|
เรื่องของเย็นตาโฟกับดร.เงี้ยบ
มีคำสั่งให้ผมกลับไปเฝ้าบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ผมรับทราบไปปฏิบัติโดยไม่มีเงื่อนไขมาต่อรอง พ่อแม่ของผมเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่ทำงานในเขตจังหวัดภูเก็ต ร้านค้าไม่มีคนเฝ้า....งานนี้อาจารย์มหาวิทยาลัยก็เลยต้องเปลี่ยนโหมดกลับมาแสดงบทบาทพ่อค้าที่คอยขายสินค้าและให้บริการที่ดีแก่คุณลูกค้า
การไปทำงานที่มหาวิทยาลัย...ทำให้มีนิสัยตื่นแต่เช้า แม้ว่ายามค่ำคืนจะเป็นนกฮูกนั่งเขียนบล็อกในบางครั้ง แต่ไม่ว่าจะเข้านอนตีอะไรก็ตื่นหกโมงเช้าเป็นเรื่องปกติ กลับมาบ้าน...จังหวะและกลไกในการหลับและตื่นยังคงทำงานอย่างเที่ยงตรง โดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก
พฤติกรรมของคนทำธุรกิจร้านค้าแตกต่างจากคนกินเงินเดือน ถึงจะเป็นวันหยุด วันเสาร์-อาทิตย์ลูกค้ามักจะเข้ามาซื้อสินค้าตั้งแต่เช้า เราต้องพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้า เพราะลูกค้าคือคนที่นำเงินเข้าร้าน ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของความเจริญของร้านค้าเรา และลูกค้าคือคนที่แนะนำลูกค้ารายใหม่ให้แก่ร้านค้าเราเช่นกัน
ถ้าคนทำกิจการร้านค้าตื่นสาย...ลูกค้าก็จะหนีไปใช้บริการของร้านอื่น และเมื่อเขาไปใช้บริการร้านอื่น นั่นหมายความว่าโอกาสที่ลูกค้าจะเป็นลูกค้าของคนอื่นและไม่กลับมาใช้บริการของร้านเรามีความเป็นไปได้สูง
เช้าวันแรกที่กลับมาดูแลกิจการของร้าน...
หลังจากที่ผมจัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อย มีโทรศัพท์สั่งสินค้ามาจากลูกค้าอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด ความจริงจะว่าร้านหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ว่าได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รับคำสั่งซื้อสินค้า ถ้าลูกค้าจะมารับสินค้าเองเราก็สามารถจัดสินค้าให้ลูกค้าได้
เพียงแค่ช่วงเช้าของวันแรก รวมยอดคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าก็ทำให้อมยิ้ม การที่คุ้นเคยกับระบบการซื้อขายในร้านตั้งแต่ก่อนไปทำงานเป็นอาจารย์ก็เลยทำให้การกลับมาให้บริการลูกค้าคราวนี้และการคิดราคาสินค้าไม่มีปัญหาอะไร
แม่โทรมาถามผมเป็นระยะๆเพราะอยากรู้ว่าผมมีปัญหาอะไรไหมในการเฝ้าร้าน ผมรายงานให้แม่ทราบเป็นระยะๆว่าผมสามารถดูแลร้านค้าและลูกน้องในร้านได้ และยังสามารถขายสินค้าให้ลูกค้าโดยไม่ผิดพลาด
วันแรกที่รู้สึกก็คือร้านขายอาหารส่วนมากในตลาดปิด ดังนั้นค่อนข้างลำบากในการหาของกิน คงจะดีกว่าถ้าเราจะลุกขึ้นมาทำอาหารกินเองภายในบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เพราะการทำอาหารคืองานอดิเรกแสนรักอย่างหนึ่งของเรา
การย้ายไปทำงานในเขตพิษณุโลก...เหมือนได้กลับไปบรรยากาศสมัยเรียนหนังสือในญี่ปุ่น ได้ความเป็นส่วนตัวกลับมา มีโอกาสได้ทำอะไรที่อยากทำแต่ไม่มีโอกาสได้ทำสมัยทำงานธนาคาร ได้เข้าหอสมุดบ่อยๆ ได้ค้นคว้า ได้อ่าน ได้อบรมอะไรที่น่าสนใจ มีธรรมชาติที่สวยงามให้ค้นหาซึ่งก็ไม่ได้อยู่ไกลจนเกินไป ได้กลับไปถ่ายภาพธรรมชาติที่สวยงาม มีเพื่อนร่วมงานในบรรยากาศของโลกวิชาการ จะขาดไปก็อย่างเดียวก็คือ....ที่พักไม่มีพื้นที่ให้ประกอบอาหารได้เลย!!!!!!
การทานอาหารนอกบ้านทุกวัน....ไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะร้านค้ามักใช้สารปรุงแต่งรสชาติอาหารผสมลงไปในอาหาร โดยเฉพาะซุปที่เสิร์ฟให้แก่ลูกค้า ร้านค้าหลายร้านไม่เคยล้างผักให้สะอาด นั่นหมายความว่ายาฆ่าแมลงที่ตกค้างบนใบผักถูกสะสมในร่างกายทุกวันทีละเล็กทีละน้อย แต่ช่วยไม่ได้ที่ชีวิตการทำงานเป็นแบบนี้....ทุกวันนี้เราก็เสี่ยงที่ได้รับสารปลอมปนจากอาหารที่รับประทานนอกบ้านทุกวัน
เคยมีเพื่อนแนะนำร้านเย็นตาโฟในตัวเมืองพิษณุโลก....ซึ่งพอเรายืนหน้าร้านเห็นน้ำซอสสีแดงเราก็รีบบอกเขาว่าขอเย็นตาโฟไม่ใส่ซอส เพราะชามที่เปื้อนสีแดงของซอสมันล้างไม่ออก แล้วทางเดินอาหารของผู้คนหละจะเอาอะไรล้างซอสสีแดงนั้นออกจากท้องดี ความจริงรสชาติเย็นตาโฟลงตัวไม่ได้อยู่ที่ซอสสีแดงเถือกนั้นเลย ถึงจะไม่ใส่ซอสแดงเถือกนั้นรสชาติมันก็อร่อยได้ ส่วนผสมอยู่ที่น้ำส้มสายชูกับปริมาณน้ำตาลที่ใส่ลงไปต่างหาก ถ้าร้านไหนมันไม่ใส่ซอสสีแดงแล้วรสชาติไม่ได้เรื่อง...ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกินเลย
เดินหาร้านเย็นตาโฟที่ไม่ใส่ซอสแดงเถือกแต่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมีร้านประเภทนั้นแต่น้อยมากๆ ในอดีตเคยปลื้มร้านเย็นตาโฟแถวท่าพระจันทร์เพราะเขาไม่ใส่ซอสแดงแต่ทำซอสเอง แต่วันนี้เขาก็ไม่ใช้ซอสแบบนั้นอีกแล้ว..น่าเสียดายเป็นที่สุด
เคยคุยกับเพื่อนว่า......ถ้าอยากจะกินเย็นตาโฟบางทีเราอาจจะต้องทำกินเอง แต่ถ้าคิดจะกินตามร้านทั่วไป....ก็คงเลือก ถึงร้านจะมีน้อยที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนกิน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ถ้าไม่เจอร้านประเภทนี้ก็จะไม่กิน เพราะการไม่ได้กินเย็นตาโฟไม่ถีงกับชักดิ้นชักงอตาย แต่ถ้าต้องกินเย็นตาโฟที่ใช้ซอสแดงเถือกที่ล้างสีแดงๆออกจากชามไม่ได้...เราเลือกที่จะไม่กินดีกว่าไม่ว่าคนทั่วไปจะบอกว่าร้านนี้อร่อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าจำเป็นต้องกินก็จะเป็นเย็นตาโฟที่ไม่ใส่ซอสสีแดงนั้นเลยซึ่งคนส่วนมากก็จะบอกว่ามันก็ไม่ใช่เย็นตาโฟสิ ....เอาเถอะเย็นตาโฟของผมอาจจะไม่จำเป็นต้องใส่ซอสสีแดงเถือกมันก็ได้รสชาติเย็นตาโฟเหมือนกัน
มีคนเคยถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน? ผมตอบโดยยกตัวอย่างร้านเย็นตาโฟเปรียบเทียบซึ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนกว่าว่า ถึงร้านเย็นตาโฟที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายผู้คนจะมีน้อย ไม่ได้หมายความว่าร้านประเภทนี้ไม่มีในเมืองไทย ถ้ายังไม่เจอร้านเย็นตาโฟประเภทนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกินเย็นตาโฟจากร้านทั่วไปที่ใช้ซอสสีแดงเถือกที่ล้างสีแดงเถือกออกจากชามไม่ได้ เพราะถึงจะไม่กินก็ไม่ตาย แต่ถ้าจะกินเย็นตาโฟทั้งทีขอกินจากร้านที่ใช้ซอสที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคน ซึ่งผมรู้ว่าผมจะสามารถหากินได้จากที่ไหน
๑๔ เมษายน "วันครอบครัวสำหรับคนไทย" ....
แม่สั่งไว้ก่อนไปภูเก็ตให้คนงานในบ้านนำเอารูปปั้นเกจิอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป ภายในบ้านออกมาล้างเช็ดทำความสะอาดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์เหมือนปีที่ผ่านๆมา
ในฐานะลูกชายเจ้าของร้าน...คนงานให้เกียรติผมสรงน้ำรูปปั้นเหล่านั้นก่อน ความที่ชอบสีเขียวเลยทำให้จิตใจบอกกับกายว่าวันนี้จะใส่เสื้อสีเขียวโดยไม่ได้สนใจว่าวันนี้วันอะไร พอตอนสายๆดูนาฬิกาข้อมือถึงได้รู้ว่าวันนี้เป็นวันพุธพอดี มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า?
ออกไปซื้อกับข้าวตอนเช้าในตลาด....ใช้เงินภายใต้งบ ๒๐๐ บาทสำหรับอาหารห้ามื้อ ซื้อโน่นซื้อนี้แบบสนุกสนาน นานมากแล้วที่พระยาน้อยจะชมตลาด ทำไปทำมาเกินงบมา ๕๐ บาทแต่ได้ของครบถ้วน พอจะไปซื้อใบกุยช่ายเพิ่ม แม่ค้าเห็นซื้อผักร้านเขาไปหลายรอบแล้ว...เขาใจดียกใบกุยช่ายกำนั้นให้ผมฟรีๆ ขอบคุณแม่ค้ารายนั้นที่กรุณาแก่ลูกค้าอย่างผม
ตอนเช้ากว่าจะได้ทานอาหารเช้าก็ ๙ โมงกว่า เหตุเพราะลูกค้ามาที่ร้านสองสามราย มีลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งของด้วย ลูกค้ามาก่อนดังนั้นจึงจัดการกับธุระของลูกค้าให้เรียบร้อยก่อนจะมาประกอบอาหารเช้าทาน
เรายุ่งกับการให้บริการลูกค้าตอนเช้า จนเผลอแป๊บเดียวก็เกือบบ่ายโมง ถึงเวลาที่เราจะแสดงฝีมือทำเย็นตาโฟแล้ว
สูตรที่ไม่ลับในการทำเย็นตาโฟ ใครจะเอาไปใช้และดัดแปลงบ้างผมไม่ว่ากัน
เครื่องปรุงที่ใช้
เส้นก๋วยเตี๋ยว ผักบุ้ง ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา เลือดหมู/ไก่ 1 ก้อน ปลาหมึก/แมงกะพรุน 1 ขีด ใบเกี๊ยว 4-5 แผ่น หมูสับ (ใช้ทำไส้เกี๊ยวกรอบ) 1/2 ขีด กระเทียมเจียว 1 ถ้วยเล็ก น้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 2-3 ช้อนชา
โชคไม่ดีที่น้ำส้มสายชูใช้ล้างผักในบ้านจนหมดแล้ว คราวนี้ใช้มะนาวแทน แม้จะดีต่อร่างกายมากกว่าน้ำส้มสายชูแต่ว่ารสชาติจะแตกต่างจากเย็นตาโฟที่ใช้น้ำส้มสายชู รีบร้อนจนลืมซื้อใบเกี๊ยวมาทำเกี๊ยวกรอบคราวนี้ นอกจากนี้ในตลาดสดที่ไปซื้อของไม่เจอแมงกะพรุนและเกี๊ยวปลา ดังนั้นต้องยอมรับว่าคราวนี้เครื่องที่ใช้ทำเย็นตาโฟไม่ครบ
หลังจากแปลงโฉมเครื่องปรุงก็ได้เย็นตาโฟรูปร่างหน้าตาออกมาแบบนี้
หลังจากเติมน้ำตาลทรายเพิ่มไปอีก 2 ช้อนชา รสชาติออกมาสมกับเย็นตาโฟที่อยากทาน น่าจะกว่า ๓ ปีแล้วที่ผมไม่เคยทำเย็นตาโฟกินเอง ครั้งล่าสุดที่ทำตอนนั้นเรียนในญี่ปุ่น
ส่งรูปมายั่วน้ำลายกันแบบนี้ สำหรับคนที่หาเย็นตาโฟกินไม่ได้ก็ดูรูปนี้ไปพลางๆก่อนแล้วกันครับ
ขอให้สุขสันต์ถ้วนหน้าในเทศกาลสงกรานต์ครับ
Create Date : 14 เมษายน 2553 |
Last Update : 14 เมษายน 2553 16:27:46 น. |
|
21 comments
|
Counter : 979 Pageviews. |
|
|
|
โดย: chompu YCL IP: 10.0.100.9, 58.147.19.224 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:16:50:40 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:17:05:04 น. |
|
|
|
โดย: yo IP: 113.53.204.9 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:19:41:35 น. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:19:42:01 น. |
|
|
|
โดย: grippini วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:21:47:36 น. |
|
|
|
โดย: da IP: 124.120.5.63 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:23:41:15 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:10:36:28 น. |
|
|
|
โดย: qoomaew IP: 124.122.238.240 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:12:41:43 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา IP: 113.53.115.80 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:13:07:51 น. |
|
|
|
โดย: jazz IP: 125.24.33.148 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:14:25:48 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา IP: 113.53.115.76 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:16:58:53 น. |
|
|
|
โดย: Joy IP: 118.172.221.12 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:17:38:57 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:14:12:43 น. |
|
|
|
โดย: K"o"Y IP: 61.19.231.6 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:17:11:29 น. |
|
|
|
โดย: jr IP: 192.168.1.209, 125.25.244.154 วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:15:01:09 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:16:18:03 น. |
|
|
|
โดย: Nicha_NaDia วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:25:16 น. |
|
|
|
โดย: chanphen IP: 118.172.238.201 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:0:15:25 น. |
|
|
|
| |
|
|