มีบางอย่างที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้....A moment in June... ถ้าเปรียบความรักครั้งแรกเป็นขนมหวาน ความรักครั้งแรกของฉัน คงเป็นเหมือนชอคโกแลตเค้กชิ้นโต ที่ถูกประดับประดาอย่างดี วางอยู่บนตู้โชว์กระจกใสๆ ฉันมีหน้าที่แค่เดินผ่านอย่างเฉียดฉิว คอยแอบมองดูอยู่ไกลๆเป็นครั้งคราว แต่ไม่กล้าที่จะซื้อมาชิม เพียงเพราะมันสวยงามเกินไปแฟนฉัน..กับความรักครั้งแรกจะมีซักกี่คนกันเชียว ที่มีความรักครั้งแรกกับแฟนคนแรก..สำหรับฉันแล้ว มันไม่ใช่ ฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้นพงษ์พันธ์..ชื่อนั้นฉันไม่มีวันลืม คนที่เพียงแรกเห็น เขาทำให้ฉันเหมือนถูกพลุระเบิดกลางหัวใจ คนที่ทำให้ฉันต้องแอบมองเสมอเวลาเข้าแถวหน้าเสาธง คนที่ฉันเดินผ่านแล้วเขายิ้มให้ที่โรงอาหาร คนที่เขาผลักเพื่อนชายของเขามาชนฉันที่บันไดขึ้นอาคารเรียน เมื่อฉันหันไปมอง เขาเสก้มหน้าลงหัวเราะเบาๆ ส่วนเพื่อนของเขาคนที่ชนฉันกลับยิ้มทะเล้น ชี้นิ้วไปที่เขาแล้วบอกว่า "อย่าโกรธนะ ไอ้บอยมันผลักพี่..มันเขิน" แม้จะโดนชนจนกระเด็นและเจ็บ แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม เมื่อเก็บอาการยิ้มแกมตุ่ยเอาไว้ไม่อยู่ จึงต้องรีบเสแกล้งเดินหนีหน้าไป พร้อมกระซิบบอกเพื่อนสนิท "คนนี้แหล่ะที่เราเคยเล่าให้ฟัง ว่าเราชอบ"ความรักครั้งแรกมันลืมยากนะ แม้มันจะไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่น่าจดจำ แต่ควันแห่งความทรงจำมันยังคงอบอวลอยู่เสมอ..แม้จะมีใครผ่านเข้ามาทำให้หัวใจได้อบอุ่นอีกเรื่อยๆ แต่ความรักครั้งแรก มันเหมือนมีมนต์ขลัง รักไม่ได้แต่ก็ลืมไม่ลง ฉันจำได้ว่าผ่านไปไม่ถึงปี เขาก็ลาออกจากโรงเรียนไป ไม่ไหนก็ไม่รู้ หายไปอย่างเงียบๆไร้ร่องรอย บางทีเพื่อนของเขาอาจจะรู้ก็ได้ แต่ฉันก็ไม่เคยหน้าด้าน ไม่กล้าเดินเข้าไปถามซักทีเขาไม่ได้เป็นแฟนคนแรกของฉัน...เขาเป็นคนที่ฉันแค่แอบรักแบบโจ่งแจ้งแค่นั้นเอง แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกทิ้งกลางอากาศนะ เมื่ออยู่ๆเขาก็ได้หายไปจากโรงเรียน หายไปจากชีวิตของฉันอย่างเงียบๆ..มันเป็นแค่อารมณ์ที่อ่อนไหวของเด็กสาวใช่ไหมวันเวลาเลยผ่านไปเรื่อยๆ แต่ร่องรอยจางๆของพลุที่แตกกระจายในหัวใจฉัน มันยังอยู่..มันคอยสะกิดสะเกาให้แอบคิดเสมอ..ว่าเขาหายไปไหน เขาไปอยู่ที่อื่นที่ใด เขาสบายดีรึเปล่า..เขามีชีวิตที่ดีหรือไม่ในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา บางครั้งฉันได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนเก่าๆในอดีตผ่านทางโทรศัพท์ คุยกันเรื่อยเปื่อย ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ คุยกันเรื่องชีวิตที่เป็นไป..แล้วอดไม่ได้ที่จะตบท้ายก่อนวางสาย ด้วยคำถามเดิมๆโดยไม่ได้คิดมาก่อนว่า "ได้ข่าวพี่บอยบ้างไหม" บางทีเพื่อนบางคนก็ส่ายหน้าแล้วถามว่า "บอยไหนว่ะ เราจำไม่ได้แล้ว" แล้วฉันก็ต้องรื้อฟื้นความทรงจำของเพื่อนใหม่อีกครั้ง สุดท้ายเธอก็ร้อง "อ๋อ คนโย่งๆที่แกเคยบอกว่าชอบน่ะเหรอ" บางที..สิบกว่าปี มันอาจนานเกินไป นานจนทำให้ความทรงจำของใครบางคนถึงใครอีกคนเลือนลางไป..เพราะเขาไม่ใช่คนในฝันและความทรงจำที่สำคัญของเธอแต่สำหรับฉันแล้ว..ความทรงจำถึงใครคนนั้นยังแจ่มชัดสิบกว่าปียังน้อยไป..ฉันยังจำเขาได้ ยังจดจำหน้าตา ลักษณะรูปร่าง ยังจำรอยยิ้มของเขา ยังจดจำได้แม้กระทั่งท่าทางของเขายามหยอกเย้ากับเพื่อนพ้อง ..ยังสามารถจินตานาการได้ด้วยว่า..เมื่อเขาเติบโตขึ้นมากกว่าที่เคย เขาจะเป็นอย่างไรสิบกว่าปีที่ยาวนาน แต่ก็เหมือนสั้นนิดเดียว..แม้ในเวลาต่อมา ได้รู้แล้วว่า..นั่นมันยังไม่ใช่รักแท้หรอก มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของหัวใจ ที่จะได้เรียนรู้และสัมผัสกับคำว่า..แรกรัก เท่านั้นเองส่วนแฟนคนแรกของฉันเป็นใครนั้น..ช่างมันเถอะ ปล่อยให้เขาเป็นความทรงจำที่พร่าเลือนไปคงดีกว่า เพราะความรักในช่วงต่อมานั้น..มันเป็นเสมือนเพียงแค่สายลมสั้นๆที่พัดผ่าน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปถ้าเปรียบความรักครั้งสำคัญเป็นเครื่องดื่ม ความรักครั้งสำคัญของฉัน คงเป็นมาร์ตินี่ในแก้วบางๆ ที่ถูกตกแต่งด้วยลูกเชอร์รี่เชื่อมซักลูกสองลูกด้านใน ที่ทำให้ฉันอยากจะชิมความหวานของลูกเชอร์รี่ซักนิดหน่อย ..แต่สุดท้ายก็ไม่วายที่จะรู้สึกถึงความเฝื่อนและยอมพ่ายแพ้กับความขมที่โอบล้อมมันไว้เมื่อมีใครคนหนึ่งได้เดินผ่านเข้ามาและมีค่ามากกว่าสายลม แม้ว่าเขาจะผ่านเข้าแล้วก็ผ่านไป แต่เขาก็ทำให้มุมมองความรักของฉันเปลี่ยน ..ความรักมันมากกว่าแค่เพียงความตื่นเต้นและอบอุ่นที่พลุระเบิดกลางหัวใจ แต่ความรักครั้งนี้ มันเหมือนเราต้องยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนในวันที่ไม่สบาย มันทั้งร้อน มันทั้งหนาว..แปลกดี..ความรักเคยถามตัวเองว่า แล้วเรามายืนตากฝนทำไม ทั้งๆที่เรามีร่มอยู่ในมือ..โง่ใช่ไหมล่ะ โง่จริงๆ ..แต่ก็นั่นแหล่ะนะ คนเรา บางครั้งก็โง่แบบไม่มีเหตุผล เราสองคนเป็นอะไรกัน เขาไม่เคยเอ่ย..ฉันก็ไม่เคยเอ่ย..เราเองต่างคนต่างก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันหรือยัง หรือนั่นเป็นเพียงแค่ความก่ำกึ่ง ของความสัมพันธ์ของคำว่าคนรู้จัก หรือเป็นความสัมพันธ์ของคนที่เรียกว่า..มากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ใช่แฟนความรัก..แม้สำคัญที่การกระทำมากกว่าคำพูด..แต่หากว่าเมื่อไม่มีคำพูดมายืนยัน บางครั้งการกระทำนั้น ก็อาจถูกตีความหมายไปได้หลายแบบ เขาอาจไม่แน่ใจในตัวฉันหรือตัวเขาเอง ฉันเองก็ไม่แน่ใจในตัวเขาและหรืออาจไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเหมือนกันครั้งหนึ่งเราเคยพูดคุยกันถึงทัศนคติของตัวเอง เขาบอกฉันว่า "กับคนที่ผ่านๆมา..หากพี่รู้สึกว่าคนคนนั้นยังไม่ใช่ พี่จะค่อยๆถอยห่างออกไปอย่างเงียบๆ ให้เขาได้รู้เอง" "อย่างนี้ไม่แฟร์นะ เวลาที่เราอยากรู้จักใครซักคน เราเดินเข้าไปหาเขา ไปบอกรักเขา แต่เวลาที่ไม่อยากคบเขาแล้ว เรากลับจะเดินหนีไปเงียบๆได้ยังไง" ฉันเอ่ยเถียงแล้วเขาก็ยิ้ม "ไม่รู้สิ พี่ก็เป็นของพี่อย่างนี้แหล่ะ" ฉันยิ้มน้อยๆ เอ่ยกึ่งขู่ที่เล่นทีจริงว่า..."แต่ขอร้องนะ กับนิ..ถ้าหากมีวันนึงที่เริ่มไม่คิดถึงกันแล้ว บอกกันตรงๆอย่าเงียบหายไปเฉยๆ ไม่ชอบ..ไม่อยากรอด้วยความสงสัยว่าหายไปเพราะอะไร ให้รู้กันไปเลยดีกว่า ไม่รักก็คือไม่รัก รับได้เสมอ ""ไม่มีวันนั้นหรอก" เขาบอก..แล้วเราก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะเบาๆ .. เขาหมายถึงไม่มีวันนั้นหรอก ไม่มีวันที่จะไม่คิดถึงกันใช่ไหม?คำพูดอย่างเดียว ใครๆก็พูดได้ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ก็แค่เวลาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ก็แค่ความรู้สึกเท่านั้น(มั๊ง)ที่เปลี่ยนไป....เขาสอนให้ฉันรู้ว่า อย่าคาดหวังอะไรจากใครซักคน ถ้าหากว่าเราไม่มีความสำคัญในหัวใจของเขามากพอ..ฉันเคยพูดว่า.. "ขอร้องนะ บอกกันตรงๆ" ฉันคงคาดหวังมากไปเอง ว่าอย่างน้อยฉันจะแตกต่างจากคนที่ผ่านมา ฉันคงคาดหวังมากไปเองว่าเขาจะบอกกันตามตรง บางทีคำว่า "ไม่มีวันนั้นหรอก" ของเขา... เขาอาจต้องการหมายถึง "ไม่มีวันนั้นหรอก ไม่มีวันที่เขาจะเปลี่ยนตัวเอง" ก็ได้..ใครจะไปรู้เขาไม่บอก เขาไม่ผิด สิทธิ์ของเขาผิดที่เรา คาดคิด คาดหวัง มากไปหน่อยเขาไม่คิดถึง จึงเงียบหายไป ไร้ร่องรอยอย่าเฝ้าคอย ปล่อยเขาไป ไม่ต้องหาเหตุผลเมื่อเราไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่ ก็แค่นั้นจะกี่หมื่น ร้อยพันข้ออ้าง ใครเขาสนความเงียบคือความชัดเจนที่เราต้องจำนนบอกตัวตน ตัวเรา อย่าเฝ้าคอย ปล่อยเขาไปไม่ว่าจะได้รู้จักและเรียนรู้กับใครก็ตาม ..ฉันไม่เคยเอ่ยถามว่า "ฉันเป็นความรักครั้งแรกของคุณหรือไม่" ฉันเรียนรู้จากใจของฉันเอง..ว่าทุกคนมีความลับ มีความรักครั้งแรกของตัวเองกันทั้งนั้น..หากความรักครั้งแรกของเขา จะไม่ใช่ฉัน ก็ไม่เห็นจะเป็นไร..เพราะเขาเองก็ไม่ใช่รักครั้งแรกของฉันเช่นกันส่วนความรักครั้งสุดท้ายนั้น..แม้ฉันอยากถามใจจะขาดว่า "ฉันจะได้เป็นความรักครั้งสุดท้ายของคุณหรือไม่"แต่ฉันก็ไม่เคยได้เอ่ยถามออกไปตรงๆหรอกนะ..เพราะปล่อยรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คงจะดีกว่า หากใช่ก็คือใช่ หากไม่ใช่ดิ้นรนไปก็เท่านั้น..คำพูดยืนยันนั้นมิใช่คำตอบสุดท้าย เมื่อความจริงแล้วหัวใจของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอรักแรกลืมไม่ได้ รักสุดท้ายลืมไม่ลง..มีคนกล่าวไว้เช่นนั้น ความรักในช่วงกลางๆ ความรักระหว่างทาง มักไม่ค่อยจะมีใครพูดถึงซักเท่าไหร่.. รักครั้งที่สอง ที่สาม ที่สี่ หรือที่เท่าใดก็ตามแต่ ครั้งหนึ่งรักครั้งนั้น มันมักจะถูกคิดและคาดหวังว่ามันจะเป็นรักครั้งสุดท้ายเสมอ แต่มันก็ยังไม่เคยใช่ สิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ..รักครั้งแรกนั้น แม้มันไม่ใช่รักครั้งสุดท้าย แต่มันจะถูกนึกถึงและมีความสำคัญในฐานะรักแรกเสมอ..รักแรกย่อมเป็นรักแรกเสมอไปบางครั้ง..ยังถามตัวเองในใจ ถ้ารักแรกเขาคนนั้น..คือคนที่ฉันมีสิทธิ์จะใช้ชีวิตด้วย..ชีวิตในวันนี้ของฉันจะต่างออกไปไหม..มันคงเป็นคำถามที่ต้องค้างคาต่อไป เพราะมันเป็นคำถามที่ไม่มีวันมีคำตอบได้..คำถามบางคำถาม..ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเสมอไปไม่ใช่หรือ..จงปล่อยให้ความทรงจำที่สวยงามเป็นเพียงความทรงจำที่สวยงามต่อไป..เมื่อความเป็นจริงและปัจจุบันนั้น..มันก็มีเหลี่ยมมีมุมที่สวยงามไม่แพ้กัน มีบางอย่างที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้....A moment in Juneบทความนี้..เพื่อระลึกถึงความทรงจำเก่าๆที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้บทความนี้..แด่..หนึ่งคน คนนั้น..พงษ์พันธ์..ความรักครั้งแรกที่ยังเป็นความรักครั้งแรกของฉันเสมอบทความนี้..แด่..ใครคนหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยนาม..ความรักครั้งสำคัญที่เคยคิดว่าจะเป็นความรักครั้งสุดท้าย..แต่ก็ไม่ใช่...*หมายเหตุ..ชื่อของคนคนนึง เราอาจเอ่ยถึงได้ด้วยรอยยิ้มบางๆที่ริมฝีปากด้วยความทรงจำที่ชัดเจนแต่บางเบาในความรู้สึก...แต่ชื่อของคนอีกคนหนึ่ง เราไม่อาจเอ่ยถึงได้ เพราะความทรงจำที่บางเบามันชัดเจนและมีความหมายกับหัวใจมากเกินไป แค่เขียนถึง แค่คิดถึง หรือแม้แต่เพียงแค่ระลึกถึง ก็ยังรู้สึกเหมือนมีใครเอามือมาบิดไส้เบาๆ..ปวดท้องและมือเย็นไปหมด ใจโหวงๆ สมองตื้อๆ..เคยเป็นกันบ้างไหมคะ อารมณ์แบบนี้??...หากสนใจร่วมถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรเส้นที่สามกับพวกเรา ทำตามกติกาง่าย ๆ เหมือนเคย ดังนี้ค่ะ -ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้-เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์-อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 13 เมษายน (สงกรานต์พอดีเลย) เวลาใดก็ได้-เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะได้ร่วมเดินทาง ในถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรนี้ด้วยกันนะคะ สำหรับถนนเส้นต่อไป เดินทางมาถึงเส้นที่สามแล้ว และจะมาในหัวข้อที่ชื่อว่า "ของขวัญ......(จุด จุด จุด..แล้วต่อท้ายด้วยชื่อเรื่องของตัวเองที่คิดว่าดี เก๋ เจ๋งและเหมาะกับตัวเองที่สุด)กติกาเพิ่มเติม..งานเขียนของท่านนั้น จงเขียนสิ่งที่อยากเขียน..ไม่จำกัดรูปแบบ ไม่จำกัดแนวเรื่อง ไม่จำกัดความสั้นยาว เรียกว่าเขียนกันได้ตามความพอใจเลยค่ะ..เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ได้..ขอเพียงมีชื่อเรื่องว่า "ของขวัญ..." เท่านั้นเองรายชื่อเพื่อนร่วมเดินทางถนนสายมิตรภาพ::BeCoffee ::นางสาวดุ่บดั่บ ::nikanda :: Prettymaew ::กะว่าก๋า ::Paulo ::แมงโกชิดเด::Little Knight :: ปณาลี :: nulaw.m :: นัทธ์:: แฟนผมตัวดำ
มีบางอย่างที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้....A moment in June... ถ้าเปรียบความรักครั้งแรกเป็นขนมหวาน ความรักครั้งแรกของฉัน คงเป็นเหมือนชอคโกแลตเค้กชิ้นโต ที่ถูกประดับประดาอย่างดี วางอยู่บนตู้โชว์กระจกใสๆ ฉันมีหน้าที่แค่เดินผ่านอย่างเฉียดฉิว คอยแอบมองดูอยู่ไกลๆเป็นครั้งคราว แต่ไม่กล้าที่จะซื้อมาชิม เพียงเพราะมันสวยงามเกินไปแฟนฉัน..กับความรักครั้งแรกจะมีซักกี่คนกันเชียว ที่มีความรักครั้งแรกกับแฟนคนแรก..สำหรับฉันแล้ว มันไม่ใช่ ฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้นพงษ์พันธ์..ชื่อนั้นฉันไม่มีวันลืม คนที่เพียงแรกเห็น เขาทำให้ฉันเหมือนถูกพลุระเบิดกลางหัวใจ คนที่ทำให้ฉันต้องแอบมองเสมอเวลาเข้าแถวหน้าเสาธง คนที่ฉันเดินผ่านแล้วเขายิ้มให้ที่โรงอาหาร คนที่เขาผลักเพื่อนชายของเขามาชนฉันที่บันไดขึ้นอาคารเรียน เมื่อฉันหันไปมอง เขาเสก้มหน้าลงหัวเราะเบาๆ ส่วนเพื่อนของเขาคนที่ชนฉันกลับยิ้มทะเล้น ชี้นิ้วไปที่เขาแล้วบอกว่า "อย่าโกรธนะ ไอ้บอยมันผลักพี่..มันเขิน" แม้จะโดนชนจนกระเด็นและเจ็บ แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม เมื่อเก็บอาการยิ้มแกมตุ่ยเอาไว้ไม่อยู่ จึงต้องรีบเสแกล้งเดินหนีหน้าไป พร้อมกระซิบบอกเพื่อนสนิท "คนนี้แหล่ะที่เราเคยเล่าให้ฟัง ว่าเราชอบ"ความรักครั้งแรกมันลืมยากนะ แม้มันจะไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่น่าจดจำ แต่ควันแห่งความทรงจำมันยังคงอบอวลอยู่เสมอ..แม้จะมีใครผ่านเข้ามาทำให้หัวใจได้อบอุ่นอีกเรื่อยๆ แต่ความรักครั้งแรก มันเหมือนมีมนต์ขลัง รักไม่ได้แต่ก็ลืมไม่ลง ฉันจำได้ว่าผ่านไปไม่ถึงปี เขาก็ลาออกจากโรงเรียนไป ไม่ไหนก็ไม่รู้ หายไปอย่างเงียบๆไร้ร่องรอย บางทีเพื่อนของเขาอาจจะรู้ก็ได้ แต่ฉันก็ไม่เคยหน้าด้าน ไม่กล้าเดินเข้าไปถามซักทีเขาไม่ได้เป็นแฟนคนแรกของฉัน...เขาเป็นคนที่ฉันแค่แอบรักแบบโจ่งแจ้งแค่นั้นเอง แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกทิ้งกลางอากาศนะ เมื่ออยู่ๆเขาก็ได้หายไปจากโรงเรียน หายไปจากชีวิตของฉันอย่างเงียบๆ..มันเป็นแค่อารมณ์ที่อ่อนไหวของเด็กสาวใช่ไหมวันเวลาเลยผ่านไปเรื่อยๆ แต่ร่องรอยจางๆของพลุที่แตกกระจายในหัวใจฉัน มันยังอยู่..มันคอยสะกิดสะเกาให้แอบคิดเสมอ..ว่าเขาหายไปไหน เขาไปอยู่ที่อื่นที่ใด เขาสบายดีรึเปล่า..เขามีชีวิตที่ดีหรือไม่ในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา บางครั้งฉันได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนเก่าๆในอดีตผ่านทางโทรศัพท์ คุยกันเรื่อยเปื่อย ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ คุยกันเรื่องชีวิตที่เป็นไป..แล้วอดไม่ได้ที่จะตบท้ายก่อนวางสาย ด้วยคำถามเดิมๆโดยไม่ได้คิดมาก่อนว่า "ได้ข่าวพี่บอยบ้างไหม" บางทีเพื่อนบางคนก็ส่ายหน้าแล้วถามว่า "บอยไหนว่ะ เราจำไม่ได้แล้ว" แล้วฉันก็ต้องรื้อฟื้นความทรงจำของเพื่อนใหม่อีกครั้ง สุดท้ายเธอก็ร้อง "อ๋อ คนโย่งๆที่แกเคยบอกว่าชอบน่ะเหรอ" บางที..สิบกว่าปี มันอาจนานเกินไป นานจนทำให้ความทรงจำของใครบางคนถึงใครอีกคนเลือนลางไป..เพราะเขาไม่ใช่คนในฝันและความทรงจำที่สำคัญของเธอแต่สำหรับฉันแล้ว..ความทรงจำถึงใครคนนั้นยังแจ่มชัดสิบกว่าปียังน้อยไป..ฉันยังจำเขาได้ ยังจดจำหน้าตา ลักษณะรูปร่าง ยังจำรอยยิ้มของเขา ยังจดจำได้แม้กระทั่งท่าทางของเขายามหยอกเย้ากับเพื่อนพ้อง ..ยังสามารถจินตานาการได้ด้วยว่า..เมื่อเขาเติบโตขึ้นมากกว่าที่เคย เขาจะเป็นอย่างไรสิบกว่าปีที่ยาวนาน แต่ก็เหมือนสั้นนิดเดียว..แม้ในเวลาต่อมา ได้รู้แล้วว่า..นั่นมันยังไม่ใช่รักแท้หรอก มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของหัวใจ ที่จะได้เรียนรู้และสัมผัสกับคำว่า..แรกรัก เท่านั้นเองส่วนแฟนคนแรกของฉันเป็นใครนั้น..ช่างมันเถอะ ปล่อยให้เขาเป็นความทรงจำที่พร่าเลือนไปคงดีกว่า เพราะความรักในช่วงต่อมานั้น..มันเป็นเสมือนเพียงแค่สายลมสั้นๆที่พัดผ่าน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปถ้าเปรียบความรักครั้งสำคัญเป็นเครื่องดื่ม ความรักครั้งสำคัญของฉัน คงเป็นมาร์ตินี่ในแก้วบางๆ ที่ถูกตกแต่งด้วยลูกเชอร์รี่เชื่อมซักลูกสองลูกด้านใน ที่ทำให้ฉันอยากจะชิมความหวานของลูกเชอร์รี่ซักนิดหน่อย ..แต่สุดท้ายก็ไม่วายที่จะรู้สึกถึงความเฝื่อนและยอมพ่ายแพ้กับความขมที่โอบล้อมมันไว้เมื่อมีใครคนหนึ่งได้เดินผ่านเข้ามาและมีค่ามากกว่าสายลม แม้ว่าเขาจะผ่านเข้าแล้วก็ผ่านไป แต่เขาก็ทำให้มุมมองความรักของฉันเปลี่ยน ..ความรักมันมากกว่าแค่เพียงความตื่นเต้นและอบอุ่นที่พลุระเบิดกลางหัวใจ แต่ความรักครั้งนี้ มันเหมือนเราต้องยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนในวันที่ไม่สบาย มันทั้งร้อน มันทั้งหนาว..แปลกดี..ความรักเคยถามตัวเองว่า แล้วเรามายืนตากฝนทำไม ทั้งๆที่เรามีร่มอยู่ในมือ..โง่ใช่ไหมล่ะ โง่จริงๆ ..แต่ก็นั่นแหล่ะนะ คนเรา บางครั้งก็โง่แบบไม่มีเหตุผล เราสองคนเป็นอะไรกัน เขาไม่เคยเอ่ย..ฉันก็ไม่เคยเอ่ย..เราเองต่างคนต่างก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันหรือยัง หรือนั่นเป็นเพียงแค่ความก่ำกึ่ง ของความสัมพันธ์ของคำว่าคนรู้จัก หรือเป็นความสัมพันธ์ของคนที่เรียกว่า..มากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ใช่แฟนความรัก..แม้สำคัญที่การกระทำมากกว่าคำพูด..แต่หากว่าเมื่อไม่มีคำพูดมายืนยัน บางครั้งการกระทำนั้น ก็อาจถูกตีความหมายไปได้หลายแบบ เขาอาจไม่แน่ใจในตัวฉันหรือตัวเขาเอง ฉันเองก็ไม่แน่ใจในตัวเขาและหรืออาจไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเหมือนกันครั้งหนึ่งเราเคยพูดคุยกันถึงทัศนคติของตัวเอง เขาบอกฉันว่า "กับคนที่ผ่านๆมา..หากพี่รู้สึกว่าคนคนนั้นยังไม่ใช่ พี่จะค่อยๆถอยห่างออกไปอย่างเงียบๆ ให้เขาได้รู้เอง" "อย่างนี้ไม่แฟร์นะ เวลาที่เราอยากรู้จักใครซักคน เราเดินเข้าไปหาเขา ไปบอกรักเขา แต่เวลาที่ไม่อยากคบเขาแล้ว เรากลับจะเดินหนีไปเงียบๆได้ยังไง" ฉันเอ่ยเถียงแล้วเขาก็ยิ้ม "ไม่รู้สิ พี่ก็เป็นของพี่อย่างนี้แหล่ะ" ฉันยิ้มน้อยๆ เอ่ยกึ่งขู่ที่เล่นทีจริงว่า..."แต่ขอร้องนะ กับนิ..ถ้าหากมีวันนึงที่เริ่มไม่คิดถึงกันแล้ว บอกกันตรงๆอย่าเงียบหายไปเฉยๆ ไม่ชอบ..ไม่อยากรอด้วยความสงสัยว่าหายไปเพราะอะไร ให้รู้กันไปเลยดีกว่า ไม่รักก็คือไม่รัก รับได้เสมอ ""ไม่มีวันนั้นหรอก" เขาบอก..แล้วเราก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะเบาๆ .. เขาหมายถึงไม่มีวันนั้นหรอก ไม่มีวันที่จะไม่คิดถึงกันใช่ไหม?คำพูดอย่างเดียว ใครๆก็พูดได้ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ก็แค่เวลาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ก็แค่ความรู้สึกเท่านั้น(มั๊ง)ที่เปลี่ยนไป....เขาสอนให้ฉันรู้ว่า อย่าคาดหวังอะไรจากใครซักคน ถ้าหากว่าเราไม่มีความสำคัญในหัวใจของเขามากพอ..ฉันเคยพูดว่า.. "ขอร้องนะ บอกกันตรงๆ" ฉันคงคาดหวังมากไปเอง ว่าอย่างน้อยฉันจะแตกต่างจากคนที่ผ่านมา ฉันคงคาดหวังมากไปเองว่าเขาจะบอกกันตามตรง บางทีคำว่า "ไม่มีวันนั้นหรอก" ของเขา... เขาอาจต้องการหมายถึง "ไม่มีวันนั้นหรอก ไม่มีวันที่เขาจะเปลี่ยนตัวเอง" ก็ได้..ใครจะไปรู้เขาไม่บอก เขาไม่ผิด สิทธิ์ของเขาผิดที่เรา คาดคิด คาดหวัง มากไปหน่อยเขาไม่คิดถึง จึงเงียบหายไป ไร้ร่องรอยอย่าเฝ้าคอย ปล่อยเขาไป ไม่ต้องหาเหตุผลเมื่อเราไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่ ก็แค่นั้นจะกี่หมื่น ร้อยพันข้ออ้าง ใครเขาสนความเงียบคือความชัดเจนที่เราต้องจำนนบอกตัวตน ตัวเรา อย่าเฝ้าคอย ปล่อยเขาไปไม่ว่าจะได้รู้จักและเรียนรู้กับใครก็ตาม ..ฉันไม่เคยเอ่ยถามว่า "ฉันเป็นความรักครั้งแรกของคุณหรือไม่" ฉันเรียนรู้จากใจของฉันเอง..ว่าทุกคนมีความลับ มีความรักครั้งแรกของตัวเองกันทั้งนั้น..หากความรักครั้งแรกของเขา จะไม่ใช่ฉัน ก็ไม่เห็นจะเป็นไร..เพราะเขาเองก็ไม่ใช่รักครั้งแรกของฉันเช่นกันส่วนความรักครั้งสุดท้ายนั้น..แม้ฉันอยากถามใจจะขาดว่า "ฉันจะได้เป็นความรักครั้งสุดท้ายของคุณหรือไม่"แต่ฉันก็ไม่เคยได้เอ่ยถามออกไปตรงๆหรอกนะ..เพราะปล่อยรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คงจะดีกว่า หากใช่ก็คือใช่ หากไม่ใช่ดิ้นรนไปก็เท่านั้น..คำพูดยืนยันนั้นมิใช่คำตอบสุดท้าย เมื่อความจริงแล้วหัวใจของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอรักแรกลืมไม่ได้ รักสุดท้ายลืมไม่ลง..มีคนกล่าวไว้เช่นนั้น ความรักในช่วงกลางๆ ความรักระหว่างทาง มักไม่ค่อยจะมีใครพูดถึงซักเท่าไหร่.. รักครั้งที่สอง ที่สาม ที่สี่ หรือที่เท่าใดก็ตามแต่ ครั้งหนึ่งรักครั้งนั้น มันมักจะถูกคิดและคาดหวังว่ามันจะเป็นรักครั้งสุดท้ายเสมอ แต่มันก็ยังไม่เคยใช่ สิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ..รักครั้งแรกนั้น แม้มันไม่ใช่รักครั้งสุดท้าย แต่มันจะถูกนึกถึงและมีความสำคัญในฐานะรักแรกเสมอ..รักแรกย่อมเป็นรักแรกเสมอไปบางครั้ง..ยังถามตัวเองในใจ ถ้ารักแรกเขาคนนั้น..คือคนที่ฉันมีสิทธิ์จะใช้ชีวิตด้วย..ชีวิตในวันนี้ของฉันจะต่างออกไปไหม..มันคงเป็นคำถามที่ต้องค้างคาต่อไป เพราะมันเป็นคำถามที่ไม่มีวันมีคำตอบได้..คำถามบางคำถาม..ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเสมอไปไม่ใช่หรือ..จงปล่อยให้ความทรงจำที่สวยงามเป็นเพียงความทรงจำที่สวยงามต่อไป..เมื่อความเป็นจริงและปัจจุบันนั้น..มันก็มีเหลี่ยมมีมุมที่สวยงามไม่แพ้กัน มีบางอย่างที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้....A moment in Juneบทความนี้..เพื่อระลึกถึงความทรงจำเก่าๆที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้บทความนี้..แด่..หนึ่งคน คนนั้น..พงษ์พันธ์..ความรักครั้งแรกที่ยังเป็นความรักครั้งแรกของฉันเสมอบทความนี้..แด่..ใครคนหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยนาม..ความรักครั้งสำคัญที่เคยคิดว่าจะเป็นความรักครั้งสุดท้าย..แต่ก็ไม่ใช่
บทความนี้..เพื่อระลึกถึงความทรงจำเก่าๆที่..เวลา..ไม่สามารถทำลายได้บทความนี้..แด่..หนึ่งคน คนนั้น..พงษ์พันธ์..ความรักครั้งแรกที่ยังเป็นความรักครั้งแรกของฉันเสมอบทความนี้..แด่..ใครคนหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยนาม..ความรักครั้งสำคัญที่เคยคิดว่าจะเป็นความรักครั้งสุดท้าย..แต่ก็ไม่ใช่
รายชื่อเพื่อนร่วมเดินทางถนนสายมิตรภาพ::BeCoffee ::นางสาวดุ่บดั่บ ::nikanda :: Prettymaew ::กะว่าก๋า ::Paulo ::แมงโกชิดเด::Little Knight :: ปณาลี :: nulaw.m :: นัทธ์:: แฟนผมตัวดำ