ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
เรื่องของเย็นตาโฟกับดร.เงี้ยบ

มีคำสั่งให้ผมกลับไปเฝ้าบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ผมรับทราบไปปฏิบัติโดยไม่มีเงื่อนไขมาต่อรอง พ่อแม่ของผมเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่ทำงานในเขตจังหวัดภูเก็ต ร้านค้าไม่มีคนเฝ้า....งานนี้อาจารย์มหาวิทยาลัยก็เลยต้องเปลี่ยนโหมดกลับมาแสดงบทบาทพ่อค้าที่คอยขายสินค้าและให้บริการที่ดีแก่คุณลูกค้า


การไปทำงานที่มหาวิทยาลัย...ทำให้มีนิสัยตื่นแต่เช้า แม้ว่ายามค่ำคืนจะเป็นนกฮูกนั่งเขียนบล็อกในบางครั้ง แต่ไม่ว่าจะเข้านอนตีอะไรก็ตื่นหกโมงเช้าเป็นเรื่องปกติ กลับมาบ้าน...จังหวะและกลไกในการหลับและตื่นยังคงทำงานอย่างเที่ยงตรง โดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก

พฤติกรรมของคนทำธุรกิจร้านค้าแตกต่างจากคนกินเงินเดือน ถึงจะเป็นวันหยุด วันเสาร์-อาทิตย์ลูกค้ามักจะเข้ามาซื้อสินค้าตั้งแต่เช้า เราต้องพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้า เพราะลูกค้าคือคนที่นำเงินเข้าร้าน ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของความเจริญของร้านค้าเรา และลูกค้าคือคนที่แนะนำลูกค้ารายใหม่ให้แก่ร้านค้าเราเช่นกัน

ถ้าคนทำกิจการร้านค้าตื่นสาย...ลูกค้าก็จะหนีไปใช้บริการของร้านอื่น และเมื่อเขาไปใช้บริการร้านอื่น นั่นหมายความว่าโอกาสที่ลูกค้าจะเป็นลูกค้าของคนอื่นและไม่กลับมาใช้บริการของร้านเรามีความเป็นไปได้สูง


เช้าวันแรกที่กลับมาดูแลกิจการของร้าน...

หลังจากที่ผมจัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อย มีโทรศัพท์สั่งสินค้ามาจากลูกค้าอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด ความจริงจะว่าร้านหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ว่าได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รับคำสั่งซื้อสินค้า ถ้าลูกค้าจะมารับสินค้าเองเราก็สามารถจัดสินค้าให้ลูกค้าได้

เพียงแค่ช่วงเช้าของวันแรก รวมยอดคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าก็ทำให้อมยิ้ม การที่คุ้นเคยกับระบบการซื้อขายในร้านตั้งแต่ก่อนไปทำงานเป็นอาจารย์ก็เลยทำให้การกลับมาให้บริการลูกค้าคราวนี้และการคิดราคาสินค้าไม่มีปัญหาอะไร

แม่โทรมาถามผมเป็นระยะๆเพราะอยากรู้ว่าผมมีปัญหาอะไรไหมในการเฝ้าร้าน ผมรายงานให้แม่ทราบเป็นระยะๆว่าผมสามารถดูแลร้านค้าและลูกน้องในร้านได้ และยังสามารถขายสินค้าให้ลูกค้าโดยไม่ผิดพลาด

วันแรกที่รู้สึกก็คือร้านขายอาหารส่วนมากในตลาดปิด ดังนั้นค่อนข้างลำบากในการหาของกิน คงจะดีกว่าถ้าเราจะลุกขึ้นมาทำอาหารกินเองภายในบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เพราะการทำอาหารคืองานอดิเรกแสนรักอย่างหนึ่งของเรา


การย้ายไปทำงานในเขตพิษณุโลก...เหมือนได้กลับไปบรรยากาศสมัยเรียนหนังสือในญี่ปุ่น ได้ความเป็นส่วนตัวกลับมา มีโอกาสได้ทำอะไรที่อยากทำแต่ไม่มีโอกาสได้ทำสมัยทำงานธนาคาร ได้เข้าหอสมุดบ่อยๆ ได้ค้นคว้า ได้อ่าน ได้อบรมอะไรที่น่าสนใจ มีธรรมชาติที่สวยงามให้ค้นหาซึ่งก็ไม่ได้อยู่ไกลจนเกินไป ได้กลับไปถ่ายภาพธรรมชาติที่สวยงาม มีเพื่อนร่วมงานในบรรยากาศของโลกวิชาการ จะขาดไปก็อย่างเดียวก็คือ....ที่พักไม่มีพื้นที่ให้ประกอบอาหารได้เลย!!!!!!


การทานอาหารนอกบ้านทุกวัน....ไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะร้านค้ามักใช้สารปรุงแต่งรสชาติอาหารผสมลงไปในอาหาร โดยเฉพาะซุปที่เสิร์ฟให้แก่ลูกค้า ร้านค้าหลายร้านไม่เคยล้างผักให้สะอาด นั่นหมายความว่ายาฆ่าแมลงที่ตกค้างบนใบผักถูกสะสมในร่างกายทุกวันทีละเล็กทีละน้อย แต่ช่วยไม่ได้ที่ชีวิตการทำงานเป็นแบบนี้....ทุกวันนี้เราก็เสี่ยงที่ได้รับสารปลอมปนจากอาหารที่รับประทานนอกบ้านทุกวัน


เคยมีเพื่อนแนะนำร้านเย็นตาโฟในตัวเมืองพิษณุโลก....ซึ่งพอเรายืนหน้าร้านเห็นน้ำซอสสีแดงเราก็รีบบอกเขาว่าขอเย็นตาโฟไม่ใส่ซอส เพราะชามที่เปื้อนสีแดงของซอสมันล้างไม่ออก แล้วทางเดินอาหารของผู้คนหละจะเอาอะไรล้างซอสสีแดงนั้นออกจากท้องดี ความจริงรสชาติเย็นตาโฟลงตัวไม่ได้อยู่ที่ซอสสีแดงเถือกนั้นเลย ถึงจะไม่ใส่ซอสแดงเถือกนั้นรสชาติมันก็อร่อยได้ ส่วนผสมอยู่ที่น้ำส้มสายชูกับปริมาณน้ำตาลที่ใส่ลงไปต่างหาก ถ้าร้านไหนมันไม่ใส่ซอสสีแดงแล้วรสชาติไม่ได้เรื่อง...ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกินเลย

เดินหาร้านเย็นตาโฟที่ไม่ใส่ซอสแดงเถือกแต่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมีร้านประเภทนั้นแต่น้อยมากๆ ในอดีตเคยปลื้มร้านเย็นตาโฟแถวท่าพระจันทร์เพราะเขาไม่ใส่ซอสแดงแต่ทำซอสเอง แต่วันนี้เขาก็ไม่ใช้ซอสแบบนั้นอีกแล้ว..น่าเสียดายเป็นที่สุด


เคยคุยกับเพื่อนว่า......ถ้าอยากจะกินเย็นตาโฟบางทีเราอาจจะต้องทำกินเอง แต่ถ้าคิดจะกินตามร้านทั่วไป....ก็คงเลือก ถึงร้านจะมีน้อยที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนกิน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ถ้าไม่เจอร้านประเภทนี้ก็จะไม่กิน เพราะการไม่ได้กินเย็นตาโฟไม่ถีงกับชักดิ้นชักงอตาย แต่ถ้าต้องกินเย็นตาโฟที่ใช้ซอสแดงเถือกที่ล้างสีแดงๆออกจากชามไม่ได้...เราเลือกที่จะไม่กินดีกว่าไม่ว่าคนทั่วไปจะบอกว่าร้านนี้อร่อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าจำเป็นต้องกินก็จะเป็นเย็นตาโฟที่ไม่ใส่ซอสสีแดงนั้นเลยซึ่งคนส่วนมากก็จะบอกว่ามันก็ไม่ใช่เย็นตาโฟสิ ....เอาเถอะเย็นตาโฟของผมอาจจะไม่จำเป็นต้องใส่ซอสสีแดงเถือกมันก็ได้รสชาติเย็นตาโฟเหมือนกัน


มีคนเคยถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน? ผมตอบโดยยกตัวอย่างร้านเย็นตาโฟเปรียบเทียบซึ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนกว่าว่า ถึงร้านเย็นตาโฟที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายผู้คนจะมีน้อย ไม่ได้หมายความว่าร้านประเภทนี้ไม่มีในเมืองไทย ถ้ายังไม่เจอร้านเย็นตาโฟประเภทนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกินเย็นตาโฟจากร้านทั่วไปที่ใช้ซอสสีแดงเถือกที่ล้างสีแดงเถือกออกจากชามไม่ได้ เพราะถึงจะไม่กินก็ไม่ตาย แต่ถ้าจะกินเย็นตาโฟทั้งทีขอกินจากร้านที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคน ซึ่งผมรู้ว่าผมจะสามารถหากินได้จากที่ไหน



๑๔ เมษายน "วันครอบครัวสำหรับคนไทย" ....


แม่สั่งไว้ก่อนไปภูเก็ตให้คนงานในบ้านนำเอารูปปั้นเกจิอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป ภายในบ้านออกมาล้างเช็ดทำความสะอาดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์เหมือนปีที่ผ่านๆมา






ในฐานะลูกชายเจ้าของร้าน...คนงานให้เกียรติผมสรงน้ำรูปปั้นเหล่านั้นก่อน ความที่ชอบสีเขียวเลยทำให้จิตใจบอกกับกายว่าวันนี้จะใส่เสื้อสีเขียวโดยไม่ได้สนใจว่าวันนี้วันอะไร พอตอนสายๆดูนาฬิกาข้อมือถึงได้รู้ว่าวันนี้เป็นวันพุธพอดี มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า?









ออกไปซื้อกับข้าวตอนเช้าในตลาด....ใช้เงินภายใต้งบ ๒๐๐ บาทสำหรับอาหารห้ามื้อ ซื้อโน่นซื้อนี้แบบสนุกสนาน นานมากแล้วที่พระยาน้อยจะชมตลาด ทำไปทำมาเกินงบมา ๕๐ บาทแต่ได้ของครบถ้วน พอจะไปซื้อใบกุยช่ายเพิ่ม แม่ค้าเห็นซื้อผักร้านเขาไปหลายรอบแล้ว...เขาใจดียกใบกุยช่ายกำนั้นให้ผมฟรีๆ ขอบคุณแม่ค้ารายนั้นที่กรุณาแก่ลูกค้าอย่างผม


ตอนเช้ากว่าจะได้ทานอาหารเช้าก็ ๙ โมงกว่า เหตุเพราะลูกค้ามาที่ร้านสองสามราย มีลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งของด้วย ลูกค้ามาก่อนดังนั้นจึงจัดการกับธุระของลูกค้าให้เรียบร้อยก่อนจะมาประกอบอาหารเช้าทาน

เรายุ่งกับการให้บริการลูกค้าตอนเช้า จนเผลอแป๊บเดียวก็เกือบบ่ายโมง ถึงเวลาที่เราจะแสดงฝีมือทำเย็นตาโฟแล้ว

สูตรที่ไม่ลับในการทำเย็นตาโฟ ใครจะเอาไปใช้และดัดแปลงบ้างผมไม่ว่ากัน

เครื่องปรุงที่ใช้

เส้นก๋วยเตี๋ยว
ผักบุ้ง
ลูกชิ้นปลา
เกี๊ยวปลา
เลือดหมู/ไก่ 1 ก้อน
ปลาหมึก/แมงกะพรุน 1 ขีด
ใบเกี๊ยว 4-5 แผ่น
หมูสับ (ใช้ทำไส้เกี๊ยวกรอบ) 1/2 ขีด
กระเทียมเจียว 1 ถ้วยเล็ก
น้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 2-3 ช้อนชา





โชคไม่ดีที่น้ำส้มสายชูใช้ล้างผักในบ้านจนหมดแล้ว คราวนี้ใช้มะนาวแทน แม้จะดีต่อร่างกายมากกว่าน้ำส้มสายชูแต่ว่ารสชาติจะแตกต่างจากเย็นตาโฟที่ใช้น้ำส้มสายชู รีบร้อนจนลืมซื้อใบเกี๊ยวมาทำเกี๊ยวกรอบคราวนี้ นอกจากนี้ในตลาดสดที่ไปซื้อของไม่เจอแมงกะพรุนและเกี๊ยวปลา ดังนั้นต้องยอมรับว่าคราวนี้เครื่องที่ใช้ทำเย็นตาโฟไม่ครบ


หลังจากแปลงโฉมเครื่องปรุงก็ได้เย็นตาโฟรูปร่างหน้าตาออกมาแบบนี้





หลังจากเติมน้ำตาลทรายเพิ่มไปอีก 2 ช้อนชา รสชาติออกมาสมกับเย็นตาโฟที่อยากทาน น่าจะกว่า ๓ ปีแล้วที่ผมไม่เคยทำเย็นตาโฟกินเอง ครั้งล่าสุดที่ทำตอนนั้นเรียนในญี่ปุ่น


ส่งรูปมายั่วน้ำลายกันแบบนี้ สำหรับคนที่หาเย็นตาโฟกินไม่ได้ก็ดูรูปนี้ไปพลางๆก่อนแล้วกันครับ


ขอให้สุขสันต์ถ้วนหน้าในเทศกาลสงกรานต์ครับ


Create Date : 14 เมษายน 2553
Last Update : 14 เมษายน 2553 16:27:46 น. 21 comments
Counter : 979 Pageviews.

 
ริษยา ตาร้อน อยากกินด้วย เห็นรูปเย็นตาโฟทำให้น้ำลายสอได้ เยี่ยมจริง ๆ ว่าง ๆ มาทำให้กลุ่ม กินบ้างซิจ๊ะ ^__^


โดย: chompu YCL IP: 10.0.100.9, 58.147.19.224 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:16:50:40 น.  

 
คุณชมพู่...เตรียมเครื่องที่ใช้ทำเย็นตาโฟให้ครบ แล้วหาบ้านของใครซักคนใน YCL ได้ฤกษ์ดีเวลาสะดวกพร้อมกันเราจะไปสุมศีรษะกันแล้วมีปาร์ตี้เย็นตาโฟ

ชมพู่เรานับถือจริงๆเธอเป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของบล็อกนี้


โดย: ชีวประภา วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:17:05:04 น.  

 
happy SongKran day na krab Ngeab.
;)


โดย: yo IP: 113.53.204.9 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:19:41:35 น.  

 
ชอบจังเลย ไปตลาดตั้งงบไว้ 200
เคยทั้งควักสตางค์กำไว้จะใช้เท่านี้ ทำรายการว่าจะซื้อเท่านี้ แต่ตลาดสดไม่รู้จะบรรยายยังไง ผลคือบานปลายทุกที


โดย: kim_tiger วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:19:42:01 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:20:56:56 น.  

 
น่ากินจัง..เก่งมากเลยค่ะ ทำออกมาได้น่ากินมากมายเลย เหมือนในร้าน..เมนูโปรดเลยล่ะเย็นตาโฟ


โดย: grippini วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:21:47:36 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: da IP: 124.120.5.63 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:23:41:15 น.  

 


โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:10:21:58 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนและลงความคิดเห็นไว้ในบล็อกหัวข้อนี้

ช่วงนี้ไม่ได้ขับรถไปไกลๆ อีกอย่างไม่ดื่มเหล้า คงสนุกสนานกับบรรยากาศสงกรานต์นั่งเฝ้าร้านแบบนี้แหละครับ

คิดว่าเย็นตาโฟคงเป็นเมนูโปรดของหลายๆคน แต่คนส่วนมากไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร สูตรเย็นตาโฟนี้ผมก็ลองทำเองครับไม่เคยถามใคร ใช้การสังเกตร้านเย็นตาโฟที่ทำได้รสชาติอร่อยเขาเติมอะไรลงไปในชามเย็นตาโฟ

เพราะความที่อยากทานเย็นตาโฟในญี่ปุ่นที่หาทานไม่ได้ เลยลุกขึ้นมาลองทำดู เนื่องจากเครื่องที่ใส่ในเย็นตาโฟพอจะหาได้ในย่านใกล้ๆอพาร์ทเมนท์ที่อยู่ตอนเป็นนักเรียนในญี่ปุ่น พอทำครั้งแรกรสชาติลงตัวเลยจำสูตรเอาไว้ เคยเชิญเพื่อนคนไทยมาทานเย็นตาโฟที่อพาร์ทเมนท์อยู่บ่อยๆสมัยเรียนที่นั่น คนไทยจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้...เราก็มีส่วนร่วมทางความคิด ความเชื่อและวัฒนธรรมการกินอาหารคล้ายๆกัน

ท่านที่สนใจลองหยิบสูตรนี้ไปทำดูครับ ผมไม่หวงห้ามครับถือเป็นวิทยาทานแบ่งปันประสบการณ์ดีๆร่วมกัน ถ้าลองทำแล้วรสชาติอร่อยถูกใจ จะให้เกียรติกันว่าไปเรียนรู้วิทยาทานในการทำเย็นตาโฟสูตรนี้มาจากไหน....อันนั้นคงต้องขอบคุณมากๆ


โดย: ชีวประภา วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:10:36:28 น.  

 
วันนี้ครูตั้งใจทำแหนมหลน เพราะมันเปรี้ยวมาก วันนี้ชวนน้องแกงไปตอนเช้าตลาดด้วย เพราะเขาชอบทำอาหารทานมากๆ ปกติตอนเย็น ทุกๆวันเป็นน้องเกี้ยวทำให้กินกันพอไปตลาดเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด มื้อเช้านี้เลยเยอะมากๆ แหนมหลน ต้มยำปลาทู กระดูดหมูหมักเค็มๆทอด ผัดบวบ ผัดถั่วฝักยาว น้ำพริกกระปิ กินกัน4คนแม่ลูก 2 คนกะแกงช่วยกันทำ ตั้งแต่ครูมาอยู่วันที่ 9 ทำกับข้าวให้พวกเขาทานจนเขาบ่นว่าอ้วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เมื่อเห็นเธอเขียนในบล็อกถ่ายรูปด้วย เออคนที่ชอบทำกับข้าวกินเองมีเหตุผลง่ายๆคือ เรื่องสุขภาพ ถ้าดูรายการอาหารวันนี้แล้วเหมือนเยอะแต่ถ้าไม่หมด เราจะกินต่อไปจนกว่าจะหมดค่ะโดยเฉพาะน้ำพริกไว้กินกะผัดผัก ทุกๆมื้อจะต้องมีผักกินด้วย ทีแรกแปลกใจว่าลูกเขาทำไมไม่ซื้ออาหารสำเร็จพวกเขาตอบแบบเดียวกันว่ากลัวไม่สะอาด๕๕๕ความจริงถ้าเห็นเบื้องหลังของร้านอาหารสำเร็จรูปแล้วจะกินไม่ลงไปอีกนาน แต่ที่บ้านน้องครูขายข้าวแกงตอนเย็นที่ข้างร้านหมอตาราเมศรับประกันความอร่อย และสะอาดค่ะถ้าว่างก็แวะมาชิมนะคะ เช่นพะแนง ผัดเผ็ดไก่ ไข่พะโล้ ฯลฯ รสชาดต้นตำหรับ


โดย: qoomaew IP: 124.122.238.240 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:12:41:43 น.  

 
อ่านเนื้อความตอนแรกนึกว่าครูกำลังจะบอกว่าวันนี้ครูทำอาหารอร่อยเผื่อเธอนะ....แต่พออ่านจนจบแล้วถึงเข้าใจ ^=^

แล้วจะช่วยประชาสัมพันธ์ร้านของน้องครูให้ต่อครับ

ผมพึ่งทำผัดไทยทานมื้อเที่ยงนี้....ทานจนอิ่มเลย ไม่ได้ทำมานานแล้ว...ทำแล้วรสชาติยังไม่ลงตัว ผัดออกมาแล้วดูน่ากินก็จริงแต่รสชาติยังไม่ถูกปากนัก

ช่วงนี้มีแต่กินแล้วก็นั่ง เดินนิดหน่อย แล้วก็นั่ง แล้วก็กินอีก แบบนี้ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไหร่

สุขสันต์เทศกาลสงกรานต์ครับ


โดย: ชีวประภา IP: 113.53.115.80 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:13:07:51 น.  

 
คุณเงี๊ยบ คุณมีความสุขจังเลยนะ อยากกินอะไรก็ได้ฝีมือคุณจัง ท่าทางจะอร่อยในแบบเงี๊ยบ ๆ เราเป็นคนนึงที่กินเย็นตาโฟไม่ใส่ซอส 555 ตอนนี้หิวแล้วนะเนี่ย ไปหาอะไรกินดีกว่า คิดถึงนะจ๊ะ


โดย: jazz IP: 125.24.33.148 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:14:25:48 น.  

 
แจ๊สเราหาร้านเย็นตาโฟที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคนทานได้น้อยลงเรื่อยๆ... วันนึงถ้าเราหาร้านเย็นตาโฟที่ไม่ใช้ซอสไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคนทานไม่ได้เลย เราคงลุกขึ้นมาทำตอนที่เราอยากทานเย็นตาโฟ แต่ตอนนี้เรารู้ว่ามีร้านไหนบ้าง...อร่อย.แต่แพงกว่าปกติ....ถ้าอยากกินโดยไม่ลงมือทำ...เราก็ต้องยอมจ่าย

คงมีโอกาสแสดงฝีมือทำอาหารให้แจ๊สลองชิมสักวันในอนาคต....เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละแจ๊ส หวังว่าเธอรอไหวนะ


โดย: ชีวประภา IP: 113.53.115.76 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:16:58:53 น.  

 
โอ๊ว วันหลังถ้าพี่ทำเรียกบ้างนะ อยู่ไหน จะพยายามไปกินเลย น่ากินมั๊กๆ ^_^


โดย: Joy IP: 118.172.221.12 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:17:38:57 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณเงี๊ยบ

แป๋วชอบทานเย็นตาโฟเหมือนกัน แต่ร้านอาหารไทยที่นี่ทำไม่อร่อย ทำเองพอกล้อมแกล้มไปได้แต่ไม่หายอยากเพราะขาดผักบุ้ง ต้องใส่ผักบุ้งไทยซึ่งหายากมากๆๆ

ในรูปน่าทานมาก เห็นเต้าหู้ยี้ เข้าที จำได้ว่าในร้านเวียตนามมีขายเหมือนกันเป๊ะ แวะไปคราวนี้จะไปซื้อมาติดบ้านไว้หน่อย จะได้ลองทำสูตรคุณเงี๊ยบดู



โดย: SevenDaffodils วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:10:32:06 น.  

 
สวัสดีปีศักราชใหม่คุณแป๋ว

ทำไปทำมามีคนเข้ามาชมมาเชียร์เย็นตาโฟบล็อกนี้เฉียดๆ 500 ครั้งแล้วนะตอนนี้... อาจจะเป็นเพราะว่าหาเย็นตาโฟที่เข้าท่ากิน..แสนลำบากในต่างแดน เย็นตาโฟในเมืองไทยที่ไม่ใช้ซอสสีแดงเถือกล้างไม่ออกจากชามก็หายากขึ้นเรื่อยๆ

ยินดีครับถ้าจะลองเอาสูตรที่เขียนไว้ไปลองทำกันทานดู...ได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟัง

จอย....มีคนแอบมาบอกหลังไมค์ว่าเฮียทำเย็นตาโฟเมื่อไหร่อย่าลืมเรียกหละ ลองหาสถานที่ซึ่งสามารถทำอาหารให้หน่อย...เพื่อนๆในคณะหาเวลาลงตัวได้เมื่อไหร่...จะได้จัดเย็นตาโฟปาร์ตี้กัน


กว่าจะถึงวันนั้นเก็บน้ำลายเอาไว้ก่อนนะ


โดย: ชีวประภา วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:14:12:43 น.  

 
เห็นรูปแล้ว อยากชิมเลยคะ ^^

ปล. รอชิมอยู่นะคะ


โดย: K"o"Y IP: 61.19.231.6 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:17:11:29 น.  

 
เคยทานและชอบทานแต่ทานไม่บ่อย ครั้งสุดท้ายก้หลายปีดีดัก เคยทำอาหารทานและทำให้คนอื่นทาน (ไม่ใช่สุกี้) แม้จะไม่อร่อย (แต่ก็หมด) แต่ก็มีความสุขและสุข แท้จริงแล้วชีวิตต้องการอะไร แบบวิถีเรียบง่าย มีเวลาเฝ้ามองดวงจิต พินิจลมหายใจเข้าออก วิ่งตามให้เท่าทันภาวะอารมณ์ แม้ถ้าเริ่มตั้งแต่เริ่มปลูกผักบุ้งด้วยตนเอง คงเป็นสุกี้ชามที่อร่อยที่สุดชามหนึ่งในชีวิตรับวันปีใหม่ ของอาจารย์เลยก็ได้นะครับ


โดย: jr IP: 192.168.1.209, 125.25.244.154 วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:15:01:09 น.  

 
ความสุขของคนชอบทำอาหาร...อยู่ตอนที่เราได้ทำเมนูใหม่ๆ เป็นการท้าทายตัวเอง เป็นการฝึกสมองคิดค้นอะไรที่สร้างสรรค์ มันสนุกดี แล้วเชื้อเชิญคนอื่นมาทานอาหารที่เราทำ แล้วเขาได้ทานอาหารรสชาติอร่อย เราในฐานะคนทำก็มีความสุขเช่นกัน

ถ้าสามารถปลูกผักทานเองได้...อันนั้นเป็นสิ่งที่วิเศษเลยครับ ทั้งปลอดภัยและภูมิใจ


โดย: ชีวประภา วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:16:18:03 น.  

 
ชอบทำอาหารพอสมควรค่ะ ขอจดไปทำให้แม่ทานที่บ้านบ้างนะคะ ที่บ้านชอบทานผักปลอดสารเหมือนกัน มื้อนี้น่าจะอร่อยแน่ๆ


โดย: Nicha_NaDia วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:25:16 น.  

 
การนำพระพุทธรูปที่ห้องพระในบ้านมาสรงน้ำต้องเจาะจงเลือกวันว่าเป็นวันไหนในเทศกาลสงกรานต์หรือเปล่าคะ

ช่วงวันหยุดนี้คิดจะทำเย็นตาโฟหรือว่าผัดไททานเองบ้างผัดไทต้องเตรียมของเยอะกว่า..(คงยาก).แต่เกาเหลาเย็นตาโฟถึงจะเป็นเมนูโปรดมาก ๆก็ไม่เคยทำทานเองซักที...แต่ถ้ามีลูกชิ้นปลาเม็ดเล็ก ๆที่นครสวรรค์ต้องอร่อยมากแน่เลยค่ะอาจารย์ DR. แค่คิดก็หิวแล้ว......


โดย: chanphen IP: 118.172.238.201 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:0:15:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.