bloggang.com mainmenu search
แม่กำปอง - เชียงใหม่

23 - 27 มกราคม พ.ศ. 2563

ตอนที่ 9 เลขสวย ตอนจบพอดีเลยค่ะ

เส้นทางเดินของเรา...เที่ยววัดในเชียงใหม่



วัดเชียงยืน เป็นวัดที่มีชื่อเสียง และเป็นวัดสำคัญ ที่จัดว่ามีมงคลนาม 1 ใน15 จากวัดที่มีมากมายในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งของวัดเชียงยืนอยู่ใกล้กับแจ่งศรีภูมิ ปัจจุบันทางเข้าวัดเชียงยืนจะมี 2 ด้านคือ ด้านที่ติดกับถนนคูเมืองด้านนอก อีกด้านหนึ่งจะเป็นทางเข้าด้านโรงเรียนวัดเชียงยืน 


วัดเชียงยืน มีความหมายอันเป็นมงคลสื่อความหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว ชาวบ้านใกล้เคียง และคนเมืองที่มีความเชื่อเรื่องนี้จึงนิยมไปกราบไหว้พระ และทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต



วัดเชียงยืนสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏแน่ชัด ในสมัยโบราณวัดนี้มีความสำคัญมาก จากคัมภีร์มหาทักษา พบว่า การสร้างเมืองเชียงใหม่จะมีวัดประจำทิศทั้งแปดที่สอดคล้องกับระบบความเชื่อคือ ด้านทิศอุดรนี้ถือว่าเป็นเดชเมืองที่วัดเชียงยืนเป็นสำคัญ ท้าวพระยามหากษัตริย์ที่จะมาครองเมืองเชียงใหม่ หรือในยามสงครามที่จะออกรบราข้าศึก และนำทัพกลับมาแล้ว จะต้องมาเปลี่ยนเครื่องฉลองพระองค์และทำพิธีสักการบูชาพระประธานในพระวิหารนามว่า “พระสัพพัญญูเจ้า” ก่อนจะเข้าเวียงเพื่อสิริมงคลนามว่า “เชียงยืน”





“เชียงยืน” อันหมายถึง ความยั่งยืน วัดนี้มีชื่อเรียกในพงศาวดารโยนกว่า วัด “ฑีฆชีวะวัสสาราม” เป็นวัดนามมงคลของนครเชียงใหม่ และเป็นวัดหลวงในสมัยอาณาจักรล้านนา และในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระสังฆราชสังฆนายก ในปัจจุบัน ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มารับตำแหน่งหรือข้าราชการ ประชาชนทั่วไปก็ถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบมา มาในสมัยพระเมืองแก้วได้บรรจุพระบรมธาตุในสถูปเจดีย์ ต่อมาเมืองเชียงใหม่ถูกยึดครอง วัดเชียงยืนกลายเป็นวัดร้าง ครั้นมาสมัยพระยาวิชระปราการ (กาวิละ) ได้ขับไล่พม่าและได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2337







พระวิหาร เป็นพระวิหารทรงล้านนา ภายในประดิษฐาน พระประธานปางมารวิชัย นามว่า พระพุทธสัพพัญญู ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะ ของเจ้าผู้ครองเมืองและประชาชนมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน



พระสัพพัญญูเจ้า ประดิษฐานภายใน วิหารวัดเชียงยืน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบวัสดุปูนปั้นปิดทองขนาดหน้าตัก กว้าง 3.40 เมตร ศิลปกรรมสมัยเชียงแสน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21







14.19 น.



15.12 น.



วัดโลกโมฬี วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีอายุมากกว่าห้าร้อยปี ไม่มีหลักฐานปรากฏอย่างแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่ได้ปรากฏชื่อวัดโลกโมฬีในตำนานของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของตัวเมืองเชียงใหม่ ใกล้แจ่งหัวริน









วิหารหลวงวัดโลกโมฬี เป็นวิหารที่สร้างขึ้นภายหลังได้มีการบูรณะและยกฐานะจากวัดร้างเป็นวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา เป็นวิหารไม้สักศิลปะแบบล้านนา ลักษณะงดงาม ประณีต มีลายแกะสลักอย่างสวยงาม ส่วนวิหารหลังเดิมนั้น ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าสร้างขึ้นพร้อมกับเจดีย์ เมื่อ พ.ศ. 2071



ตรงหน้าบันรูปจั่วประดับกระจกสี ทำให้เกิดสีสันหลากสีบนหลังคาวิหารที่มีพื้นโทนสีดำ ซึ่งพื้นดำนี้มีส่วนช่วยขับกระจกสีแดง ขาว น้ำเงิน เขียว เหลือง จนดูระยิบระยับ



พระพุทธรูป พระประธานในวิหาร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร มีเพดานและต้นเสาแกะสลักลวดลายต่าง ๆ อย่างงดงาม พระพุทธรูปมีนามว่า “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนพระเมาลี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546

















เจดีย์อยู่ด้านหลังพระวิหาร



ด้านข้างพระวิหาร



เจดีย์วัดโลกโมฬี



มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจนว่า เจดีย์ของวัดโลกโมฬีในปัจจุบัน เป็นเจดีย์ที่สร้างปลาย พุทธศตวรรษที่ 21 ตำนานระบุว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระเมืองเกศเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2071 เป็นเจดีย์ทรงปราสาท



มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องที่เจดีย์วัดโลกโมฬี การพัฒนารูปแบบได้เพิ่มความสูงของเจดีย์คือ ส่วนฐาน ได้แก่ชุดฐานปัทม์ ลูกแก้ว อกไก่ เพิ่มเป็น 2 ชุดอย่างชัดเจนโดยฐานปัทม์ชั้นล่างไม่มียกเก็จ ที่ฐานปัทม์ชั้นที่สองมีจำนวนยกเก็จที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นมุมที่มีขนาดเล็กล ส่วนกลาง ยังคงเป็นเรือนธาตุในผ้าสี่เหลี่ยมยกเก็จ ที่มีขนาดของมุมเล็กลง และจำนวนของมุมมากขึ้นเช่นเดียวกับฐานปัทม์ด้านล่าง



ทั้งสี่ด้านของเรือนธาตุมีซุ้มจระนำ มีรูปแบบของซุ้มลดได้ กรอบซุ้มจระนำมีการผสมผสานกันทั้งกรอบแบบคดโค้ง และกรอบแบบวงโค้ง ตลอดจนแนวของลูกแก้ว อกไก่ที่ประดับเสารับซุ้มจระนำ ก็มีขนาดเด่นขึ้น กลายเป็นรูปงอนคล้ายบัวคว่ำที่เรียกกันว่า ปากแล



ส่วนยอดเหนือเรือนธาตุ มีการพัฒนาความสูงโดยเพิ่มจำนวนของชั้นลดรูปฐานปัทม์ลูกแก้ว อกไก่ ยกเก็จซ้อนกันสามฐาน รับทรงระฆังและบัลลังก์สิบสองเหลี่ยม ปล้องไฉนและปลี ซึ่งองค์ระฆังและบัลลังค์นั้น เป็นลักษณะร่วมของเจดีย์ทรงระฆัง













มณฑปพระนางจิรประภามหาเทวี  ภายในประดิษฐานพระรูปของพระนางจิระประภา มหาเทวี ซึ่งพระองค์ได้ทรงอุปถัมภ์วัดโลกโมฬีครั้งเสวยราชย์ครองเมืองเชียงใหม่ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ สักการะรำลึกถึงคุณความดีของพระองค์







15.44 น. วัดราชมณเฑียร





วิหารลายคำวัดราชมณเฑียร เป็นวิหาร 2 ชั้น ทรงไทยล้านนา ใช้ศิลปะลายคำแบบล้านนา  ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น ชั้นแรกใช้เป็นสถานที่ทำบุญ ชั้นที่ 2 ใช้ในการทำสังฆกรรมของพระภิกษุ สามเณร







พระเจ้าหลวงทันใจ หน้าตักกว้าง 5.5 เมตร สูง 11เมตร ที่สร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชน เมื่อครั้งมีการบูรณะวัด







วัดราชมณเฑียร ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ ได้แก่ พระประธานวิหาร ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดราชมณเฑียรหลังเดิม พระพุ่ม 9 ตื้อ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างพร้อมกับพระเจ้าเก้าตื้อ ของวัดสวนดอก เป็นพระพุทธรูปศิลปะเก่าแก่ที่งดงามที่สุด

วัดราชมณเฑียรมีพระที่สร้างพุ่มเดียวกัน หรือสร้างพร้อมกัน คือ พระเจ้าพุ่ม หรือ พระพุ่ม พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ รวมทั้งพระประธานประจำอุโบสถหลังเก่า











16.05 น. วัดผาบ่อง



ประวัติความเป็นมาวัด



พระเจดีย์ขนาดเล็ก







16.55 น. แวะมากินกาแฟที่ร้านนี้



น่าจะเป็นร้านดังพอสมควร นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเรื่อย ๆ ค่ะ







เรียบร้อยแล้วเข้าไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับที่พัก  
 PakPing The Cozy Living in Chiangmai



ขอล้างหน้าล้างหนวด แล้วนั่ง grab car ออกมาขนส่งเลยค่ะ เพิ่งทุ่มกว่า

ขามา เรามาสมบัติทัวร์ ขากลับ กลับนครชัยแอร์ ราคาเท่ากันนะคะ



แต่ของสมบัติทัวร์เป็นที่นั่งเดี่ยว เรากลับรอบ 4 ทุ่มกว่า รอเงกเลย 555

จองรอบ 4 ทุ่มกว่า เพราะอยากให้ถึงกรุงเทพฯ สว่างหน่อยน่ะค่ะ 



  ความเดิม  

ตอนที่ 1 พักที่สำราญชน แม่กำปอง
ตอนที่ 2 เที่ยวในแม่กำปอง
ตอนที่ 3 น้ำพุร้อนสันกำแพง
ตอนที่ 4 ห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม
ตอนที่ 5 อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย, วัดผาลาด, วัดพระธาตุดอยสุเทพ
ตอนที่ 6 เฮือนม่วนใจ๋, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
ตอนที่ 7 วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร
ตอนที่ 8 วัดพันเตา วัดอินทขีลสะดือเมือง วัดล่ามช้าง วัดเชียงมั่น

Create Date :25 สิงหาคม 2563 Last Update :25 สิงหาคม 2563 16:58:37 น. Counter : 2835 Pageviews. Comments :0