|
==เดินทางไกลไปตามฝัน==2=
หลังจากภาคแรก เห็นหลายคนเตรียมเก็บกระเป๋า เดินทางไปกับเราด้วย มาม๊ะ ถึงเวลาเข้าเครื่องแล้ว มาต่อกันเลยดีกว่า ฉันมองไปรอบ ๆ เห็นมีแต่ฝรั่ง กับพวกคนเกาหลี สอดส่องสายตาก้ไม่ยักกะเห็นคนไทยเลยอ่ะ หรือมีแต่เค๊าไม่สนใจ ใครเป็นใคร ฉันก็ต่อแถว ยื่นตั๋วเครื่องบินให้พนักงานต้อนรับ แล้วเดินหาที่นั่ง ที่มีอยู่ใน Bording Pass เออ..ได้นั่งตรงหน้าต่าง และได้แถวที่นั่งแค่สองคน สมายหน่อย แต่กังวลอีกแหละ จะมีใครมานั่งข้างเราหว่า...ผู้ชายหรือผู้หญิง ....คิดไปคิดมาถ้าเป็นผู้ชาย เราจะนอนหลับรึเปล่าว๊ะเนี่ย และแล้วความสงสัยของฉันก็หมดลง ตรงที่มีสาวฝรั่ง มานั่งกับฉัน และเธอก็ Hello กับฉัน ฉันก็ HI ตอบไปแล้วก็ส่งยิ้มหวานตามไป เป็นอันว่ารอบนี้สบายฉัน คราวนี้ฉันคงนอนหลับอย่างสบายได้ แต่ก็เพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นน๊ะ เพราะเวลาบินจาก ดอนเมือง ถึงสนามบินโซลเนี่ย ใช้เวลา เพียง 5 ชั่วโมงเอง เครื่องบินที่ฉันนั่ง ออกเวลาประมาณ เกือบตีหนึ่งได้ ทันทีที่เครื่องบินเคลื่อน ฉันก็คิดอีกแล้ว คิดถึงแม่ คิดถึงเพื่อน คิดว่าเราจะไปไหน ไปทำไม คิดวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ฉันก็ได้หลับไปด้วยความที่ง่วงนอน ตื่นมาอีกทีตอนที่ พนักงานต้อนรับบนเครื่องเปิดไฟ เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวทานอาหาร ซึ่งคงเป็นตอนเช้าแล้ว ก่อนเครื่องลง มีอาหารเช้ามาให้ ฉันนึกในใจ ยังไม่หิวเลย แต่ก้คิดอีกที เออ กินบนเครื่องดีกว่า เพราะว่าถ้าไปหาอะไรกินที่สนามบินเนี่ย ตูจะสั่งอะไรกิน และสั่งยังงัย เรื่องภาษาอังกฤษ ที่ไม่เอาไหนของหล่อนเนี่ย คงไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย เป็นอันว่าฉันได้หม่ำอาหารบนเครื่องบิน ซะหมดเกลี้ยงเลย จำได้ว่าเป็นข้าว และมีปลานึ่งเหมือนนึ่งซีอิ้ว แต่ขอบอกอร่อยน๊ะ จากนั้น พนักงานก็เอาแผ่นอะไรมาให้กรอก คงจะเป็นเอกสารที่ก่อนจะเข้าประเทศเกาหลีแน่ ๆ แต่ฉันไม่ได้เข้าเกาหลีนี่นา ฉันเลยไม่ได้กรอก เพราะเพื่อนบอกไว้ว่าไม่ได้เข้าประเทศเกาหลีไม่ต้องกรอก เวลาประมาณ 7.00 น. เครื่องแตะพื้น ฉันมาถึงเกาหลีแล้ว....ในหัวสมองฉันเนี่ยคิดอีกแล้ว ทีนี้ฉันจะทำอย่างไรกับการออกจากเครื่องบินแล้วไปทางไหน ฉันต้องไปรอต่อเครื่องนี่นา ความคิดก็ผุดขึ้นมาแล้ว ก้จะไปยากอารายล่ะ หล่อนก็ เดินตามพวกฝรั่งไปก็เท่านั้น คิดว่าพวกเขาคงกลับอเมริกาก็แล้วกัน ส่วนใหญ่ก้มาต่อเครื่องบินกันเหมือนเรา ก็ทำใจดีสู้เสือ รีบหิ้วเป้คู่ใจ...แล้วมองหาฝรั่งที่จะเดินตามกันไป แหม จะอาศัยสาวฝรั่งข้าง ๆ ซักหน่อย เจ้าหล่อนเดินตัวปลิว หายไปเร็วจัง ไม่เป็นไรว๊ะ ฝรั่งคนอื่นก็มีนี่ห่ว่า ว่าแล้วฉันก้เดินตามฝรั่งกลุ่มหนึ่ง แบบว่าไม่ละสายตา เค๊าเดินออกมาซักพักก็จะมีเจ้าหน้า ที่ แล้วก็มีป้าย เดาเอาว่าคงเป็นป้ายบอกทางสำหรับคนที่จะต่อเครื่อง และคนที่จะเข้าประเทศเกาหลี ฉันเดินมาถึงพนักงาน ก็เอาตั๋วให้ให้พนักงานดู เอาเป็นที่แน่นอนดีกว่า กลัวจะเดินทางผิด ซวยเลยซิเรา แล้วพนักงานก็ชี้ทางให้เราเดินไ ปทางที่เราต้องต่อเครื่อง มองไปก็เป็น เคาเตอร์ เห็นพวกฝรั่งยืนต่อแถวกัน อีกฝั่งเป็นพวกที่เข้าแถวคาดว่าคงเข้าเกาหลี เอาว๊ะ ต่อแถวพวกฝรั่งเนี่ยแหละ ผิดงัยพนักงานสายการบินคงบอกเราเองแหละ มีเวลาอีกหลายชั่วโมง...แล้วฉันก็ได้ Bording Pass อันใหม่มา แล้วพนักงานนก็บอกว่าให้เดินลงบันไดไป แล้วไปที่ เกรด 27 หมายถึงว่า ฉันไม่ตกเครื่องแล้ว ฉันก็ไม่รอช้า ไม่รออะไรแล้ว รีบเดินไปที่ ประตู หมายเลข 27 ทันที เหมือนว่ากลัวว่ามันจะหายไปไหนซะงั้น...
แล้วฉันก็มาถึงประตู ที่ 27 สนามบินนี้กว้างมาก ฉันกลัวหลง เลยไม่เดินไปไหนไกล เพราะมาคนเดียว เห็นหลาย ๆ คน นอนเอกเขนกบนโต๊ะที่นั่ง ซึ่งมีมากมาย บางคนก็หลับ บางคนก็นั่งอ่านหนังสือ บางคนก็กินแฮมเบอร์เกอร์ ดีที่ฉันฟาดอาหารบนเครื่องบินมาก่อนแล้ว เพราะกลัวจะหาซื้อของกินไม่ได้ เพราะไอ้ภาษาอังกฤษของฉันมันไม่แข็งแรง อากาศที่กรุงโซลหนาวมาก แต่ ที่สนามบิน เค๊ามีฮีสเตอร์ทำความอบอุ่นเลยรู้สึกสบาย ฉันหนีบหนังสือมาอ่านด้วย แต่ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองคนโน้นที คนนี้ที มันจะไปไหนกันนักหนาว๊ะเนี่ย คิดในใจ แล้วหล่อนล๋ะย๊ะ จะไปไหน ถามตัวเองอีกแล้ว ไม่เอาดีกว่าคิดฟุ้งซ่านอีกและเรา หาที่โทรศัพท์ดีกว่า อยากโทรบอกแม่ว่าถึงเกาหลีแล้ว พอดีมีพิณโค๊ต ไม่ต้องใช้เหรียญ หรือใช้การ์ด
ที่สนามบินมีโทรศัพท์ให้ใช้มากมาย ที่สำคัญ หน้าตามันไม่เหมือนโทรศัพท์บ่านเราเลยอ่ะ มันดูไฮเทค เหลือกำลัง แล้วมีหน้าจอเหมือนคอมพิวเตอร์เลยน๊ะ แล้วนี่ตูจะกดยังงัยหว่า ลองเข้าไปที่เครื่องหนึ่ง ยกหูขึ้นมา ดันเป็นภาษาเกาหลี พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย ตายละหว่าทำงัยดีล่ะ โทรไม่เป็น แงแงแง งงว่ะ ลองแล้วลองอีกก็ไม่ได้ซักที ทีนี้ก็เลยแอบนั่งดูคนที่เดินมาโทรเค๊าทำกันวิธีไหน จะได้จำเอามาโทรมั่ง แต่ว่าโอ้โห คนหนึ่งใช้เหรียญโทร บางคนใช้การ์ดรูด บางคนยกหูเฉย ๆ แล้วกดอะไรไม่รู้ ดูยังงัยก็ยังใช้ไม่เป็นอยู่ดี จนเวลาล่วงเลยซัก ครึ่งชั่วโมงได้มั้ง หมดไฟที่จะโทรแล้ว นั่งอ่านหนังสือดีกว่า ค่อยโทรทีหลังก็ได้ว๋ะ นั่งไปนั่งมา อยากโทรศัพท์อีกแล๊ะ..... คิด...คิดซิ จะทำงัยดี ก็เดินเรื่อย ๆ เปื่อย.... มาถึงตรงประชาสัมพันธ์สาวสวยหน้าหวาน นั่งทำงานอยู่คนเดียว ไม่มีคนอื่นด้วย เลยคิดว่าเอาน๊ะ คงช่วยเราได้มั่งแหละว๊า.... นั่งเรียบเรียงคำพูดภาษาอังกฤษ อยู่ตั้งนาน กว่าจะได้ความกล้า เดินไปหาเธอ แล้วก็ บอกว่า เราต้องการจะใช้โทรศัพท์ และก้มีพิณโค๊ต...แต่ทำไม่เป็น เธอใจดียิ้มหวาน แล้วหาเศษกระดาษมาเขียน เป็นขั้นตอน หนึ่งกดอะไร สองกดอะไร แล้วหันมามองหน้าฉัน เห็นหน้าตาของฉันคงจะแบบว่า วันนี้ถ้าปล่อยฉันให้โทรเอง คงไม่ได้เรื่องแน่ ๆ หน้าฉันคงเป็นแบบนี้มั้ง 555555 เธอเลยลุกขึ้น แล้วก็พาฉันมาที่เครื่องโทรศัพท์ แล้วก็บอกขั้นตอนอย่างช้า ๆ ว่าทำยังงัย โอ้...โห....มันหลายขั้นตอนจิง จิงวุ๊ย.... แต่สุดท้ายฉันก็โทรได้ โทรหาแม่ก่อนเพื่อน หลังจากนั้นฉันก็ยืนโทรศัพท์....หาคนโน้น...หาคนนี้...... สุดท้ายฉันก็โทรหาโจอี้ ซึ่งป่านนี้ชะเง้อ คอยาว จาก Houston ถึง Dallas แล้วละมั๊ง จนเกือบได้เวลาเครื่องออก จึงเลิกโทรศัพท์ เตรียมตัวเข้าแถวกับพวกฝรั่ง เพื่อเข้าไปเครื่องบินเพื่อเดินทางไปถึงเอมริกา ต่อจากนี้ไปก้นั่งเครื่องยาว.................วววววว อีก เกือบ 20 ชั่วโมง คิดเอาเองน๊ะ มันทรมาณแค่ไหน
แต่ที่แน่ ๆ อีก 20 ชั่วโมงข้างหน้า มันเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันทั้งชีวิต.....และฉันจะได้พบกับ โจอี้ ผู้ชายที่ฉัน คิดว่าชีวิตที่เหลือฉันคงจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ ถึงจะมีเชื้อชาติ สัญชาติ ที่แตกต่างกัน แต่ฉันเป็นคนเดินหน้าแล้วไม่คิดถอยหลัง วันหน้าต้องดีกว่าวันนี้ซิน่า จริงม๊ะท่านผู้ชม เรื่องราวยังมีต่อน๊า........ถ้ายังไม่เบื่อก็ติดตามอ่านได้ในตอนต่อไปจ๊า.....
>==Tukata==
Create Date : 06 กรกฎาคม 2548 |
|
8 comments |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2548 4:37:19 น. |
Counter : 784 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: zaesun 6 กรกฎาคม 2548 18:47:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: yadegari 6 กรกฎาคม 2548 20:02:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: oneni 6 กรกฎาคม 2548 22:43:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: homosexual IP: 58.9.39.15 14 มีนาคม 2550 16:24:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ann IP: 65.65.151.242 28 กันยายน 2552 8:40:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เราทานไม่ค่อยได้เลย มันเหม็น เมื่อก่อนก็ไม่เป็นหรอกคะ
แต่มีช่วงหนึ่งตอนที่ทำงานที่เมืองไทย ต้องเดินทางบ่อย จากคนไม่เมาเครื่องบิน กลายเป็นคนเมาเครื่องบินไปเลย
อาหารของเขาก็ทานไม่ได้ ต้องเตรียมอาหารส่วนตัวไปเอง เช่น สลัด มาม่า... ประมาณเนี่ย