|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Oxford Story บทที่ 15
จะหมดวันจันทร์แล้วเพิ่งรู้ตัวว่าลืมลงนิยาย แหะๆ สงสัยเพราะเมื่อคืนเพิ่งโพสท์ "ทริปวุ่น หัวใจลุ้นรัก" ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร VIEVA เพิ่มอีกตอนแน่ๆ เลย วันนี้เลยเผลอตัวลืมสนิท (ใครที่สนใจสามารถตามไปอ่านได้จากกรุ๊ป "ทริปวุ่น หัวใจลุ้นรัก" ได้นะคะ ^^ เป็นนิยายท่องเที่ยวที่พาไปออสเตรีย-เยอรมันค่ะ)
สำหรับตอนนี้ มาอ่าน Oxford บทที่ 15 กันเลยค่า
######################################
บทที่ 15
ใครเล่าจะคาดคิดว่านางสาวแพรอาภรณ์ อัศวเมธางกูร น้องสาวแท้ๆ ของนางสาวพิมพ์ชญาจะมาปรากฏตัวที่หน้าบ้านเลขที่ 24 ถนนคาวลีย์ ในตอนเย็นวันอาทิตย์อย่างนี้…
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น สาวน้อยที่ว่าไม่ได้มาตัวเปล่าเสียด้วย… กระเป๋าเดินทางใบเขื่องสองใบที่วางอยู่แทบเท้าเป็นตัวการยืนยันการมา ‘อยู่’ มิใช่แค่มา ‘เยือน’ ของแม่สาวน้อยได้เป็นอย่างดี “พี่พิ้งค์ นี่แพมเองนะคะ ไม่ใช่ผี ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
เสียงหวานใสที่คล้ายคลึงกับพิมพ์ชญาหากแต่นุ่มนวลกว่าดึงสติสัมปชัญญะของหญิงสาวกลับมา ถ้าภาพที่เห็นตรงหน้าพูดได้ ก็แสดงว่าไม่ใช่ภาพลวงตาแน่ๆ น้องสาวฉันมาที่นี่จริงๆ …ที่ประเทศอังกฤษ …ที่เมืองออกซ์ฟอร์ด!!!
บ้าน่า...อยู่ดีๆ ยัยแพมจะมาที่นี่ทำไม แล้ว...อย่าบอกนะว่ายกขบวนมากันทั้งบ้านน่ะ!!
ตาย...ตายแน่เลยงานนี้ มีหวังถูกจับตัวกลับเมืองไทยแหง
เมื่อร่างบางระหงของผู้เป็นพี่ยังคงไม่ขยับเขยื้อนนอกจากยืนทำตาปริบๆ อย่างงุนงง เพื่อนสาวจึงเป็นผู้เอ่ยถามข้อสงสัยแทนให้
“น้องแพมมาที่นี่ได้ยังไงคะ เอ... แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะคะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ”
“แพมมาคนเดียวค่ะพี่กีวี่”
“อ้าว แล้ว...”
“โห...ใจคอพี่กีวี่จะให้แพมยืนเล่าทุกอย่างตรงนี้เลยเหรอคะ แพมเดินทางมาเหนื่อยมากๆ ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมคะ”
ไม่พูดเปล่า น้องสาวของพิมพ์ชญายังทำท่าจะลากกระเป๋าเข้ามาในตัวบ้านอีกด้วย ผู้เป็นพี่สาวจึงรีบหยุดยั้งเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนแพม ตอบพี่มาก่อน ของทั้งหมดนี่คืออะไร”
“ก็กระเป๋าเดินทางของแพมไงคะ”
“แล้วแพมขนมันมาที่นี่แบบนี้ หมายความว่าไงจ๊ะ”
“ก็...แพมตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่กับพี่พิ้งค์ ก็ต้องเอากระเป๋ามาไว้ที่นี่สิคะ”
“ว่าไงนะ แพมจะมาอยู่ที่นี่... หมายถึง 'บ้านหลังนี้' น่ะเหรอ”
จะให้มาอยู่ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อ…
“ค่ะ ไม่ได้หรือคะ”
สาวน้อยเอียงคอถาม …หากเป็นยามปกติพิมพ์ชญาก็คิดว่าน้องสาวน่ารักดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้เธอกลับคิดว่าดูน่าหยิกเสียมากกว่า
“นี่ อยู่ดีๆ แพมนึกจะมาก็มาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ แพมก็รู้นี่ พี่แชร์บ้านอยู่กับคนอื่น เขาจะว่ายังไงถ้าอยู่ดีๆ พี่มีน้องสาวมาอยู่ด้วยโดยไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้า หา”
“โธ่ แพมกินง่ายอยู่ง่ายออก นอนก็นอนห้องพี่พิ้งค์ก็ได้ถ้าไม่มีห้องว่าง ไม่รบกวนหรอกค่ะ…”
“แล้วนี่แพมมาถึงนี่ทำไม อยู่ดีๆ มาทำอะไรคนเดียวที่ออกซ์ฟอร์ด”
“ก็แพมอยากมาเที่ยวนี่นา แล้วก็ตั้งใจจะมาดูแลพี่พิ้งค์ด้วยแหละ ...อย่างน้อยแพมก็ช่วยทำกับข้าวให้กินได้นะ”
“แล้วทำไมถึงไม่โทรมาบอกพี่ก่อนล่ะ หือ!!”
ผู้เป็นพี่สาวเสียงอ่อนลงเพราะคำอ้อนๆ และสีหน้าจ๋อยๆ ของคนเป็นน้อง หากยังอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจอย่างหนักหน่วงเผื่อว่ามันจะช่วยบรรเทาความรู้สึกตึงเครียดได้บ้าง
“ยังไงพี่ก็ให้เธออยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะแพม”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอพิ้งค์ เสียงดังเข้าไปถึงข้างในเลยนะ ใครมาเหรอ”
ยังไม่ทันที่แพรอาภรณ์จะถามเหตุผลจากพี่สาว ‘เจ้าตัวต้นเหตุ’ พร้อมเพื่อนสนิทก็เดินออกมาดูเหตุการณ์เสียแล้ว
ตาย…ตายแน่ๆ เดินออกมาทำไมยะ …
พิมพ์ชญาอยากจะโวยวายใส่ชายหนุ่มที่ช่างเดินออกมาได้ถูกจังหวะ… แต่ เธอรู้ดีว่าถึงอย่างไรเรื่องแบบนี้ก็ปิดบังกันไม่ได้อยู่แล้ว
“เอ่อ… คืออย่างนี้นะ… คือ…” …
จะเริ่มอธิบายจากตรงไหนดีละเนี่ย หญิงสาวว้าวุ่นไปหมด โชคดีที่เพื่อนสนิทตั้งสติได้เร็วกว่า จึงช่วยอธิบายแทนให้อีกครั้ง
“น้องสาวพิ้งค์มาเยี่ยมจากเมืองไทยน่ะ มาแบบเซอร์ไพรส์จริงๆ ไม่มีใครรู้เลย”
สังเกตถอนหายใจหลังจากได้ยินเช่นนั้น…
เรื่องแค่นี้เอง โธ่เอ๊ย ไอ้เราก็หลงคิดไปว่าเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นเสียอีก ที่แท้ก็แค่น้องสาวมาเยี่ยมเท่านั้นเอง ทำเป็น….
เดี๋ยวก่อนนะ น้องสาวมาเยี่ยมหรือ
ที่บ้านของพิ้งค์เข้าใจว่าเธอเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนผู้หญิง… ใช่ไหม…
หรือว่าความจริงแล้ว น้องสาวของพิ้งค์มาที่นี่ก็เพราะ 'เรื่องนั้น'
“จะยืนคุยกันอยู่ตรงนั้นจริงๆ หรือ เข้ามาข้างในก่อนดีกว่าไหม”
คาสุเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งสี่ยืนนิ่งกันไปหมด นั่นล่ะ… ทุกคนถึงได้เคลื่อนย้ายตัวเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“ก่อนอื่นนี่แพม น้องสาวของฉัน” พิมพ์ชญาแนะนำแพรอาภรณ์เป็นภาษาอังกฤษเพื่อที่คาสุจะได้เข้าใจด้วย “ส่วนกีวี่เธอก็รู้จักดีอยู่แล้ว คนนี้คาสุ แฟนของกีวี่ ส่วนคนนี้…นายสังเกต”
คนสุดท้ายหญิงสาวแนะนำเพียงแค่ชื่อ เนื่องจากไม่รู้จะพ่วงตำแหน่งอะไรต่อท้ายให้
แพรอาภรณ์ทักทายทุกคนอย่างสุภาพอ่อนน้อม ท่าทางของสาวน้อยทำให้สังเกตเผลอจ้องมองอย่างไม่วางตา… หญิงสาวตรงหน้าเข้าสูตร ‘นางในฝัน’ ของเขาเป๊ะ… ผมเหยียดตรงยาวสลวย รอยยิ้มหรือก็อ่อนหวาน กิริยามารยาทเรียบร้อยไร้จริตมารยาปรุงแต่ง …แม้ดวงหน้าจะมีส่วนคล้ายคลึงกับผู้เป็นพี่อยู่มาก แต่บุคลิกมีส่วนทำให้ทั้งสองดูแตกต่างกัน
“แล้วคนไหนคะที่เช่าบ้านอยู่กับพี่พิ้งค์ แพมจะได้ฝากเนื้อฝากตัวเสียเลย”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งห้องอยู่พักใหญ่ … มองไปทางสังเกต สีหน้าของเขาก็สื่อความหมายได้ว่า ‘เรื่องนี้แล้วแต่พิ้งค์จะตัดสินใจ’ …ในเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร หลีกเลี่ยงต่อไปก็คงจะไม่ได้ ท้ายที่สุด พิมพ์ชญาจึงกลั้นใจบอกความจริงกับน้องสาว
“เอ่อ…แพมจ๋า” หญิงสาวต่อประโยคที่เหลืออย่างเร็วปรื๋อ “นี่จ้ะ คนที่เช่าบ้านนี้อยู่กับพี่”
มือเรียวผายมือไปยังชายหนุ่ม สีหน้าของเขาแลดูกระอักกระอ่วนใจไม่แพ้เธอ
หากทั้งสี่คาดว่าจะได้เห็นอาการแปลกใจอย่างใดอย่างหนึ่งของสาวน้อยผู้มาใหม่ก็คงจะต้องประหลาดใจยิ่งกว่า เมื่อฝ่ายนั้นเพียงแค่ยิ้มละมุนตามปกติ ก่อนที่จะพนมมือไหว้
“สวัสดีค่ะ พี่สังเกต”
ชายหนุ่มรับไหว้ตอบเธอแทบไม่ทัน …ท่าทางเรียบร้อยสุดๆ ไม่เหมือนพี่สาวเลยสักนิด เอ๊ะ แต่เราอาจจะอคติเกินไป ช่วงหลังมานี้พิ้งค์ก็ดูเรียบร้อยขึ้นเหมือนกันนะ
“ไม่ต้องไหว้หรอกครับ แล้วก็เรียกสั้นๆ ว่าพี่เกตก็พอ”
ท่าทางของเขาทำให้พิมพ์ชญาที่ไม่คิดว่าจะแปลกใจอะไรได้อีกแล้วในวันนี้ต้องยกคิ้วขึ้นสูง เพิ่งจะเคยเห็นเขาทำท่าทางแบบนี้เป็นครั้งแรก …ย้อนนึกไปถึงวันแรกที่เธอพบกับสังเกตที่บ้านหลังนี้ พิมพ์ชญารู้สึกว่ามันต่างกันลิบลับราวขาวกับดำ กับเธอเขาเอาแต่ทำหน้าตาบูดบึ้งไม่เป็นมิตรใส่ แต่กับน้องสาวของเธอ ชายหนุ่มกลับดูอ่อนโยนยิ่งนัก
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้น แพมขออนุญาตเรียกว่าพี่เกตนะคะ”
เฮ้อ ก็เป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ ยัยแพมน่ารักจะตาย ใครเห็นใครก็ชอบ
แม้จะพยายามคิดเช่นนี้แต่ภายในใจก็ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทำให้ระคายเคือง ยิ่งได้เห็นชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มตอบก็ยิ่งขัดเคืองหนักขึ้นไปอีก
“อ้าว พิ้งค์ นั่นจะไปไหน”
กวิราถามขึ้นเมื่อเพื่อนสาวของเธอผลุนผลันเดินขึ้นบันไดไปเสียเฉยๆ
“ไปนอน ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกเหนื่อยๆ มึนๆ เหมือนนอนไม่พอน่ะ แล้วคุยกันนะ”
“อ้าว เดี๋ยวสิ แล้วอาหารเย็นล่ะ… เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ จะไปนอนแล้วเหรอ”
“อือ ไปนะ”
พูดแล้วก็เดินหายลับขึ้นไปข้างบน ปล่อยให้เพื่อนสาวมองตามด้วยความกังวลจนแฟนหนุ่มต้องเข้าไปปลอบ
“เอาน่า กีวี่ พิ้งค์เขาอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ ก็ได้ ก่อนหน้านี้เขาก็ต้องคอยพยาบาลสังเกตไม่ใช่เหรอ บางทีเขาเองก็อจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาเหมือนกัน”
ไม่น่านะ... ถ้าไม่นับว่าเมื่อกี้วิ่งมือเย็บเฉียบมาขอคำปรึกษา โดยรวมก็ดูเป็นปกติดีนี่นา
หากเมื่อคิดไปเรื่อยๆ เพื่อนของพิมพ์ชญาเริ่มคิดได้ว่าต้นสายปลายเหตุน่าจะมาจากอะไร ...ทุกอย่างน่าจะการมาถึงออกซ์ฟอร์ดของสาวน้อยน่ารักคนนี้ สาวน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แถมยังเป็นห่วงพี่สาวจากใจจริง แต่ยัยพิ้งค์ก็น่าจะรู้นะว่าอย่างน้องแพม แค่เรื่องที่พิ้งค์เช่าบ้านอยู่กับนายสังเกตคงไม่เอาไปฟ้องที่บ้านหรอก
“พี่พิ้งค์อาจจะไม่สบาย ถ้าอย่างนั้นแพมขอขึ้นไปดูพี่พิ้งค์ก่อนนะคะ …ห้องพี่พิ้งค์อยู่ไหนหรือคะ” ประโยคสุดท้ายเธอหันไปถามสังเกต
“ห้องชั้นบนสุดจ้ะ แต่ไม่ต้องขึ้นไปหรอก เดี๋ยวพี่ขึ้นไปดูให้เอง”
สังเกตตอบสาวน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แถมยังมีคำลงท้ายเพราะๆ อย่าง ‘จ้ะ’ ที่ไม่เคยเห็นเขาใช้กับใครมาก่อน
กวิราที่จับตาสังเกตสถานการณ์อยู่เงียบๆ เริ่มเข้าใจความรู้สึกของพิมพ์ชญาว่าทำไมเพื่อนสาวจึงทนอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้ …ก็นายสังเกตน่ะ ร้อยวันพันปีเคยทำสุ้มเสียงใจดีอย่างนี้กับใครเขาที่ไหน วันๆ มีแต่ตีหน้ายักษ์ พูดน้อยๆ พูดเรียบๆ …กับตัวเธอเอง เขาก็เพิ่งจะพูดดีด้วยบ้างเมื่อไม่นานมานี้ แต่กับน้องแพม เพิ่งจะมาวันเดียว ชายหนุ่มก็แสดงออกเสียแล้วว่าชอบพอสาวน้อยคนนี้อยู่ไม่น้อย …แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เพื่อนของเธอน้อยใจได้อย่างไร ถึงแม้ว่าสังเกตจะแสดงออกค่อนข้างชัดเจนว่า ‘หึงหวง’ พิมพ์ชญา แต่นั่นอาจเป็นแค่การแสดงขั้นแอดวานซ์ที่เจ้าตัวคิดมาดีแล้วว่าน่าจะสามารถทำให้คมสันแตกพ่ายถอยทัพกลับไปในตูมเดียวก็ได้
กวิรามัวแต่วิเคราะห์และเป็นห่วงสภาพจิตใจของเพื่อนสนิทจนลืมนึกสงสัยไปเลยว่าแพรอาภรณ์ไม่มีนิสัยชอบทำอะไรเซอร์ไพรส์ให้คนอื่นตกใจหรือลำบากใจแบบนี้... การเดินทางมาออกซ์ฟอร์ดของน้องสาวของพิมพ์ชญาย่อมต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง...
ประตูห้องชั้นบนถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงจึงตอบรับโดยไม่หันไปมอง
“แพมเหรอ พี่ไม่หิวนะ ขอนอนเถอะ”
“จะนอนเข้าไปได้ยังไง ข้าวก็ยังไม่กิน น้ำก็ยังไม่อาบ ถ้าไม่สบายก็ต้องกินยา รู้หรือเปล่า”
เมื่อเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนที่คิด ร่างบนเตียงก็ผุดลุกขึ้นมาเผชิญหน้าด้วยความตกใจ
“นายสังเกต! เข้ามาได้ยังไง นี่มันห้องนอนของฉันนะ”
แต่เสียงห้ามของเธอไม่มีผล ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งที่ปลายเตียงนุ่ม
“ไม่สบายไปอีกคนแล้วหรือ ไหนดูซิ ตัวร้อนหรือเปล่า”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนไม่แพ้ที่แสดงออกกับแพรอาภรณ์ สีหน้าหรือก็แสดงความห่วงใยให้เห็นอย่างชัดเจน พิมพ์ชญารู้สึกละอายใจกับความไม่มีเหตุผลของตัวเองเสียจนไม่กล้าสบตาเขา ได้แต่ก้มหน้า สั่นศีรษะเสียจนผมนุ่มสลวยราวกับฟองคลื่นตกลงมาปรกใบหน้า
ร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ค่อยๆ ใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นอ่อนโยนเสียจนหญิงสาวลืมความขุ่นข้องหมองใจที่มีอยู่จนหมดสิ้น
“ก็ไม่มีไข้นี่ กำลังนึกกลัวอยู่เลยว่าเกตทำให้พิ้งค์ติดหวัดหรือเปล่า ...ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้น กินข้าว กินยากันไว้ แล้วค่อยนอนนะ”
พิมพ์ชญาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้เดินขึ้นมามือเปล่า หากแต่มีชามข้าวต้ม น้ำอุ่น และซองยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก วางเรียงเอาไว้ให้บนโต๊ะเขียนหนังสืออย่างเรียบร้อย รอยยิ้มบางๆ จึงกลับมาแต่งแต้มใบหน้าอีกครั้ง
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์ต้มข้าวต้มให้ฉัน รสชาติน่าจะดีกว่าที่ฉันทำให้นายกินเยอะ”
“ก็ว่างั้นแหละ เพราะน้องแพมเป็นคนทำให้ เขาบอกว่าเวลาไม่สบายพี่พิ้งค์ชอบกินข้าวต้มปลาแบบนี้ …เป็นน้องสาวที่น่ารักมากนะ”
ความรู้สึกดีที่พองฟูขึ้นพลันเหี่ยวแฟบลงเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ …เร็วกว่าความคิด ริมฝีปากนุ่มกล่าวคำพูดรวนชายหนุ่มออกไปทันที
“เอาล่ะ ถ้าเกตไม่มีอะไรแล้วขอพิ้งค์อยู่คนเดียวได้ไหม อยากรีบกิน รีบนอน ...ปวดหัว”
สังเกตตั้งตัวไม่ติดกับอาการของพิมพ์ชญา …อะไรของเขานะ คุ้มดีคุ้มร้ายชะมัด เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยแท้ๆ
หากเขาก็สรุปกับตัวเองว่าหญิงสาวคงเครียดที่จู่ๆ น้องสาวคนเดียวก็เดินทางมาซึ่งอาจเป็นเหตุให้ความลับแตกและถูกสั่งให้กลับบ้านได้ …ซึ่งในเรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเลยเพราะเขาคุยกับแพรอาภรณ์เรียบร้อยและเข้าใจกันดีแล้ว
“เป็นอะไรไป กีวี่ คิ้วจะผูกกันได้อยู่แล้วนะ”
ชายหนุ่มเลือดผสมญี่ปุ่น-ฮ่องกงคลึงนิ้วที่ระหว่างคิ้วของแฟนสาวพลางล้อเลียนด้วยหวังว่าจะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น …ตั้งแต่กลับมาจากบ้านของสังเกต แฟนสาวสุดที่รักของเขามีสีหน้าครุ่นคิด คิ้วขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา
“คาสุ…พอจะรู้ไหมว่านายเกตเขามีสเป็กผู้หญิงที่ชอบแบบไหน”
“หือม์” แววตาคมเข้มของชายหนุ่มหรี่ลงหลังจากตกตะลึงกับคำถามไปแล้ว “ถามแบบนี้ อย่าบอกนะว่ากี่วี่คิดจะเปลี่ยนใจจากผม”
“ว้าย ไม่ช่ายยยยย” หญิงสาวร้องเสียงหลง กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด “ฉันถามก็เพราะว่า เอ่อ… นายก็เห็นนี่ น้องสาวของพิ้งค์ที่มาวันนี้น่ะ น่ารักมากเลยนะ”
“ใช่ น่ารักมาก”
ชายหนุ่มเห็นด้วย แต่รอยยิ้มของเขามีอันต้องเจื่อนลงเมื่อเห็นแววตาขุ่นเขียวที่มองมา
“พูดกันตามตรง ผู้หญิงสไตล์แพมเป็นผู้หญิงแบบที่นายเกตชอบเลยนะ …เขาเคยบอกผมว่าเขาชอบผู้หญิงที่เรียบร้อย อ่อนหวาน สุภาพ ใจดี เป็นกุลสตรี …ซึ่งลักษณะที่บรรยายมานี่ ผมว่าคล้ายกับน้องสาวของพิ้งค์มาก”
“จริงเหรอ”
“ผมจะโกหกกีวี่ไปทำไมล่ะ” แล้วถามต่ออย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้ “เรื่องนี้น่ะเหรอที่ทำให้กีวี่คิดมากอยู่อย่างนี้”
“ก็ใช่น่ะสิ เอ๊ย… ไม่ใช่” หลังจากตอบไปด้วยความลืมตัว กวิราก็ต้องแก้คำพูด …ก็นายสังเกตน่ะ เป็นเพื่อนของคาสุนี่นา เกิดนายคนนี้พลั้งปากพูดอะไรออกไปคงจะไม่เป็นการดีกับยัยพิ้งค์แน่ “วี่คิดถึงเรื่องเรียนต่อน่ะ คาสุ ก็เลยเครียดไปหน่อย ที่ถามเมื่อกี้ก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ แก้เครียด”
แม้จะเป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่ในเมื่อคาสุไม่ได้โต้แย้งอะไรกลับมา กวิราก็ถือว่าเขาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร
“วี่ว่าวี่กลับไปที่ห้องดีกว่า อยากอาบน้ำให้สบายตัวแล้วเข้านอนละ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าด้วย”
ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ บนโซฟาไม่โยกโย้ หากแต่รั้งตัวหญิงสาวคนรักเข้ามากู๊ดไนท์ คิสอย่างอ่อนหวาน
“นอนหลับฝันดีนะครับ”
“ฝันดีเช่นกันค่ะ” หญิงสาวตอบรับเขาด้วยรอยยิ้มหวานละมุน
ทั้งสองแยกย้ายกันไปนอนด้วยความสุขที่ฉาบฉายอยู่เต็มหัวใจ …คนมีความรักที่ได้รับรักตอบเป็นเช่นนี้เอง โลกใบนี้ทั้งใบช่างสดใสสวยงาม แม้ยามหลับหรือยามตื่น ชีวิตก็ช่างรื่นรมย์
ผิดกับทางด้านของพิมพ์ชญาและสังเกต ต่างคนต่างพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ลืมตาอยู่เพียงลำพังท่ามกลางความมืดมิด… จิตใจเต็มไปด้วยความกังวลและสับสน … ไม่มีใครได้นอนหลับอย่างเป็นสุขสักคน
((ติดตามต่อที่บทที่ 16 ค่ะ))
Create Date : 02 พฤษภาคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2554 23:49:42 น. |
Counter : 411 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Narilin Nay IP: 183.88.109.85 3 พฤษภาคม 2554 2:47:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: ree IP: 49.49.60.181 5 พฤษภาคม 2554 22:30:57 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตอบคอมเมนต์ของตอนที่แล้วค่ะ
น้องเน -- หุๆๆๆๆๆ เรื่องมันยังไม่จบง่ายๆ หรอกค่ะ ตอนนี้งานเข้าของแท้แล้วล่ะ
คุณ goldensun -- เรื่องมาทางวุ่นวายมากกว่าเดิมค่า ขอแอบกระซิบว่านี่ยังไม่หมดความวุ่นนะคะ หุๆๆๆๆๆ
พี่จริง -- กรี๊ดดดดดด ถูกแซวววววววววว ม่ายยยยยยยยยย (เอาว้า ขยันก็ยังดี นานๆ จะถูกชม กร๊ากๆ)
น้องลี่ -- ตอนใหม่มาแล้วค่า ^^ ขอบคุณที่มาติดตามกัน
ตอนหน้าห้ามพลาดนะคะ