bloggang.com mainmenu search
ปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่บ้านท่าโสม
       การปั่นจักรยานท่องเที่ยวกำลังเป็นกระแสที่มาแรงในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการลดใช้พลังงานน้ำมันแล้ว จักรยานยังให้ความรู้สึกเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว และทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศในแต่ละที่อย่างใกล้ชิด


       ที่ “บ้านท่าโสม” อ.เขาสมิง จ.ตราด เป็นชุมชนอีกแห่งหนึ่งที่ส่งเสริมให้ใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตและสถานที่น่าสนใจต่างๆ โดยคนในชุมชนในนามของศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดท่าโสม ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ร่วมกันจัดทำเส้นทางจักรยาน “ทำบุญทำทาน เที่ยวลานวัฒนธรรม” ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้การดำรงชีวิตของคนในชุมชน ทราบถึงประเพณีและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ของชุมชนผ่านการท่องเที่ยวโดยใช้จักรยาน

พระพุทธรูปหยกขาวทรงเครื่องจักรพรรดิ        ก่อนจะปั่นไปดูว่าที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอะไรบ้าง เรามารู้จักความเป็นมาของบ้านท่าโสมกันก่อน บ้านท่าโสมเป็นตำบลเล็กๆ ในอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ที่แม้ภายนอกจะดูเป็นชุมชนชาวสวนเกษตรและประมงพื้นบ้านธรรมดาๆ แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสกลับพบว่าในชุมชนเล็กๆ แห่งนี้มีวิถีชีวิตและประเพณีที่น่าสนใจ ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพด้วยความเคารพในธรรมชาติ

พระพุทธรูปไม้เก่าแก่ในวิหารหลวงพ่อไม้        บ้านท่าโสมในยุคแรกนั้นเป็นป่าดงดิบ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน คนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่เป็นคนไทย และภายหลังในสมัยกรุงศรีอยุธยามีพ่อค้าชาวจีนเดินทางโดยเรือสำเภามาค้าขายของป่า พ่อค้าเหล่านั้นบางคนแต่งงานกับคนไทยและอยู่เป็นครอบครัวสืบต่อกันมา และทำให้ผู้คนในตำบลท่าโสมนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวดองเป็นเครือญาติกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนชื่อของบ้านท่าโสม ได้มาจาก “ต้นหวายโสม” ที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก และที่หมู่บ้านนี้อยู่ติดทะเลจึงมีท่าเรืออยู่ด้วย ชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่นี้ต่อมาว่า “บ้านท่าโสม”

ศาลาร้อยปี ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดท่าโสม        แต่หากอยากรู้จักบ้านท่าโสมให้ดียิ่งขึ้น ต้องมาที่ “วัดท่าโสม” วัดที่เป็นดังศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านท่าโสม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในราวปี 2405 ภายในวัดมีสิ่งสำคัญคือ “วิหารหลวงพ่อไม้” ซึ่งเป็นอุโบสถหลังเก่า ภายในประดิษฐานหลวงพ่อไม้ พระพุทธรูปโบราณอายุถึง 163 ปี เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแกะสลักด้วยไม้ตะเคียน และพระพุทธรูปไม้ขนาดใหญ่ปางปรินิพพานแกะสลักด้วยไม้สักทอง เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านท่าโสมให้ความเคารพศรัทธา

       นอกจากนั้น ในอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นในปี 2542 ก็ยังประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญคือพระพุทธรูปหยกขาวทรงเครื่องจักรพรรดิ และภายในอุโบสถมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพพุทธประวัติอย่างงดงามด้วยฝีมือช่างท้องถิ่น

รูปปั้นของพระครูคุณสารพิสุทธิ์ หรือ “ท่านก๋ง” บนศาลาร้อยปี        พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดท่าโสมก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนศาลาร้อยปี เป็นศาลาเรือนไทยเก่าแก่ที่ภายในมีรูปปั้นของพระครูคุณสารพิสุทธิ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ท่านก๋ง” อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าโสมและเจ้าคณะอำเภอเขาสมิง ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ที่ชาวท่าโสมให้ความเคารพอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีน่าเลื่อมใสแล้ว ยังเป็นพระนักพัฒนา พัฒนาทั้งคนและวัตถุของบ้านท่าโสมให้มีความเจริญไปพร้อมๆ กัน

ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดท่าโสม        หากอยากทราบเรื่องราวทั้งหมดของบ้านท่าโสม ก็ต้องมาที่ “ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดท่าโสม” ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวของบ้านท่าโสม ภายในมีทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และประวัติความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน แนะนำสถานที่สำคัญต่างๆ ของบ้านท่าโสม เล่าถึงอาชีพและวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงทำประมงพื้นบ้านและเกษตรสวนยาง และยังจะได้ทราบถึงวัฒนธรรมประเพณีของผู้คนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญทุ่งต้นไทร ทำบุญคลองจุดยา เป็นต้น

ภายในศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชฯ        ดังนั้นที่วัดท่าโสมแห่งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเส้นทางปั่นจักรยาน เพราะเราจะได้เห็นภาพรวมของการเดินทางในครั้งนี้ได้ทั้งหมด และจากวัดท่าโสม เราเริ่มต้นปั่นไปยังจุดแรกที่ “บ้านร้อยปี” บ้านไม้เก่าแก่หลังใหญ่อายุกว่า 100 ปี มีลูกหลานอยู่อาศัยกันมาถึง 7 ชั่วคน บ้านหลังนี้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้การทำว่าว โดยเฉพาะ “ว่าวดุ๊ยดุ่ย” ซึ่งเป็นว่าวพื้นบ้านโบราณของไทยที่มีความพิเศษคือ ว่าวดุ๊ยดุ่ยถือเป็นว่าวพยากรณ์ โดยหากปีใดว่าวดุ๊ยดุ่ยลอยติดลมได้หลายวันหลายคืนโดยไม่ตก แสดงว่าปีนี้พืชผลต่างๆ จะติดดอกออกผลดี แต่หากเป็นทางตรงกันข้ามปีนั้นพืชผลก็จะไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก

มาเรียนรู้การทำว่าวดุ๊ยดุ่ยที่บ้านร้อยปี        จุดต่อไปเราปั่นไปที่ “บ้านภูมิปัญญายางพารา” โดยบ้านท่าโสมนี้มีการปลูกยางพารากันมาก และนิยมทำเป็นยางพาราแผ่นเพื่อขายเป็นรายได้ และที่บ้านหลังนี้ก็มีการทำยางต่อวันเป็นจำนวนมาก เราจึงได้เห็นขั้นตอนการทำยางแผ่นตั้งแต่การนำน้ำยางมากรอง ผสมกับน้ำและน้ำกรดเพื่อให้ยางจับตัวเป็นก้อน จากนั้นจึงใช้ท่อเหล็กนวดก้อนยางและนำไปเข้าเครื่องรีดลื่น ก่อนจะล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วผึ่งไว้นาน 15 วันจึงจะนำไปขายได้

ยางที่รีดเป็นแผ่นผึ่งแดดไว้เตรียมส่งขาย        นอกจากได้ปั่นมาชมภูมิปัญญาและอาชีพของคนบ้านท่าโสมแล้ว ยังจะได้มาชมประเพณีและความเชื่อในการ “ทำบุญสัญจร” ของชาวบ้านซึ่งเป็นที่มาของชื่อเส้นทางปั่นจักรยานทำบุญทำทาน เที่ยวลานวัฒนธรรม โดยในแต่ละปี ชาวบ้านท่าโสมจะจัดให้มีการทำบุญในสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด 5 แห่งในชุมชน เพื่อขอบคุณธรรมชาติที่ให้ชาวบ้านได้ทำมาหากินได้สะดวก ให้ความอุดมสมบูรณ์กับเรือกสวนไร่นา รวมทั้งขอขมาต่อแม่ธรณีและแม่คงคา โดยทั้ง 5 สถานที่จะจัดในเดือนต่างๆ ได้แก่ ในเดือนกุมภาพันธ์จะมีการ “ทำบุญคลองจุดยา” และ “ทำบุญหนองน้ำอีลึม” เพื่อขอบคุณท้องทะเล โดยคลองจุดยาเป็นคลองที่ชาวบ้านใช้เป็นที่จอดเรือประมงก่อนออกหาสัตว์ทะเล

เส้นทางปั่นจักรยานปั่นได้สบายๆ        ช่วงเดือนมีนาคมจะมีการ “ทำบุญทุ่งต้นไทร” เพื่อขอบคุณพระแม่ธรณี และ “ทำบุญหนองน้ำสระอีด” ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนจะ “ทำบุญศาลเจ้าพ่อคลองท่าโสม” โดยจะมีพิธีลอยเรือจำลองลำเล็กๆ ซึ่งบรรจุเครื่องเซ่นไหว้ในเรือและนำไปลอยออกสู่ทะเล ซึ่งในการทำบุญสัญจรนี้แต่ละบ้านจะร่วมกันนำอาหารคาวหวานมาถวายพระสงฆ์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำบุญขอบคุณธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในหมู่บ้านอีกด้วย

       และทั้ง 5 สถานที่ทำบุญนี้ก็เป็นจุดปั่นจักรยานท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยหากใครอยากมาร่วมงานบุญสัญจรแต่ละแห่งก็ต้องมาให้ถูกช่วงเวลาจึงจะได้เห็นประเพณีดีงามของชาวบ้านท่าโสมด้วยตัวเอง แต่หากมาไม่ตรงช่วงก็สามารถปั่นมาชมสถานที่ได้ โดยจะมีป้ายข้อมูลบอกเล่าถึงพื้นที่และการทำบุญในแต่ละแห่ง

       เส้นทางปั่นจักรยานบ้านท่าโสมยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ยังสามารถปั่นไปชม “ศาลท่านพ่อตรอกศาลเจ้า” ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาและเป็นที่พึ่งพิงทางใจของชาวบ้านในละแวกนี้ หากใครอยากเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกยางพารา ต้องมาที่ “สุปรีดาพันธุ์ยาง” ที่สอนการติดตายางพาราให้ผู้ที่สนใจ ปั่นมาเหนื่อยๆ สามารถแวะกินน้ำกินกาแฟได้ที่ร้านกาแฟโบราณ และซื้อของกินของฝากได้ที่ร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนได้อีกด้วย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

การเดินทางมายังวัดท่าโสม จาก จ.จันทบุรี วิ่งมาตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่ จ.ตราด เมื่อผ่านด่านตรวจบ้านท่าจอดให้วิ่งตรงมาแล้วเลี้ยวขวาบริเวณสามแยกไฟแดงเข้าสู่ถนนทางหลวงสาย 3156 วิ่งตรงมาประมาณ 9 กม. จะเห็นซุ้มประตูวัดทางด้านขวา เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 400 ม. จะถึงวัดท่าโสม ผู้ที่สนใจท่องเที่ยวในเส้นทางปั่นจักรยาน ทำบุญทำทาน เที่ยวลานวัฒนธรรม ควรติดต่อมาก่อนล่วงหน้า โดยจะมีจักรยานให้บริการฟรี สามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่โทร. 08-1983-3533, 08-1904-3899

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000129896
Create Date :16 ตุลาคม 2556 Last Update :16 ตุลาคม 2556 21:46:44 น. Counter : 1707 Pageviews. Comments :1