CandyBee
Group Blog
 
All blogs
 

บ๊ะจ่าง 3 ไอเดีย




วันก่อนนั่งเก็บของในห้อง เก็บไปห่อของไปเพราะสมบัติบ้าเยอะเหลือเกิน

หันไปเจอกระดาษหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันไหนก็จำไม่ได้แล้ว มีสูตรทำ

บ๊ะจ่าง ก็เลยจดเอาไว้ วันนี้ว่างๆก็เลยเอาลองมาทำดู บิดเบือนสูตรกันนิดหน่อย

เพราะไม่มีไข่เค็ม แล้วเราก็ไม่ชอบถั่วลิสงต้ม เลยไม่ได้ใส่ ส่วนใบไผ่ที่ใช้ห่อก็ไม่มี

แต่เคยเจอสูตรอาหารเวียดนามที่ทำคล้ายๆกันเขาใช้ผักกาดขาว ส่วนชื่ออะไรก็สุดจะเดาได้

เพราะลืมสนิท เอาเป็นว่าที่ทำวันนี้มันเป็นบ๊ะจ่างของเก๊ ก๊อบปี้มาแบบไม่หมดก็แล้วกันนะคะ

ส่วนไอเดียในการจัดเสิร์ฟวันนี้นึกได้ 3 แนว ถ้าใครลองทำแล้วนึกแนว 4 5 6ได้ก็เอามาโชว์กันมั่งนะคะ


ส่วนประกอบ
ใบผักกาดขาว
ข้าวเหนียวนึ่ง
กุ้งแห้งทอด
เห็ดหอมแช่น้ำหั่น
กุนเชียงคั่ว
หมูยอคั่ว
น้ำมันงา
รากผักชีกระเทียมพริกไทย
โชหยุ หรือซีอิ๊วขาว
ซอสหอยนางรม





ผักกาดขาวเลือกใบใหญ่ๆ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วเอามาจุ่มน้ำร้อนให้ใบนิ่ม





ข้าวเหนียวนึ่งสุก





เราเริ่มจากทอดกุ้งแห้งก่อน หยอดน้ำมันติ๊ดเดียวน่าจะเรียกว่าคั่วมากกว่า

พอกุ้งกรอบแล้วตักออก เอากุนเชียงลงไปคั่ว ไม่ต้องใส่น้ำมันค่ะ

เสร็จแล้วตักออก เปิดไฟแรงสุด เอาแบบควันขโมง แล้วเอาหมูยอลงไปคั่วๆ

ให้หอม หน้าตาประมาณในภาพ ก็โอเคแล้ว





ผัดรากผักชีกระเทียมพริกไทย ให้หอม แล้วใส้เห็ดหอมลงไปผัด ซัก 2 นาที ตักใส่

ข้าวเหนียวนึ่ง เติมน้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ เติมโชหยุ หรือซีอิ้วขาวก็ได้ค่ะ แต่โชหยุจะอร่อยกว่า

แล้วก็ซอสหอยนางรม ใส่ของที่ทอดทั้งหมด คลุกให้เข้ากัน






ห่อค่ะ เทคนิคนิดนึง ให้เอาผักกาดที่จุ่มน้ำร้อนแล้ว สะบัดน้ำออก แล้ววางลงในถ้วย

ถ้วยในรูปเป็นถ้วยซุบค่ะ ขนาดนี้กำลังดี 1 เสิร์ฟพอดี ถ้าใหญ่ถ้วยใหญ่กว่านี้ อาจจะ

ต้องโทรเรียกรถพยาบาลมาสแตนด์บายหน้าบ้านนะคะ อย่าลืมว่ามันคือข้าวเหนียว...จะจุกค่ะ

ใส่ข้าวให้เต็มถ้วยกดให้แน่น





ใส่ข้าวแล้วก็ห่อปิด ในภาพห่อต่อนหิวมันเลยอ้วนพี จะเอาไปนึ่งทั้งถ้วยเลยก็ได้

แต่ต้องเป็นถ้วยที่ใช้นึ่งได้นะคะ เสิร์ฟทั้งแบบนี้ก็น่ารักดีค่ะ ทานสะดวกเอาช้อน

ตักได้เลย





ถ้าไม่ได้เสิร์ฟแบบอันบน เราก็คว่ำเอาบ๊ะจ่างเก๊ของเราออกมา หน้าตาจะได้ดังรูป

แต่งไปแต่งมา หน้าเหมือนคุณลุงมีเคราหน้าตาขี้เมาดีแท้ ไม่ต้องกังวลว่าใบผักมันเกิน

ออกมาเยอะ เพราะเวลาเอาไปนึ่งมันจะแฟ่บลงค่ะ





เสร็จแล้วก็เอาไปนึ่ง เสิร์ฟทั้งอย่างนี้เลยก็ได้ค่ะ ออกแนวจีนเก๋ไก๋





หรือนึ่งแล้วเอาออกมาเสิร์ฟจัดจานแบบฝรั่ง ใช้ส้อมมีดก็สะดวกดีค่ะ เพราะว่า

อาหารชิ้นใหญ่ เท่าที่ลองมา จัดแบบนี้ทานง่ายที่สุดค่ะ





ผ่าครึ่งออกมาดูไส้ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด....อร่อยสุดยอด ลองดูนะคะ ขอให้อร่อยกันถ้วนหน้าค่ะ




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:58:10 น.
Counter : 1520 Pageviews.  

เค้กแก้ว กระจิดริด Mini Glass Cake




นี่เป็นเค้กอันแรกในชีวิตที่ทำออกมาแล้วกินได้....เย้!!!
ดัดแปลงจากสูตรของป้าเจี๊ยบ ที่ต้องดัดแปลง
เพราะเนื้อเค้กเหนียวจนคนไม่ได้ 555 แต่ที่มั่นใจและ
ยังทนทำต่อ เพราะเราเลี้ยงหมาเอาไว้ 2 ตัว...ยังไงก็หมด
ส่วนชื่อนั้นแน่นอนว่า ตั้งเองค่ะโดยนั่งเพ่งลูกแก้ว เอ้ยๆๆ
ดูจากภาพมันก็น่าจะชื่อนี้แหละ


ส่วนประกอบ
ตัวเค้ก
แป้งเอนกประสงค์ 2 ถ้วย
ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 3/4 ถ้วย
เนยสด 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ผงโซดา 1 ช้อนชา
เกลือ 1/4 ช้อนชา
นมจืด 1/2ถ้วย
หน้าเค้ก
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
นมสดรสหวาน 250มิลลิลิตร
ผงโกโก้ 2ช้อนโต๊ะ
เกลือเล็กน้อย
ไข่แดง 1 ฟอง
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
กล้วย





ผสมแป้งเอนกประสงค์ + ผงโกโก้ + ผงโซดา + เกลือ เข้าด้วยกัน



ตีน้ำตาลกับเนยเข้าด้วยกัน ในสูตรเขียนว่าน้ำตาลทรายแดง
เราก็สุดซื่อ ใช้น้ำตาลทรายแดงเม็ดเท่าบ้าน ตีจนหน้ามืดก็ยัง
ไม่เข้ากัน ตีไปตากแดดไป เดินเข้าร่มตาลายเห็นน้ำตาลเป็นสีเขียว
สะท้อนแสง สรุปว่าต้องเอาเข้าเครื่องปั่น



เทส่วนแป้งลงไปในน้ำตาลกับเนยที่ตีเรียบร้อยแล้ว คนด้วยไม้พาย
แล้ว...มันติดค่ะ เอ่อ ติดหนึบหนับ จนต้องเทนมใส่ กะว่าเหลวนิดๆ
เอาแล้วหล่ะ



อุ่นเตาอบที่ 180 ํc นาน 10 นาที เอาเข้าอบประมาณ 15 นาที



ออกมาแล้วฟูขึ้นนิดหน่อย หน้าตาเหมือนบราวนี่แต่ไม่ค่อยหวานค่ะ
เอามาสไลด์ แล้วอัดใส่แก้วใบเล็กๆ



หน้าเค้ก ลืมถ่ายขั้นตอนการทำค่ะ ขอโทษจริงๆ เอาแป้งข้าวโพด+ ผสมนม
+เกลือ แล้วตั้งไฟอ่อน เอาไม้ตีไข่คนๆจนสุก ข้น ยกลงใส่ เนย+ผงโกโก้
ถ้าไม่ถนัดเอาใส่เครื่องปั่นได้เลยนะคะ เนื้อจะเนียน เสร็จแล้วก็เอามาราดเค้กได้เลย



จะทำเป็นเค้กกลมๆธรรมดาก็ได้ แต่ทำเป็นเค้กแก้วนี้อร่อยกว่าค่ะ เพราะมันอันนิดเดียว
มีเค้กอยู่ชั้นล่าง ชั้น 2 เป็นกล้วย ชั้น 3 เป็นหน้าชอกโกแล็ต ชั้นดาดฟ้าเป็นกล้วย
ตกแต่งตามใจชอบนะคะ ที่เห็นเอามาแต่งวันนี้เป็นลูกไทรหลังบ้าน หน้าตาเหมือน
ลูกแอปเปิ้ลมากๆ แต่ลูกจิ๊ดเดียว เค้กนี้ถ้ากินกับเพื่อนฝูง พยายามหลอกให้เพื่อนกินไปยิ้มไปนะคะ
เพราะระหว่างการกิน ฟันจะดำอย่างแรง...ตลกดีค่ะ

ขอให้สนุกสนานกับเค้กแก้วกระจิดริดนะคะ




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:58:05 น.
Counter : 4204 Pageviews.  

ท้องปลาแซลมอนทอดราดสมุนไพร





ท้องปลาแซลมอนมีไขมันเยอะ ทอดกรอบจิ้มซอสก็อร่อย หรือทาเกลือย่างเกรียม
ทำซุปแบบญี่ปุ่นก็แจ่ม แต่วันนี้อยากทานรสจัดเลยเอามาผสมรสชาดแบบไทยๆ
ประกอบกับโหระพาที่บ้านใบงามมากๆ ตะไคร้ก็มี ของฟรีอย่างนี้....เราชอบ
แต่ตอนทอดโหระพาขอบอกว่าอันตรายสุดๆ มือซ้ายต้องถือฝาหม้อ เอาไว้เป็นโล่ห์อัศวิน
อัศวินโหระพา...- -' เพราะว่ามันทั้งแตกทั้งกระเด็น ภาพที่ถ่ายออกมาเลยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ค่ะ
มือซ้ายถือโล่ห์ฝาหม้อ มือขวาถือกล้อง แถมเป็นกล้องตัวใหญ่อีกต่างหาก
จานนี้ขั้นตอนทำง่ายสุดๆ เหนื่อยตรงทอดอย่างเดียว ลองทำดูนะคะ


ส่วนประกอบ

ท้องปลาแซลมอนหั่น
ใบโหระพา
ตะไคร้ซอยละเอียด
พริกขี้หนูแห้ง
พริกขี้หนูสับ
กระเทียมสับ
น้ำมันหอย
ซีอิ้วขาว
น้ำตาล
น้ำเปล่า
น้ำมันสำหรับทอด





ตั้งน้ำมัน กะให้ท่วมปลา ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรงค่ะ พอน้ำมันร้อนก็ทอดปลาได้เลย
ทอดจนเป็นสีเหลืองกรอบ ก็ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน




เมื่อเราทอดปลา เราก็จะได้ปลาทอด เป็นสัจธรรมจริงๆค่ะ...สาธุ




ทอดสมุนไพรที่มี ทอดทีละอย่างนะคะ อย่าเทรวมกันแล้วทอด มันจะไหม้แน่นวลลล..
นอกจากอยากจะลองเมนูปลาทอดถ่าน อันนี้ก็ไม่ว่ากันค่ะ ที่เห็นในภาพใบโหระพา
มหาศาล อาจจะคิดว่าเป็นคนฐานะทางใบโหระพาร่ำรวย แต่จริงๆแล้วปลูกเองค่ะ
ทั้งสดทั้งงาม แถมปลอดสารพิษอีกด้วย ทอดเสร็จแล้งตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน แล้วพักไว้




ตั้งกะทะ ใช้น้ำมันติดกะทะนิดเดียวนะคะ เอาไฟร้อนจี๋แรงสุดๆ เท กระเทียมสับ + พริกขี้หนูสับ ใส่ลงไปเยอะๆเลยค่ะ กินแล้วสดชื่น กินไปน้ำตาไหลไปเหมือนร้องไห้ไว้อาลัยปลาแซลมอน...ทั้งๆที่ไม่ได้สำนึกอะไรเลยซักนิด
จากนั้นตวัดตะหลิวอย่างว่องไว ใส่เครื่องปรุง เทน้ำชิมรส เอาน้ำที่ผัดมาราดลงบนปลา โรยสมุนไพร
ตกแต่งให้สวยงาม ก็พร้อมทานได้แล้วค่ะ...รับรองว่าแซ่บสะใจ

ขอให้เจริญอาหารนะคะ








 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:59:58 น.
Counter : 8143 Pageviews.  

ขนมต้มขาว...หัวจุก





ขนมต้มขาวเซ็ทนี้ทำเอาไว้นานแล้วค่ะ แต่เพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัว
เป็นขนมที่ทำง่ายมากๆ แถมยังอร่อยด้วย เราชอบกลิ่นไส้ขนม
ที่อบควันเทียนเป็นที่สุด เพราะมันทั้งหอมทั้งหวาน
มะพร้าวที่เราใช้ทำเป็นมะพร้าวที่ไม่แก่มาก เนื้อจะนิ่ม ตำราเก่าๆ
จะใช้มะพร้าวทึนทึก แต่เราไม่ชอบเพราะมันผืดคอ แล้วก็มีปัญหา
กับระบบการย่อยอาหาร ทานทีไรอาหารไม่ย่อยทุกที



ส่วนผสมไส้ขนม

มะพร้าวขูด
น้ำตาลปี๊บ
เทียนอบ
* เหลือมะพร้าวขูดเอาไว้คลุกตอนหลังด้วยนะคะ





เอากะทะตั้งไฟปานกลางค่อนอ่อน ใส่น้ำตาลปี๊บเคี่ยวให้ละลายแล้วใส่มะพร้าวขูด
ลงไปผัดให้แห้ง วันนี้ไม่ได้บอกสัดส่วนนะคะกะเอาพอประมาณ ใส่น้ำตาลน้อยๆ
ก่อน ถ้าไม่หวานค่อยใส่เพิ่มได้ ผัดเสร็จแล้ว พอมันเริ่มคงายความร้อนก็เอามาปั้น
เป็นลูกเล็กๆเรียงใส่หม้อ อบควันเทียนสัก 2-3รอบรับรองว่าจะได้ขนมต้มขาวที่
ทั้งหอมทั้งอร่อยค่ะ



ส่วนผสมแป้ง

แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า





นวดแป้งกับน้ำ ค่อยๆเติมน้ำทีละนิดจนแป้งไม่ติดมือ แล้วก็เนียว
ขนาดปั้นได้ กะว่าเอาประมาณในภาพนะคะ




แบ่งแป้งออกมาแผ่ เอาไส้วางแล้วเอาแป้งหุ้มคลึงๆๆกับมือ จะได้ลูกกลมๆ




ตั้งน้ำให้เดือด แล้วเอาบรรดาลูกๆ ต้มลงไปเลยค่ะ พอลอยก็ใช้ได้แล้ว ช้อนเอาขึ้นมา
คลุกกับมะพร้าว เอาเกสรดอกมธุรดามาจิ้มหัวจุก...เสร็จแล้วค่ะ
ทานให้อร่อยนะค่ะ ...^_^







 

Create Date : 27 ตุลาคม 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:57:55 น.
Counter : 2396 Pageviews.  

มะม่วงชีสเค้ก รุ่น...ตะกละ




อันนี้ขอสารภาพกันตรงๆ อยากรู้เหมือนกันว่า

เขาเรียกว่าชีสเค้ก หรือชีสพาย เพราะเราเองก็ไม่รู้!!!

ถือเอาตัวเองเป็นใหญ่...ชื่อนั้นสำคัญไฉน(เป็นคนนิสัยดีจริงๆ)

เราสรุปแบบเอาใจตัวเองว่ามันคือ ชีสเค้ก... มะม่วงชีสเค้กค่ะ

เอ...หรือว่า...มะมั่วชีสเค้ก..


ส่วนผสมครัสต์
1. โอริโอ ขนมปังกรอบ หรือ ขนมปังบุหรี่
2. เนยเค็มละลาย 3 - 5 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมครีมชีส
1. ฟิลาเดเฟียครีมชีส 250 กรัม
2. น้มข้นหวานครึ่งกระป๋อง
3. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมซอสมะม่วง
1. มะม่วงสุกลูกใหญ่ 1 ผล
2. น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
4. เจลาตินแช่น้ำเย็น 2 แผ่น




ทำครัสต์ด้วยการเอาขนมปังกรอบมาบดหยาบๆ ถ้าเป็นโอริโอก็แคะไส้ออกก่อนค่ะ

ใส่เนยลงไป จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับขนมปังกรอบด้วย เพราะบางชนิดมีเนยมาก

อยู่แล้วก็ใส่เนยลงไปไม่ต้องมาก เสร็จแล้วก็เอามากรุใส่พิมพ์ค่ะ แบบในรูป แล้วเอา

ไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง



ระหว่างแช่ครัสต์ก็หันมาทำซอสมะม่วง เอาส่วนผสมยกเว้นเจลาตินปั่นในเครื่องปั่น

เติมน้ำเล็กน้อย จากนั้นเอามากวนค่ะ ละลายเจลาติน(ที่นิ่มแล้ว)กับน้ำร้อน

เล็กน้อยใส่ลงไปในมะม่วงกวน กวนๆๆสัก 10 นาที ชิมรสเปรี้ยวหวานก็โอเคแล้วค่ะ



ตีครีมชีส + นมข้นหวาน + น้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน ในภาพใส่นมข้นหวานมากไปค่ะ

มันจะเหลว แต่ถ้าทำเป็นรุ่นแช่แข็ง...รสเด็ดมากๆ



พอครัสต์แข็ง ก็เอาครีมชีสที่ผสมเรียบร้อยเทลงไปพองาม เอาแช่ตู้เย็นค่ะ



มันยังไม่ทันแข็งดีเลย ตะกละซะแล้ว เอาซอสมะม่วงมาเท แล้วกินเลย 555



จกกิน เอ๊ยยย ตักกินด้วยความตะกละมันเหลวนิดๆ แต่ก็อร่อยดีค่ะ



อันนี้เป็นรุ่นไม่ตะกละ แช่ช่องฟรีซจนแข็งโป๊ก แทะกินเปรี้ยวๆหวานๆมันๆ

เหมือนกินชีสไอศครีม อร่อยมากๆเลยค่ะ ถ้าใครไม่ตะกละ ลองทำดูนะคะ

ตอนโพสสูตรเสร็จ เราวิ่งไปกินอีกรอบ เฮ้อ....แล้วเมื่อไหร่จะผอมเนี่ย




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2552 21:57:48 น.
Counter : 3190 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

CandyBee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





สวัสดีทุกๆคนที่หลงคลิกเข้ามาในนี้นะคะ
ถึงวันนี้คงไม่มีอะไรจะบอกไปมากกว่า
คำว่า "ขอบคุณ" ทุกคนที่คลิกเข้ามาเยี่ยม
ที่มีคอมเม้นต์ไว้ เราก็แวะไปเยี่ยมเยียน
เปิดได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่เน็ตรุ่นเต่า
ขาด้วนของที่บ้านเราจะอำนวย...
ทุกอย่างที่ทำลงบล๊อกนี้ ทำด้วยความตั้งใจ
อยากให้อาคันตุกะที่คลิกเข้ามาได้อ่าน
ได้เห็นแล้วรู้สึกสุขใจ ยิ้มบ้างขำบ้าง
เราคนทำ ก็มีความสุขแล้วค่ะ ขอขอบคุณ
ทุกท่านอีกครั้งที่ติดตามผลงานนะคะ



ภาพและข้อเขียนที่ปรากฏในเวปไซด์แห่งนี้เป็นของ
Candybee แต่ผู้เดียว ผลงานได้รับการคุ้มครองตาม
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้ามทำการแอบ
อ้างใช้ หรือดัดแปลง หรือกระทำการใดๆเพื่อก่อให้
เกิดความเสียหายแก่เจ้าของผลงานโดยมิได้รับอนุญาติ
จากเจ้าของที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยเด็ดขาด

Friends' blogs
[Add CandyBee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.