...พบรักแมนชั่น... ชั้นล่างสุดที่ประกอบด้วยมินิมาร์ทเล็กๆทางซ้ายมือ ส่วนกลางเป็นร้านอาหารของแมนชั่น และด้านขวามือเป็นเค้าเตอร์ตอนรับซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าไปสู่ลิฟท์ที่อยู่ด้านในถัดไปนิดหน่อย พนักงานสาวสวยคนเดิมที่มีรอยยิ้มเย็นๆ หันมายิ้มให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ในส่วนกลางของลอบบี้ เพียงแค่ยิ้มตามมารยาทก่อนที่คุณเธอคนนั้นจะหันกลับไปต้อนรับลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่น้ำส้มคั้นสดๆสีส้มแกมแดงถูกนำมาวางตรงหน้า พอดีกับที่ชายหญิงคู่หนึ่งเดินออกมาจากลิฟท์พอดี หวานและอเล็กซ์นั่นเอง ส้มยกมือขึ้นนิดหน่อยเป็นเชิงทัก หญิงสาวผู้นั้นจึงปาดเข้ามาหาทันทีตามด้วยชายหนุ่มที่สาวเท้าเข้ามาอย่างเอื่อยๆ "ขอนั่งด้วยคนนะจ๊ะ" ไม่รอคำตอบ หวานนั่งลงทันที ส้มจึงส่งยิ้มให้ และเผื่อแผ่ไปถึงใครอีกคนที่นั่งลงตามหลัง "ตามสบายนะ เอากาแฟไหม" ส้มถาม"อืม.. ก็ดีเหมือนกัน อเล็กซ์เอาอะไรไหมคะ กาแฟแล้วกันเนาะ " หวานหันไปถามแล้วสั่งเองอีกตามเคย ชายหนุ่มจึงเพียงพยักหน้า ไม่ถึงหนึ่งนาทีกาแฟสองถ้วยก็มาถึง..กลิ่นหอมยวนใจเหลือเกิน...ความขมอันลึกลับ และความหวานอันชวนฝัน..."แหม เมื่อคืนเสียดายจังที่เธอไม่ได้มา วันเกิดอเล็กซ์ทั้งทีเธอก็ติดงาน ส่วนเจ้าของวันเกิดก็ดันมาช้าเพราะติดงานเหมือนกัน..แต่ดีนะที่ยังอุตส่าห์มา" หันไปส่งตาหวานให้คนรัก "ไม่งั้นเค้กชอคโกแล็ตที่หวานตั้งใจฝึกทำทั้งวันต้องเป็นหมันแน่เลย"ชายหนุ่มนามว่าอเล็กซ์เพียงแต่ยิ้มตอบรับตามนิสัยของคนไม่ช่างพูด ฉีกซองเติมน้ำตาลลงไปในถ้วยกาแฟเพียงถ้วยเดียว "ขยันจังนะ วันนี้ไม่ทำงาน ยังอุตส่าห์อ่านหนังสืออีก" อเล็กซ์หันมาถามส้มหวานเหลือบตามองอเล็กซ์นิดนึง ก่อนจะหันกลับมามองหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งวางหราอยู่บนโต๊ะ ก่อนถาม "อ่านอะไรจ๊ะ หน้าปกสวยจัง น่าสนใจ คุ้นๆ...""บัลลังก์แสงเดือนจ้ะ" ส้มตอบยิ้มๆ ก่อนจะเล่าต่ออย่างคนที่เป็นหนอนนิยายทั่วไปน่าจะเป็นกัน คือเมื่ออ่านอะไรสนุกๆแล้ว ย่อมอยากบอกต่อเป็นธรรมดา "เป็นเรื่องราวความรักสามเส้าอิงตำนานนิทานปรัมปรา" ทันสังเกตุว่ามือที่กำลังง่วนอยู่กับการคนกาแฟของทั้งสองคนตรงหน้าชะงักไปชั่วขณะ ส้มจึงหยุดเล่า "มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ""เปล่านี่ เล่าต่อสิ" หวานคะยั้นคะยอ "นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคีริศกับมนทกานติ์ที่มีความรักคล้ายคลึงกับเรื่องราวของจันทราเทวีจ้ะ หวานกับอเล็กซ์รู้จักจันทราเทวีไหม " ส้มถาม และได้คำตอบจากทั้งสองคนก็คือการส่ายหน้า"จันทราเทวีหญิงสาวจากดวงจันทร์ผู้ลืมเลือนความทรงจำของตนเอง แล้วพบรักกับอัลกอนนักรบหนุ่มผู้องอาจบนโลกมนุษย์ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่งคู่หมั้นบนโลกพระจันทร์ก็มาตามเธอกลับไป จันทราเทีวีจึงกลับไปในวันที่อัลกอนออกรบ เขากลับมาทันได้เห็นเธอกำลังสาวแสงเดือนมาทำเป็นบัลลังก์เพื่อนั่งกลับไปสู่ดวงจันทร์ หัวใจของเขาแหลกสลาย พยายามที่จะทำเช่นนั้นเพื่อตามเธอไป แต่เขาก็ทำไม่ได้ เขาไม่มีวันสาวแสงเดือนมาถักเป็นบัลลังก์ได้เพราะเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น" ส้มยิ้มเศร้าๆก้มลงหยิบน้ำส้มมาดื่มให้ชุ่มคอแล้วเล่าต่อ" ส่วนจันทราเทวีหลังจากที่กลับขึ้นไปบนดวงจันทร์แล้วก็ได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วหัวใจเธอต้องการอะไรกันแน่ ระหว่างความรักครั้งใหม่กับชายบนโลกมนุษย์ และความรักครั้งเก่าบนโลกพระจันทร์ ภาระ หน้าที่ และสถานที่ๆเธอเคยคุ้นเคย""แล้วเธอเลือกอะไรล่ะ" หวานถาม"เธอคิดว่าจันทราเทวีจะเลือกอะไรล่ะ" ส้มย้อนถามกลับ"ไม่รู้สิ" หวานตอบสั้นๆ ก่อนจะหันไปถามอเล็กซ์ซึ่งนั่งฟังเงียบๆ "คุณคิดว่าเธอรักใครคะ แล้วเธอจะเลือกใคร""ผมไม่ทราบ" เขาตอบ"แล้วถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไรคะอเล็กซ์" ส้มหันไปถามบ้าง แต่คำตอบก็คือความเงียบเช่นเดิม"ไม่เอาแล้ว น่าเบื่อ คุยเรื่องหนังสือกับอเล็กซ์ทีไร..ไม่สนุกเลย" หวานแกล้งต่อว่าคนรักเพื่อทำลายบรรยากาศเงียบเชียบนั้น แล้วถามต่อ " เออ สั้ม..ว่าแต่ว่า แล้วคีริศกับมนทกานติ์ล่ะ ความรักของทั้งสองคนเป็นอย่างไร" "ก็จบลงตรงข้ามกับจันทราเทวีน่ะสิ แต่ต้องลองอ่านเองนะ แล้วจะรู้ว่าเป็นอย่างไร คู่ไหนจะจบลงอย่างมีความสุข ใครจะสมหวัง ใครจะต้องผิดหวัง" ก่อนจะยัดหนังสือใส่มือหวาน "ฉันอ่านจบแล้ว เธอลองเอาไปอ่านดูบ้างสิ เผื่อจะซาบซึ้ง" ก่อนที่คนทั้งสองจะลุกจากไปพร้อมกับหนังสือที่ส้มเพิ่งหยิบยื่นส่งให้...ความรักที่ตราตรึงใจมักเป็นความรักที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมจริงหรือ......ถ้าโลกใบนี้มีความรักบรรจุอยู่อย่างเต็มไปหมด ความรักของฉันจะถูกบรรจุอยู่ตรงส่วนไหนของชั้นบรรยากาศกันนะ..ซอกหลืบที่มืดมิดหรือเปล่า โลกทั้งใบไม่ใช่ของฉันแต่เพียงผู้เดียว...ส้มคิด ...ติ๊ด ติ๊ด.....เอ..เมื่อกี้ดูเหมือนอเล็กซ์จะลืมกระเป๋าสตังค์ไว้ที่โต๊ะนะ ส้มยังอยู่ที่โต๊ะหรือเปล่า เดี๋ยวเขาจะกลับไปเอานะ...หวาน ส้มยิ้มกับตัวเอง..พร้อมกับหยิบกระเป๋าสตังค์สีดำที่วางอยู่บนโต๊ะและเดินกลับขึ้นห้องที่อยู่ชั้นแปดของแมนชั่นแห่งนี้...อัลกอนช่างน่าสงสารนัก พยายามถักบัลลังก์แสงเดือน เพื่อปีนขึ้นไปหาจันทราเทวีจนตัวเองต้องตรอมใจตาย...แต่ฉันคนนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น...* * * * * * * * * *ประตูห้อง 811 ถูกเปิดออกจากด้านนอกและถูกปิดอย่างไม่เบานัก แต่หญิงสาวไม่รู้สึกตกใจซักนิดเพราะรู้ดีว่าเขาเป็นใคร"ส้ม..คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรเมื่อเช้านี้" เขาถาม"รู้สิคะ ก็กำลังเล่าตำนานแห่งรักอมตะให้หวานฟังไงล่ะ""ผมบอกแล้วไงว่าผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ขอเวลาผมบ้าง เขาไม่ผิดอะไร ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา""งั้นเป็นฉันใช่ไหมคะที่เป็นคนผิด คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณก็กำลังทำร้ายจิตใจของฉันเหมือนกัน""ไม่มีใครผิดหรอกส้ม คุณไม่ผิดซักนิด ผมเองคนเดียวที่ผิด " อเล็กซ์ดึงส้มเข้าไปกอดไว้ หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเขาว่าเขาต้องการอะไร แต่เขาไม่ยอมพูดมันออกมา "ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากใจ""บอกฉันมาสิคะ ว่าจันทราเทวีคนนี้รักใคร ขอให้ฉันได้มั่นใจบ้าง""ผมอยากอยู่บนโลกใบใหม่" เขาบอกหนักแน่นและหญิงสาวก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาที่เอ่อซึม.."เมื่อคืนคุณก็พูดแบบนี้แหล่ะ พูดตั้งหลายครั้ง แต่สุดท้ายคุณก็ไป""ผมรู้ คุณอ่านนิยายฉากที่จันทราเทวีปีนลงมาบนโลกมนุษย์ให้ผมฟังจนขึ้นใจเลย แต่ว่าผมปีนลงมาไม่ได้ง่ายๆอย่างนั้น ผมถึงต้องไป""ไม่รู้ล่ะ ถึงเวลาที่คุณต้องเลือกแล้วค่ะอเล็กซ์ ว่าจะยอมให้ฉันเป็นโลกทั้งใบของคุณหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ ฉันก็จะไปจากคุณทันที อย่าซื้อเวลาอีกเลยค่ะ เพราะมันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก"อ้อมกอดนั้นรัดแน่น ลมหายใจร้อนๆเป่ารดอยู่ข้างขมับขวา เมื่อเขากระซิบบอก "ผมไม่ได้อยากยื้อเวลาหรอกนะ ผมแค่อยากทำให้ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย แต่ขอให้คุณรู้ไว้เถอะ ว่าคุณคือโลกทั้งใบของผม"แม้คำตอบที่ได้รับจะให้หัวใจอิ่มเอมซักแค่ไหน แต่ก็อดปวดร้าวลึกๆในใจไม่ได้ สองคนที่กำลังยืนกอดกันอยู่นั้นรู้ดี..บางครั้งความรักมักเล่นตลก คนที่เป็นฝ่ายถูกรักถูกเลือกก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปหรอก...แล้วฝ่ายที่ไม่ถูกรักไม่ถูกเลือกเล่า จะรู้สึกปวดร้าวซักเพียงไหน ...คู่รักเก่าของจันทราเทวีอาจจะปล่อยให้จันทราเทวีกลับลงไปสู่โลกมนุษย์อย่างง่ายๆ แต่สำหรับเธอแล้ว มันไม่ง่ายเช่นนั้น..ปวดใจเท่าไหร่กัน กับการที่ต้องยิ้มและแกล้งทำเป็นเหมือนไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น เมื่อคืนกว่าเขาจะมา กว่าเขาจะยอมมาอย่างเสียมิได้...และเธอก็สัมผัสได้ว่าเขามาแต่ตัว แต่ไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย...หวานหยิบหนังสือเล่มสีฟ้าสดใสซึ่งวางอยู่บนเบาะข้างๆ ขึ้นมามองพลิกดู หนังสือเล่มหนา หน้าปกสีฟ้าเป็นภาพทิวทัศน์ เหลี่ยมเขาลึกลับ ก้อนเมฆสีขาวบริสุทธิ์ สี่ที่โดดเด่นจนไม่อาจมองข้ามก็คือ...ดวงจันทราที่ส่งแสงเสียดแทงหัวใจ......ฉันเคยอ่านมันแล้วล่ะ ฉันรู้ว่าตอนจบมันจะลงเอยเช่นไร แต่ฉันไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้นเลย...คนอ่านคนอื่นๆอาจจะสงสารอัลกอนจับใจที่หลงรักจันทราเทวีผู้มีเข้าของ แต่หญิงสาวกับรู้สึกสะใจอยู่ลึกๆกับบทสรุปความรักของคนทั้งคู่ ความสะใจที่แฝงด้วยความเศร้า..จนต้องซบหน้าลงกับพวงมาลัยรถเมื่อจันทราเทวีกลับลงมายังโลกมนุษย์แล้ว จึงได้ทราบว่าจากวันนั้นเป็นต้นมา อัลกอนก็ล่องเรืออยู่ในทะเลสาปสีน้ำเงินทุกเช้าค่ำ พยายามที่จะสาวแสงเดือนมาถักเป็นบัลลังก์ปีนขึ้นไปบนดวงจันทร์ หัวใจเขาแหลกสบายและพิษไข้รุมเร้าจนตัวเองต้องครอมใจตาย จันทราเทวีกลับมาช้าเกินไป และถึงแม้ในภายหลังจะไม่มีอัลกอนบนโลกมนุษย์อีกแล้ว แต่จันทราเทวีกลับไม่ยอมคิดที่จะกลับไปอาศัยอยู่บนดวงจันทร์อีกแล้ว เธอได้แต่เฝ้านั่งเล่นอยู่ที่ริมทะเลสาปจนหมดอายุขัยของเธอและก่อกำเนิดเป้นตันหลิวที่แสนสวยงาม..โดดเดี่ยว พริ้วไหว และแสนเศร้า......เขาก็เป็นเช่นจันทราเทวีใช่ไหม..ถึงจะมีส้มหรือไม่มี หัวใจของเขาก็จะไม่กลับมาเป็นของเธออีกต่อไป...ในเรื่องราวความรักอมตะของจัทราเทวีและอัลกอน จะมีใครซักคนนึกถึงคู่รักเก่า คู่หมั้นของจันทราเทวีบ้างหรือไม่ จะมีใครซักคนนึกถึงหัวใจของหวาน ผู้หญิงคนนี้บ้างไหม?สตาร์สเครื่องรถยนต์ก่อนจะออกตัวและเลี้ยวกับไปยังทางเดิม..ทางเดิมที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันไม่เหมือนเดิมมานานแล้ว มีแต่เธอเองนี่แหล่ะที่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น และเฝ้าหลอกตัวเองว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม บางทีอาจถึงเวลาที่เธอต้องย้ายออกจาก ..พบรักแมนชั่น.. เสียที ...พร้อมกับจ่ายค่าเช่าเป็นหยาดน้ำตา......ในโลกของความรัก ไม่มีผิดหรือถูก มีแค่รักหรือไม่รัก และในวันนี้ เธอไม่ใช่คนที่ถูกรักอีกแล้ว โลกทั้งใบไม่ใช่ของเธออีกต่อไป......กาแฟแก้วเมื่อเช้านี้ ขมที่สุดในโลกเลย......คุยกันท้ายเรื่อง...มีคนเคยบอกว่า อยากลองอ่านเรื่องสั้นที่แต่งขึ้นเพื่อเป็นการแนะนำหนังสือ ก็เลยลองเขียนดูค่ะ โดยลองเขียนถึงนิยายของคุณปิยะพร ศักดิ์เกษม ซึ่งนำมาแต่ส่วนที่เป็นนิทานซ้อนในนิยาย คือเรื่อง"จันทราเทวี"( Red Indian Folk Tales ของ Ruth Manning) เข้าใจหรือไม่เข้าใจ ก็แนะนำติชมกันได้นะคะ..ขอบคุณส่วนบล็อกต่อไปในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม หัวข้อ "เมื่อลมหนาวพัด...มา" หัวข้อหน้านี้เป็นของอ้อน BeCoffeeค่ะ เป็นการต้อนรับหน้าหนาวที่จะมาเยือนอีกครั้ง พยายามคิดหัวข้อธีมให้กว้างๆไว้ก่อน ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าร่วมได้เลยกฏกติกามารยาทดังนี้-ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้-เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์-อัพบลอคในวันจันทร์ที่ / ตุลาคม นี้ เวลาใดก็ได้ -เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนสู่ถนนสายมิตรภาพค่ะ
เห็นคุณอ้อนคุยกับคุณแจงที่ blog คุณอ้อน...เกี่ยวกับการแนะนำหนังสือด้วยเรื่องสั้น
ไม่คิดว่าจะได้อ่านเร็วอย่างนี้...^^
ชอบค่ะ คราวหน้าเอาใหม่นะ