• ห้องรับแขก
• แผนที่ห้องหนังสือ
• ห้องหนังสือ
• ห้องหนังสือคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์
• ห้องหนังสือวิชาการ
• ชั้นบทความ
• เดินเล่นนอกบ้าน
• ตู้เก็บของ

เครื่องมือช่วยคิด ผลิตไอเดีย สู่สุดยอดแผนงาน : มาเปลี่ยนตัวเองให้เป็นโรงงานผลิตไอเดียกันเถอะ ใครเคยเป็นแบบนี้กันบ้าง? ทั้งที่ต้องใช้ความคิดแต่ทำอย่างไรก็คิดไม่ออก   นั่งจ้องอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์นานแค่ไหนก็ไม่เกิดไอเดียใหม่ๆ   อุตส่าห์คิดแผนงานออกมาแทบตายแต่สุดท้ายก็โดนบอกว่าไม่ได้เรื่อง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะที่ผ่านมาถึงคุณจะโดนบอกให้คิด คิด และคิด แต่ก็ไม่เคยมีใครสอนวิธีการคิดให้เลยใช่ไหม อันที่จริงแล้วความคิดของคนเรานั้นไม่อาจสอนกันได้ ไม่ว่าใครต่างก็มีความคิดเป็นของตนเองเพราะว่ามันคือสไตล์~ แต่ก็มีบางครั้ง(หรือบ่อยครั้ง) ที่เรารู้สึกเหมือนคิดอะไรไม่ออก ทำไมสมองมันช่างว่างเปล่าไม่มีอะไรในหัวเหมือนลูกโป่งอัดแก๊สเช่นนี้ ยิ่งเป็นการใช้ความคิดในเวลาเร่งด่วนหรือเวลาอันจำกัดด้วยแล้ว ต่อให้พยายามรีดไถ...บีบเค้นทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในสมองออกมา แต่ก็ทำไม่ได้....มันช่างน่ารำคาญและหงุดหงิดเสียจริงใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่พวกเราควรจะมีเครื่องมือช่วยคิดกันเสียที "เครื่องมือช่วยคิด ผลิตไอเดีย สู่สุดยอดแผนงาน" โดย มาซาฮารุ คะโต้ แปลโดย  ดร.ศิริลักษณ์ศิริมาจันทร์ จำนวน  224 หน้า ขนาด Pocketbook  พิมพ์ด้วยกระดาษกรีนรี้ด หากคุณคือคนหนึ่งที่ประสบปัญหาข้างต้น มาลองใช้หนังสือเล่มนี้เป็นผู้ช่วยคิด ให้คุณกลายเป็นไอเดียแมนกันดีกว่า หลังจากที่นั่งหลังขดหลังแข็งเพื่อคิดและเขียนแผนงานถึง3 วัน 3 คืน สุดท้ายแล้วก็โดนหัวหน้าบอกว่า“ไม่ได้เรื่อง” แล้วให้คนอื่นเอาไปทำแทน คุณมาซาฮารุ ผู้เขียนจึงได้เข้าใจว่า ไอเดียและแผนงานนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงได้ค้นหาวิธีที่จะ “เป็นทางลัด” เพื่อช่วยให้ไอเดียผุดขึ้นมาได้ง่ายรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนออกมาเป็นเครื่องมือช่วยคิดทั้ง21 วิธี ในหนังสือเล่มนี้ โดยใน21 วิธีนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ เครื่องมือที่จะช่วยดึงเอาข้อมูลต่าง ๆ มาสต๊อกเก็บไว้ในสมอง เครื่องมือที่จะช่วยนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาต่อยอดเป็นไอเดียใหม่ ๆ เครื่องมือที่จะนำไอเดียมาสานต่อเป็นแผนงาน ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่นำมาใช้ได้ในทันที สมองของเราจะผลิตไอเดียออกมาได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ  ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่ต้องคิดหาไอเดียมาทำโครงงาน หรือกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เพื่อทำแผนงาน และเมื่อได้อ่านจนครบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องนำเครื่องมือมาใช้ทั้งหมด แค่เลือกเพียงบางวิธีที่เหมาะกับตนเองก็พอ แล้วคุณก็จะแปลงร่างเป็นไอเดียแมน ที่สามารถผลิตไอเดียใหม่ๆ เพื่อสร้างแผนงานเจ๋ง ๆ ออกมาได้ตลอดเวลา จนใครๆ ก็ต้องทึ่ง ดูตัวอย่างหนังสือ สอบถามเพิ่มเติม book4u@tpa.or.th ติดตามกิจกรรมและหนังสือใหม่ได้ที่ หนังสือแนะนำสำนักพิมพ์ ส.ส.ท.   Create Date : 27 มิถุนายน 2559     Last Update : 27 มิถุนายน 2559 15:24:12 น. Counter : 4182 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แค่ทำงานไว ก็ถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าคนอื่น : มาติดสปีดให้กับการทำงานของตัวเองกันเถอะ !! วันจันทร์ต้นสัปดาห์แบบนี้ หลายคนอาจจะยังง่วงเหงาหาวนอน พอเห็นงานบนโต๊ะทีก็ลมแทบจับเลยใช่รึเปล่า ?   แค่คิดถึงงานกองพะเนินเป็นภูเขาก็รู้สึกอยากเร่งเวลาให้เสาร์อาทิตย์มาถึงซะแล้ว ทำไมงานถึงเยอะจังนะ...? อยากมีเวลาว่างไปทำนู่นทำนี่จัง แต่งานไม่เสร็จซะที งานเร่งเต็มไปหมดเลย สงสัยต้องเอากลับไปทำต่อที่บ้านอีกแล้วมั้ง... ถ้าความคิดพวกนี้วนเวียนอยู่ในหัว คงมัวแต่กังวลเรื่องงานไม่เป็นอันทำอะไร มาปลดล็อกชีวิตตัวเองจากงาน แล้วเอาเวลาที่เหลือไปทำสิ่งใหม่ ๆ สิ่งที่ชอบหรือสนใจ ด้วยสุดยอดวิธีทำงานเร็วจากหนังสือเล่มนี้กัน "แค่ทำงานไว ก็ถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าคนอื่น" โดย โนริอาคิ ยามาโมโตะ แปลโดย  สุภา ปัทมานันท์ จำนวน  192 หน้า ขนาด Pocketbook  พิมพ์ด้วยกระดาษกรีนรี้ด หาก "งาน" คือสาเหตุหลักที่ทำให้ไม่มีเวลาพอเพื่อจะทำในสิ่งที่อยากทำแล้วละก็  ถึงเวลาแล้วที่ควรจะมองหาวิธีทำงานแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจากวิธีทำงานเดิม ๆ  ว่าควรทำงานอย่างไรให้เร็ว ให้ไว และเสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ  คุณโนริอาคิ ยามาโมโตะ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้คิดค้นวิธีการเป็น "คนทำงานเร็ว" และปฏิบัติประจำให้เป็นนิสัยเรื่อยมา  จนทำให้เขาสามารถนำเวลาที่เหลือจากการทำงานมาใช้พัฒนาตนเอง จากการเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ สู่เจ้าของบริษัทที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้  โอ้โห~ ยอดเยี่ยมไปเลยใช่มั้ยล่ะ เริ่มจากการเปรียบเทียบให้เห็นถึงแนวความคิด  และวิธีการทำงานระหว่างคนทำงานเร็วกับคนทำงานช้า  ว่าคนสองกลุ่มนี้มีความคิดและวิธีการจัดการกับงานของตนเองแตกต่างกันอย่างไร  รวมถึงแนะนำเคล็ดลับและวิธีการทำงานสไตล์คนทำงานเร็วถึง 50 วิธี ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้ดั่งใจให้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น  ทั้งยังช่วยลดปัญหาการทำงานให้น้อยลงด้วยวิธีการจัดสรรเวลา และแนะนำรูปแบบการทำงานที่สะดวก ว่องไว  จนสามารถสะสางงานให้เสร็จเรียบร้อยได้ทันเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ  และมีเวลาเหลือสำหรับทำสิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย เพื่อมุ่งสู่สิ่งที่ตั้งใจว่าจะทำ รวมถึงเป้าหมายในอนาคตที่วางไว้ได้ก่อนใคร ๆ เมื่อมีวิธีทำงานดี ๆ แนะนำกันขนาดนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า ลองหามาอ่านดูเพื่อติดสปีดให้กับการทำงานของตัวเองกันนะ ดูตัวอย่างหนังสือ สอบถามเพิ่มเติม book4u@tpa.or.th ติดตามกิจกรรมและหนังสือใหม่ได้ที่ หนังสือแนะนำ สำนักพิมพ์ ส.ส.ท.   Create Date : 16 พฤษภาคม 2559     Last Update : 16 พฤษภาคม 2559 13:26:35 น. Counter : 1916 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แนะนำหนังสือ "รู้ทันการค้า ในตลาดจีน 1,300 ล้านคน" คงปฏิเสธไม่ได้ว่า จีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและน่าเข้าไปลงทุนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก  แม้ว่าในช่วง 1-2 ปีมานี้ จีนจะประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ด้วยความได้เปรียบเรื่องตลาดขนาดใหญ่จากจำนวนประชากรที่มีมากถึง1,380 ล้านคน (ข้อมูล ณ ต้นปี ค.ศ. 2016) และต้นทุนการผลิตที่ยังต่ำอยู่ จึงทำให้ความน่าลงทุนในจีนไม่ได้ลดน้อยถอยลงเท่าใดนัก อีกทั้งเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังน่าเป็นห่วง การขยับขยายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศ โดยมีจีนเป็นจุดหมายปลายทางก็นับว่าเป็นทางออกที่น่าสนใจ  แต่การทำธุรกิจในประเทศจีนให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าก่อนเข้าไปลงทุนในจีน บรรดานักธุรกิจย่อมต้องศึกษากฎระเบียบและเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างรอบคอบ แต่ในความเป็นจริงมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสาร หรือถึงระบุไว้ชัดแจ้ง ในทางปฏิบัติก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป สิ่งสำคัญที่นักธุรกิจที่คิดจะไปลงทุนในจีนจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้คือ “แบบแผนและธรรมเนียมปฏิบัติของชาวจีน” แม้ดูเหมือนว่าไทยกับจีนคุ้นเคยกันดีติดต่อค้าขายกันมาก็นาน แต่ลึก ๆ แล้วชาวจีนมีมุมมองและวิธีคิดที่ต่างจากชนชาติอื่น ๆ อยู่มาก  แม้กระทั่งชาวจีนด้วยกันเอง ยังมีความแตกต่างอันเนื่องมาจากความหลากหลายของท้องถิ่นและวัฒนธรรมการศึกษาข้อมูลและเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรง จึงสร้างความได้เปรียบและช่วยลดโอกาสที่จะพลาดพลั้งได้มาก หนังสือ “รู้ทันการค้า ในตลาดจีน1,300 ล้านคน” เขียนโดย Masao Eguchi นักธุรกิจและผู้ให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจในจีน ซึ่งพบเห็นปัญหาของนักลงทุนต่างชาติที่เกิดกับคู่ค้าและพนักงานชาวจีนมานักต่อนัก รวมถึงผ่านประสบการณ์ของการถูกหักหลังมาแล้วด้วยตัวเอง เขาได้เรียนรู้และมีมุมมองที่น่าสนใจในการดำเนินธุรกิจในจีนให้ประสบความสำเร็จ แล้วนำมาบอกเล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ ตัวอย่างเช่น ของดีขายไม่ได้ แต่ของดังขายดี เพราะที่ประเทศจีนสินค้าปลอมแปลงมีมาก และชาวจีนเองก็ไม่มีประสบการณ์การเลือกซื้อของเท่าใดนัก “การซื้อของมีชื่อจึงเท่ากับการซื้อความอุ่นใจ” ดังนั้นการเข้าไปเปิดตลาดใหม่ในจีน หากไม่สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ไว้วางใจก่อน สินค้าของคุณจะอยู่นอกสายตาตั้งแต่แรก ไม่ว่าสินค้านั้นจะมีคุณภาพดีแค่ไหนก็ตาม หน้าตาและศักดิ์ศรีสำคัญเหนืออื่นใด... เป็นที่ทราบดีว่า กลยุทธ์การบอกต่อหรือการให้เพื่อนหรือคนรู้จักช่วยแนะนำสินค้า เป็นวิธีที่ได้ผลมากในจีน แต่สิ่งที่พึงระวังคืออย่าให้ผู้แนะนำต้องเสียหน้า เช่น การโฆษณาอย่างเอิกเกริกว่า “ถ้าแนะนำเพื่อนแล้วเพื่อนของคุณซื้อสินค้า เราจะมอบของสมนาคุณ  ให้” วิธีนี้จะไม่ได้ผล เพราะผู้แนะนำเสี่ยงที่จะถูกเพื่อนมองว่า“ที่แนะนำมา ก็เพราะอยากได้ของเองล่ะสิ” เป็นคนนอก ห้ามเล็งผลประโยชน์ก้อนใหญ่... การคำนึงถึงผลประโยชน์ของคู่ค้าหรือผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้รับผิดชอบฝ่ายจีนเป็นเรื่องสำคัญ จากนั้นผลสะท้อนที่ย้อนกลับมาจะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ในทางกลับกัน หากดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกำไรของบริษัทตนมากเกินไปหรือได้อยู่ฝ่ายเดียว สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครอยู่ข้างคุณหรืออาจถูกกลั่นแกล้งจนต้องพบจุดจบได้ ไม่มีวิธีไหนช่วยให้ไม่ถูกหลอกในเมืองจีน... ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือการเผื่อใจและลดความเสี่ยงทุกอย่างเท่าที่ทำได้  การหาหุ้นส่วนท้องถิ่นที่ไว้ใจได้ก็เป็นการลดความเสี่ยงอย่างหนึ่ง แต่ถึงจะคบหารู้จักมานานแค่ไหน ก็อย่าไว้ใจเต็มร้อยเป็นอันขาด นี่คือข้อแนะนำบางส่วนที่จะช่วยให้คุณทำธุรกิจในจีนแบบไม่มีพลาด ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เป็นประโยชน์กับนักธุรกิจที่ต้องติดต่อค้าขายกับคนจีน จะได้เรียนรู้และเข้าใจในวัฒนธรรมธรรมเนียมปฏิบัติของชาวจีนอันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ทำให้ได้รับความร่วมมืออย่างดีและมีโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะเติบใหญ่และอยู่รอด นอกจากนี้ยังมีมุมมองและวิธีดำเนินธุรกิจของคนญี่ปุ่นให้ได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน แม้จะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย แต่หากเตรียมตัวให้พร้อมศึกษาข้อพึงระวัง เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค และวิธีผูกมิตรกับคู่ค้าชาวจีนไว้   ตลาดขนาดมหึมาจากประชากรจีน 1,300 ล้านคน ก็กำลังรอคุณอยู่ !!   รู้ทันการค้าในตลาดจีน 1,300 ล้านคน โดย Masao  Eguchi แปลโดย ดร.จารุนันท์ ธนสารสมบัติ ดูตัวอย่างเนื้อหาและสารบัญ ติดตามหนังสือออกใหม่และกิจกรรม   Create Date : 29 มีนาคม 2559     Last Update : 29 มีนาคม 2559 11:29:38 น. Counter : 1911 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แนะนำหนังสือ : 100 กลยุทธ์ ติดอาวุธเพิ่มยอดขาย ร้านโน้นทำไมคนเยอะจังนะ...แถมคนรอต่อคิวก็ย๊าวยาววววว  เอ๊ะ...ร้านข้าง ๆ ก็ขายของเหมือนกันนี่นา แต่ทำไมดูเงียบจัง ลองเดินเข้าไปดูดีกว่า  สาว ๆ เคยเป็นแบบนี้กันบ้างไหมคะ จากแค่สงสัย อยากเข้าไปดูเฉย ๆ  สุดท้ายได้ของติดไม้ติดมือมือกลับบ้านมาแบบไม่ตั้งใจซะงั้น  อะไรที่ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะเข้าร้านหนึ่ง แต่กลับไม่เข้าอีกร้านหนึ่ง   ราคาถูกกว่าเหรอ หรือว่าคุณภาพดีกว่า มีส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกหรือเปล่า  หรือว่าพนักงานต้อนรับนิสัยดี สงสัย...ต้องมีของแถมเยอะแน่ ๆ ร้านที่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงใจลูกค้า จะทำให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านอีกซ้ำ ๆ จนกระทั่งกลายเป็นแฟนประจำ  และสุดท้าย ลูกค้าจะบอกต่อ ๆ กันไปเอง อาจจะโพสต์ลงเฟซบุ๊ก IG ทวิตเตอร์  จนร้านโด่งดังแบบไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณากันเลยล่ะ!!! ยิ่งร้านเก่าแก่ที่เปิดขายกันมาเนิ่นนานหลายปี ตั้งแต่ยังไม่มีแอพพลิเคชันพวกนี้ก็ยิ่งต้องมีดี  ไม่งั้นคงไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ยาวนานเหนียวแน่นแน่ ๆ  เรื่องนี้มีกระบวนการทางจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ นั่นก็คือ  ความรู้สึกภายในจิตใจของลูกค้าที่มีให้กับทางร้าน ที่เรียกว่า มายด์แชร์ (Mind Share) ยิ่งลูกค้ามีมายด์แชร์ให้กับทางร้านมากเท่าใด  โอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาที่ร้านซ้ำ ๆ จนกลายเป็น แฟนประจำ ก็มากขึ้นเท่านั้น แผนภาพข้างต้นแสดงกระบวนการทางจิตวิทยาของลูกค้า ที่เริ่มต้นตั้งแต่...  ลูกค้าที่ไม่รู้จักร้านเลย เป็นลูกค้าที่เริ่มสนใจและทดลองเข้ามาที่ร้าน  ลูกค้าที่กลับมาที่ร้านซ้ำอีก จนสุดท้ายกลายเป็นแฟนประจำ  ซึ่งการผลักดันให้ลูกค้าขยับระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงด้านบนสุดของแผนภูมิ  ก็คือ “เป้าหมายของการทำการตลาด” นั่นเอง หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวม กลยุทธ์ในการส่งเสริมการขายจำนวน 100 หัวข้อ  ที่สามารถปรับใช้ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องใช้เงินทุน ยกตัวอย่าง กลยุทธ์ด้านราคา เช่น “ราคาเดียวทั้งร้าน” “ราคาเป็นเซ็ต” “ราคาพิเศษ”  สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เช่น การให้คูปอง บัตรสมาชิก บัตรสะสมแต้ม กิจกรรมแลกของรางวัลต่าง ๆ  การแจกตัวอย่างสินค้าให้ทดลองใช้ บริการให้เช่า ให้ยืม แบบมีเงื่อนไข การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน ดารา นักร้อง บุคคลที่มีชื่อเสียง การขายสินค้าเอาต์เล็ต การจัดงานอีเวนต์ งานแข่งขัน งานนิทรรศการและการจัดแสดงตัวอย่างสินค้า  การให้คำปรึกษา บริการดูแลและซ่อมแซมสินค้าหลังการขาย เป็นต้น นึกออกหรือยังคะ ว่าเราติดกับดักของร้านข้อไหนไปแบบไม่รู้ตัวบ้าง  ถ้าอยากรู้ ตามมาอ่านต่อในหนังสือกันได้ ยิ่งถ้าคุณเปิดร้านด้วยแล้วล่ะก็  หนังสือเล่มนี้ พลาดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ!!!! Editorial supervised by  :  Toshiyuki Iwamoto แปลโดย  :  ดลจิต ประดิษฐ์วงษ์ จำนวนหน้า  344 หน้า ราคา  250 บาท  ขนาดรูปเล่ม  Pocketbook ดูตัวอย่างเนื้อหาและสารบัญได้ที่นี่ ติดตามหนังสือออกใหม่และกิจกรรม สอบถามเพิ่มเติม : book4u@tpa.or.th   Create Date : 16 มีนาคม 2559     Last Update : 16 มีนาคม 2559 17:35:28 น. Counter : 2227 Pageviews.   0 comment Share Tweet

นอนหลับให้เป็น งานเด่น ชีวิตดี : มาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนอนหลับกันเถอะ! คุณคือคนหนึ่งที่มีปัญหาด้านการนอนหลับหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น "นอนไม่หลับ" "ตื่นเช้าไม่ไหว" "ช่วงกลางวันหัวไม่แล่น" "พักผ่อนมากแค่ไหนก็ยังรู้สึกอิดโรย" ฯลฯ หากคุณกำลังประสบปัญหาดังที่กล่าวมานี้ คุณ...มีวิธีแก้ไขอย่างไร "นอนหลับให้เป็น งานเด่น ชีวิตดี" โดย โยเฮ  ซุงะวาระ แปลโดย  ดร.ศิริลักษณ์ ศิริมาจันทร์ จำนวน  176 หน้า ขนาด Pocketbook  พิมพ์ด้วยกระดาษกรีนรี้ด เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่อ่านหน้านี้อยู่ คงเคยมี...หรือกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับของตัวเองแน่นอน การนอนน้อยหรือนอนไม่พอนั้นส่งผลกระทบต่อร่างกาย ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อตอนตื่นนอนและการใช้ชีวิตในระหว่างวัน บางคนประสบปัญหานี้มาเป็นระยะเวลานานจนทำให้เกิดอาการ อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ ขาดความสามารถในการไตร่ตรอง ตัดสินใจ การสลับสวิตช์ความคิดเฉื่อยชา จนต้องหาวิธีต่าง ๆ มากมายมาทำให้นอนหลับ และบางคนอาจถึงขั้นต้องพึ่งยานอนหลับกันเลยทีเดียว แต่...ถ้าคุณอ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่า ไม่จำเป็นต้องค้นหาวิธีนอนหลับสารพัดวิธีให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะสุดยอดเทคนิคการนอนหลับได้ถูกรวบรวมเอาไว้ในเล่มนี้แล้ว !! โดยคุณโยเฮ ซุงะวาระ นักกิจกรรมบำบัด ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการบำบัดเกี่ยวกับการบำบัดรักษาโรคทางสมอง ได้ค้นพบว่าสิ่งสำคัญอย่างมากในการฟื้นฟูสมรรถภาพของสมองก็คือ "การนอนหลับ" ซึ่งการนอนหลับนั้น ไม่เพียงแต่จะช่วยให้อาการต่าง ๆ ข้างต้นหายไปเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สุขภาพแข็งแรง และเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างพลังในการทำงานอีกด้วย เพียงปฏิบัติตามเทคนิคทั้ง 3 ข้อที่อธิบายไว้ภายในเล่มเท่านั้น ปัญหาการนอนหลับของคุณก็จะหายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว นอกจากนี้หากใครที่มีความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า ถึงจะไม่ได้นอนหลับ แต่การนอนอยู่บนที่นอน ร่างกายจะได้พักผ่อนมากกว่า เพิ่มเวลาในการนอนหลับครั้งละครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง เพราะนอนหลับยากและเวลานอนน้อย จึงพยายามรีบนอนให้เร็วเข้าไว้ ง่วงเหงาหาวนอนอยู่ตลอดเพราะนอนไม่พอ วันหยุดจึงนอนยาวถึงเที่ยง เข้านอนให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อการใช้ชีวิตที่ถูกสุขนิสัย ขอบอกเลยว่าความเชื่อเหล่านี้ก็ ผิด นะจ๊ะ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่บั่นทอนสุขภาพเราทั้งนั้น ถึงจะนอนเยอะเท่าไร แต่ถ้านอนไม่ถูกวิธี ร่างกายก็ไม่อาจกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ หรือแม้แต่ว่าควรจะนอนอย่างไรเพื่อให้ห่างไกลโรคเหล่านี้ มะเร็ง เบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดในสมองตีบ คันตามร่างกาย หรือแม้แต่นอนไม่หลับเพราะมีเรื่องกลุ้มใจก็ตาม หนังสือเล่มนี้มีคำตอบให้คุณแล้วอย่างครบถ้วน เมื่อนอนหลับเป็น สุขภาพก็จะดี ส่งผลให้หน้าที่การงาน และการเรียนดีไปด้วย รู้แบบนี้แล้วก็มาเป็นคนที่นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพกันเถอะ !! หากเริ่มสนใจขึ้นมาแล้วว่า เทคนิคการนอนหลับที่ว่านั้นคืออะไรกันนะ ก็เชิญอ่านตัวอย่างจากด้านล่างนี้เลย  ดูตัวอย่างหนังสือ หรือ  ดูตัวอย่างหนังสือ สอบถามเพิ่มเติม book4u@tpa.or.th ติดตามกิจกรรมและหนังสือใหม่ได้ที่ หนังสือแนะนำ สำนักพิมพ์ ส.ส.ท.   Create Date : 24 พฤศจิกายน 2558     Last Update : 26 พฤศจิกายน 2558 13:40:12 น. Counter : 2367 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• tpapress
• hiroko
• Webmaster - BlogGang

• Twitter ของสำนักพิมพ์
• มาเป็นแฟน (เพจ) กันเถอะ
• My Channel : Youtube
• สั่งซื้อหนังสือ
• สำนักพิมพ์ ส.ส.ท.
• BlogGang.com