อันนี้คิดว่าแล้วแต่ความรู้แต่ล่ะคนนะค่ะ
ใช่ว่าทุกคนจะรู้ว่าเขาทำน้ำหอมอย่างไร
ใช้สารประกอบอะไรที่ให้คุณภาพ ฯลฯ

บางน้ำหอมทำง่ายก็ถูกตามราคา อันที่ทำยากก็แพง

แต่ว่าถ้าจะซื้อถึงเมืองไทยก็อย่าลืมบวกค่าเครื่องบินด้วยนะค่ะ
แถมภาษีแต่ล่ะประเทศอีก ข้อดีข้อเสียของภาษีก็มีอีกเยอะ

คิดว่าแล้วแต่ความพอใจแต่ล่ะคนมากกว่านะค่ะ

น้ำหอม กลิ่นนี้ เรามีตั้งสามขวดใหญ่ ของขวัญจากแฟนๆ หุ หุ ใช้หมดไปขวดนึง อีกขวดนึงเหลือ ค่อนขวด ขวดที่สามเลยแจกเพื่อนไป ตอนนี้มีน้ำหอม 5 ขวด 5 กลิ่น ไม่รู้จะใช้หมดปีไหน ว่าเรื่องราคา น้ำหอมเมืองฮอลแลนด์ จากร้านขายเครื่องสำอางค์ที่แวะไปไปใช้บริการบ่อยๆ ราคาแถวนี้ค่อนข้างถูกค่ะ ลดจากป้ายปกติ 20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็น สมาชิกได้ลดอีก 7 เปอร์เซ็นต์ บางช่วง ลดแหลกแจกแถม ซึ่งส่วนมากเป็นช่วงนี้ละ ร้านที่เป็นขาประจำกันนี่ ดีอย่างนึง เวลาซื้อเครื่องสำอางค์ มักจะได้ ตัวอย่างน้ำหอมเล็กๆ แจกเสมอ ได้ทีหลายอันด้วย ชอบมาก แบบพกพาเวลาเดินทาง ไม่ต้องหิ้วขวดใหญ่ไปหนัก

ขอบคุณเกร็ดความรู้ค่ะ

ใช่คะคุณเบญตุ๊กเคยอ่านในห้องไหนที่พันทิปมาจำไม่ได้แล้ว...เค้าก็พูดกันนะว่า King Power ที่ไทนนี่ละถูก อีกที่ก็เจ้เล้ง ถูกกว่าในฝรั่งเศสอีก แต่คงไม่ต้องพูดถึงทางบ้านตุ๊กแพงคะ...แต่แปลกอย่างคะ เช่นแป้งของชาแนลตุ๊กชื้อที่บ้านถูกกว่าที่อิตาลี่ ทั้งอิตาลี่น่าจะถูกกว่าสิ

มะเคยรู้เลยมะก่อนค่ะ
เป็นคนไม่ชอบใส่อ่ะ ทาแต่ โคโลญอิๆ

โอ้โห..VAT ตั้ง 19.6% เกือบ 1 ใน 4 ของราคาเลยนะคะเนี่ย...โหดดีแท้เนอะ..
ที่นี่มีทั้ง PSTกะ GST รวมๆ กันแล้วก็ประมาณ 14% ได้ค่ะ..
เฮ้อ..ไม่รู้จะเก็บอะไรกันนักกันหนานะคะ...ภาษีเนี่ย

เห็นดว้ยค่ะ.น้ำหอมที่นี่แพงกว่าที่ ปทท เยอะเลยล่ะ สว่นใหญ่ เรณู เองก็จะไปซื้อชว่งลดราคา 20% ที่ร้าน Marionnaud เพราะมีบัตร ลดราคา 10€ ดว้ย แถมได้น้ำหอมตัวอย่างมาใช้อีกเยอะเลย

อิอิงั้นก็โชคดีนะเนี่ยเพราะมีบัตรลดของคิง พาวเวอร์ 20% สรุปคือซื้อเมืองไทยดีกว่าเนอะ แต่อย่างว่าบางคนไปเมืองนอกทั้งทีก็จะต้องช้อปแหลกจากที่นู่นมาไม่ได้เช็คราคาก่อน ประมาณว่าอยากได้สุดๆ เรานี่อดใจไว้เช็คก่อนว่าราคาของที่อยากได้เท่าไร ที่ต่างประเทศที่ไปเท่าไร ของที่นี่มีมั้ยหากมีเทียบราคาแล้วเราใช้บัตรลดได้อีกก็จะซื้อเลย :)