bloggang.com mainmenu search

ทริปลำปาง - เชียงราย ตอนที่ 4 ღ ღ ღ คืนแรก...พักที่เมืองรถม้า...

♡ ♡ ♡ ขอบคุณ ทุกคะแนนโหวตค่ะ และขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลด้วยนะคะ ♡ ♡ ♡

จากใจ...ยังพูดเหมือนเดิม...อัพบล็อกไม่ใช่หน้าที่ ทำเพราะอยากทำ ทำแล้วยังมีความสุข ยังสนุกอยู่ ก็ทำ...

เที่ยวต่อเลยเนาะ....ทริปปีใหม่ที่ เชียงราย 29 ธันวาคม 2557 - 3 มกราคม 2558







เข้าที่พัก โรงแรมพิณ แล้ว สอบถามหน้าฟรอนท์ว่า มีร้านอาหารใกล้ๆ แถวนี้มั้ย






เค้าแนะนำสองร้าน เราเลือกร้านนี้ เพราะเหตุผลว่า มีอาหารพื้นเมือง...






อยู่หลังธนาคารกรุงไทย สาขาลำปาง (ถนนบุญวาทย์) อาหารแนะนำ ไส้อั่ว แกงฮังเล แกงโฮะ ตำขนุน น้ำพริกต่าง ๆ





ตอนทำบล็อก เพิ่งเสิร์ชหาในเน็ต รีวิวเยอะมาก เราเองก็ไม่รู้ว่าร้านนี้ขึ้นชื่อ โรงแรม แนะนำมา ก็ดุ่มๆ มาเลย






ชี้ๆ เอาเลยค่ะ หิวมาก






ข้าวสวย






แกงกะหรี่






หมูอบ






มัสมั่นไก่






อ้าว น้ำพริกหนุ่ม ลืมถ่าย






ข้าวเหนียว (ข้าวนึ่ง) นุ่ม อร่อยทุกอย่างค่ะ ราคาไม่แพงด้วย






มื้อแรก กับอาหารพื้นเมือง อิ่มอร่อยประทับใจ / แกงโฮะ






ไส้อั่ว / 4 คนพ่อแม่ลูก ด้วยความหิวโหย เรียบทุกอย่าง






16.41 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2557 กินเสร็จเดินเที่ยวต่อเลยค่ะ














มาเมืองรถม้าทั้งที คงต้องนั่งรถม้าสินะ






ผ่านตลาด...






ไม่มีข้อมูลเลยค่ะ เดินมาเรื่อยๆ









พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ

เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 49 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ในอาคารทรงไทยจตุรมุข ใกล้กับศาลหลักเมือง






พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงมีพระราชดำริสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2511 หลังจากปลุกเสกเบิกพระเนตรแล้วจึงพระราชทานไปประดิษฐานยังทิศทั้งสี่ของประเทศไทย






ชาวลำปางเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อดำ เพราะสร้างจากโลหะผสมแล้วรมดำทั้งองค์






เหตุที่ไม่มีการปิดทองเหลืองอร่ามเช่นพระพุทธรูปองค์อื่นๆ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหล่อขึ้น

เพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือพระองค์ดำ เนื่องจากพระองค์มีพระฉวีหรือผิวพรรณดำคล้ำ










16.55 น. ป้าที่ดูแล จะปิดแล้วค่ะ พวกเราเป็นชุดสุดท้ายพอดี






พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี














มณฑปหลวงพ่อเกษม เขมโก






ไม่ได้เดินเข้าไปนะคะ






ศาลหลักเมือง อยู่บริเวณเดียวกันทั้งหมดเลยค่ะ หน้าศาลากลาง (เก่า) อ.เมือง






หลักเมือง มีทั้งหมดสามต้น ประดิษฐานตามมุมภายในอาคารจตุรมุขทรงไทยขนาดย่อม ลักษณะเป็นผังสามเหลี่ยมแต่ละต้นเป็นเสาไม้เนื้อแข็งขนาดหนึ่งคนโอบ ถากปลายแหลม




















ในปี พ.ศ. 2511 ได้มีการสร้างมณฑปครอบเสาหลักเมืองไว้






อาคารทรงไทยจตุรมุข ที่ประดิษฐาน หลวงพ่อดำ อยู่ฝั่งตรงข้าม ศาลหลักเมือง






ปะป๊า โทร. ตามค่ะ ไปนั่งรถม้ากัน






คิวรถม้า มีหลายจุด รอบเล็ก 200, รอบใหญ่ 300, เที่ยว 1 ชม. 400 บาท บ้านเรานั่งรอบใหญ่






ภาพไหวซะ ถ่ายบนรถม้าเนาะ






ไม่มีแดดแล้ว เอาหลังคาลง แต่ก็ถ่ายยากอยู่ดี / วัดเชตวัน














แม่น้ำวัง






บ้านเสานัก

เป็นบ้านไม้ที่มีเสาไม้สักมากถึง 116 ต้น จึงเรียกว่า บ้านเสานัก (ตามภาษาพื้นเมือง นัก มีความหมายว่า มาก) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2438






โดยหม่องจันโอง ต้นตระกูลจันทรวิโรจน์ ลักษณะศิลปะพม่าผสมล้านนาเป็นบ้านไม้สักทรงไทย หลังคาและโครงสร้างเป็นแบบล้านนา








ประกอบด้วยเรือนใหญ่ เป็นเรือนหมู่ หน้าบ้านมีต้นสารภี อายุมากกว่า บ้านเสานัก 30 ปี ซึ่งบ้านเสานัก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2438






แต่เดิมบ้านเสานักเป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และใช้เป็นสถานที่จัดขันโตกและงานพิธีมงคล ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมบ้านและของสะสมต่าง ๆ






วัดเยอะมาก


















มองไปเห็นสะพานรัษฏาภิเศก






สะพานข้ามแม่น้ำวัง






จากตรงนี้ สะพานช้างเผือก มองไปที่สะพานรัษฏาภิเศก






จวนผู้ว่าราชการจังหวัด ถ่ายจวนไม่ทัน...






วนครบรอบ กลับมาที่บ้านหลังนี้






ขึ้นจุดไหน ราคาเท่ากันหมดค่ะ






17.22 น. นั่งรถม้าคันนี้






ต่อตอนหน้าค่ะ....







Create Date :23 มกราคม 2558 Last Update :4 กุมภาพันธ์ 2558 19:02:16 น. Counter : 3525 Pageviews. Comments :39