : 26 กันยายน 2553 16:36:52 น. 18 comments
Counter : 4779 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ หวังว่าพี่จะสบายดีนะคะ ^^
ตอนนี้หนูกำลังเรียนปริญญาโทชั้นปีที่ 2 แล้วค่ะ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร คงจะจบเดือนมีนาที่จะถึงนี้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้ด้วยกันนะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: NOO+JHA IP: 202.216.9.69 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:14:18:28 น.  

 
"ความพยายามของผู้คนไม่เคยจบลงด้วยความสูญเปล่า"

ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ :)

ประโยคสั้นๆ แต่สามารถผลักดันให้เรามีกำลังใจได้อีกเยอะเลย


โดย: i-ninewiiz วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:14:29:28 น.  

 
อืม

คนไม่เรียน ดร. สามารถเป็น ดร. ได้หรือเปล่าครับ


โดย: jejeeppe วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:15:34:53 น.  

 
นอกจากประโยคนั้น แล้วยังมีอีกหลายๆ ประโยคที่สร้างแรงบันดาลใจนะครับ ที่พวกเรา DBA4 ได้จากใน Class อ.ดร.ชาตรี อาทิ
สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ว่าจะไม่มีใครทำ สิ่งที่ผิดคือผิด แม้คนจะทำกันก็ตาม (ศ.ดร สังเวียน อินทรวิชัย)
" คนพิการเป็นแค่ความไม่สะดวกสบาย เขาทำได้ดีกว่าคนปกติ และเป็นแบบอย่างที่ดีในบางครั้งให้เรา"
"Impossible = I’m possible ความเป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันมันเป็นไปได้"
"ทำไมต้องไปให้ความสำคัญกับวาเลนไทน์เพียงวันเดียว นั่นแสดงว่าอีก 364 วันที่แสดงความรักให้กัน มันไม่พออีกหรือ"
....

เสียดายนะครับ ที่อาจารย์สอนอีกซัก class เนี่ย คงเขียนเป็น Pocket book ได้เลย อิอิ


โดย: สมพงษ์ IP: 111.84.159.22 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:15:54:12 น.  

 
ดีใจที่สุดในโลกเลยครับที่เป็นลูกศิษย์อาจารย์ อาจารย์เป็นอาจารย์แห่งการเปลี่ยนแปลง (แนวคิดผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง)คือ ปรับวิธีการเรียนการสอนให้ทันกับยุกต์สมัยที่เปลี่ยนไป ผมขอให้ผลการกระทำของอาจารย์ส่งผลให้ประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว และโดยเฉพาะสูขภาพอาจารย์ เพราะผมทราบมาว่าสุขภาพอาจารย์ไม่ค่อยดีนัก ดีแลสุขภาพด้วยนะครับ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง นะครับผม อาร์ท(ประทีป)


โดย: Art (ประทีป) IP: 192.168.50.136, 110.164.239.228 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:21:45:07 น.  

 
ดูบรรยากาศใน class น่าเรียนมากเลย อยากจะสมัครเป็นลูกศิษย์จังแต่เสียดายที่ ม.อยู่ไกลไปหน่อย อย่างไรก็ตามขอให้พี่เงี๊ยบประสบความสำเร็จดั่งใจหวังนะค่ะ คือได้เผยแพร่ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ให้กับลูกศิษย์ในสาขาต่างๆ เพื่อนำไปต่อยอดในสังคมต่อๆ ไปค่ะ


โดย: เอ๋ IP: 10.1.1.21, 58.137.125.180 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:12:02:16 น.  

 
ดีใจครับที่ได้เข้ามาอ่าน blog ของอาจารย์ จำได้ว่าวันที่อาจารย์มาสอน DBA2 เป็นครั้งแรกในรายวิชาสัมมนา อาจารย์ก็ได้สอนสิ่งดีๆ ให้กับพวกผมและเพื่อนๆ หลายอย่าง (ภาพยนต์อูด้ง เป็นภาพยนต์ที่ให้ข้อคิดดีครับ ไม่ใช่แต่เพียงมุมมองเรื่องการจัดการความรู้)และสิ่งที่ผมได้รับฟังและพูดคุยกับอาจารย์ก็ยังคงยืนยันสิ่งที่ผมได้เคยกล่าวไว้ในชั่วโมงนั้นครับ "อาจารย์มีจิตวิญญาณความเป็นครู" ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากครับในปัจจุบัน ผมเองดีใจแทนนักศึกษาทุกคนที่ได้เรียนกับอาจารย์ครับ และขอบพระคุณอาจารย์ครับที่มอบงานตีพิมพ์ของอาจารย์ให้ผม ซึ่งจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาหน่วยงานของผมต่อไปครับ


โดย: เอก DBA2 IP: 119.42.106.95 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:12:19:09 น.  

 
ยินดีจริง ในความตั้งใจแน่วแน่ และเป็นผู้จุดประกายให้ลูกศิษย์และผู้อยู่รอบข้าง


โดย: ทรงพล สืบวงศ์ลี IP: 118.172.185.54 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:12:21:03 น.  

 


Keio ที่พี่เงี้ยบสำเร็จการศึกษานั้น
คนญี่ปุ่นทั่วๆไป สมองระดับต้นยังเข้าไม่ได้ค่ะ



โดย: YUCCA วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:15:14:26 น.  

 
ขอแสดงความยินดี และชื่นชมในวิธีสอนค่ะ^__^


โดย: chompu IP: 113.53.232.218 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:17:20:41 น.  

 
ดีใจมากค่ะ ที่ได้มีโอกาสเรียนและได้รับความรู้จากอาจารย์ รู้สึกซาบซึ้งใจที่ท่านอาจารย์บอกไว้ตั้งแต่ต้นชั่วโมงว่า "ตอนที่พวกคุณสำเร็จการศึกษา มีคำว่า ดร. นำหน้า ไม่เพียงแต่คุณที่ภูมิใจเท่านั้น ผมในฐานะคนสอนก็ภาคภูมิใจเช่นกัน" รู้สึกได้ถึงความเป็นครูที่หวังดีต่อศิษย์ และอยากเห็นความสำเร็จของศิษย์ ได้สวมชุดครุยสมใจ ขอขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงที่ได้กรุณาให้ความรู้ทั้งในเรื่องทฤษฎี การอ่าน การวิเคราะห์และสังเคราะห์ในการเขียนบทความ และกล้ายืนยันค่ะว่าอ่านภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นจริง ๆ ค่ะ ไม่เครียดค่ะ รู้สึกสบายใจเมื่อได้แสดงความคิดเห็นค่ะ แต่ก็เครียดในตอนสอบเล็กน้อยค่ะ แต่ตอนนี้หายเครียดแล้วค่ะเมื่อทราบผลคะแนน ดีใจและขอบคุณอาจารย์มาก ๆ ค่ะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง


โดย: ปาณิสรา IP: 118.175.15.146 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:22:21:11 น.  

 
อาจารย์คะ เรื่องราวของเด็กปริญญาตรีที่อ่านเจอมีนิดเดียวเองอ่ะค่ะอาจารย์ ไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่อนไว้ตรงไหนรึป่าว แต่ว่าเรื่องราวอื่นๆน่าสนใจมากเลยค่ะที่อาจารย์เขียนไว้หนูจะอ่านหมดมั้ยเนี่ย แต่ดูท่าจะมีแต่เรื่องน่าอ่านทั้งนั้นเลย เอาเป็นว่าจะพยายามอ่านให้ครบนะคะหนูจะได้มีความรู้เยอะๆ


โดย: หนูน้อยเสื้อแดง IP: 118.172.141.1 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:17:30:30 น.  

 
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่กรุณาเขียนทิ้งไว้ในบล็อกของผม

เรื่องของนิสิตปริญญาตรีชั้นเรียนแรกที่ผมสอนคงจะสามารถอัพเดทได้เร็วๆนี้ ภายหลังจากว่างมากขึ้นและอัพโหลดรูปจำนวนมากลงเรียบร้อยแล้ว...หวังว่าจะรอติดตามอ่านกัน


โดย: ชีวประภา วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:20:04:46 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ และประสบการณ์ดีๆ ที่อาจารย์ได้ถ่ายทอดให้กับพวกเรานะครับ และขอสัญญาว่าจะนำเอาสิ่งที่ได้รับจากชั้นเรียนของอาจารย์ไปใช้เพื่อพัฒนาตนเองต่อไปครับ


โดย: ปกรณ์ IP: 118.172.98.64 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:15:30:19 น.  

 
พอดีเพิ่งจะเปิดเจอ Blog นี้ของอาจารย์ ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยครับว่า ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับอาจารย์อย่างยิ่งในการที่อาจารย์ได้สอนนิสิตโดยการให้เริ่มเขียนบทความทางวิชาการ เพราะว่าที่ผ่านมาผมในฐานะนิสิต DBA2 ได้มีโอกาสเรียนในชั้นเรียนกับ รศ.ดร.ไว จามรมาร ท่านได้ใช้วิธีการสอนเช่นนี้เหมือนกัน ซึ่งเป็นการจุดประกายให้นิสิตหัดอ่าน หัดเขียน และการต่อยอดความคิดของบทความ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนางานวิจัยหรือหัวข้อ Dissertation ด้วย ได้ประสบการณ์ทั้ง 2 แนวทาง โดยส่วนตัวแล้วผมก็ได้รับแนวคิดรวมทั้งวิธีการที่จะสร้างหัวข้อ Dissertation จากอาจารย์ท่านนี้เหมือน ผมขอให้กำลังใจอาจารย์ในการพัฒนาการเรียนการสอนเพื่อให้ มน.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพสูงแห่งหนึ่งของไทยครับ


โดย: เบิ้ม ประธานสินิต NU-DBA2 IP: 124.122.120.62 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:04:00 น.  

 
เข้ามาอ่านแล้วทำให้รู้ว่าทุกสาขา ต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงที่สุด ถึงจะสำเร็จการศึกษาชอบประโยคนี้ของอาจารย์ครับ "ความพยายามของผู้คนไม่เคยจบลงด้วยความสูญเปล่า" อาจารย์มีจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างมาก "ตอนที่พวกคุณสำเร็จการศึกษา มีคำว่า ดร. นำหน้า ไม่เพียงแต่คุณที่ภูมิใจเท่านั้น ผมในฐานะคนสอนก็ภาคภูมิใจเช่นกัน" ซาบซึ้งครับ


โดย: suwit วิศวกรรมการจัดการ IP: 171.7.192.125 วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:0:25:19 น.  

 
ถ้าเราจะวางแผนเรียน ป.เอก ด้านบริหารธุรกิจ เราจะเรียน ป.เอกด้านบริหารธุรกิจ เป้าหมายคืออยากเป็น เป็นอาจารย์ เราจะเรียน แบบแยกสาขา หรือจะเรียนแบบ ไม่แยกสาขาคับ ช่วยตอบผมด้วยคับ


โดย: นิสิต ป.โท MBS IP: 61.19.233.61 วันที่: 2 มีนาคม 2557 เวลา:20:28:37 น.  

 
ตัวคุณต้องการทำวิจัยในด้านไหน หัวข้อวิจัยจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณควรเรียนสาขาไหน สิ่งสำคัญก่อนเริ่มต้นเรียน คุณต้องชัดเจนในหัวข้อวิทยานิพนธ์ ต้องตอบให้ได้ว่าทำไมสนใจ ทำไมอยากทำเรื่องนี้ ถ้าไม่ชัดเจนจะเสียเวลาไปกับการเรียนปริญญาเอกโดยไม่มีความคืบหน้า


โดย: ชีวประภา วันที่: 10 มีนาคม 2557 เวลา:13:30:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.