images by free.in.th
"
Group Blog
 
All blogs
 
ทวนกระแสธุรกิจ คิดต่าง ไม่มีทางตัน

สวัสดีค่ะ วันนี้มีหนังสือมาแนะนำกันอีกเช่นเคย
ผู้ที่สนใจทำธุรกิจหรือต้องการเปิดมุมมองทางการตลาดที่แตกต่างจะต้องสนใจกันอย่างแน่นอนค่ะ

ก่อนอื่น ขอถามว่า...เคยได้ยินกลยุทธ์ที่เรียกว่า “กลยุทธ์การตลาดแบบทวนกระแส” ไหมคะ ?
เป็นกลยุทธ์การตลาดแบบไหน ? แตกต่างอย่างไร ? ทำไมถึงต้องทวนกระแส ?
ถ้าอยากรู้แล้วละก็... เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ




ทวนกระแสธุรกิจ คิดต่าง ไม่มีทางตัน
โดย Hirokazu Toriuchi
แปลโดย เอกนันท์ มหาเอกนันท์
จำนวนหน้า 320 หน้า


กลยุทธ์การตลาดแบบทวนกระแส ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่าง เติบโต และไม่มีทางตัน

หากคุณเองก็เป็นผู้หนึ่งที่กำลังกลัดกลุ้มจากการที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จได้แล้วละก็ คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในหลุมพรางซึ่งใคร ๆ ก็มีโอกาสตกลงไปได้ค่ะ …หลุมพรางที่ว่านี้ก็คือการทำธุรกิจตามความเชื่อ ตามสามัญสำนึกเดิม ๆ หรือตามที่ใคร ๆ บอกให้ทำเช่นนั้นนั่นเองค่ะ

คุณทราบไหมคะว่า สามัญสำนึกทางธุรกิจที่ผู้คนเกือบทั้งหมดเชื่อฝังใจอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิด !!

สามัญสำนึกของบุคคลที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จนั้นต่างจากสามัญสำนึกที่รับรู้กันในกลุ่มคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และสิ่งที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ก็คือ “กลยุทธ์การตลาดแบบทวนกระแส” ที่รับรู้กันเฉพาะในกลุ่มผู้ประสบความสำเร็จซึ่งมีจำนวนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นค่ะ

สิ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จคิดและทำนั้นมีหลายอย่างที่เรียกได้ว่าอยู่ขั้วตรงข้ามกับการดำเนินธุรกิจที่คนทั่วไปยึดถือและปฏิบัติกันมา หรือดูแล้วช่างขัดกับสามัญสำนึกทั่วไป และไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อถือหรือน่าคล้อยตามได้ง่าย ๆ เลยค่ะ เช่น
• อย่าริอ่านเริ่มต้นธุรกิจของตนเองเป็นอันขาด
• จงทำงานที่ไม่เหมาะกับสถานภาพของตนเอง
• จงทำในสิ่งที่ไม่ให้ผลตอบแทน
• อย่าได้โฆษณาตัวเองเป็นอันขาด
• อย่าได้เชื่อสายตาตัวเอง
• จงเปิดช่องโหว่ให้ลูกค้าเข้ามาฉกฉวยโอกาส
• จงขายให้ผู้ที่จนปัญญาจะซื้อ
ฯลฯ

แค่เพียงเริ่มต้นก็ดูน่าขัดใจและไม่น่าเชื่อแล้วใช่ไหมคะ แต่ผู้เขียนเขารับรองว่าหากได้ลงมือปฏิบัติแล้วจะเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างแน่นอน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเพียงคำพูดลอย ๆ เท่านั้น เพราะผู้เขียนใช้ประสบการณ์ตรงของตัวเองมายืนยันค่ะ ซึ่งนั่นก็คือ การนำพาธุรกิจจัดสัมมนาให้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยการใช้ “กลยุทธ์การตลาดแบบทวนกระแส” ทั้งที่ตอนเริ่มต้นล้มลุกคลุกคลานจนแทบจะไปไม่รอด ผู้เขียนจึงอยากถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านมาและสรุปสาระสำคัญให้คนทั่วไปได้รับรู้ เพราะตระหนักดีว่า นี่เป็นเส้นทางลัดทางเดียวที่จะทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ

นอกจากนี้ ในหนังสือเล่มนี้ยังยกตัวอย่างความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมอีกจำนวนมากจากหลากหลายแวดวงธุรกิจ อาทิ ยูนิโคล่ แมคโดนัลด์ ดิสนีย์แลนด์ คริสปี้ ครีม ฯลฯ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า กลยุทธ์การตลาดทวนกระแสนี้เป็นแนวคิดที่เป็นสากล ไม่ใช่เพียงกลวิธีที่บังเอิญใช้ได้ผลเฉพาะกับธุรกิจของผู้เขียนเองเท่านั้น แต่ยังนำไปประยุกต์ใช้กับแวดวงธุรกิจหรือกับผู้คนในอาชีพที่หลากหลายได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งที่ผ่านมากลยุทธ์นี้ก็ทำให้กิจการเหล่านั้นประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาแล้ว


ลองมาดูตัวอย่างเทคนิคการสร้างจุดขายสัก 1 ตัวอย่างในหนังสือเล่มนี้กันค่ะ
“ทำให้ลูกค้าตาลุกวาวด้วยของหายาก”
ของหายากที่กล่าวถึงในที่นี้มีนัยอยู่ 2 ประการ คือ
1. ระยะเวลาการวางจำหน่ายหรือปริมาณที่นำออกจำหน่ายมีอยู่จำกัด การจำกัดระยะเวลาจำหน่ายหรือปริมาณที่นำออกจำหน่ายเป็นวิธีการหนึ่งในการหา “เหตุผลที่ลูกค้าควรต้องซื้อสินค้าของคุณในขณะนั้น” เพราะหากเป็นสินค้าที่ซื้อเมื่อใดก็ได้ ลูกค้าก็จะใช้ข้ออ้างที่ว่า “ไม่ซื้อตอนนี้ก็ไม่เป็นไร” มาทำให้เลื่อนการตัดสินใจออกไป นอกจากนี้ หากสินค้านั้นเป็นสื่งที่ผู้อื่นหาซื้อไม่ได้ หรือเป็น “เอกสิทธิ์” ที่ให้เฉพาะคนจำนวนจำกัดเท่านั้น ลูกค้าจะรู้สึกถึงสิทธิพิเศษในการได้สินค้านั้นมาครอบครอง และอาจกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด
2. ตัวคอนเซ็ปต์ของสินค้านั้นไม่สามารถหาได้จากสินค้าชนิดอื่น นอกจากจะต้องเป็นสินค้าที่จำกัดทั้งระยะเวลาและปริมาณการจำหน่ายแล้ว สินค้านั้นต้องมีเสน่ห์ดึงดูดใจลูกค้าที่มากพอด้วย จึงจะขายได้


ต่อไปลองมาดูกันค่ะว่า เราจะสามารถผลิตสินค้าที่มีมิติเรื่องความเป็นของหายากขึ้นมาได้อย่างไร
วิธีการหนึ่งก็คือ ยึดแนวทางการนำเสนอประโยชน์ที่สามารถตอบสนองความต้องการลึก ๆ ในใจของลูกค้าได้ และเป็นประโยชน์ที่ผู้อื่นไม่มี ดังนั้นก่อนที่จะค้นหาจุดขายของเราเองที่ต่างจากบริษัทอื่น จึงจำเป็นต้องเข้าใจว่าบริษัทอื่นชูอะไรเป็นจุดขาย ตัวอย่างเช่น กรณีของร้านทำผม หรือร้านเสริมสวย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะชูจุดขายเรื่องมีช่างแต่งผมฝีมือดี สามารถแต่งผมในสไตล์ที่ชอบได้ ออกแบบทรงผมให้รับกับธรรมชาติของเส้นผมและใบหน้าได้ บรรยากาศในร้านผ่อนคลาย เป็นต้น
การชูจุดขายที่แตกต่างจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่เพื่อเพิ่มมิติความเป็นของหายากให้กับตัวสินค้า วิธีการชูจุดขายที่แตกต่างอออกไปนั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเดินสวนทาง หรือทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับคนอื่น
จากตัวอย่างร้านทำผมข้างต้น หากมีร้านทำผมที่มีสโลแกนว่า “เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแฮร์คัต ตัดผมให้คุณได้ภายในเวลา 10 นาที ที่ราคา 1,000 เยน เหมาะสำหรับผู้ไม่มีเวลา” เจ้าของสโลแกนที่สวนทางกับจุดขายของร้านทำผมทั่ว ๆไป อย่างสิ้นเชิงนี้ก็คือ “คิวบีเฮาส์ (QB House)” ร้านทำผมที่ประสบความสำเร็จจากการชูเรื่องราคาและความรวดเร็วเป็นจุดขาย

ในธุรกิจใดก็ตาม หากบรรดาผู้ขายทั้งหลายชูจุดขายที่มุ่งเน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป จุดขายนั้นจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน และเป็นเหตุให้ลูกค้าบางกลุ่มปฏิเสธที่จะซื้อสินค้า เช่น อาจมีลูกค้าบางคนไม่พอใจที่เมื่อไปที่ร้านตัดผมแล้วต้องเสียเวลารอเป็นชั่วโมง กลายเป็นเหตุให้ไม่คิดอยากเข้าร้านทำผม เพราะเห็นว่ายุ่งยาก เสียเวลา การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ของคิวบีเฮาส์ จึงเท่ากับเป็นการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ร้านอื่นเข้าไม่ถึง โดยใช้แนวทางและจุดขายที่สวนทางกับคนอื่นอย่างสิ้นเชิงนั่นเองค่ะ


ต้องขอบอกเลยว่า... หนังสือเล่มนี้ไม่เหมือนหนังสือการตลาดธรรมดาทั่วไปค่ะ แต่เป็นหนังสือที่ช่วยปลุก “สัญชาตญาณทางการตลาด” ของคุณที่หลับใหลอยู่ให้ตื่นขึ้น เพียงคุณเปิดรับ นำไปปรับใช้ ลองแหกกฎเดิม ๆ ที่เคยรับรู้มา ก็จะมองเห็นโอกาสและช่องทางทำกำไรได้อีกไม่รู้จบ
บางที...กลยุทธ์การตลาดแบบทวนกระแสอาจเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดและมีที่ยืนอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงเช่นปัจจุบันก็ได้นะคะ


-------------------------------------------------------

อย่าลืมแวะไปดูโปรโมชันเด็ด ๆ สำหรับงานมหกรรมหนังสือที่เว็บไซต์สำนักพิมพ์ แล้วไปเจอกันที่บูท P17 โซน C1 นะคะ



Create Date : 12 ตุลาคม 2554
Last Update : 12 ตุลาคม 2554 17:07:00 น. 1 comments
Counter : 2804 Pageviews.

 
Yes! Right


โดย: deco_mom วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:16:44:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

textbook
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. สรรค์สร้างสาระสู่สังคม
มุ่งมั่นผลิตตำราวิชาการและหนังสือเทคโนโลยีสาขาต่าง ๆ การบริหารจัดการ ด้านส่งเสริมการศึกษา เพื่อการพัฒนาตนเองและองค์กร สำหรับภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม
Friends' blogs
[Add textbook's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.