นานมาแล้ว มีขุนนางกังฉินแซ่หม่าผู้หนึ่ง มีพฤติกรรมชอบรีดนาทาเร้นชาวบ้านร้านช่องอยู่เป็นนิจ ไม่ว่าจะไปรับตำแหน่ง ณ ท้องที่ใด ชาวบ้านต่างก่นด่าสาปแช่ง ครั้งหนึ่ง ณ เมืองอันห่างไกล ขุนนางแซ่หม่ากำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งลง ด้วยความที่เป็นกังวลว่าจะหอบเอาของที่รีดไถมากลับไปได้ไม่ครบ จึงสั่งให้คนรับใช้นำของทั้งหมดมาได้วางเรียงเพื่อเก็บใส่ถุง ใส่กล่อง ใส่หีบ เตรียมออกเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อเห็นว่าสัมภาระที่ตนกอบโกยมาได้ยังไม่เพียงพอ จึงสั่งให้คนงานขุดดินในบริเวณจวนที่พัก และพื้นที่โดยรอบไปขายเอาเงินมาเข้ากระเป๋าตนเองเพิ่มเติมอีก เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง ขุนนางแซ่หม่า ก็ตั้งขบวนออกจากประตูเมือง พอขี่ม้าพ้นประตูเมืองออกไป กลับพบว่าสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไม่มีชาวบ้านคนใดออกมาตั้งแถวส่งตนตามธรรมเนียมเลยสักคน ขณะที่ขุนนางแซ่หม่ากำลังรู้สึกขุ่นข้องหมองใจ เตรียมระเบิดอารมณ์อยู่นั้นเอง กลับมีลมพัดมาวูบใหญ่ ทันใดนั้นก็ปรากฎผู้คนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมายังขบวน สังเกตว่าในมือของทุกคนต่างถือผลหมากรากไม้ และขนมนมเนยมาเต็มมือ ขุนนางแซ่หม่าเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ พลางเอ่ยถามคนกลุ่มดังกล่าวขึ้นว่า พวกเจ้าเป็นใครน่ะ เหตุใดจึงออกมาตั้งขบวนส่งข้า? หัวขบวนของคนกลุ่มนั้นจึงรีบตอบกลับมาว่า พวกข้าเป็นผีร้ายประจำท้องถิ่น ต่างติดหนี้บุญคุณของใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่จนมิอาจทดแทนได้หมด พวกเราต้องขอบคุณใต้เท้าที่สั่งให้คนขุดดินในเมืองไปขายเสียจนเกลี้ยง ขุดจนถึงขุมนรกชั้น 18 ที่พวกข้าน้อยอาศัยอยู่ ทำให้พวกข้าได้มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน ด้วยความซาบซึ้ง วันนี้ข้าน้อยจึงตั้งขบวนมาส่งใต้เท้าโดยพร้อมเพรียง" เรียบเรียงจาก 《嘻谈录》โดย เสี่ยวสือเต้าเหริน (小石道人), ราชวงศ์ชิง ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
|