bloggang.com mainmenu search

ไม่ใช่แค่โรค

เมื่อ 1 ปีก่อน ฉันเป็นนักศึกษาแพทย์ที่เพิ่งขึ้นปี 4 และเพิ่งขึ้น หอผู้ป่วยอายุรศาสตร์ หมาดๆ ยังไม่มีความรู้เรื่องโรคหรือการรักษานัก มีแต่ความตั้งใจเต็มเปี่ยม ฉันตั้งปณิธานไว้ว่า ฉันจะทำตัวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น

ผู้ป่วยคนแรกที่ฉันได้รับแจก เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 65 ปี มีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจและ Parkinson’s disease รับไว้ในโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังจากรับไว้ในโรงพยาบาล ป้ามีอาการซึมลง(จากโรค) ถามคำ ตอบคำ ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ อีกทั้งไม่ค่อยมีญาติมาเยี่ยม ทั้งวันป้าจึงได้แต่นอนเฉยๆ รับการรักษา และรอให้พยาบาลมาป้อนข้าว หรืออาบน้ำให้

หลายๆครั้งที่ฉันเดินผ่าน ฉันได้เข้าไปถามเผื่อจะช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆได้ “ป้าหิวน้ำมั้ย” ป้าพยักหน้า “ป้าเมื่อยรึป่าว เปลี่ยนท่ามั้ย” ป้าพยักหน้า สรุปว่าทุกครั้งที่ฉันเข้าไปเสนอ ป้าก็จะพยักหน้า ฉันเดาว่าที่ป้าไม่ได้เรียกพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น ก็เพราะทุกคนมัวทำงานกันยุ่ง ป้าเรียกไม่ทัน และเกรงใจไม่กล้าเรียก ฉันแทบจะไม่เคยได้ยินเสียงป้าเลย

หลังจากได้รับการรักษาระยะหนึ่ง ป้าอาการดีขึ้น ช่วงนี้ป้าเขยิบตัว หยิบของ ดื่มน้ำ ช่วยเหลือตัวเองพอได้แล้ว มีลูกหลานมาเยี่ยมในวันหยุด ป้าสีหน้าสดใสขึ้นมาก ฉันจึงไม่ค่อยได้เข้าไปถามไถ่เหมือนอย่างที่เคย ป้าอาการดีขึ้นจนกำลังจะออกจากโรงพยาบาล

วันหนึ่งฉันเดินผ่านเตียงป้า ป้าก็เรียก “หนูๆ” ฉันหันหลังเดินเข้าไปข้างเตียง ป้าเอื้อมมือมาจับมือฉันแล้วมองเข้าไปในตาฉัน “ป้าจะกลับบ้านแล้ว ขอบใจหนูมากนะ”

มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ฉันก็ดีใจจนน้ำตาแทบซึม ที่ฉันนักศึกษาแพทย์ตัวเล็กๆ ผู้ที่แทบจะไม่มีความสำคัญในการรักษาเลย แต่การกระทำเล็กๆของฉัน มีประโยชน์ต่อคนไข้ และทำให้คนไข้รู้สึกดี

ฉันเคยคิดว่า นักศึกษาแพทย์ มันก็แค่นักศึกษา การขึ้นไปปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยนั้น แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับคนไข้เลย ความรู้เราก็น้อย การรักษาก็ยังสั่งไม่เป็น

แต่วันนั้น ฉันมีความสุขเหลือเกิน ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นประโยชน์กับคนอื่น โดยเฉพาะคนนั้นเป็นคนไข้ของฉันเอง แล้วฉันก็รู้ว่า การเป็นประโยชน์นั้น มันไม่ได้จำกัดอยู่กับการสั่งยา หรือการทำหัตถการเท่านั้น

คำว่าองค์รวม แว่วขึ้นมาในใจฉัน ไม่ใช่แค่รักษาโรคเท่านั้น ต้องคำนึงถึงคนไข้ที่ก็เป็นคนเหมือนกับเราๆ มีจิตใจ มีความกังวล มีความต้องการเหมือนกัน ถึงแม้ว่าในตอนนี้เรายังไม่สามารถรักษาโรคได้ แต่เราก็สามารถรักษาคนได้

นักศึกษาแพทย์คนนั้นก็เลยได้เข้าใจว่า การให้ มันมีความสุขมากแค่ไหน และแม้จะผ่านมา 1 ปี เรื่องนี้ก็ยังคงประทับอยู่ในใจนักศึกษาแพทย์คนนั้นตลอดมา



นศพ.พีรฉัตร มั่งมีศรี
ศิริราช 115







ถ้าใครอ่านแล้ว สนใจ ต้องการซื้อหนังสือ ติดต่อ มูลนิธิแพทย์ชนบท ตามลิงค์นี้ได้เลยครับ ราคาเล่มละ 60 บาท 160 หน้า คุ้มค่ามาก ๆ ครับ

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=08-11-2008&group=12&gblog=1

Create Date :02 ธันวาคม 2551 Last Update :2 ธันวาคม 2551 18:36:57 น. Counter : Pageviews. Comments :0