Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 

==เดินทางไกลไปตามฝัน==2=



หลังจากภาคแรก เห็นหลายคนเตรียมเก็บกระเป๋า เดินทางไปกับเราด้วย มาม๊ะ ถึงเวลาเข้าเครื่องแล้ว มาต่อกันเลยดีกว่า
ฉันมองไปรอบ ๆ เห็นมีแต่ฝรั่ง กับพวกคนเกาหลี สอดส่องสายตาก้ไม่ยักกะเห็นคนไทยเลยอ่ะ หรือมีแต่เค๊าไม่สนใจ ใครเป็นใคร ฉันก็ต่อแถว ยื่นตั๋วเครื่องบินให้พนักงานต้อนรับ แล้วเดินหาที่นั่ง ที่มีอยู่ใน Bording Pass เออ..ได้นั่งตรงหน้าต่าง และได้แถวที่นั่งแค่สองคน สมายหน่อย แต่กังวลอีกแหละ จะมีใครมานั่งข้างเราหว่า...ผู้ชายหรือผู้หญิง ....คิดไปคิดมาถ้าเป็นผู้ชาย เราจะนอนหลับรึเปล่าว๊ะเนี่ย และแล้วความสงสัยของฉันก็หมดลง ตรงที่มีสาวฝรั่ง มานั่งกับฉัน และเธอก็ Hello กับฉัน ฉันก็ HI ตอบไปแล้วก็ส่งยิ้มหวานตามไป เป็นอันว่ารอบนี้สบายฉัน คราวนี้ฉันคงนอนหลับอย่างสบายได้ แต่ก็เพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นน๊ะ เพราะเวลาบินจาก ดอนเมือง ถึงสนามบินโซลเนี่ย ใช้เวลา เพียง 5 ชั่วโมงเอง เครื่องบินที่ฉันนั่ง ออกเวลาประมาณ เกือบตีหนึ่งได้ ทันทีที่เครื่องบินเคลื่อน ฉันก็คิดอีกแล้ว คิดถึงแม่ คิดถึงเพื่อน คิดว่าเราจะไปไหน ไปทำไม คิดวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ฉันก็ได้หลับไปด้วยความที่ง่วงนอน
ตื่นมาอีกทีตอนที่ พนักงานต้อนรับบนเครื่องเปิดไฟ เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวทานอาหาร ซึ่งคงเป็นตอนเช้าแล้ว ก่อนเครื่องลง มีอาหารเช้ามาให้ ฉันนึกในใจ ยังไม่หิวเลย แต่ก้คิดอีกที เออ กินบนเครื่องดีกว่า เพราะว่าถ้าไปหาอะไรกินที่สนามบินเนี่ย ตูจะสั่งอะไรกิน และสั่งยังงัย เรื่องภาษาอังกฤษ ที่ไม่เอาไหนของหล่อนเนี่ย คงไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย เป็นอันว่าฉันได้หม่ำอาหารบนเครื่องบิน ซะหมดเกลี้ยงเลย จำได้ว่าเป็นข้าว และมีปลานึ่งเหมือนนึ่งซีอิ้ว แต่ขอบอกอร่อยน๊ะ จากนั้น พนักงานก็เอาแผ่นอะไรมาให้กรอก คงจะเป็นเอกสารที่ก่อนจะเข้าประเทศเกาหลีแน่ ๆ แต่ฉันไม่ได้เข้าเกาหลีนี่นา ฉันเลยไม่ได้กรอก เพราะเพื่อนบอกไว้ว่าไม่ได้เข้าประเทศเกาหลีไม่ต้องกรอก
เวลาประมาณ 7.00 น. เครื่องแตะพื้น ฉันมาถึงเกาหลีแล้ว....ในหัวสมองฉันเนี่ยคิดอีกแล้ว ทีนี้ฉันจะทำอย่างไรกับการออกจากเครื่องบินแล้วไปทางไหน ฉันต้องไปรอต่อเครื่องนี่นา ความคิดก็ผุดขึ้นมาแล้ว ก้จะไปยากอารายล่ะ หล่อนก็ เดินตามพวกฝรั่งไปก็เท่านั้น คิดว่าพวกเขาคงกลับอเมริกาก็แล้วกัน ส่วนใหญ่ก้มาต่อเครื่องบินกันเหมือนเรา ก็ทำใจดีสู้เสือ รีบหิ้วเป้คู่ใจ...แล้วมองหาฝรั่งที่จะเดินตามกันไป แหม จะอาศัยสาวฝรั่งข้าง ๆ ซักหน่อย เจ้าหล่อนเดินตัวปลิว หายไปเร็วจัง ไม่เป็นไรว๊ะ ฝรั่งคนอื่นก็มีนี่ห่ว่า ว่าแล้วฉันก้เดินตามฝรั่งกลุ่มหนึ่ง แบบว่าไม่ละสายตา เค๊าเดินออกมาซักพักก็จะมีเจ้าหน้า ที่ แล้วก็มีป้าย เดาเอาว่าคงเป็นป้ายบอกทางสำหรับคนที่จะต่อเครื่อง และคนที่จะเข้าประเทศเกาหลี ฉันเดินมาถึงพนักงาน ก็เอาตั๋วให้ให้พนักงานดู เอาเป็นที่แน่นอนดีกว่า กลัวจะเดินทางผิด ซวยเลยซิเรา แล้วพนักงานก็ชี้ทางให้เราเดินไ ปทางที่เราต้องต่อเครื่อง มองไปก็เป็น เคาเตอร์ เห็นพวกฝรั่งยืนต่อแถวกัน อีกฝั่งเป็นพวกที่เข้าแถวคาดว่าคงเข้าเกาหลี เอาว๊ะ ต่อแถวพวกฝรั่งเนี่ยแหละ ผิดงัยพนักงานสายการบินคงบอกเราเองแหละ มีเวลาอีกหลายชั่วโมง...แล้วฉันก็ได้ Bording Pass อันใหม่มา แล้วพนักงานนก็บอกว่าให้เดินลงบันไดไป แล้วไปที่ เกรด 27 หมายถึงว่า ฉันไม่ตกเครื่องแล้ว ฉันก็ไม่รอช้า ไม่รออะไรแล้ว รีบเดินไปที่ ประตู หมายเลข 27 ทันที เหมือนว่ากลัวว่ามันจะหายไปไหนซะงั้น...

แล้วฉันก็มาถึงประตู ที่ 27 สนามบินนี้กว้างมาก ฉันกลัวหลง เลยไม่เดินไปไหนไกล เพราะมาคนเดียว เห็นหลาย ๆ คน นอนเอกเขนกบนโต๊ะที่นั่ง ซึ่งมีมากมาย บางคนก็หลับ บางคนก็นั่งอ่านหนังสือ บางคนก็กินแฮมเบอร์เกอร์ ดีที่ฉันฟาดอาหารบนเครื่องบินมาก่อนแล้ว เพราะกลัวจะหาซื้อของกินไม่ได้ เพราะไอ้ภาษาอังกฤษของฉันมันไม่แข็งแรง อากาศที่กรุงโซลหนาวมาก แต่ ที่สนามบิน เค๊ามีฮีสเตอร์ทำความอบอุ่นเลยรู้สึกสบาย ฉันหนีบหนังสือมาอ่านด้วย แต่ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองคนโน้นที คนนี้ที มันจะไปไหนกันนักหนาว๊ะเนี่ย คิดในใจ แล้วหล่อนล๋ะย๊ะ จะไปไหน ถามตัวเองอีกแล้ว ไม่เอาดีกว่าคิดฟุ้งซ่านอีกและเรา หาที่โทรศัพท์ดีกว่า อยากโทรบอกแม่ว่าถึงเกาหลีแล้ว พอดีมีพิณโค๊ต ไม่ต้องใช้เหรียญ หรือใช้การ์ด

ที่สนามบินมีโทรศัพท์ให้ใช้มากมาย ที่สำคัญ หน้าตามันไม่เหมือนโทรศัพท์บ่านเราเลยอ่ะ มันดูไฮเทค เหลือกำลัง แล้วมีหน้าจอเหมือนคอมพิวเตอร์เลยน๊ะ แล้วนี่ตูจะกดยังงัยหว่า ลองเข้าไปที่เครื่องหนึ่ง ยกหูขึ้นมา ดันเป็นภาษาเกาหลี พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย ตายละหว่าทำงัยดีล่ะ โทรไม่เป็น แงแงแง งงว่ะ ลองแล้วลองอีกก็ไม่ได้ซักที ทีนี้ก็เลยแอบนั่งดูคนที่เดินมาโทรเค๊าทำกันวิธีไหน จะได้จำเอามาโทรมั่ง แต่ว่าโอ้โห คนหนึ่งใช้เหรียญโทร บางคนใช้การ์ดรูด บางคนยกหูเฉย ๆ แล้วกดอะไรไม่รู้ ดูยังงัยก็ยังใช้ไม่เป็นอยู่ดี จนเวลาล่วงเลยซัก ครึ่งชั่วโมงได้มั้ง หมดไฟที่จะโทรแล้ว นั่งอ่านหนังสือดีกว่า ค่อยโทรทีหลังก็ได้ว๋ะ นั่งไปนั่งมา อยากโทรศัพท์อีกแล๊ะ..... คิด...คิดซิ จะทำงัยดี ก็เดินเรื่อย ๆ เปื่อย.... มาถึงตรงประชาสัมพันธ์สาวสวยหน้าหวาน นั่งทำงานอยู่คนเดียว ไม่มีคนอื่นด้วย เลยคิดว่าเอาน๊ะ คงช่วยเราได้มั่งแหละว๊า.... นั่งเรียบเรียงคำพูดภาษาอังกฤษ อยู่ตั้งนาน กว่าจะได้ความกล้า เดินไปหาเธอ แล้วก็ บอกว่า เราต้องการจะใช้โทรศัพท์ และก้มีพิณโค๊ต...แต่ทำไม่เป็น เธอใจดียิ้มหวาน แล้วหาเศษกระดาษมาเขียน เป็นขั้นตอน หนึ่งกดอะไร สองกดอะไร แล้วหันมามองหน้าฉัน เห็นหน้าตาของฉันคงจะแบบว่า วันนี้ถ้าปล่อยฉันให้โทรเอง คงไม่ได้เรื่องแน่ ๆ หน้าฉันคงเป็นแบบนี้มั้ง 555555 เธอเลยลุกขึ้น แล้วก็พาฉันมาที่เครื่องโทรศัพท์ แล้วก็บอกขั้นตอนอย่างช้า ๆ ว่าทำยังงัย โอ้...โห....มันหลายขั้นตอนจิง จิงวุ๊ย.... แต่สุดท้ายฉันก็โทรได้ โทรหาแม่ก่อนเพื่อน หลังจากนั้นฉันก็ยืนโทรศัพท์....หาคนโน้น...หาคนนี้...... สุดท้ายฉันก็โทรหาโจอี้ ซึ่งป่านนี้ชะเง้อ คอยาว จาก Houston ถึง Dallas แล้วละมั๊ง
จนเกือบได้เวลาเครื่องออก จึงเลิกโทรศัพท์ เตรียมตัวเข้าแถวกับพวกฝรั่ง เพื่อเข้าไปเครื่องบินเพื่อเดินทางไปถึงเอมริกา ต่อจากนี้ไปก้นั่งเครื่องยาว.................วววววว อีก เกือบ 20 ชั่วโมง คิดเอาเองน๊ะ มันทรมาณแค่ไหน

แต่ที่แน่ ๆ อีก 20 ชั่วโมงข้างหน้า มันเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันทั้งชีวิต.....และฉันจะได้พบกับ โจอี้ ผู้ชายที่ฉัน คิดว่าชีวิตที่เหลือฉันคงจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ ถึงจะมีเชื้อชาติ สัญชาติ ที่แตกต่างกัน แต่ฉันเป็นคนเดินหน้าแล้วไม่คิดถอยหลัง วันหน้าต้องดีกว่าวันนี้ซิน่า จริงม๊ะท่านผู้ชม
เรื่องราวยังมีต่อน๊า........ถ้ายังไม่เบื่อก็ติดตามอ่านได้ในตอนต่อไปจ๊า.....


>==Tukata==




 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2548
8 comments
Last Update : 6 กรกฎาคม 2548 4:37:19 น.
Counter : 784 Pageviews.

 

โห...เก่งนะ สามารถมาก ๆ เลย ทานอาหารบนเครื่องได้หมด
เราทานไม่ค่อยได้เลย มันเหม็น เมื่อก่อนก็ไม่เป็นหรอกคะ

แต่มีช่วงหนึ่งตอนที่ทำงานที่เมืองไทย ต้องเดินทางบ่อย จากคนไม่เมาเครื่องบิน กลายเป็นคนเมาเครื่องบินไปเลย
อาหารของเขาก็ทานไม่ได้ ต้องเตรียมอาหารส่วนตัวไปเอง เช่น สลัด มาม่า... ประมาณเนี่ย

 

โดย: Angel Tanya 6 กรกฎาคม 2548 5:46:33 น.  

 

เป็นคนเดินหน้าแล้วไม่ถอยหลังเหมือนกันคะ..

ชอบจัง..ที่เจอคนคล้ายกัน..

อ่อ..ที่อยากได้
เดี๋ยวจะถามลูกชายให้นะคะ.พี่ทำไม่เป็นหรอกอิๆ
..หรือว่าจะไปถามเขาเองก็ได้น้า..
..แม่สาย...นะคะ

 

โดย: zaesun 6 กรกฎาคม 2548 18:47:30 น.  

 

มาตามอ่าน มาลงเร็วๆๆนะคะ



อยากรู้ว่าถึงแล้วเป็นยังไงค่ะ

20 ชม.ทรมานนะคะ แบมไม่ชอบเดินทางไกลเอาซะเลยค่ะ เหนื่อยค่ะ

 

โดย: yadegari 6 กรกฎาคม 2548 20:02:32 น.  

 

สวัสดีค่ะ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: oneni 6 กรกฎาคม 2548 22:43:34 น.  

 

ขอบคุณ น้อง ๆ ทุกคนนะคะ ที่มาตามอ่านเรื่องราวที่นี่นะคะ
เดี๋ยว พี่ตาจะเขียนต่อ ให้อ่านค่ะ
รอปูเลี๊ยว ...เลียว...

 

โดย: tukata001 6 กรกฎาคม 2548 23:34:54 น.  

 



 

โดย: tukata001 16 กรกฎาคม 2548 10:29:43 น.  

 

ขอคำปรึกษาหน่อยฮะ เมล์ homo_st_teez@hotmail.com

 

โดย: homosexual IP: 58.9.39.15 14 มีนาคม 2550 16:24:52 น.  

 

สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านต่อตอนที่ ๒ ค่ะ
วันนี้วันอาทิตย์เลยมีเวลาว่างเยอะ
ตอนที่แอนขึ้นเครื่องออกจากสนามบินคิดอยู่เหมือนกันว่าตัวเองกำลังจะไปไหน แล้วทำอะไรอยู่ คิดเหมือนต่างนาๆ ตั้งสตินึกขึ้นได้ว่าเราเดินทางไปตามหาฝันของตัวเอง และที่สำคัญตอนนี้ก็ถ่อยหลังกลับไม่ได้แล้วด้วย พอได้เวลาขึ้นเครื่อง ๐๐.๕๕ ก็เดินตามกันไปขึ้นเครื่องของสายการบิน โคเลียน แอร์ นี้แหละ ได้ที่นั่งติดหน้าต่างเหมือนกันและเป็นแถวที่นั่งสองคน แต่โชคร้ายหน่อยว่าคนที่นั่งค้างๆเขาเป็นหนุ่มเกาหลี ตอนแรกก็คิดว่าไม่กล้านอนเหมือนกันกลัวทำอะไรเปิ่นๆ พูดง่ายๆว่ากลัวจะขายขี้หน้าเขาอะค่ะ
แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดเสมอไป อิอิ พอเริ่มปิดไฟบนเครื่อง ผู้โดยสารคนอื่นบางคนก็นอน บางคนก็เปิดไปอ่านหนังสือ ส่วนเราก็นอนไม่หลับอะสิ เริ่มมองไปรอบๆเครื่อง คนเยอะมาก แต่ก็ยังพอมีที่นั่งว่างอยู่ "แต่ทำไมตอนเราซื้อตั๋วมันได้ซื้อยากซื้อเย็น" หลังจากนั้นก็หันกลับมาเริ่มคิดเรื่องตัวเองอีกครั้งว่าถ้าไปถึงเกาหลีแล้วเราจะต้องทำยังไงต่อ
คิดไปคิดมาก็เหนื่อย หยุดคิดดีกว่า หลังจากนั้นก็เริ่มมองไปรอบๆอีกครั้งผู้โดยสารที่อ่านหนังสือก็เริ่มปิดไปนอนกันแล้วแต่ก็ยังพอมีแสงไปให้เราพอมองเห็นคนข้างๆบ้าง ส่อนเราก็เริ่มจะง่วงนอนแล้ว ก็เลยหันกลับมามองหนุ่มเกาหลีที่นั่งข้างๆ เขาหลับตั้งแต่ขึ้นเครื่องแล้ว พอมาถึงตอนนี้กำลังหลับได้ที่เลย " หลับอ้างปากหวอ น้ำจิ้มย้อยเชียวน่ะ" นึกในใจอยู่หน้าตาก็หล่ออยู่หลอก สงสัยคงเหนื่อยอ่ะ ส่วนเราก็เริ่มวางใจละนอนเอาแรงมั้งดีกว่าเพราะกว่าจะไปถึงที่นู้นก็ตั้ง ๗ โมงเช้า และต้องรอขึ้นเครื่องอีกครั้งตอน บ่าย ๓ โมงครึ่ง ใช่เวลารอนานมาก
ทำไมมันสว่างจังก็เลยลืมตาดู อะฮ่าเช้าแล้วท้องฟ้าสีฟ้า แต่ทำไมพอมาอยู่บนท้องฟ้าจริงมันสีขาวเยอะกว่าอ่ะ แอะแล้วนี้อะไรทำไมเหมือนสะเก็ดทำแข็งเกาะอยู่ที่กระจก "แอะแล้วนี้มันถึงประเทศไหนแล้วเนี๋ยมองไปข้างนอกมีแต่สีขาวโพลนไปหมดเลย แต่ก็ดูสวยดี" นั่งชมท้องฟ้าจนเพลิน อยู่ดีท้องร้องจ๊อกเลย จะอะไรอีกล่ะ เริ่มหิวแล้วนะสิ นึกขึ้นได้ว่าแม่ซื้อขนมใส่ไว้ให้ในกระเป๋า อิอิจะเอาออกมากินก็ต้องหันไปมองหนุ่มข้างสักหน่อยกะจะแบ่งให้ชิมสักหน่อย ที่ไหนได้ยังหลับอยู่เลย อิอิ งั้นเราก็ไม่รอช้าละกินขนมรองท้องสักหน่อย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เวลากินอาหารบนเครื่อง หลังจากนั้นประมาณสิบ นาที ก็ได้เวลาอาหาร ทุกคนก็เริ่มตื่น รวมทั้งหนุ่มข้างๆด้วย เราหันไปสบตาพอดีแล้วต่างคนก็ต่างยิ่มนิดๆ เราก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะว่าเพิ่งตื่นยังไม่ได้แปลงฟันเลย เอาละมีพนักงานมาถามแล้วว่าจะกินอะไร แอร์โฮสเตรสหน้าสวย คำแรกที่ได้ยินงงตึบไปเลย จะให้ไม่งงได้ไงอ่ะ ก็เข้าพูดภาษาเกาหลีนี้ เราก็ทำหน้างงแบบว่าภาษาอะไรหว่าเคยเรียนสะที่ไหนล่ะ เขาก็เปลี่ยนมาเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็ไม่เข้าใจอีกนั้นแหละ หลังจากนั้นก็ถามเราว่า where are you from ? เราก็ตอบว่าไทย หลังจากนั้นก็ถามอีกไม่รู้อะไร แต่คิดว่าคงถามว่าจะกินอะไร ปร ะมาณนี้แหละ แต่เราฟังไม่เข้าใจแล้วอ่ะ
ก็ใช่ว่าเก่งภาษาอังกฤษสะที่ไหนล่ะ ที่เข้าใจและตอบได้เพราะท่องมา และคิดว่าต้องโดนถามอยู่แล้ว เอาละภาษาอะไรก็ใช่ไม่ได้นอกจากภาษาไทย เขาก็เอามาให้เลือกมีสองแบบ "คิดในใจว่าถ้าเอามาให้เราเลือกตั้งแต่แรกก็ดีอยู่หลอก" เราเลือกชุด๑ เป็นข้าวต้ม ผักอะไรไม่รู้ดอง แล้วก็มีอีกอย่างเผ็ดๆ สรุปว่ากินไม่ได้ หนุ่มข้างๆก็แอบเห็นเราไม่กินเลย เขาคงคิดว่าไม่ถูกปากเราอ่ะ ก็เลยช่วยสั่งอาหารใหม่ให้เป็นชุดที่๒ มีไขีเจียว เบค่อน โยเกิตร์ ขนมปัง แล้วก็น้ำส้ม " นึกในใจ ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งคุณมา" หลังจากนั้นไม่นานเครื่องบินก็ลงจอดที่เกาหลี เริ่มคิดอีกครั้งต้องไปต่อเครื่องที่ไหนอ่ะ แต่ก้ไม่ค่อยน่าตกใจเท่าไหร่เพราะแอนมีเวลาระหว่างจะรอเครื่อง ประมาณ ๗ ชั่วโมงเพราะฉะนั้นก็เดินตามเข้าไปเลื่อยๆ แถบยังมีเวลาเดินดูของอีก อยากโทรไปบอกที่บ้านเหมือนกันว่่าตอนนี้ถึงเกาหลีแล้ว แต่ก็โทรไม่เป็นไม่มีทั้งการด์ ทั้งเงินเกาหลี แต่โชคดีเรามีแล็ปท็อป และที่สนามเกาหลีก็ อินเตอร์มาก เราสามารถออนอินเตอร์เน็ตได้ทั่งทั้งสนามบินเพราะมีสัณญาณไวเลสฟรี ยิ้มออกแล้วที่นี้แต่ก็โทรไม่ได้ ได้แค่ส่งอีเมลไปบอกว่าตอนนี้ถึงเกาหลีแล้ว จะขึ้นเครื่องอีกครั้งมบ่าย ๓ โมงครึ่ง " ไม่ต้องเป็นหวง" แต่คิดในใจเหอะๆ นี้มันเพิ่งจะต่อแรก เรายังมีที่เหลืออีก ๓ ต่อน่ะ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องยากอ่ะ คงเหมือนกัน
รอไปรอมา ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว หลังจากนั้นก็บอกลา เกาหลี "ถ้ามีเวลาครั้งหน้าจะแวะมาเที่ยวใหม่น่ะค่ะ" แต่หวังว่าครั้งหน้าคงไม่ใช่แค่ในสนามบิน
ว้ายมืดแล้วเหรอเนี๋ย หิวแล้วด้วยขอตัวไปทำอะไรกินมื้อเย็นก่อนดีกว่า
ไว้ว่างๆจะตามไปอ่านตอนต่อไปน่ะค่ะ และถ้ามีโอกาสมาเลืกเปลี่ยนประสบการณ์กันอีกนะค่ะ

 

โดย: ann IP: 65.65.151.242 28 กันยายน 2552 8:40:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tukata001
Location :
Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




พี่ตุ๊กตา ยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาเยี่ยมบล๊อคนี้นะค

pk12th

 

Tukata Hemphill

Create Your Badge
Friends' blogs
[Add tukata001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.