bloggang.com mainmenu search






เรื่องเล่า..นักเรียนแพทย์

กว่าจะสอบเข้าคณะนี้ได้คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย นักเรียนส่วนใหญ่อยากเข้าเรียนในสาขาวิชานี้เพราะ เป็นวิชาชีพที่มีเกียรติและสามารถใช้ความรู้ความสามารถของตนเองช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ข้าพเจ้าเลือกเรียนแพทย์

ปีที่แล้วข้าพเจ้าจึงตัดสินใจก้าวเข้ามาศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ ปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าเพิ่งจะเปิดภาคเรียนกลายเป็นนักเรียนแพทย์ปีสองเต็มตัว ประสบการณ์ด้านการเรียนแพทย์ก็ยังมีไม่มากนัก มีเพียงมุมมองเล็กๆของเด็กน้อยที่เริ่มเรียนชั้นปรีคลินิก เมื่อสมัยอยู่ปีหนึ่งข้าพเจ้าได้มีโอกาสทำกิจกรรมหลายรูปแบบด้วยกันทั้งกิจกรรมในหลักสูตรและนอกหลักสูตร

สำหรับกิจกรรมในสูตรข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมเคหะชุมชนร่มเกล้า ได้พูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านว่าเขามีวิธีดูแลตัวเองยามเจ็บป่วยอย่างไร พร้อมกันนี้ได้ถามความคิดเห็นของเขาที่มีต่อแพทย์อีกด้วย ซึ่งข้าพเจ้าพบว่าเขามีความเคารพ ศรัทธาและเชื่อถือในตัวแพทย์เป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่เขาอยากให้แพทย์ทุกคนมีคือเวลาให้เขาพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวของตัวเขาบ้าง

ข้าพเจ้าเองก็เห็นด้วยกับชาวบ้านคนนี้ เพราะทุกครั้งที่ข้าพเจ้าไปพบคุณหมอ คุณหมอมักจะพูดคุยกับข้าพเจ้าสั้นๆเท่านั้น ที่เป็นแบบนี้อาจเพราะคนไข้มีมาก แพทย์จึงไม่ค่อยมีเวลาให้กับคนไข้มากนัก ตัวข้าพเจ้าเองถ้าได้เป็นแพทย์เต็มตัวแล้วจะใส่ใจฟังคำพูดของคนไข้ให้มาก เพราะบางครั้งปมเล็กๆในใจคนไข้อาจจะเป็นประตูไปสู่แนวทางรักษาที่ให้ผลดีแก่ ตัวคนไข้

เมื่อกลับจากกิจกรรมเยี่ยมชุมชนแล้วในเย็นของวันนั้นข้าพเจ้าได้ไปเข้าค่าย น้องใหม่ของฝ่ายพัฒนาสังคม ณ จังหวัดฉะเชิงเทราต่อ การไปค่ายในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักเพื่อนในคณะรวมทั้งรุ่นพี่ปีต่าง ๆมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนนี้ กิจกรรมที่จัดให้น้องๆที่มาค่ายในครั้งนี้ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่สร้างความบันเทิง เช่น สอนเต้นสันทนาการ และทำกังหันลม เป็นต้น และมีกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับสุขอนามัย เช่น สอนแปรงฟัน ล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย และปฐมพยาบาล เป็นต้น

น้องที่มาค่ายให้ความสนใจกับกิจกรรมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย ซึ่งชาวบ้านก็ให้ความสนใจกับการมาของนักเรียนแพทย์เป็นอย่างมาก บางคนสอบถามถึงวิธีการรักษาอาการเจ็บป่วย บางคนขอให้ช่วยดูแผลให้ ชาวบ้านเขาคงคิดว่าเราเป็นหมอจริงๆที่สามารถรักษาพวกเขาได้ นี่คือมุมมองของชาวบ้านที่มีต่อนักเรียนแพทย์ ซึ่งพวกเราชาวค่ายทำอะไรให้ได้ไม่มากนักเพียงแค่ให้คำแนะนำได้เล็กน้อยเท่านั้น เพราะเรายังเรียนไม่จบ ความรู้ยังไม่มากพอที่จะรักษาใครได้ ข้าพเจ้าเองก็เพิ่งจะเรียนปีหนึ่งได้ไม่กี่เดือน

วันสุดท้ายก่อนปิดค่ายพวกเราได้ช่วยกันปรับปรุงและจัดห้องสมุดของโรงเรียนที่ไปอาศัยอยู่ให้มีระเบียบและสวยงามมากขึ้น โดยทาสีชั้นหนังสือให้ใหม่และจัดหนังสือให้อยู่ตามหมวดหมู่ที่ถูกต้อง สำหรับข้าพเจ้านั้นการมาค่ายในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้ประสบการณ์ชีวิตติดตัวกลับไปมากทีเดียว

ในช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมานี้ข้าพเจ้าได้ไปออกค่ายสอนหนังสือที่โรงเรียน ศึกษาสงเคราะห์ จังหวัดสกลนคร การเดินทางไปสู่จังหวัดนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับพระธาตุภูเพ็กซึ่งอยู่บนเขา ถนนที่ไปสู่โรงเรียนแห่งนี้คดเคี้ยวและเงียบมาก ข้าพเจ้าไปสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สองจำนวนสามห้อง ข้าพเจ้าพบว่าน้องบางคนยังท่องสูตรคูณไม่คล่อง ยังอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก การมาสอนในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าทราบว่าเด็กที่นี่ขาดโอกาสทางการเรียนรู้มากเพียงใด เพราะอยู่ไกลจากเมืองหลวงมาก เด็กที่อยู่ในเมืองหลวงส่วนใหญ่จะเรียนพิเศษตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ แต่ที่นี่ไม่มีสถาบันกวดวิชาเหล่านั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาเป็นประธานเปิดค่ายมีความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่พวกเรามาทำค่ายสอนหนังสือให้กับเด็กที่นี่ เพราะเท่ากับเป็นการให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้วิชาจากพี่ๆที่เป็นคนเก่ง และท่านยังกล่าวอีกว่าปีหน้าเราน่าจะทำค่ายแบบนี้อีก ในฐานะของคนที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นแพทย์ในอนาคตข้าพเจ้าคิดว่าถ้าเราได้มี โอกาสมาพบเห็นความเป็นจริงของสังคมเช่นนี้ก็จะทำให้เราเข้าใจคนไข้มากยิ่งขึ้นและสื่อสารกับคนไข้ดียิ่งขึ้น

คนที่นี่ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับคติโบราณอยู่มาก เด็กบางคนไม่ยอมกินเนื้อไก่เพราะเขาเชื่อว่าเป็นของไม่ดี และการได้มาอยู่ที่นี่ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ภาษาอีสานเพิ่มขึ้น ความหมายของคำบางคำเขาก็ใช้ไม่เหมือนกับภาษากลาง เช่น คำว่า”ย้อน” ในภาษาอีสานแปลว่า “รำ” ถ้าเราบอกคนไข้ให้เดินไปห้องเอ็กเรย์แล้วเดินย้อนกลับมาหาเรา เขาก็จะเข้าใจว่าให้เขาไปห้องเอ็กเรย์แล้วเดินรำกลับมา เป็นต้น

โดยสรุปถ้าเราเข้าใจและพูดคุยกับคนไข้มากขึ้นปัญหาการฟ้องร้องที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงของสังคมในขณะปัจจุบันคงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่

ชีวิตของนักเรียนแพทย์มีหลายด้านหลายแง่มุมไม่ใช่จะมีแต่เรื่องเรียนเพียง อย่างเดียว การจะเป็นแพทย์ที่เก่ง ดี และสมบูรณ์นั้นจะต้องประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลายอย่าง เช่น การเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อความสุขส่วนรวม การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และการเข้าใจผู้อื่น เป็นต้น

นักเรียนแพทย์บางคนอาจจะไม่สนใจทำกิจกรรมมากนักเพราะห่วงเรียน แต่กิจกรรมเหล่านั้นจะช่วยเติมเต็มชีวิตของความเป็นนักเรียนแพทย์ให้สมบูรณ์ แบบมากขึ้น

เพราะคนไข้ไม่ต้องการหมอที่เก่ง แต่ต้องการหมอที่เข้าใจและเห็นใจเขาเสียมากกว่า



นางสาววนิชา สิทธิปาน
นิสิตแพทย์ชั้นปีที่สอง
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย





Create Date :03 ธันวาคม 2551 Last Update :3 ธันวาคม 2551 15:13:16 น. Counter : Pageviews. Comments :0