images by free.in.th
"
Group Blog
 
All blogs
 

แนะนำหนังสือ เสริมทักษะหัวหน้างานยุคใหม่ : เป็นหัวหน้างานที่ดีของลูกน้องได้เสมอ

Smiley
เคยมีความรู้สึกแบบนี้กันไหมคะ???

คนบางคน เจอหน้าปุ๊บ ก็รู้สึกถูกชะตาปั๊บ

พอได้คุย ก็ยิ่งรู้สึกชอบ เหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน Smiley

แต่กับบางคน แค่เห็นหน้ากันครั้งแรก ก็รู้สึกไม่ถูกชะตา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ Smiley


ก็ในเมื่อโชคชะตาฟ้าบันดาล หรือฟ้ากลั่นแกล้งให้เราและเขาต้องมาเจอกัน Smiley

ต้องมาทำงานร่วมกัน หรือต้องมาผูกสัมพันธ์กันในฐานะใด ๆ ก็ตาม แบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ก็คงต้องหาวิธี "ปรับตัว" และ "รับมือ" ซึ่งกันและกันให้ได้ เพื่อให้ชีวิตมีความสุขขึ้น

แต่จะให้ปรับที่คนอื่นคงจะยาก ปรับที่ตัวเราน่าจะง่ายกว่านะ


วันนี้เลยมีแบบทดสอบมาให้ลองทำกัน เพื่อค้นหาว่า....

ตัวตนที่แท้จริงของเราน่ะเป็นคนประเภทไหน และตัวเขานั้นเป็นคนสไตล์ใด Smiley Smiley Smiley Smiley

ทำไมเราถึงชอบคุยกับคนนี้ แต่กลับไม่ชอบทำงานกับคนนั้น

หรือเหตุใด เขาคนนั้นถึงได้ไม่ชอบเรา ทำอะไรก็ผิดก็พลาด ดูไม่ถูกใจไปเสียหมด

โดยเฉพาะกับ เพื่อนร่วมงาน และสิ่งมีชีวิต(ผู้)ทรงอิทธิพลที่เราเรียกกันว่า "หัวหน้า"


แบบทดสอบนี้อยู่ในหนังสือชื่อ "The Emotions of Normal People"

ของ Dr. William Moulton Marston แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ที่จำแนกประเภทของคนเราออกเป็น 4 สไตล์ คือ D I S C

โดยที่ทุกคนจะมีสไตล์ใดสไตล์หนึ่งใน 4 แบบนี้เป็นสไตล์หลัก

เป็นพฤติกรรม การแสดงออก การพูดการจาเป็นส่วนเปิดเผยให้คนอื่นได้เห็น

ส่วนอีก 3 สไตล์ที่เหลือ ก็จะเป็นสไตล์รองของคน ๆ นั้น Smiley


แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า..ไม่มีสไตล์ไหนที่ดีที่สุด หรือแย่ที่สุด Smiley Smiley

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการปรับตัวของเราเอง

ความหมายของคนในแต่ละสไตล์ ก็จะเป็นดังรูป

เมื่อได้รู้ความหมายคร่าว ๆ ของคนในแต่ละสไตล์แล้ว

ก็มาเริ่มทำแบบทดสอบกันเลยดีกว่าค่ะ มีทั้งหมด 20 ข้อนะคะ









พอจะทราบหรือยังคะ ว่าสไตล์ของตัวเราเองเป็นแบบไหน

เมื่อรู้แล้ว ก็ต้องรู้จักควบคุมสไตล์หลักของตัวเองให้ดี

อย่าปล่อยให้สไตล์หลักโดดเด่นมากจนเกินไป

ไม่อย่างงั้นอาจจะเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และจะก่อปัญหาให้กับตัวเองในที่สุด

แล้วอย่าลืมหันมาทำความเข้าใจกับสไตล์ของคนที่อยู่รอบข้างด้วยนะคะ

เพื่อให้การทำงานหรือการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น และมีความสุขค่ะ Smiley Smiley Smiley


ส่วนที่ว่า...คนในแต่ละสไตล์ เขาชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง

วิธีการปรับตัวเข้าหาคนในแต่ละสไตล์นั้นจะต้องทำยังไง

รวมถึงความหมายของคนในทุก ๆ สไตล์ (DI S C) เจาะลึกแบบเอ็กซ์คลูซีฟนั้นเป็นอย่างไร

ติดตามอ่านกันต่อได้ในเล่ม "เสริมทักษะหัวหน้างานยุคใหม่" นะคะ

เสริมทักษะหัวหน้างานยุคใหม่

โดย... ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์

ราคา 180 บาท จำนวนหน้า 224 หน้า


อ่านบทความและเรื่องเล่าด้านการบริหารงานบุคคลของผู้เขียนเพิ่มเติมได้ที่

//tamrongsakk.blogspot.com

และติดตามความเคลื่อนไหว-กิจกรรมของสำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ได้ที่

//www.facebook.com/tpabook


สอบถามเพิ่มเติม  book4u@tpa.or.th





 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 6 สิงหาคม 2557 16:06:53 น.
Counter : 5528 Pageviews.  

รีวิว 50 วิธี จัดการคน จัดการใจ ในที่ทำงาน

การประสบความสำเร็จในชีวิตโดยเฉพาะเรื่องงาน เป็นสิ่งที่ผู้คนล้วนปรารถนา แต่การก้าวไปยืน ณ จุดนั้น ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ หลายคนอาจต้องสูญเสียบางอย่างในชีวิตไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ เพื่อนฝูง ความสัมพันธ์ในครอบครัว ช่วงเวลาส่วนตัว หรือแม้กระทั่งความเป็นตัวของตัวเอง Smiley

แต่มันคุ้มแล้วหรือ ? ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ หรือ ? ...ที่เราจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้โดยไม่ต้องแลกมาด้วยสิ่งอันเป็นที่รักทั้งสุขภาพ ความสัมพันธ์ และความสุขความพอใจ แน่นอน ไม่มีใครได้หมดทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่สูญเสียอะไรเลย แต่หลายเรื่องเราก็สามารถบริหารจัดการให้อยู่บนพื้นฐานของความพอดีที่สมเหตุสมผลได้ 

ขอแนะนำหนังสือเล่มใหม่ล่าสุด “50 วิธีจัดการคน จัดการใจ ในที่ทำงาน” ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านโดยเฉพาะกับคนทำงาน เพราะสามารถนำเทคนิคทั้งหลายไปปรับใช้กับปัญหาที่ต้องเผชิญในการทำงานประจำวันได้เป็นอย่างดี  



by  Maki Fukasawa

แปลโดย  ปาวัน การสมใจ 


ผู้เขียนนำประสบการณ์ตลอด 20 ปีจากการเป็นพนักงานบริษัทที่ผันตัวเองมาเป็นผู้บริหาร เธอนำเรื่องราวทุกรูปแบบที่พบเจอจากการทำงานมาบอกเล่าเป็น “เคล็ดลับความสำเร็จ” ว่าในสถานการณ์ต่างๆ ที่มีทั้งเรื่องน่าหงุดหงิด ไร้เหตุผล หรือกระทั่งตอนที่ตัวเองฟอร์มตก เราควรมีวิธีจัดการรับมือกับมันอย่างไรต้องใช้วิธีไหนจึงจะเอาตัวรอดในแบบที่งานก็ไม่เสีย และตัวเองก็ไม่ต้องฝืน เพื่อให้ผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆไปได้ จนสุดท้ายได้มายืนอยู่ในจุดที่ใครๆ ก็มองว่าเธอเติบโตก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้วอย่างแท้จริง!!

ในหนังสือเล่มนี้มีข้อแนะนำดีๆ มากมาย เพื่อช่วยให้คุณก้าวเดินไปบนหนทางของการทำงานในแต่ละวันได้แบบไม่สะสมความเครียด สามารถจัดการงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ แม้หลายปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ครึ่งหนึ่งอาจจะมาจากคนอื่นหรือสถานการณ์รอบข้าง แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งสำคัญที่เป็นได้ทั้ง “ต้นเหตุ” และ “ตัวคลี่คลายปัญหา” ก็คือ “ท่าทีและทัศนคติ” ของตัวเราเอง 

แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะมาแนะนำให้รู้จักอภัย ปล่อยวาง หรือให้มองโลกในแง่บวกแบบสุดขั้วอย่างที่หนังสือทั่วไปมักทำกัน เพราะสิ่งสำคัญคือการอยู่บนพื้นฐานของชีวิตจริง คนเราย่อมมีข้อจำกัดของตัวเอง มีสิ่งที่ชอบและเกลียด การฝืนตัวเองย่อมส่งผลเสียและกลายเป็นแรงกดดัน วิธีที่ดีกว่านั้นคือ การยอมรับ เข้าใจ รู้จักหลีกเลี่ยงปัญหาและสถานการณ์ตรงหน้าต่างหาก การปล่อยให้ตัวเองได้มีเวลาฟื้นฟูกำลังกายกำลังใจ เพื่อกลับมามุ่งมั่นกับงานได้ใหม่อีกครั้ง จะส่งผลดีทั้งต่อตัวเองและงานที่ทำได้มากกว่า Smiley

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในการประชุมเช้านี้มีเรื่องที่ทำให้ต้องปรี๊ดขึ้นมาอาจเพราะโดนขัดแข้งขัดขาหรืออะไรก็ตาม แล้วทำเอาหงุดหงิดตั้งสมาธิกับงานไม่ได้เลย ในช่วงเวลาแบบนั้น ขอแนะนำให้สะสางงานที่จำเป็นให้เรียบร้อยก่อน แล้วบอกเจ้านายไปเลยว่า...วันนี้ไม่สบาย ขอลากลับก่อน  แล้วกลับไปผ่อนคลายตัวเองด้วยการนอนพักหรือทำตามอำเภอใจ (ในแบบที่ไม่เปลืองสตางค์และสุขภาพ) เพราะทนอยู่ในที่ทำงานต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา หนำซ้ำยังอาจพาลใส่เพื่อนร่วมงานทำให้เสียเพื่อนได้อีก แต่แน่นอนเทคนิคแบบนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่ทำตามใจจนใครๆ ก็เอือมระอา แต่ควรใช้เฉพาะยามคับขันจริงๆ เท่านั้น แล้วในเวลาปกติก็ต้องตั้งใจทำงานอย่างสม่ำเสมอด้วย 

และอีกสถานการณ์หนึ่งที่เชื่อเหลือเกินว่าแทบทุกคนคงประสบอยู่ ที่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแบบนี้ หลายตำแหน่งงานมีคนออกไป แต่กลับไม่รับคนใหม่เข้ามา แล้วงานของคนอื่นก็ตกมาเป็นภาระของเรา Smiley บางคนมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือเพื่อความเติบโตก้าวหน้า ซึ่งนั่นก็จริง แต่ในชีวิตการทำงานที่ยาวนาน ยิ่งเราทุ่มเททำงานทุกชิ้นแบบโหมสุดแรงมากเท่าใด ก็รังแต่จะทำให้งานเพิ่มขึ้น และเป็นการกระโจนเข้าหาขีดจำกัดของตัวเองเร็วขึ้นเท่านั้น การทุ่มเทแบบสู้ไม่ถอยไม่ใช่เส้นทางที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย แต่การตั้งเป้าให้สูงพร้อมมองหา “จุดผ่อนปรน” สำหรับตัวเองไว้ด้วยต่างหากที่สำคัญ เช่นตั้งใจไว้เลยว่าเฉพาะวันศุกร์ฉันจะไม่ทำงานล่วงเวลา หรือจะทุ่มเทให้กับโปรเจกต์นี้เท่านั้น 

การตั้งใจทำงานให้ออกมาเพอร์เฟกต์ทุกชิ้น หรือดีกว่าที่คนอื่นคาดหวังเป็นความคิดที่ดี แต่ในความเป็นจริงนั่นเป็นเรื่องที่ยากและเกินจำเป็น สำหรับการทำงาน ขอเพียงรู้ว่าขีดต่ำสุดของงานนั้นอยู่ตรงไหน แล้วทำให้เสร็จทันเวลาก็พอแล้ว แบบนี้แหละที่เรียกว่า “ทำงานเป็น” เปรียบเทียบง่ายๆ ว่า การขับรถบนท้องถนนธรรมดา เราคงไม่ต้องการทักษะระดับนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันหรอกใช่ไหม Smiley

ในเล่มยังมีวิธีอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก อาทิ วิธีจัดการกับคนที่ยกโทษให้ไม่ได้, วิธีการทำตัวงี่เง่า “ให้เข้าท่า”, วิธีทำงานอย่างมีเทคนิคแม้ไม่มีใจ, วิธีการขอโทษในเรื่องที่ไม่รู้สึกว่าผิด, วิธีหนีจาก “คน” หรือ “สถานการณ์” ที่ไม่น่าพอใจ, วิธีแยก “ปัญหา” กับ “คน” ออกจากกัน, เทคนิคการไหว้วาน, เทคนิคการปฏิเสธ, วิธี “ชวนทะเลาะ” อย่างสร้างสรรค์, วิธีจัดการเมื่อถูกเข้าใจผิด ฯลฯ

ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะกับเรื่องงานเท่านั้น แต่สามารถนำไปบริหารชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ส่วนตัวได้เช่นกัน เพราะเราเกี่ยวข้องกับผู้คน ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือที่ไหนๆ ย่อมต้องเจอปัญหาคล้ายๆ กัน การจัดการไปตามหลักเหตุผลเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ แต่การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวมีจุดเร่งบ้าง จุดผ่อนปรนบ้างสำหรับตัวเองก็ไม่เลว...คุณว่าจริงไหม

ยังไงก็ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมกันดูนะคะ หวังว่าเล่มนี้จะช่วยให้ชีวิตในที่ทำงานของคุณราบรื่นขึ้น ทำให้คุณอยากตื่นเช้ามาทำงานเพื่อตัวคุณ และองค์กรของคุณ ด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสในทุกๆ วันกันค่ะ  Smiley


สอบถามเพิ่มเติม
book4u@tpa.or.th

ดูตัวอย่างหนังสือ
//bit.ly/1fR3vhM



สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของเราได้ที่

//www.facebook.com/tpabook




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2557    
Last Update : 17 มิถุนายน 2557 15:17:53 น.
Counter : 4409 Pageviews.  

รีวิว "สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด" โดยคุณพรชัย จันทรศุภแสง (พี่มิ้งค์ คอมทูเดย์)












อ่านหนังสือแนวการตลาดมาก็เยอะ ส่วนใหญ่ถ้าไม่เน้นทฤษฎีเข้มๆ ก็มักจะเป็น case study ที่ซ้ำไปซ้ำมา แต่พอได้อ่าน “สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด 1”
ก็ทำให้รู้สึกหลงรัก เพราะเป็นการบอกเล่าผ่านตัวละครอย่างคุมิ
สาวมั่นที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตจริง
เธอมั่นในความเก่งจนทำให้สะดุดกับปัญหาตื้นๆ
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองที่เจอหลายเหตุการณ์คล้ายๆ กัน
แม้จะแก้ปัญหาคนละวิธีกับคุมิ แต่ก็ทำให้เราเข้าใจอะไรชัดเจนขึ้น

เป็นการเรียนรู้การตลาด แบบที่ผมรู้สึกสนุกอย่างมีชั้นเชิง
และเป็นหนังสือหนึ่งในไม่กี่เล่ม ที่ผมอยากรู้ว่าเนื้อหาในหน้าถัดไปจะเป็นยังไง
อ่านเพลินๆ คิดเปรียบเทียบกับงานที่รับผิดชอบไป เผลอแป๊บเดียวจบเล่มสะแล้ว

------
ถ้าคุณคือนักการตลาด แนะนำว่าลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านเถอะ
เพราะคุณจะสนุกกับการตลาดในแบบคุมิ
-------

ขอบคุณผู้เขียนที่สร้างสรรค์หนังสือการตลาดดีๆ ให้เราได้อ่าน
ขอบคุณผู้แปลที่ช่วยให้เนื้อหาภาษามีความกลมกลืน อ่านได้เพลินจนอยากอ่าน
“สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด 2” ต่อทันที

มิ้งค์ คอมทูเดย์
พรชัย จันทรศุภแสง
ผู้อำนวยการสื่อไอที และการศึกษา
บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน)
ผู้จัดงาน COMMART

--------
สอบถามเพิ่มเติม  book4u@tpa.or.th

ติดตามหนังสือออกใหม่
//www.facebook.com/tpabook





 

Create Date : 13 มิถุนายน 2557    
Last Update : 13 สิงหาคม 2557 16:57:56 น.
Counter : 4128 Pageviews.  

รีวิว BCM - Business Continuity Management

ผ่านปีมะเมีย ธาตุไฟ  พ.ศ. 2557 กันมาแล้วเกือบครึ่งปี  SmileySmiley

มีแต่ข่าวร้อนแรงตามคำทำนายทายทักของพ่อหมอหลาย ๆ สำนัก ทั้งข่าวการบ้านและข่าวการเมือง 

แต่วันนี้เราขอไม่ยุ่งกับข่าวการเมืองนะคะ จะมุ่งที่ข่าวการบ้านอย่างเดียว Smiley


เมื่อไม่กี่วันนี้ (9 มิ.ย. 2557) ก็เพิ่งมีข่าวอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้น นั่นคือ

ภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @MorningNewsTV3


ข่าวไฟไหม้หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาของโรงงาน ในเครือบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้งอยู่ริม ถ.สุขุมวิท ห่างจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ. ระยอง ประมาณ 6 กม.

ซึ่งตอนนี้ทางกรมโรงงานได้สั่งปิดจุดเกิดเหตุนี้แล้วเป็นเวลา 90 วัน Smiley

แม้เหตุการณ์นี้จะไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

และความไม่มั่นใจด้านความปลอดภัยของชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบ Smiley

นี่ยังไม่นับรวมเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้นไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 


ภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @MorningNewsTV3


ถ้าหากองค์กร ไม่มีแผนเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุวิบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า

หรืออาจจะมีแผน แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นแก้ไขอย่างไรให้ได้แบบทันท่วงที

ยิ่งถ้าไม่ได้วางแผนในการฟื้นฟูธุรกิจหลังจากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะก็

ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากการหยุดชะงักนี้ อาจจะมากมายจนสายเกินไป 


ดังนั้น ระบบหนึ่งที่องค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลกได้นำมาใช้รับมือกับสถานการณ์เช่นนี้

เพื่อให้สามารถอยู่รอด และยังคงดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดการหยุดชะงักก็คือ

ระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ BCM (Business Continuity Management)

เพราะผลที่ได้ ไม่ใช่แค่ตัวองค์กรเท่านั้นที่สามารถอยู่รอด แต่คู่ค้าทางธุรกิจ 

และพนักงานทั้งหมดในองค์กรก็จะสามารถอยู่รอดได้ด้วยเช่นกัน Smiley Smiley


โดย.. MasakazuKon และ Takashi Koyama 

แปล.. รศ.ดร.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์

ราคา 335 บาท จำนวนหน้า 384 หน้า


ติดตามอ่านเรื่องราว "การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) หรือ BCM" แบบเข้มข้น

ที่ทุกองค์กรควรทำและต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติ และดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องได้ในภาวะวิกฤต

เป็นคู่มือภาคปฏิบัติ พร้อมตัวอย่างแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือในการบริหารและการส่งเสริม BCM ทุกขั้นตอน 

โดยใช้โปรแกรม Excel หรือ Word แบบง่าย ๆ และใช้ได้จริง 

ได้ในเล่ม "คู่มือการบริหารและการส่งเสริม BCM (ภาคปฏิบัติ)"

ตัวอย่างเนื้อหาและสารบัญเพิ่มเติมตามลิ้งก์นี้เลยค่ะ Smiley

//bit.ly/1fR3vhM

หรือติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมได้ที่

https://www.facebook.com/technologybook





จิตสำนึกเรื่องความปลอดภัย ถึงแม้จะทำได้ยาก และต้องใช้เวลานานเพื่อปลูกฝัง

แต่หากมีการปรับปรุงและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

สิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมซับ และฝังรากลึกกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรได้โดยอัตโนมัติ



ที่มา :

1. ปีมะเมีย ธาตุไฟ

2. ไฟไหม้ IRPC ระเบิด ที่ระยอง ล่าสุดปิดจุดเกิดเหตุ 90 วัน


3. IRPC ระบุเจ้าหน้าที่ควบคุมเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นจ.ระยองให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว





 

Create Date : 11 มิถุนายน 2557    
Last Update : 17 มิถุนายน 2557 15:18:11 น.
Counter : 4435 Pageviews.  

สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด : กลยุทธ์การตลาดอ่านเพลินแบบนวนิยาย

สวัสดีค่ะ วันพรุ่งนี้ งานที่หลายคนรอคอยก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 42 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 12” (28 มี.ค. - 7 เม.ย. นี้) นั่นเอง 

จขบ. เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้หนอนหนังสือทุกคนเช่นกันค่ะ แม้จะผ่านงานนี้มาหลายครั้งจนไม่อยากจะนับแล้วก็ตาม (บ่งบอกอายุ) ซึ่งคาดว่าปีนี้ก็คงจะชอปปิ้งอย่างเพลิดเพลินอีกตามเคย (ทั้งที่หนังสือที่ซื้อมาเมื่อปีก่อน ๆ ก็ยังอ่านไม่หมดเลย Smiley)

เพื่อต้อนรับงานสัปดาห์หนังสือวันแรก จขบ. ก็มีหนังสือใหม่มาแนะนำค่ะ เล่มนี้พิเศษมาก เพราะออนแอร์ เอ๊ย...วางที่บูทในงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้เป็นที่แรกในประเทศไทยเลยทีเดียว (โอ้วววว...)



สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด

โดย Takahisa Nagai

แปลโดย ธนัญพลแสน

หนา 208 หน้า(กระดาษถนอมสายตา)


“ได้ข่าวว่าวิธีขายงานของเธอร้ายน่าดู คีย์แมนของลูกค้าเจ้านี้คือผู้จัดการฝ่ายบัญชีใช่ไหม ผมไม่รู้ว่าเธอไปสืบมายังไงนะ แต่ช่วงขายงาน เธอลงทุนย้ายไปอยู่ห้องข้าง ๆ ที่แมนชันเดียวกับผู้จัดการฝ่ายบัญชีคนนั้นเลย”

“ยังไม่พอนะ เธอสืบเวลาไปทำงานของผู้จัดการฝ่ายบัญชีคนนั้น ทำเป็นบังเอิญขึ้นรถไฟไปทำงานพร้อมกัน ระหว่างทางก็คอยเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทลูกค้า ได้ยินว่าผู้จัดการฝ่ายบัญชีคนนั้นมีปัญหากับภรรยา ภรรยาเลยพาลูกกลับไปอยู่ต่างจังหวัดชั่วคราว… ยิ่งเป็นแบบนี้พอมีสาวข้างห้องมายิ้มแย้มคุยด้วย เป็นใครก็เผลอใจทั้งนั้นล่ะ”

       “ได้ยินว่าผู้จัดการคนนั้นพยายามจีบอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็หาวิธีหลบตลอด จนพอเซ็นสัญญาเสร็จเท่านั้นล่ะ เธอบอกหน้าตาเฉยว่า ‘อันที่จริง ฉันมีแฟนแล้วค่ะ’ ”

เมื่อคุมิ สาวนักขายผู้สร้างวีรกรรมจนชื่อเสียงโด่งดัง (?) ขอย้ายไปทำงานในฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ของบริษัท แถมยังประกาศกลางที่ประชุมตั้งแต่วันแรกด้วยความมั่นใจเกินร้อยว่า

“ฝ่ายขายต้องคอยขายของห่วยแตกแบบนี้ พวกคุณรู้ไหมมันเหนื่อยแค่ไหน ฉันมาก็เพื่อเปลี่ยนสินค้าห่วยแตกของบริษัทให้เป็นสุดยอดสินค้านี่ล่ะ!” 

แต่...สาวสวยสุดมั่นคนนี้ก็ถูกสกัดดาวรุ่ง

โยดะ (หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ) ผู้รับผิดชอบด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท และมีประสบการณ์ยาวนานด้านการตลาด ตั้งคำถามที่ฟังดูเหมือนเป็น ‘คำถามพื้น ๆ’ แต่เธอกลับตอบไม่ได้

          “ธุรกิจของบริษัทเราคืออะไร ?”

          “คุณเคยคิดไหมว่า ทำไมลูกค้าต้องใช้สินค้าของบริษัทเรา ?”

ยกแรก คุมิถูก ‘สอนมวย’ จนจนมุม แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ สาวมั่นของเราจัดการ (ขอร้องแกมบังคับเพื่อนร่วมรุ่นให้ช่วย) ทำรายงานสุดยอดแผนผลิตภัณฑ์ในฝันของเธอที่ ‘ทำตามสิ่งที่ลูกค้าบอกว่าต้องการทุกอย่าง’ ไปเสนอ

แต่โยดะปฏิเสธแผนของคุมิโดยบอกว่า แม้ลูกค้าจะบอกว่าอยากได้ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ลูกค้าอยากซื้อเสมอไป และยกที่ 2 คุมิก็เถียงสู้ไม่ได้อีกตามเคย 

(ได้แต่เถียง (ลับหลัง) ว่า "พูดอะไรเข้าใจยาก สิ่งที่ลูกค้าพูดก็ต้องถูก 100% อยู่แล้วไม่ใช่รึไง สงสัยทำงานมาจนอายุปูนนี้แต่ยังไม่เคยคุยกับลูกค้าเลยมั้ง" Smiley)  

ต่อมา เมื่อคุมิเสนอขายงานให้ลูกค้า โดยต้องแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ เธอกลับพบว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นมาตลอดว่า ‘ความต้องการของลูกค้าสำคัญที่สุด’ กลับกลายเป็นอุปสรรค เพราะแม้เธอทำตามที่ลูกค้าต้องการได้ 100% และขายราคาถูกกว่ามาก 

แต่ลูกค้ากลับเลือกซื้อสินค้าของบริษัทคู่แข่งที่ราคาแพงกว่า แถมยังชื่นชมคู่แข่งของเธออย่างออกนอกหน้า ("ยายอาซุกะนั่น ก็ทำงานวางแผนผลิตภัณฑ์เหมือนฉันเหรอ แถมยังวางแผนผลิตภัณฑ์สำเร็จก่อนอีก !")

แล้วคุมิจะทำอย่างไรต่อไป ? (เสนอแผนผลิตภัณฑ์ใหม่ไป ก็โดนโยดะตอกกลับจนหน้าแตก Smiley)  จะต่อสู้เพื่อความฝัน ‘ผลักดันสินค้าอันทรงคุณค่าออกสู่ตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกขอบคุณ’ ได้สำเร็จหรือไม่ ?


...เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณกำลังอ่านเรื่องราวต่าง ๆ นี้ เพลิน ๆ อยู่ล่ะก็ สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาดเล่มนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องราวที่สนุกสนานจนวางไม่ลงเท่านั้นนะคะ

นอกจากจะได้ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยคุมิให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ แล้ว สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด ยังสอดแทรกความรู้เรื่องกลยุทธ์การตลาด ให้คุณได้ค่อยๆ เรียนรู้ เข้าใจ และพัฒนาเพื่อบอกลาความอ่อนหัดด้านการตลาด ไปพร้อมกับคุมิ ด้วยบทเรียนจากชีวิตจริงในโลกธุรกิจ เช่น

· ทำไมบริษัทรถไฟที่คิดว่าตัวเอง “เป็นบริษัทรถไฟ” จึงตกต่ำ

· การเพิ่มลูกค้าของทันตแพทย์จากคนที่ฟันผุ 10% เป็นคนที่ฟันยังไม่ผุอีก 90%

· ร้านเสริมความงามที่ไม่ขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

· วิธีขายโคล่าราคา 100 เยน ให้ได้ 1,000 เยน


แล้วสุดท้าย คุมิจะค้นพบ วิธียืนหยัดในตลาดที่แข่งขันอย่างดุเดือด และพลิกเกม เอาชนะคู่แข่ง (ที่ใหญ่กว่าถึง 3 เท่า) ได้หรือไม่ ? โปรดติดตามใน สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด เล่มนี้ !

พบกันที่ บูทสำนักพิมพ์ ส.ส.ท.  O57 โซน C1 ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปค่าาาาา

ดูสารบัญและตัวอย่างเนื้อหาหนังสือ



โปรโมชั่นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 42 








 

Create Date : 27 มีนาคม 2557    
Last Update : 27 มีนาคม 2557 17:17:06 น.
Counter : 3701 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

textbook
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. สรรค์สร้างสาระสู่สังคม
มุ่งมั่นผลิตตำราวิชาการและหนังสือเทคโนโลยีสาขาต่าง ๆ การบริหารจัดการ ด้านส่งเสริมการศึกษา เพื่อการพัฒนาตนเองและองค์กร สำหรับภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม
Friends' blogs
[Add textbook's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.