| | นานมาแล้ว มีชายจอมตระหนี่ถี่เหนียวผู้หนึ่งต้องการจะเชิญซือฟู่ (อาจารย์) มาสอนหนังสือลูกชายที่บ้าน หลังจากเชิญมาที่บ้านสำเร็จจึงกล่าวกับซือฟู่ที่เชิญมาว่า บ้านของข้ายากจนยิ่ง เกรงว่าเมื่อเชิญท่านมาสอนแล้วอาจมีบางเรื่องขัดหูขัดตาไปบ้าง รู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง ด้านซือฟู่ที่ได้รับเชิญมาจึงกล่าวตอบว่า ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอกท่าน! ข้าเป็นคนอย่างนี้แหละ มีข้อเสียอย่างนึงคือหากมีปัญหาอะไรก็พูดคุยเจรจากันได้ ชายเจ้าบ้านเมื่อได้ยินดังนั้นก็แสดงความยินดีปรีดา กล่าวถามว่า เวลาซือฟู่มาสอน อาหารที่จะจัดใส่สำรับให้กับท่านมีแต่อาหารจำพวกพืชผัก ไม่มีเนื้อสัตว์อย่างนี้ท่านไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่? ด้านซือฟู่ก็ตอบว่า ไม่เป็นไร ชายคนดังกล่าวจึงถามต่อว่า บ้านของข้าไม่มีคนรับใช้ หากถึงเวลาต้องปัดกวาดเรือน หรือต้องเปิดปิดประตูในตอนเช้าและตอนค่ำคงต้องรบกวนซือฟู่แล้ว อย่างนี้ก็ไม่เป็นไรใช่ไหมท่าน? ด้านซือฟู่ก็ตอบว่า ไม่เป็นไร เจ้าบ้านยังถามต่อไปอีกว่า หากคนในบ้านหรือลูกของข้าต้องการซื้อเครื่องใช้ไม้สอยเล็กๆ น้อยๆ อะไร สามารถรบกวนซือฟู่ให้วิ่งหาซื้อสักหน่อยได้หรือไม่? ซือฟู่เมื่อได้ฟังก็ตอบว่า ไม่เป็นไร เมื่อถามจบสามคำถาม เจ้าบ้านจอมขี้เหนียวพอได้ยินคำตอบดังนี้ก็ยิ้มกว้างพร้อมกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ตกลงกันตามนี้แล้วกันนะท่าน! ก่อนจะจบการสนทนา ซือฟู่ก็ยกถ้วยชาขึ้นจิบ จากนั้นกระอึกกระอักกล่าวขึ้นว่า จริงๆ แล้ว ตัวข้าเองก็มีเรื่องอะไรต้องบอกกล่าวให้ชัดเจนเสียก่อน หวังว่าท่านฟังแล้วจะไม่ตื่นตระหนกตกใจ เจ้าบ้านจึงตอบไปว่า ซือฟู่มีอะไรหนักอกก็บอกกล่าวกับข้าได้ไม่ต้องเกรงใจ คุยกันได้อยู่แล้ว ซือฟู่จึงตอบไปว่า จริงๆ ข้าอยากจะสารภาพกับท่านว่า ตั้งแต่เล็กจนโตข้าไม่เคยเรียนหนังสือมาเลย ตัวหนังสือสักตัวก็ไม่รู้ อย่างนี้ไม่เป็นไรใช่ไหมท่าน? เรียบเรียงจาก 《一笑》โดย อี๋เยี่ยว์ (俞樾), ราชวงศ์ชิง ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
|