... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Oxford Story บทที่ 10


เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะหมดเวลาของการเล่นเกมชิงรางวัลหนังสือ "ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก 34" แล้วนะคะ (สิ้นเดือนนี้นะค้า)​ ใครที่ยังไม่ได้เล่น ขอเชิญ ที่ notes ล่าสุดของ //www.facebook.com/suvilajamsai ค่ะ (แงๆ ใช้ firefox ทำลิงก์ให้ไม่ได้อ่า เสียใจ T^T)

และอย่างที่บอกไว้นะคะ โน้ตมีงานแจกลายเซ็นที่งานหนังสือครั้งนี้วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน นี้ ตอนบ่าย 2-3 นะคะ หลังจากนั้นจะไปพูดที่บูธของกรุงเทพมหานครในหัวข้อ Read for life ตอนบ่าย 4 โมงค่ะ ใครสะดวกพบกันวันนั้นนะคะ

สำหรับตอนนี้ เราไปอ่านบทที่ 10 ของ Oxford Story กันเถอะค่ะ

###################

บทที่ 10

“จะบ้าไปแล้วเหรอ คิดได้ยังไงเนี่ย!”

สังเกตดุหญิงสาวด้วยเสียงที่ไม่ค่อยนัก พิมพ์ชญาหน้าระเรื่อขึ้นมาทันที

ใช่ว่าเธอจะชอบใจแผนการนี้เสียเมื่อไรล่ะ แต่เธอคิดคำนวณมาอย่างดีแล้วนี่นา ว่าวิธีการนี้น่าจะได้ผลดีที่สุด …คิดดูแล้วก็อายตัวเองเหมือนกันที่ต้องเป็นคนเสนอแผนการบ้าๆ แบบนี้ออกไป

“ฉันคิดว่าวิธีการนี้น่าจะได้ผลมากที่สุดแล้วนี่นา คิดดูนะ จะมีวิธีไหนที่ทำให้เพื่อนนายยอมถอยทัพกลับไปอย่างเงียบๆ เท่าวิธีนี้อีก หืม”

“นี่ แม่คุณ ถามจริงๆ เถอะ ตอนเรียนจบมาเธอได้เกียรตินิยมจริงๆ เหรอ”

สังเกตถามอย่างอ่อนใจ …ทำเอาพิมพ์ชญางงกับการเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วของเขา

“อื้อ ถามทำไม” …ก็แผนนี้กับเกียรตินิยมมันเกี่ยวกันเสียที่ไหนล่ะ

“ก็ถ้าเธอคิดได้แค่นี้ ก็น่าจะบอกมหาวิทยาลัยให้ริบเกียรตินิยมคืนน่ะสิ”

หญิงสาวถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะทำหน้าง้ำงออย่างขัดเคืองใจ

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยฉันคิดแผนอื่นสิ เก่งนัก ฉลาดนักไม่ใช่เหรอ”


ในที่สุด ทั้งสองก็ไม่สามารถหาแผนการอื่นที่น่าจะซอฟท์เท่าแผนการที่พิมพ์ชญาคิดขึ้นได้อีกแล้ว …อันที่จริงชายหนุ่มตกลงปลงใจยินยอมให้ความร่วมมือกับแผนการของเธอตอนที่พิมพ์ชญาขู่ว่าถ้าเขาไม่ยอมช่วยเหลือ เธอจะใช้แผนการอื่น เป็นต้นว่ารังควานคมสันจนกว่าเขาจะเลิกยุ่งกับเธอ …และสังเกตเองก็จะได้รับผลเช่นเดียวกันโทษฐานที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ …ฟังอย่างนี้แล้วชายหนุ่มหน้าดุก็เริ่มจะหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะรู้ว่าแม่สาวน้อยชื่อหวานๆ ตรงหน้านอกจากไม่หวานสมชื่อแล้วยังแสบน้อยอยู่เสียที่ไหน

“เป็นอันว่าตกลงแล้วนะ ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่เกตจะต้องทำก็คือ ท่องจำสิ่งที่อยู่ในกระดาษใบนี้ให้ได้ทั้งหมด”

พิมพ์ชญาสรุปเอาเองดื้อๆ สังเกตจึงจำใจต้องอ่านข้อความในแผ่นกระดาษ

“อะไรกันน่ะ ชื่อ นางสาว พิมพ์ชญา นามสกุล อัศวเมธางกูร เกิดวันอังคาร ที่ 24 ธันวาคม ที่อยู่ บ้านเลขที่… ซอย….ถนน…. สีที่ชอบคือสีชมพูและสีขาว ดอกไม้ที่ชอบคือดอกลิลลี่ โดยเฉพาะดอกลิลลี่สีชมพู …จะให้เกตท่องจำเรื่องของพิ้งค์ไปทำไม"

เขาส่ายหน้าให้กับความคิดของหญิงสาว ในความรู้สึกของเขา สิ่งที่เธอกำลังจะทำนั้นไร้สาระอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ดูท่าทางคนต้นคิดจะไม่คิดเช่นนั้น

“โธ่ ว่าที่คุณหมอเกตขา…. ทั้งเก่งทั้งฉลาดไม่ใช่เหรอ แค่นี้ทำเป็นไม่เข้าใจไปได้”

“รู้ไหม เห็นอย่างนั้นก็เถอะ สันน่ะฉลาดกว่าที่เธอคิดนะ แค่ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้มันคงจะเชื่อหรอก”

“อ๊ะ ไม่แน่นะ จะไปรู้ล่วงหน้าได้ยังไง แผนนี้อาจจะได้ผลก็ได้ …จริงด้วยสิ เกือบลืมแน่ะ …นอกจากเกตจะต้องจำรายละเอียดทั้งหมดนั้นให้ได้แล้ว เกตจะต้องเขียนประวัติชีวิตทั้งหมดของเกตให้พิ้งค์ด้วย”

“ไม่!!”

คำปฏิเสธที่สั้นและห้วนแต่บอกความหมายในตัวอย่างชัดเจนนั้น ทำให้คนเอ่ยขอหน้าตึงอีกครั้ง

“อะไรนะ จะ ‘ไม่’ ได้ยังไง ก็ไหนบอกว่าจะร่วมมือด้วยยังไงเล่า”

“ก็ใช่…แต่ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนี่ เรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่เห็นจำเป็นที่เธอจะต้องรู้เลย”

“นี่! จะบอกให้นะ ฉันไม่ได้อยากจะรู้เรื่องส่วนตัวของนายสักเท่าไรหรอก นายสังเกต เพียงแต่ทั้งหมดนี่เพื่อความแนบเนียน เข้าใจไหม …อย่าลืมสิ สันน่ะเป็นเพื่อนนายนะ ถ้าเขาเกิดถามเรื่องอะไรของนายขึ้นมาแล้วฉันไม่รู้ เขาก็จับได้พอดีว่าเราโกหก”

ความจริงข้อนั้นทำให้’คนรักสันโดษ’ ต้องพยักหน้าอย่างยอมจำนน

บ้า บ้าอย่างไม่มีใครเหมือนจริงๆ ผู้หญิงคนนี้… บ้าตั้งแต่คิดแผนการแบบนี้ออกมาแล้ว …คิดได้ยังไงที่จะให้เรากับเธอเล่นละครว่าเป็นคู่รักกันให้คมสันเห็น จะได้ยอมแพ้กลับไปง่ายๆ

อันที่จริงเขาก็ไม่อยากจะร่วมมือด้วยสักเท่าไร แต่ติดตรงที่พิมพ์ชญากล่าวหาว่าเขาเป็นผู้นำปัญหานี้มาให้ และต้องร่วมมือกับเธอเพื่อแก้ไขปัญหา

เช้าวันถัดมา เมื่อทั้งสองพบกันที่โต๊ะอาหาร พิมพ์ชญาก็ทวงถามทันที

“ไหนล่ะ รายละเอียดของเกต พิ้งค์จะได้เอาไปท่อง”

“นี่คิดจะเอาจริงเหรอ”

เขาถามย้ำอีกครั้งอย่างยังไม่อยากจะเชื่อ …เผื่อว่าเมื่อวานนี้เธออาจจะคิดเพ้อเจ้อไปแค่วูบเดียว

แต่เปล่า เธอหมายความอย่างนั้นจริงๆ...

“อะไรนะ!! อย่าบอกนะว่าเกตยังไม่ได้เขียนน่ะ โธ่ พิ้งค์กะว่าจะเริ่มแผนวันนี้เลยแท้ เกตกำลังจะทำให้เรื่องมันจบช้าลงนะ แล้วก็…”

หญิงสาวทำท่าจะบ่นต่อไปไม่รู้จบที่เขาไม่ยอมทำตามที่ตกลงกันไว้ สังเกตจึงรีบปิดปากโดยการส่งกระดาษที่มีรายละเอียดของเขาให้ทันควัน คนที่บ่นจึงยิ้มออกมาได้

“ต้องแบบนี้สิ… อืม… อ้าว เกตไม่ชอบช็อกโกแลตเหรอ”

เสียงแหลมสูงร้องถามอย่างแปลกใจหลังจากกวาดตามองตัวอักษรไปหลายบรรทัด …น้อยคนนักที่จะไม่ชอบเจ้าของหวานสีน้ำตาลแสนอร่อยนั่น และ…คุกกี้ที่เธอซื้อมาง้อเขาเป็นรสช็อกโกแลตทั้งหมดเลยนี่นา…

ถ้าอย่างนั้น ทำไมถึงง้อแล้วได้ผลล่ะ…

“อื้อ เกตคิดว่าพิ้งค์ควรจะรู้ไว้ เพราะว่าเรื่องนี้เจ้าสันมันก็รู้”

คำตอบนั้นฟังดูราบเรียบและไม่ได้กล่าวถึงคุกกี้ที่หญิงสาวซื้อมาฝาก …ดวงตาคมมองกวาดรอบโต๊ะ แต่ก็ไม่พบร่องรอยถุงเบนส์ คุกกี้

หรือว่าเขาจะเอาไปทิ้งกันนะ คนซื้อให้คิดอย่างเสียใจ

“ถ้าอย่างนั้น… พิ้งค์รีบไปเรียนก่อนนะ ถ้าวันนี้สันมาเมื่อไรก็เริ่มแผนได้เลยก็แล้วกัน”

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง… แต่จู่ๆ พิมพ์ชญาก็รู้สึกหงอยอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่เมื่อวานนี้เธอยังคิดถึงแผนการต่างๆ อย่างสนุกสนาน เมื่อคืนนี้ เธอยังนึกขำเมื่อย้อนคิดถึงความซุกซนของตนเองในอดีต ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นพิมพ์ชญา เด็กนักเรียนแห่งโรงเรียนสตรีชื่อดังแห่งหนึ่งย่านใจกลางกรุงเทพฯ เธอและเพื่อนสนิทต่างสร้างวีรกรรมมากมายให้คุณครูต่างพากันปวดหัวเล่น
‘พิมพ์ชญา กวิรา ชั้น…ห้อง… มาพบคุณครูฝ่ายปกครองที่ห้องกิจการนักเรียน ด่วน!’

ประโยคนี้เป็นประโยคที่นักเรียนทั้งโรงเรียนได้ฟังจากเสียงประกาศจนชินชา …พวกเธอทั้งสองไม่เคยพลาดโอกาสในการก่อเรื่องแสบๆ คันๆ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เรื่องที่พวกเธอก่อขึ้นนั้นถูกจับได้เพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น อีกส่วนหนึ่ง ก็เป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ส่วนที่ไม่เคยถูกระแคะระคายเลยนั้น มีมากกว่าครึ่งเสียอีก ส่วนอลิสา ที่บางครั้งก็รู้เห็นเหตุการณ์ด้วยนั้นไม่เคยถูกตำหนิติเตียนเลย ในสายตาของคุณครูทุกคน อลิสาเป็นนักเรียนดีเด่น ที่ไม่น่าจะมาคบหาสนิทสนมกับสองสาวตัวแสบได้

ขณะกำลังซึมเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็น ‘อะไรบางอย่าง’ อยู่ในถังขยะใบใหญ่หน้าบ้าน มันคือถุงที่เคยใส่คุกกี้ที่เธอซื้อมาฝากสังเกตเมื่อวานนี้นี่เอง

หญิงสาวเดินเข้าไปดูจนใกล้ และได้เห็นว่าในถุงนั้นว่างเปล่า เมื่อมองลงไปในถังขยะก็ไม่พบร่องรอยว่ามีคุกกี้แสนอร่อยถูกทิ้งลงไปเลย

“นี่คงไม่ได้กำลังคิดจะรื้อถังขยะอยู่ใช่ไหม ในกระดาษไม่เห็นเขียนไว้เลยว่าการคุ้ยขยะเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งของนางสาวพิมพ์ชญา”

สังเกตเปิดหน้าต่างห้องครัวที่อยู่ติดกับสวนหน้าบ้านออกมาแซวอย่างอดไม่ได้ เมื่อเห็นหญิงสาวที่เพิ่งจะบอกว่าจะรีบไปเรียนมัวแต่ยืนจดๆ จ้องๆ ข้างในถังขยะอยู่ แถมยังดูเหมือนจะยิ้มเสียด้วย
พิลึกคน!

พิมพ์ชญาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเขา

“จะบ้าเหรอ ใครจะไปรื้อขยะเล่นเล่า…ไม่เอาแล้ว ฉันไปเรียนแล้วดีกว่า เดี๋ยวไปสาย”

พูดจบ หญิงสาวก็เดินแกมวิ่งจากไปโดยไม่หันมามองหน้าเขาอีก คนที่อยู่ในบ้านมองตามไปอย่างนึกขำ

...คนอะไรสติไม่ดี ไปยืนจ้องกองขยะแล้วยังยิ้มอีก

ทางด้านพิมพ์ชญา หญิงสาวอาย ร้อนตัว กลัวว่าจะถูกเขาจับได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากนั้น ยังถูกเขาเห็นว่ากำลังทำอะไรแปลกๆ อยู่เสียด้วย …คิดๆ แล้วมันน่าจะมุดถังขยะหนีไปซะให้รู้แล้วรู้รอดจริงๆ

แต่…สิ่งหนึ่งที่หญิงสาวไม่ทันรู้ตัว นอกจากความอับอายที่พุ่งเข้ามาแล้ว ความรู้สึกหดหู่ใจเมื่อตอนก่อนออกจากบ้านนั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น


เช่นเคย ทุกเช้าวันจันทร์ นักเรียนของโรงเรียนภาษาแห่งนี้จะต้องทำข้อสอบเพื่อวัดความรู้ของสิ่งที่เรียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อสอบนี้ไม่มีความหมายกับนักเรียนในคลาสของพิมพ์ชญาเนื่องจากชั้นเรียนนี้เป็นชั้นเรียนระดับสูงสุดของโรงเรียน แต่กับนักเรียนระดับต่ำลงไป หากทำข้อสอบได้คะแนนดี ก็จะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นขึ้นไปเรียนในระดับที่สูงกว่า

สำหรับพิมพ์ชญา ข้อสอบพวกนี้ง่ายมาก เนื่องจากหญิงสาวจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีทางด้านภาษา นอกจากนั้นเธอยังทำงานเป็นล่ามมาถึงสามปี …ข้อสอบที่ให้เวลาทำถึงเกือบหนึ่งชั่วโมง หญิงสาวใช้เวลาทำเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น …เมื่อยังเหลือเวลาอีกมาก พิมพ์ชญาจึงไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ และสิ่งที่เธอใช้อ่านฆ่าเวลาก็คือข้อมูลส่วนตัวของนายสังเกตนั่นเอง

“พิ้งค์ นั่นอะไรน่ะ”

แอนนา เด็กสาวชาวโปรตุเกสหันมาถามเมื่อเห็นว่าแทนที่พิมพ์ชญาจะนั่งเขียนข้อสอบ หญิงสาวกลับนั่งอ่านข้อความที่เขียนด้วยภาษาต่างดาวสำหรับเธออย่างตั้งอกตั้งใจ …และบนใบหน้าของเพื่อนสาวชาวไทยคนนี้ก็มีรอยยิ้มเสียด้วย

“อ๋อ …เอ่อ จดหมายน่ะ จากเพื่อนของฉัน”

ตอบไปแบบนั้น เนื่องจากไม่รู้จะว่าจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้แอนนาฟังได้อย่างไร

“เหรอ… ถ้าอย่างนั้น ฉันเดาว่าเพื่อนของเธอคนนี้ ต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ เลย”

สาวไทยขมวดคิ้ว …รู้ได้ยังไงนะ จะว่าอ่านภาษาไทยออกก็คงจะเป็นไปไม่ได้…หรือว่าเดาเอาจากลายมือก็คงจะไม่ใช่อีก ก็ลายมือของนายสังเกตน่ะเรียบร้อยจะตาย

“ฉันเดาถูกใช่ไหม เจ้าของจดหมายฉบับนี้เป็น ‘เพื่อนชาย’ ของเธอ ไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา"

“เฮ้ยยยยย เปล่านะ!! เขาเป็นแค่เพื่อนผู้ชายเท่านั้นเอง ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด”

พิมพ์ชญารีบปฏิเสธสิ่งที่แอนนาพูด ผิวหน้าร้อนวูบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

…บ้าจริง ทำไมแอนนาถึงได้เดาแบบนี้นะ ท่าทางของเราดูเป็นยังไงรึ

“จริงเร้อออ… ถ้าเขาเป็นแค่เพื่อนธรรมดา ทำไมเธอต้องหน้าแดงขนาดนี้ด้วยล่ะ”

สาวชาวโปรตุเกสล้อเลียน คนฟังจึงรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะทำอะไรไม่ถูกไปมากกว่านี้

“แอนนา!! เธอยังทำข้อสอบไม่เสร็จไม่ใช่หรือไง รีบทำไปเร็วๆ เข้า”

ว่าแล้วก็ทำทีเป็นแก้ไขคำตอบในข้อสอบทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรผิดเลยสักนิด …หญิงสาวรู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน กว่าที่ จอห์น อาจารย์ผู้สอนจะเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งเพื่อมาเก็บกระดาษคำตอบ


แทบจะไม่ต้องพนันขันต่อกับใครเลยว่าเมื่อหญิงสาวเลิกเรียนในวันนี้ จะต้องปรากฏร่างของชายหนุ่มชาวไทยที่ชื่อคมสันมานั่งคอยอยู่ที่บริเวณโรงอาหารชั้นล่างตามเคย …และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่วันนี้คมสันไม่ได้มามือเปล่าเสียด้วย ชายหนุ่มยังถือดอกทิวลิปสีชมพูช่อโตมาให้สาวน้อยที่ชื่อเล่นมีความหมายเหมือนสีของดอกไม้

แม้พิมพ์ชญาจะไม่ชอบคมสัน แต่ก็อดที่จะตาโตเล็กน้อยเมื่อเห็นช่อดอกไม้ไม่ได้ ดอกทิวลิปสีชมพูสดนั้นสวยมาก แถมยังเป็นเรื่องบังเอิญเสียอีกที่สีชมพูของดอกไม้เข้ากับสีเครื่องแต่งกายของเธอในวันนี้ได้อย่างพอดิบพอดี

“แฟนของเธอเอาใจเธอจังเลยนะ ฉันเห็นเขามานั่งรออยู่ทุกวัน”

แอนนาแอบขยิบตากระซิบบอกเมื่อเห็นชายหนุ่มก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปหาเพื่อนคนอื่นอย่างไม่อยากจะเป็นก้างขวางคอ …พิมพ์ชญาอยากจะเถียงเสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อคมสันตรงเข้ามาหาพร้อมช่อดอกไม้

“ดอกทิวลิปสีชมพูสำหรับผู้หญิงสีชมพูครับ”

เท่านั้นเอง ความรู้สึกตื่นเต้นในดอกทิวลิปช่อสวยนั้นหมดลงทันที แม้ว่าดอกไม้จะสวยงามเหมือนกันหมด แต่ความรู้สึกรับรู้ถึงความสวยนั้นกลับต่างกันออกไป กับคนที่เรารู้สึกดีๆ ด้วย ขอเพียงแค่ดอกไม้ดอกเดียว เราก็รู้สึกถึงคุณค่าและความงามของมันอย่างเต็มที่ แต่…ดอกไม้บางช่อ ต่อให้มีราคาแพงหรือจัดแต่งอย่างสวยงามปานใดก็ตาม แต่เมื่อคนให้เป็นคนที่เราไม่เคยคิดจะให้ความรู้สึกดีๆ ดอกไม้ช่อนั้นก็กลับเสื่อมคุณค่าไปอย่างน่าเสียดาย

“ขอบคุณค่ะ แต่สันไม่น่าจะเอามาให้พิ้งค์เลยนะ”

พิมพ์ชญาตอบไปอย่างนั้นตามมารยาท

“ทำไมล่ะครับ น้องพิ้งค์ไม่เห็นจะต้องมาเกรงใจพี่เลย พี่แค่เห็นว่าดอกไม้สวยดี เห็นแล้วคิดถึงน้องพิ้งค์ก็เลยอยากจะเอามาให้เท่านั้นเอง”

สุดที่จะทานทนกับคำพูดหวานเลี่ยนของผู้ชายคนนี้ เธอจึงพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะกล้าพูดออกไปได้อย่างง่ายดาย

“พิ้งค์กลัวเกตจะเข้าใจผิดถ้าเห็นพิ้งค์รับดอกไม้มาจากผู้ชายคนอื่นอย่างนี้”

“เข้าใจผิดหรือ”

คมสันทวนคำ …ก็เจ้าหมอเกตเพิ่งจะบอกเองนี่หว่าว่าเป็นแค่พี่น้องกัน

“ค่ะ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบใจหรอกที่เห็นแฟนตัวเองรับดอกไม้จากผู้ชายอื่นหน้าตาเฉยหรอก จริงไหม”

“แฟน!! เดี๋ยวนะ น้องพิ้งค์ พิ้งค์เป็นแฟนกับเจ้าเกตหรือ”

พิมพ์ชญาขยับปากจะตอบรับสิ่งที่คมสันถาม หาก…หญิงสาวต้องตกใจถึงขีดสุด เมื่อได้ยินเสียงจากชายหนุ่ม …เสียงที่คุ้นเคยมากที่สุด ตอบมาจากด้านหลังของเธออย่างหนักแน่น

“ใช่!!”


((ติดตามต่อที่บทที่ 11 ค่ะ))




Create Date : 28 มีนาคม 2554
Last Update : 25 เมษายน 2554 16:12:44 น. 9 comments
Counter : 618 Pageviews.

 
เย่ๆ ทุกคนคงรู้กันแล้วสินะคะว่าแผนการของนางเอกคืออะไร ^^ อิอิอิอิอิอิ มีใครเดาถูกมั้ยคะ

ตอบคอมเมนต์ค่า

น้องเน -- อิอิ ตอนนี้น่ารักกว่าเป่า ^^

คุณ an-o -- ส่วนตัวโน้ตคิดว่า win-win นะคะ

คุณ Bangkokian -- (ว้าว ไม่ได้พบกันตั้งนาน)
โน้ตว่างานนี้ฝังตัวเองทั้งคู่ค่ะ

น้องตูน -- เจอทางเข้าเฟซบุ๊คยังค้า ^^ สู้ๆ โชคดีสำหรับโปรเจ็กต์ค่ะ

แล้วพบกันตอนต่อไปค่า


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:16:24:40 น.  

 
โอ้ว!!! นายเกตรีบมาแสดงตัวเหมือนกันแหะ
นึกว่าจะมัวแต่ท่องจำประวัติอย่างเดียวซะอีก


โดย: an-o IP: 182.53.227.106 วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:18:11:44 น.  

 
ลี่ตามมาอ่าน 10 ตอนรวดค่ะพี่โน้ต ฮ่าๆๆ

เกตน่ารักมากๆๆๆ เลย เพ้อแล้วเรา แหม รีบมาแสดงตัวว่าเป็นแฟนเชียวนะ

รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ


โดย: lovekalo วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:22:11:14 น.  

 
ฮัลโลพี่โน๊ต

กลับมาแว้วค่ะ ช่วงนี้ยุ่งมาก กำลังทำงานอยู่ในช่วงโปรค่ะ แวบไม่ได้เลย เลยไม่ได้ทักทายตั้งแต่ตอนสอบจนถึงบัดนาว

ปล.มารายงานตัวและเล่นเกมค่า


โดย: เดหลี IP: 210.213.30.115 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:13:51:05 น.  

 
โผล่มาก็โดนว่าเลยว่า "จะบ้าไปแล้วเหรอ" -_-'

อันนี้น่าจะถามคนเขียนว่าให้นางเอกคิดอย่างนี้ได้ไง อะโห....^^



คลิกตามลิงค์เลยเปิดไปเจอแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: ColdOut วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:14:58:57 น.  

 
วันสุดท้ายแล้วของการเล่นเกมชิงหนังสือ

"ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก 34" นะคะ

ใครยังไม่ได้เล่น เชิญที่ //www.facebook.com/suvilajamsai ค่ะ


โดย: ...ศุวิลา... IP: 125.24.107.44 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:16:32:47 น.  

 
ขอติดตามด้วยนะคร่า


โดย: นู๋เต่า IP: 58.8.66.159 วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:14:54:40 น.  

 
ตามติดด้วยคน.


โดย: enjoydvd วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:21:36:57 น.  

 
น่ารักกว่ามากกก ><


โดย: Narilin Nay (กวีร้อยฝัน ) วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:11:46:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.