"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
เมื่อเหยียนหุยลาขงจื้อไปปะทรราช

 

เหยียนหุยเข้าไปหาขงจื่อ และได้ขออนุญาตออกเดินทางไปยังแคว้นเว่ย
       
       “เจ้าจะไปทำอะไรที่นั่นรึ?”
       
       “ข้าฯได้ยินมาว่าเจ้าครองแคว้นเว่ยยังเยาว์วัยมาก เขากระทำการต่างๆตามอำเภอใจ ไม่เคยคิดใคร่ครวญถึงการปกครองบ้านเมือง และไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเอง เขาไม่รู้สึกใดๆต่อการนำพาประชาชนของเขาไปสู่หายนะ


ประชาชนถูกเกณฑ์เข้าสู่สงครามล้มตายเกลื่อนมากมายราวเศษหญ้าวัชพืชกองมหึมาถูกทึ้งถอนทิ้ง ประชาชนของเขาไร้แห่งที่จะบ่ายหน้าไปพึ่งพิง ข้าฯได้ฟังคำสั่งสอนของท่านอาจารย์

 
“จงผละจากแผ่นดินที่อยู่ในระเบียบดีแล้ว มุ่งสู่แผ่นดินที่ตกอยู่ในวิกฤตจราจล! ผู้บาดเจ็บป่วยไข้เนื่องแน่นตามประตูบ้านหมอ” ข้าฯได้ยึดถือคำเหล่านี้ เป็นมาตรฐาน และหวังว่าข้าฯจะสามารถฟื้นฟูแผ่นดินของเขาสู่ความเข้มแข็ง”

       
       “อา” ขงจื่ออุทาน “เมื่อเจ้าไปที่นั่น ก็มีแต่จะถูกประหาร เต๋าไม่อาจมีสิ่งใดเข้ามาผสมปนเป เมื่อมันถูกผสมปนเป ก็จะแตกแยกซับซ้อน จากนั้น ก็จะเกิดความวุ่นวาย ไปถึงความวิตกที่ไม่อาจเยียวยา!

มนุษย์ที่แท้แห่งบุราณกาล จักต้องแน่ใจเสียก่อนว่าเขาได้เข้าถึงมรรคา*อย่างมั่นคงแล้ว จากนั้น จึงพยายามหยิบยื่นมันให้แก่ผู้อื่น เมื่อท่านยังไม่แม้กระทั่งแน่ใจว่าท่านได้เข้าถึงสิ่งใด ท่านจะเข้าไปเผชิญหน้ากับทรราชหยาบช้าได้อย่างไร?

       
       “เจ้ารู้หรือไม่ว่าอะไรที่ทำลายคุณธรรม และความรู้มาจากไหน? คุณธรรมนั้น ถูกทำลายด้วยชื่อเสียง และความรู้นั้น เกิดจากการแก่งแย่งแข่งขัน ชื่อเสียงเป็นสิ่งซึ่งอาจทำลายมนุษย์ และความรู้ก็เป็นเครื่องมือสำหรับการแข่งขัน

ทั้งสองสิ่งนี้ ต่างเป็นเครื่องมือของปิศาจ ไม่ใช่สิ่งซึ่งจะนำพาเจ้าไปสู่การบรรลุผล แม้คุณธรรมของเจ้าอาจจะยิ่งใหญ่ และศรัทธาที่ดีงามของเจ้าไม่อาจสั่นคลอน หากเจ้าไม่เข้าใจจิตของมนุษย์ แม้ชื่อเสียงของเจ้าขจรไกลและก็ไม่ได้คิดต่อต้านผู้อื่น

หากเจ้าไม่เข้าถึงหัวใจมนุษย์ แต่กลับไปปรากฏกายต่อหน้าทรราช และพยายามกดดันให้เขายอมรับกฎกรอบจริยธรรม พิจารณา และสร้างมาตรฐาน นี่เป็นเพียงการใช้จุดที่เลวร้ายของมนุษย์ เพื่อแสดงความเลิศเลอของตัวเองเท่านั้น เจ้าอาจถูกกล่าวขานเป็นภัยพิบัติต่อผู้อื่น และอาจถูกทำลายพินาศโดยคนผู้นี้
       

       “เจ้าควรเตือนตัวเองเป็นดีที่สุด! บรรดากษัตริย์และขุนนางมักเสนอสิ่งต่างๆแก่ผู้คนและต่อสู้กันเพื่อชิงชัยชนะ เจ้าจะพบว่านัยน์ตาของเจ้ายิ่งพร่ามัว สีหน้าเปลี่ยนไป ปากพยายามเผยออ้าเพื่อกล่าวคำขออภัย

ทัศนะของเจ้าก็จะยิ่งอ่อนลง กระทั่งจิตใจของท่านยอมตามเขาไปในที่สุด นี่คือการนำไฟเข้าสุมไฟ ใช้น้ำสาดน้ำ และนี่เรียกว่า ยิ่งเพิ่มพูนความล้นเกิน หากเจ้าเริ่มต้นเช่นนี้ ก็จะไม่มีที่สิ้นสุด หากคำแนะนำอันเร่าร้อนของเจ้าไม่ได้รับความเชื่อถือ เจ้าก็จะมีแต่มุ่งสู่ความหายนะ
     
  
       “อย่างไรก็ตาม เจ้าอาจมีแผนการอยู่ในใจ มาสิ บอกแผนการของเจ้ามา”
       
       “เหยียนหุยกล่าวว่า “หากข้าฯจริงจังและทำจิตใจให้ว่างเปล่า มุมานะ และแน่วแน่ จะสำริดผลไหม?”
       
       โอ! วิธีนั้นจะสำริดผลได้อย่างไร? ภายนอกเจ้าอาจแสดงตัวได้ดีเยี่ยม แต่เจ้าจะไม่อาจกลบเกลื่อนสีหน้าที่ฉายความหวั่นไหว ผู้คนทั่วไปล้วนไม่อาจต้านทานเขา ท่านพยายามโน้มน้าวจิตใจเขา ทว่า สำหรับเขาแล้ว แม้การบรรลุคุณธรรมเพียงวันละเล็กน้อย ก็ไม่เป็นผล

อย่าว่าแต่การแสดงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่เลย! เขาจะรีบรุกกุมอำนาจของตัวเองไว้อย่างทันทีทันใดและไม่มีวันถอย แม้ภายนอกเขาจะแสดงท่าทีเห็นด้วย แต่ภายในหายอมรับไม่! วิธีการเข้าหาเช่นนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?
      
 
       “เอาล่ะ อย่างนั้น หากภายในข้าฯเที่ยงตรง ส่วนภายนอกยืดหยุ่น และปฏิบัติตามแบบอย่างของโบราณกาล ด้วยการกำหนดภายในเที่ยงตรง ข้าฯก็จะเป็นสหายแห่งฟ้า ด้วยการเป็นสหายแห่งฟ้า

ข้ารู้ว่าโอรสแห่งฟ้าและข้าฯต่างก็เป็นบุตรแห่งฟ้าเช่นกัน เช่นนี้แล้ว ไฉนข้าฯจะใช้คำพูดของข้าฯโน้มน้าวให้ผู้อื่นสรรเสริญข้าฯ? หรือพยายามเพื่อไม่ให้พวกเขาสรรเสริญข้าฯ? คนเยี่ยงนี้ ประชาชนเรียกว่าเด็กน้อย นี่คือสิ่งที่ข้าฯหมายถึงการเป็นสหายแห่งฟ้า
     
  
       “การกำหนดภายนอกยืดหยุ่น ข้าฯก็จะเป็นสหายแห่งมนุษย์ ถือสมุดบันทึกราชโองการ คุกเข่า โค้งคำนับ หมอบคลาน นี่คือมารยาทของมุขมนตรี ทุกคนล้วนปฏิบัติเช่นนี้ หากข้าฯทำตามแบบอย่างที่ผู้อื่นทำ พวกเขาก็ไม่อาจตำหนิข้าฯ นี่คือสิ่งที่ข้าฯหมายถึงสหายแห่งมนุษย์”
     
  
       “การปฏิบัติตามแบบอย่างโบราณกาล ข้าฯก็อาจเป็นสหายแห่งโบราณกาล แม้คำพูดที่ข้าฯกล่าวไปนั้น อาจเป็นบทเรียนและคำตำหนิ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นของโบราณกาล มิใช่ของข้าฯ ด้วยวิธีดังกล่าว แม้ข้าฯอาจตรงทื่อ แต่ก็ไม่อาจถูกตำหนิ นี่คือสิ่งที่ข้าฯหมายถึงการเป็นสหายแห่งโบราณกาล วิธีการนี้ จะบรรลุผลไหม?”
  
     
       ขงจื่อกล่าวว่า “โอ! วิธีการเช่นนั้น จะบรรลุผลได้อย่างไร?” เจ้าฯมีอุบายและแผนการมากมาย และเจ้าไม่เห็นว่าอะไรเป็นสิ่งจำเป็น เจ้าอาจเข้าหาอย่างตรงทื่อ และรอดพ้นจากการถูกตำหนิ ใช่ แต่นั่นก็ดำเนินไปได้เพียงแค่นั้น ท่านคิดว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้อย่างไร? ท่านยังคงใช้ความคิดที่ปรุงแต่งของท่านเป็นครู!”

       
       เหยียนหุยกล่าว “ข้าฯไม่มีอะไรจะเสนอแล้ว และขอเรียนถามถึงวิธีที่เหมาะสม?”
       
       “เจ้าต้องถือบวช!” ขงจื่อชี้แนะ

       
       เหยียนหุยโต้ตอบว่า “ครอบครัวของข้าฯยากจนนัก ข้าฯไม่ได้กินอาหารดีๆ ไม่ได้ดื่มสุราเป็นเวลาหลายเดือน นี่ ไม่อาจถือได้ว่าข้าฯถือศีลบวชดอกหรือ?”

       
       “นี่คือการถือศีลบวชสำหรับพิธีกรรม ไม่ใช่การถือศีลบวชใจ”
       
       “ข้าฯขอถามเกี่ยวกับการบวชใจ?”
       
       “ตั้งมั่นในความเป็นหนึ่งเดียว! ไม่ฟังด้วยหู ฟังด้วยใจ ไม่สิ ไม่ฟังด้วยใจ แต่ฟังด้วยพลังปราณ การฟังถูกจำกัดด้วยหู จิตใจถูกจำกัดด้วยการยอมรับ แต่จิตวิญญาณนั้น ว่างเปล่า รอรับทุกสิ่ง มรรคาผนึกรวมอยู่ในความว่างเปล่าเท่านั้น ความว่างเปล่าคือการถือศีลบวชใจ”

       
       “เหยียนหุยกล่าวว่า “ก่อนที่ข้าฯจะได้ยินเรื่องนี้ ข้าเชื่อว่าข้าฯคือหุย แต่ตอนนี้ ข้าฯได้ยินเรื่องนี้แล้ว ไม่มีหุยอีกต่อไป นี่เรียกว่าความว่างหรือไม่?”
   
    
       “ถูกต้อง” ขงจื่อตอบ “ข้าฯจะบอกความหมายแก่เจ้าในบัดนี้ เจ้าสามารถไปยังแคว้นเว่ย และร่วมเล่นเกมกับเขา แต่อย่าได้หลงไปกับชื่อเสียง หากเขาฟัง เจ้าก็จงพูด หากไม่ ก็จงนิ่งเฉยเสีย ปิดประตู ปิดช่องเปิดรับ สร้างความเป็นหนึ่งเดียวเป็นเรือน และอาศัยอยู่กับสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงเท่านั้น เช่นนี้แล้ว เจ้าก็จะเข้าใกล้ความสำเร็จ
   
    
       “เป็นเรื่องง่ายดายที่จะไม่เดิน สิ่งที่ยากคือการเดินโดยไม่สัมผัสพื้นดิน เป็นเรื่องง่ายดายที่จะเข้าสู่การหลอกลวงเมื่อทำงานเพื่อมนุษย์ แต่เป็นเรื่องยากที่จะถลำสู่การหลอกลวงเมื่อทำงานเพื่อฟ้า เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับการบินด้วยปีก

แต่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับการบินโดยไร้ปีก เจ้าเคยได้ยินผู้รู้ที่รู้ แต่เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับผู้รู้ที่ไม่รู้ มองไปยังห้องที่ว่างเปล่านั้นสิ มีเพียงห้องที่ว่างเปล่า แสงสว่างเรืองรองจึงอาจกำเนิดฉายโชนออกมา! โชคและพรนานาต่างมุ่งสู่ที่ซึ่งมีความนิ่ง

แต่หากเจ้าไม่อาจนิ่ง นี่เรียกว่าการนั่งแต่กลับวิ่งวุ่นไปรอบๆ? ปล่อยให้หูและนัยน์ตาสื่อสารกับภายใน และวางจิตใจและความรู้อยู่ภายนอก เช่นนี้แล้ว แม้แต่พระเจ้าและภูตผีวิญญาณก็จะมุ่งมาอาศัยพักพิง อย่าว่าแต่คนเลย!

นี่คือการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง เป็นสายสัมพันธ์ระหว่างอีว์และซุน* เป็นหลักปฏิบัติอันเป็นนิจนิรันดร์ของฝูซีและจีฉีว์? สำหรับผู้คนทั่วไป ยังจะต้องมีกฎเกณฑ์อะไรมากไปกว่านี้อีกหรือ
       
       
แปลเก็บความจาก The Complete Works of Chuang Tzu translated by Burton Watson บทที่ 4
       

       ขงจื้อ คือขงจื่อในสำเนียงภาษาจีนกลาง
       

       * มรรคา หมายถึงเต๋าแห่งสำนักปรัชญาความเชื่อจีน
       
       *อีว์: เมธีกษัตริย์ ในตำนานจีน ถือเป็นปฐมกษัตริย์ในราชวงศ์เซี่ย
       
       *ซุน: เมธีกษัตริย์ในตำนานจีนยุคก่อนประวัติศาสตร์
       
       ในตำนานจีนช่วงนี้ มีคำเล่าขานในประวัติศาสตร์โบราณว่า หัวหน้าชนเผ่าซึ่งมีฐานะเทียบได้กับกษัตริย์ในตำนานก่อนยุคราชวงศ์เซี่ยนั้น อยู่ในสังคมที่นักโบราณคดีเรียกกันว่า สังคมเอกภาพยุคดังกล่าว

มีเหยา (尧)ผู้สืบทอดให้แก่ซุ่น (舜)
จากนั้น ซุ่นก็สืบทอดให้หวี่ (禹) หวี่สืบทอดให้เกาเถา (皋陶)และเมื่อเกาเถาตายลง อี้(益)ซึ่งได้รับเลือกเป็นทายาทสืบตำแหน่งหัวหน้าก็จะทำหน้าที่นำเผ่าต่อ หัวหน้าเผ่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใดเลย

 
พวกเขาต่างได้รับเลือกจากความสามารถแท้ๆ โดยทางประวัติศาสตร์แล้วเราเรียกวิธีปฏิบัติเช่นนี้ว่า “การสละบัลลังก์” ซึ่งยุคนี้ผู้คนยังมีความเท่าเทียมกัน ทรัพย์สินทั้งหมดถือเป็นของส่วนกลาง ดังนั้นจึงไม่มีการแย่งชิงและโจรผู้ร้าย
       

       ฝูซี: หนึ่งในสามเทพกษัตริย์โบราณจีนยุคก่อนประวัติศาสตร์ สามารถควบคุมสัตว์โลกทั้งปวงให้อยู่ในระเบียบ นับเป็นผู้กำกับโลกและจักรวาล
       
       

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ



Create Date : 25 มีนาคม 2555
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 22:58:58 น. 0 comments
Counter : 754 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.