... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
14 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Oxford Story บทที่ 8


ไวสุดๆ เลยจริงๆ ไม่ทันไรก็ถึงบทที่ 8 แล้ว แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น มีเรื่องขอแจ้ง 3 เรื่องค่ะ

1. ศุวิลามีผลงานออกในงานหนังสือ ได้แก่ เรื่องสั้น "รัก...ร้อนๆ" ใน ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก 34 นะคะ รายละเอียดติดตามจากเมนู "ว่าด้วยผลงาน" ได้ค่ะ หนังสือเล่มนี้ออกในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จะถึงนี้ค่ะ แล้วจะเปิดเกมชิงรางวัลเร็วๆ นี้นะคะ ^^

2.เพราะหนังสือออกในงาน เลยมีคิวแจกลายเซ็นด้วย ได้แก่ วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน เวลาบ่ายสองถึงสามโมง ที่ห้องออดิทอเรียม นะคะ ใครไปที่งานพบกันค่ะ

3. ตอนนี้ศุวิลามีผลงานนิยายเป็นตอนๆ ชื่อ "ทริปวุ่น หัวใจลุ้นรัก" อยู่ในนิตยสาร VIEVA ซึ่งเป็นนิตยสารท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ค่ะ เริ่มตีพิมพ์เมื่อเดือน กพ. ที่ผ่านมา เรื่องนี้เป็นเรื่องท่องเที่ยวอลวนอลเวงค่ะ ถ้าใครชื่นชอบแนวนี้ลองติดตามกันดูนะคะ

เอาล่ะ แจ้งข่าวสารครบแล้ว มาอ่านบทที่ 8 กันเลยค่ะ


#######################

บทที่ 8

เป็นเวลาเกือบจะสิบสี่นาฬิกากว่าสังเกตและพิมพ์ชญาจะออกจากร้านอาหารคลีโอ ร้านที่กำลังจะกลายเป็นร้านประจำของพิมพ์ชญา หญิงสาวถูกนี้ใจร้านเครปอร่อยแห่งนี้มากถึงกับสัญญากับตัวเองว่าต่อไปนี้จะมานั่งกินทุกวันให้เจ้าของร้านเบื่อหน้ากันไปเลย

ทั้งคู่เดินกลับไปยังคอลเลจ ไครส์ท เชิร์ช ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สังเกตไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าเข้าชม เนื่องจากเขาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และเขายังสามารถเผื่อแผ่สิทธิพิเศษนี้ให้กับหญิงสาวได้อีกด้วย

“ดีจังเลยเนอะ มากับนายฉันก็เลยได้เข้าฟรี”

“เพราะพาคุณมาคนเดียวหรอก แต่ถ้าพามาเป็นโขยงเลยนี่ก็ไม่ได้เหมือนกันนะ”

“ถ้าอย่างนั้น นายรับเงินนี่ไปเถอะ นะ”

พิมพ์ชญาพูดอย่างเกรงใจ ค่าอาหารเมื่อครู่ชายหนุ่มเสนอตัวเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด แม้จะรู้ดีว่าเขาทำตามมารยาทสากลของสุภาพบุรุษ แต่เธอก็รู้สึกเกรงใจเกินกว่าจะยอมให้เป็นเช่นนั้น

“ไม่”

“ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่นนี่นา นะ รับไปเถอะ ไหนๆ นายก็ทำให้ฉันไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าคอลเลจแล้วนี่”

“โธ่ คุณพิมพ์ชญาครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เอาเปรียบอะไรกัน… ปกติผู้ชายเขาให้ผู้หญิงจ่ายเงินกันด้วยเหรอ”

“แต่…”

“เอาอย่างนี้ไหม คราวนี้ผมจ่าย แต่คราวหน้าจะยอมให้เลี้ยงให้เต็มที่เลย ดีไหม

“ก็ได้”

พิมพ์ชญาจำต้องรับคำไปอย่างนั้นทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่า ’ครั้งหน้า’ จะมีอีกไหมเนื่องจากรู้ดีว่าอย่างไรเสียชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับเงินจากเธอแน่ๆ แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เธอได้รู้จักข้อดีของเขาอีกอย่างหนึ่ง คือมีความเป็นสุภาพบุรุษกับเขาเหมือนกันนะ


พิมพ์ชญาตื่นตาตื่นใจกับความสง่างามภูมิฐานของไครส์ท เชิร์ช ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปภายในบริเวณของคอลเลจ

สวยงามมากจริงๆ …ทั้งที่เป็นตึกโบราณ หากความแข็งแรงทนทานยังดูเหมือนจะไม่ด้อยลงไปตามกาลเวลา …ตรงกันข้าม ยิ่งอาคารเหล่านี้ดูเก่าแก่เท่าไร ความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น …ภายในส่วนที่เป็นห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเป็นส่วนที่หญิงสาวรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด เนื่องจากทำให้จินตนาการไปถึงตำรับตำราเก่าแก่ รวมทั้งวรรณคดีอังกฤษดั้งเดิมตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธที่หนึ่ง …สมัยที่นักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของโลกอย่าง วิลเลียม เช็คสเปียร์ ยังสร้างสรรค์ผลงานของเขาอยู่

เหมือนอยู่ในมนตร์สะกด หญิงสาวเผลอนึกเล่นๆ ไปว่าหนังสือประวัติศาสตร์เวทมนตร์ของแฮร์รี่ พ็อตเตอร์จะมีอยู่ในนี้ด้วยไหมน้า...

นอกจากห้องสมุด หญิงสาวยังรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องอาหารเพราะบรรยากาศแทบจะไม่ผิดไปจากในภาพยนตร์ เธออดนึกสงสัยไม่ได้ว่าโต๊ะตัวไหนเป็นของบ้านไหนกันนะ โต๊ะอาหารของบ้านกริฟฟินดอร์คือตัวที่อยู่ตรงหน้านี่หรือเปล่า …ที่น่าสนใจก็คือห้องอาหารนี้ ยังเป็นห้องอาหารที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดมาใช้กันจริงๆ เสียด้วย มิใช่เป็นเพียงห้องที่มีไว้โชว์เฉยๆ …ที่เพดาน มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปต่างๆ มากมาย ซึ่งคงจะมีความหมายอะไรสักอย่าง เนื่องจากมัคคุเทศก์ชาวจีนชี้ไปที่เพดานและอธิบายอะไรบางอย่างเป็นภาษาจีนให้ลูกทัวร์ฟัง

หลังจากเที่ยวชมโรงเรียนของแฮร์รี่ พอตเตอร์กันจนทั่ว …อันที่จริง หมายถึงจนแม่เฮอร์ไมโอนี่พิมพ์ชญาถ่ายรูปจนพอใจแล้วต่างหาก… ในความคิดของสังเกต… เธอคนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักการท่องเที่ยว… ที่หมายต่อไปสำหรับหญิงสาวคือออกซ์ฟอร์ด สตอรี่ (Oxford Story) ซึ่งเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่รวมรวบประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองออกซ์ฟอร์ดเอาไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งผู้เข้าชมไม่จำเป็นจะต้องเดินให้เมื่อย เนื่องจากมีรถให้นั่งเข้าไปชมอย่างสบายๆ


“สงสัยว่าวันนี้จะไม่ทันแล้วล่ะ สำหรับออกซ์ฟอร์ด สตอรี่”

สังเกตกล่าวขึ้นหลังจากยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา แต่เมื่อเห็นสีหน้าลังเลปนเสียดายของผู้ที่มาด้วยเขาก็ใจอ่อน …อดไม่ได้ที่จะปลอบใจว่า

“แต่ก็ไม่แน่หรอกนะ อาจจะยังไม่ปิดก็ได้ เราลองเดินไปดูกันไหม”

พิมพ์ชญายิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้า

เพี้ยง!! ขอให้ยังเปิดอยู่ด้วยเถอะ…

แต่คำภาวนานั้นไม่เป็นผลแต่อย่างใด เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงหน้าออกซ์ฟอร์ด สตอรี่ซึ่งตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากไครส์ท เชิร์ช พอสมควร ก็พบป้ายที่แจ้งให้ทราบว่าปิดบริการเสียแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่ก็แล้วกันนะ”

เขาพยายามปลอบใจ …ก็รู้อยู่หรอกนะว่าเธอเสียดาย แต่เธอก็ยังมีเวลาเหลืออีกมากที่จะอยู่ที่นี่ …ที่จะมาเที่ยว

“แล้วคราวหน้าจะพามาน่า อย่าเศร้าไปเลย”

เท่านั้น ใบหน้าสลดของหญิงสาวจึงเริ่มส่งรอยยิ้มออกมา …ยิ้มให้กับท่าทีของเขาที่ดูราวกับปลอบใจเด็กที่อยากจะไปเที่ยวสวนสนุก แต่พ่อแม่ไม่สามารถพาไปได้ …อยากจะพูดออกไปนักว่า ‘นี่ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ’ แต่คำพูดจริงที่ออกจากปากคือ

“สัญญาแล้วนะ อย่าลืมล่ะ”

สังเกตยิ้มให้กับคำพูดของเธอ

…ยังดีนะ ที่เธอไม่ยื่นนิ้วก้อยมาให้เกี่ยวด้วย ไม่อย่างนั้นเราคงจะเชื่อสนิทใจว่าเธอเป็นเด็กจริงๆ

“นี่ก็เย็นมากแล้ว กลับบ้านเลยดีไหม”

พิมพ์ชญาเป็นฝ่ายเอ่ยชวนเมื่อเห็นท้องฟ้าเริ่มโปรยความมืดลงมาทีละน้อย… หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เธอเอ่ยถึง ‘บ้าน’ กับ ‘เพื่อนร่วมบ้าน’ ได้อย่างสนิทปากสนิทใจแค่ไหน


สังเกตชวนพิมพ์ชญาแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่อยู่บนไฮ สตรีทเพื่อซื้อของสดกลับไปประกอบอาหารเย็น ระหว่างที่เขาและพิมพ์ชญาเลือกซื้อผักผลไม้อยู่นั่นเอง ก็มีมือหนึ่งตบบ่าเขาอย่างแรง พร้อมเสียงทักทายที่เป็นภาษาไทย

“เฮ้ย ไอ้หมอเกต ไม่เจอกันตั้งนาน วันนี้มาซื้อของถึงนี่เชียวหรือวะ”

“เออ ไม่เจอกันตั้งนาน นายก็ยังเหมือนเดิม”

“นายก็ …ดูท่าทางสบายดีนี่หว่า เห็นใครเขาว่าก่อนหน้านี้เครียดหนัก วุ่นทั้งเรียน วุ่นทั้งคน… สงสัยที่เขาพูดกันจะไม่จริงเสียละมั้ง”

“ก็วุ่นจริงๆ นั่นแหละ แต่ช่วงนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”

“ดีเลย ถ้าอย่างนั้น วันศุกร์หน้า วันเกิดน้องเอ เขาจะจัดปาร์ตี้วันเกิดเลยฝากชวนนายไปด้วย ..ไปได้ใช่หรือเปล่า”

ยังไม่ทันที่สังเกตจะตอบอะไรออกมา สายตาของเพื่อนของเขาก็จ๊ะเอ๋เข้ากับพิมพ์ชญาที่เพิ่งเลี่ยงไปหยิบน้ำผลไม้มาใส่รถเข็น …แววตาเจ้าชู้นั้นเป็นประกายขึ้นมา

ว่าแล้วไง ว่าทำไมไอ้หมอเกตมันถึงไม่มีอาการเคร่งเครียด ซึมเศร้า หรืออะไรทั้งสิ้นทั้งๆ ที่แฟนเก่ามันเพิ่งจะสละโสดไปกับผู้ชายคนอื่น เพราะมันมีสาวสวยคนนี้มาดามอกนี่เอง… อันที่จริง ทั้งสวยทั้งน่ารักเลย…

“สวัสดีคร้าบ… ผมชื่อสันนะครับ เป็นเพื่อนของนายเกต ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร”

คมสันพยายามทำท่าผูกมิตรกับสาวสวยตรงหน้าอย่างเต็มที่ พิมพ์ชญารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับท่าทางของเขา เธอจึงเหลือบมองสังเกตเพื่อจะบอกว่า 'จัดการนายนี่ทีสิ' เขาจึงหันไปตอบคนมาใหม่เสียเอง

“เฮ้ยๆ จะทำอะไรก็ระวังหน่อยเว้ยไอ้สัน นี่น้องสาวฉัน อย่ามาทำรุ่มร่ามแถวนี้”

“น้องสาว…” คมสันทวนคำ

ก็ไอ้เกตมีน้องสาวอยู่คนเดียวซึ่งเขาก็รู้จักดี แล้วคุณคนสวยคนนี้จะเป็นน้องสาวไปได้ยังไงกัน

“เออ น้องสาว แต่ไม่ใช่น้องแท้ๆ มีคนเขาฝากดูแลมา”

เขาแก้คำพูดอย่างฉับไว …ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แถมยังผิดศีลข้อมุสาอีกต่างหาก …แต่เขาไม่อยากให้เพื่อนคนนี้มายุ่มย่ามกับพิมพ์ชญา เนื่องจากรู้ดีว่านิสัยของเจ้าสันเจ้าชู้เพียงไร

“อ๋อ…. อย่างนี้นี่เอง แล้วนี่ซื้อของกันเยอะแยะ ไม่ทราบว่าทานกันสองคนจะหมดหรือครับ”

คมสันถามพิมพ์ชญาอีกครั้ง ผู้ถูกถามได้แต่ฝืนยิ้มน้อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท หากไม่ยอมตอบคำถามเนื่องจากไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังไม่ละความพยายาม แถมยังเชิญตัวเองเสร็จสรรพ

“ผมว่ากินข้าวกันสองคนเงียบเหงาจะแย่… เฮ้ย ไอ้เกต ข้าว่าวันนี้ข้าไปช่วยเอ็งทำอาหารเย็นดีกว่า มื้อนี้จะได้ครึกครื้นหน่อย”

โอ๊ย นายคนนี้เป็นบ้าหรือไงนะ คนเขาไม่ต้อนรับยังจะมายุ่งอยู่ได้ มื้อนี้คงจะได้ครึกครื้นหรอกนะ ฉันว่ามันจะกลายเป็นครึ้มครึ้ม (แถมอึมครึม) เสียมากกว่า

“เฮ้ย ไอ้สัน นายไม่ต้องกลับไปทำรายงานหรือยังไง ได้ยินว่าคอร์สนายยังไม่ปิดไม่ใช่หรือ งานก็ชุก”

คมสันไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนเลยสักนิดกับคำปฏิเสธอ้อมๆ นั้น เขายังคงพูดตอบอย่างร่าเริง

“แค่อาหารเย็นมื้อเดียว ไม่เสียเวลาเท่าไรหรอก”

น่าน... สรุปเอาเองดื้อๆ อีกต่างหาก โดยไม่มีใครเชิญเลยสักคนด้วย


ในที่สุด ทั้งสังเกตและพิมพ์ชญาต่างก็จนหนทางที่จะปฏิเสธ จึงต้องยอมให้ชายหนุ่มที่ชื่อคมสันตามมาที่บ้านด้วย แค่ตามมายังไม่พอ เขายังยืนยันที่จะเป็นคนลงมือทำอาหารเอง โดยขอให้พิมพ์ชญาเป็นลูกมือ ส่วนสังเกตน่ะหรือ

“ไอ้เกต ไปนั่งดูทีวีตามสบายเลยไป มื้อนี้ข้ากับน้องพิ้งค์จะแสดงฝีมือเอง”

ไม่มีทางสังเกตจะยอมปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาไม่เพียงแต่ไม่ออกไปจากห้องครัวเท่านั้น หากยังพยายามกันหญิงสาวออกไป

“ไม่ดีกว่า พิ้งค์ยังทำอาหารไม่ค่อยจะเป็นเลย ให้ทำไปก็ชักช้าเสียเวลาเปล่าๆ ฉันช่วยนายเองดีกว่า”

ชายหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกขานหญิงสาวที่อยู่บ้านเดียวกันกะทันหัน …ในเมื่อบอกไปแล้วว่าเป็นน้องสาว จะให้ไม่เรียกชื่อตัวก็กระไรอยู่ เขาหันไปพูดกับหญิงสาวด้วยชื่อตัวของเธอเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันนี้ หลังจากที่เคยตกลงกันว่าจะเรียกชื่อกันแต่มีอันล้มเลิกไปเมื่อคราวที่แล้ว
“พิ้งค์ อยากจะไปทำอะไรก็ตามสบาย เดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วค่อยมาก็แล้วกัน”

แม้จะฉุนเล็กๆ ที่เขาหาว่าเธอทำอาหารไม่เป็น (ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม) แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอก็รู้สึกดีที่จะได้หนีไปให้พ้นๆ ชายหนุ่มเพื่อนของสังเกตคนนี้เสียด้วยซ้ำ
ผู้ชายอะไรไม่รู้ ท่าทางก้อร่อก้อติก ไม่น่าไว้วางใจเอาซะเล้ย

คล้อยหลังพิมพ์ชญา คมสันไม่ปล่อยโอกาสในการซักถามเพื่อนถึงเรื่องราวของสาวสวยหน้าใหม่รายนี้

“ตกลงเรื่องมันเป็นไงมาไงวะ ทำไมน้องคนนี้ถึงได้มาอยู่บ้านเดียวกับนาย”

“ก็บอกแล้วไงว่าน้องสาว มีคนฝากดูแลมา”

สังเกตตอบเรียบๆ พลางหั่นเนื้อไก่ตรงหน้าโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นเพื่อน ซึ่ง…แน่นอน คมสันไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย

“จริงเหรอวะ”

“เออ จะถามมากไปทำไม”

“น้องสาวที่คนอื่นฝากดูแล… ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่เกี่ยวข้องกันเลยน่ะสิ”

“อืม”

“งั้น… ก็แปลว่าจีบได้น่ะสิ” คมสันพูดอย่างลิงโลด สังเกตรีบดักคอไว้ทันทีที่ได้ยิน

“แล้วน้องเอ น้องบี น้องซี และน้องอื่นๆ ล่ะ จะเอาเขาไปไว้ที่ไหน”

“โธ่ ก็ไว้ในที่ที่เขาควรจะอยู่ไง เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะยาก …ว่าแต่น้องพิ้งค์นี่หยิ่งจังว่ะ พูดอะไร ถามอะไร ไม่เคยตอบสักคำ”

ก็แปลว่าเขาไม่อยากจะเสวนาด้วยไงโว้ย ยังไม่รู้ตัวอีก… สังเกตนึกด่าในใจ

“ไม่หรอก ปกติเขาออกจะพูดจ้ออย่างกับนกแก้ว”

“เหรอ ถ้างั้นสงสัยว่า…” คมสันทำท่าครุ่นคิด ซึ่งทำให้สังเกตคาดหวังว่าเพื่อนจะเดาได้ว่าหญิงสาวรู้สึกอย่างไร แต่เปล่า...สิ่งที่คมสันคิดกลับกลายเป็น “สงสัยน้องเขาจะต้องเขินแน่ๆ เลย… แหม ดูไม่ออกเลยนะว่าเป็นคนขี้อาย”

คมสันสรุปออกมาอย่างคนหลงตัวเอง… จริงอยู่ เขาเป็นคนหน้าตาดีพอสมควร ประกอบกับความเป็นคนขี้เล่น อัธยาศัยดี เอาใจเก่ง และติดจะเจ้าชู้ จึงทำให้มีสาวน้อยมากมายหลายคนหลงรักเขา แต่สาวน้อยที่ชื่อพิมพ์ชญากลับไม่มีท่าทีว่าจะชอบเขาเลยสักนิด …สิ่งนี้ทำให้คมสันนึกอยากจะเอาชนะใจเธอให้ได้


และมื้อเย็นมื้อนี้ก็ผ่านไปอย่างอึมครึมจริงๆ เสียด้วยในความรู้สึกของพิมพ์ชญา …คมสันพยายามจะนั่งใกล้กับหญิงสาว แต่สังเกตรู้ทัน ดังนั้นเขาจึงจัดที่นั่งบนโต๊ะอาหารเสียเอง โดยให้ตัวเขานั่งอยู่ส่วนกลางของโต๊ะ ส่วนพิมพ์ชญาและคมสันนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะคนละด้าน

ตลอดเวลารับประทานอาหาร พิมพ์ชญาไม่เคยรู้สึกว่าตนเองเป็นคนสงบปากสงบคำเท่านี้มาก่อน คมสันตักกับข้าวให้เธอลองชิมหลายอย่าง และพยายามชวนเธอพูดคุยอยู่ตลอดเวลา แต่คำตอบของเธอก็จำกัดอยู่เพียงแค่ ขอบคุณ… ไม่เป็นไร… และรอยยิ้มนิดๆ ที่ฝืนไว้เพื่อไม่ให้เสียมารยาท
อย่างน้อยเขาก็เป็นเพื่อนกับนายสังเกตล่ะนะ …จะแสดงท่าทางรังเกียจหรือเมินเฉยออกไปคงจะไม่สมควรเท่าไร

หลังมื้ออาหาร คมสันยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะทำความสนิทสนมกับพิมพ์ชญาให้ได้ และเนื่องจากพิมพ์ชญาไม่มีส่วนร่วมในการทำอาหารเย็นมื้อนี้ เธอจึงอาสาเป็นคนล้างจานชามทั้งหมดเอง …คมสันได้ยินดังนั้นจึงอาสาจะเป็นผู้ช่วย

“ไม่ต้องหรอก นายสัน มื้อนี้นายเป็นคนทำอาหาร ยืนหน้าเตาเหนื่อยจะตายไปอยู่แล้ว ฉันจะเป็นคนช่วยพิ้งค์ล้างจานเอง”

สังเกตขัดคอเพื่อนแทบจะทันทีที่คมสันพูดจบ

ให้ตายเถอะ เจอผู้หญิงสวยๆ เข้าทีไร เป็นอย่างนี้ทุกที

“ไม่เหนื่อยหรอก แค่ยืนปรุงอาหารอยู่หน้าเตาน่ะ นายเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างน่าจะเหนื่อยกว่านะ นายนั่นแหละ ที่สมควรจะไปนั่งพัก”

หากเป็นเวลาปกติ สังเกตคงจะคร้านที่จะเถียงกับเพื่อนต่อและปล่อยให้คมสันทำตามใจตนเอง แต่ทว่าครั้งนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้ …จริงอยู่ที่เขาโกหกเรื่องที่พิมพ์ชญาเป็นน้องสาวที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองสมควรที่จะเป็นคนปกป้องเธอให้พ้นจากบุคคลที่ไม่เคยมีรักจริงอย่างคมสัน

“ไม่ล่ะ นี่มันก็ดึกแล้ว จะสี่ทุ่มแล้ว ยิ่งดึกกว่านี้อากาศก็จะยิ่งหนาว …ตากลมแรงๆ ตอนกลางดึกทำให้นายเป็นไข้ได้ง่ายๆ ไม่ใช่หรือไง ...แล้วนายก็เป็นแขกของบ้านเราด้วย… จะให้แขกมาล้างจานได้ยังไง”

ผู้มาเยือนพยายามโต้แย้งแต่ไม่เป็นผล เมื่อสังเกตยังยืนยันว่าเขาควรจะกลับไปพักผ่อนได้แล้ว คมสันจึงได้ขอตัวลากลับบ้านโดยหมายมั่นปั้นมือบางสิ่งบางอย่างไว้ในใจ….

“ถ้าอย่างนั้น ไปละนะ ไอ้หมอเกต …บ๊ายบายครับ น้องพิ้งค์ นอนหลับฝันดีนะครับ”

คมสันไม่พลาดจริงๆ ที่จะ ’หยอด’ พิมพ์ชญาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลาจาก


หลังจากเสียงประตูหน้าบ้านปิดลง บ้านหมายเลข 24 ถนนคาวลีย์ก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง… สังเกตขยับริมฝีปากจะพูดอะไรบางอย่างกับพิมพ์ชญา แต่เธอกลับมองเขาด้วยสายตาโกรธๆ

ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกว่าเป็นเพราะเขาแท้ๆ ที่ทำให้เธอต้องมาพบกับผู้ชายก้อร่อก้อติกอย่างคมสัน …มันน่าหงุดหงิดใจจริงๆ สำหรับพิมพ์ชญาที่ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้น …ขาเพรียวยาวเดินเข้าครัวไปล้างจานอย่างเงียบๆ ซึ่งสังเกตตามมาช่วย หากทว่า บรรยากาศในครัวยามนี้ช่างเงียบจนน่าอึดอัด จนกระทั่งล้างจานจนเสร็จเรียบร้อย สังเกตจึงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบเสียเอง

“เอ่อ…”

ไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรกับชายหนุ่มในยามนี้ เธอเพียงแต่หันมามองหน้าเขา

“ราตรีสวัสดิ์”

เพียงเท่านี้ แล้วเธอก็หายลับขึ้นไปบนห้องนอน โดยทิ้งบรรยากาศของความกดดันไว้ภายในใจของสังเกต


((ติดตามต่อที่บทที่ 9 ค่ะ))



Create Date : 14 มีนาคม 2554
Last Update : 25 เมษายน 2554 16:07:26 น. 5 comments
Counter : 469 Pageviews.

 
ตอนนี้เราก็มีบุคคลที่สามปรากฏตัวขึ้นแล้วนะคะ ซึ่งก็น่าจะทำให้เรื่องมีสีสันขึ้นพอสมควร แล้วมาลุ้นกันนะคะว่าอีตานี่จะก่อเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ฮุๆๆๆๆ ^^ (หัวเราะชอบใจมาก)

ตอบคอมเมนต์สัปดาห์ก่อนค่ะ

น้องเน -- กริกริ นั่นน่ะสิคะ พี่ก็แอบสงสัยอยู่น้า ^^

คุณ bug -- เสียดายเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวลองดูอีกทีก็แล้วกันเนอะ ตอนนี้ว่าจะลงในบล็อกให้จบล่ะค่ะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ^^

ขอบคุณที่มาติดตามกันค่ะ พบกันบทที่ 9 นะคะ


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:1:27:01 น.  

 
ไม่ชอบอีตาเพื่อนพระเอกเลย งิงุ งอนคุณเกตด้วยคน เชอะ


โดย: Narilin Nay (กวีร้อยฝัน ) วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:8:28:15 น.  

 
คุณสันเปลี่ยนโหมดเร็วมาก ระหว่างกำลังคุยกันเพื่อนแบบซี้สุดๆ พอเห็นสาวๆ ล่ะ ฮึ... ทำเสียงหวานเชียว


โดย: ColdOut วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:12:32:48 น.  

 
อีกหลายบทไหมคะ เนี่ย
ลุ้นๆ


โดย: bug IP: 203.121.182.195 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:17:31:42 น.  

 
น่าขึ้นกระทู้แนะนำนะคะเนี่ยะ คริ คริ


โดย: ColdOut วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:12:48:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.