ลำแสงสีทองสาดส่องลงมาดูเป็นประกายระยิบระยับงดงาม บรรยากาศโดยรอบอบอุ่นเบาสบาย
เสียงนกขับขานแว่วมาจากที่ไกลๆเป็นท่วงทำนองแห่งลำนำอันไพเราะ เขาก้าวเดินช้าๆตรงไปยังลำแสงสีทองที่ยังคงสาดส่องลงมาเบื้องหน้า ความรู้สึกคุ้นเคยผ่านเข้ามาในความทรงจำ สถานที่ที่ไม่มีผู้คน ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดใด แต่กลับให้ความรู้สึกสบายใจเหมือนได้กลับมายังบ้าน บ้านที่อยู่ในที่ไกลแสนไกล บ้านที่จากไปนานแสนนาน
เงาของใครบางคนปรากฎขึ้นในระยะสายตา ความรู้สึกบ่งบอกว่าคนๆนั้นกำลังรอคอยเขาอยู่ ใครกันคือคนที่ยืนอยู่ใต้ลำแสงที่เริ่มเปลี่ยนจากสีทองระยิบระยับเป็นสีขาวสว่างไสว ลำแสงสีขาวที่ตอนนี้สาดส่องไปทั่วบริเวณ เจิดจ้าเสียจนทำให้เขาตาพร่า เขาพยายามเพ่งมองฝ่าออกไป แต่ก็ไม่สามารถทนความจ้าของลำแสงนั้นได้จนต้องปิดเปลือกตาลง ความรู้สึกร้อนเริ่มเข้ามาแทนที่ความอบอุ่นเมื่อครู่ ร้อน... ร้อนขึ้น... ร้อนขึ้น... ร้อนเหลือเกิน... มันร้อนจนเขาทนแทบไม่ไหว ความร้อนที่ดูเหมือนว่าแท้ที่จริงแล้วส่งตรงออกมาจากภายในร่างกายของเขาเอง มันอัดแน่นอยู่ข้างในจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดทรมาน ร่างกายเหมือนถูกเผาผลาญและกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ใครก็ได้ช่วยที... ช่วยเขาด้วย... ช่วยด้วย!!....................... อ๊าก!! ......................
เทียเรลล์! ... เทียเรลล์! ... เสียงเรียกดังๆของอันเดรียสทำให้ทายาทคนเดียวของตระกูลลาเรนส์สะดุ้งสุดตัว เทียเรลล์ทะลึ่งพรวดขึ้นจากเตียงทันที เหงื่อเม็ดโป้งผุดพราวขึ้นเต็มใบหน้าคร้ามที่ตอนนี้เปลี่ยนสีเป็นซีดจนเกือบขาว
เทียเรลล์... เป็นยังไงบ้าง... นายฝันร้ายน่ะ ใช่มั้ย อันเดรียสถามอย่างอ่อนโยน ขณะที่เทียเรลล์ยังหอบหายใจแรง
ฉัน... ฉันฝันไปเหรอเนี่ย เทียเรลล์นิ่งไปอึดใจเหมือนพึ่งตั้งสติได้
พวกเราได้ยินเสียงนายร้องตะโกนลั่น เลยรีบวิ่งเข้ามาดู ไม่เห็นใครนอกจากนายดิ้นพราดอยู่บนเตียง ฝันร้ายอะไรขนาดนั้นเชียวหรือ วิลเลมส่งผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆให้
เทียเรลล์รับผ้าไปซับหน้าเบาๆ ขอบใจนะ....... ทายาทตระกูลลาเรนส์ตอบเสียงเบา ชายหนุ่มยังไม่หายตกใจกับฝันร้ายเมื่อครู่ ฝันร้ายที่เหมือนจริงเสียจนเขาต้องร้องตะโกนออกมาด้วยความทรมาน และยังรู้สึกได้ถึงพลังงานความร้อนจำนวนมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ในทุกอณูของร่างกาย ความร้อนที่แผดเผาจนร่างกายแทบระเบิดเป็นจุล
นายฝันอะไรหรือ อันเดรียสถามอีกครั้ง เสียงเพื่อนหนุ่มเจ้าเสน่ห์จากอัลวาโรยังคงอ่อนโยน และนั่นทำให้เทียเรลล์เริ่มรู้สึกตัว
เฮ้ย... เฮ้ย... ไม่ต้องมาทำสุ้มเสียงแบบนี้กับฉันหรอกเฟ้ย ฉันไม่ใช่สาวๆพวกนั้น อีกอย่างต่อให้ฉันไม่สนใจสาว ฉันก็ยังไม่สนใจจะเปลี่ยนไปนิยมไม้ป่าเดียวกัน เทียเรลล์เริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเอง
อันเดรียสจึงแยกเขี้ยว ไอ้ตัวแสบ... พอดีขึ้นได้ล่ะออกลายเลย รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนดิ้นตายไปเสียก็ดี เพื่อนหนุ่มหน้าสวยจากอัลวาโรเสียงแข็ง
เอาล่ะ... ตื่นก็ดีแล้ว ลุกไปอาบน้ำอาบท่าเสีย เดี๋ยวจะได้ลงไปกินอาหารเช้ากัน วิลเลมตัดบทก่อนที่เพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์ทั้งสองคนของเขาจะเริ่มเปิดศึกยกแรกของวัน
เช้านี้วิลเลมทำหน้าที่เดินวนรอบเคาน์เตอร์ยาวในโรงอาหาร ตักอาหารเช้าแบบเดิมๆซึ่งก็คือไข่คน เบค่อนและแฮมที่ส่งตรงจากบาวาเรียบ้านเกิดของเขา และขนมปังจากโบการ์ด ทั้งสำหรับเทียเรลล์ อันเดรียส และตัวเอง อันเดรียสไปยืนต่อคิวรอรับนมสดร้อนและน้ำผลไม้ ในขณะที่เทียเรลล์นั่งหมดสภาพรออยู่ที่โต๊ะยาว ความฝันนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน ทั้งเหนื่อย เพลีย และล้า
ไหวหรือเปล่า วิลเลมส่งเสียงแสดงความห่วงใย ก่อนวางถาดอาหารลงที่โต๊ะและทรุดตัวลงนั่ง
เฮ้อ... ทำไมรู้สึกเพลียได้ขนาดนี้ไม่รู้ เทียเรลล์ถอนหายใจ
คงเพราะฝันร้ายนั่นน่ะสิ ทำให้นายไม่ได้หลับเต็มที่ อันเดรียสตามมาวางเครื่องดื่มลงตรงหน้า
กินอะไรสักหน่อย อาจทำให้รู้สึกมีพลังขึ้น วิลเลมเลื่อนจานไข่คนและเบค่อนมาให้
ดื่มนี่เสียด้วย แคลเซี่ยมจากนมแพะคัสปาร์อาจทำให้สมองโล่งขึ้น อันเดรียสส่งถ้วยนมร้อนให้อีกคน
เฮ้ย... เฮ้ย... ฉันไม่ได้เป็นอะไร ทำอย่างกับฉันเป็นคนป่วยอย่างนั้นล่ะ เทียเรลล์ส่งเสียงขึงขัง เขาไม่ต้องการให้เพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์ทั้งสองต้องรู้สึกกังวล แม้ใจจริงแล้วจะยังรู้สึกผวากับความฝันนั้นอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มคว้าถ้วยนมขึ้นดื่มอย่างรวดเร็วจนหมด ความรู้สึกร้อนที่ยังแผดเผาอยู่ภายในทำให้เขารู้สึกกระหายน้ำ น้ำส้มจึงถูกส่งลงคอตามไปอีกแก้ว
เฮ้... เฮ้... ใจเย็นๆก็ได้ เดี๋ยวสำลักตายพอดี อันเดรียสรีบปราม
จะบอกได้หรือยัง ว่าเมื่อคืนฝันอะไร วิลเลมที่ลอบสังเกตอาการผิดปกติของเทียเรลล์มาตั้งแต่ตอนตื่นนอนส่งคำถามที่ยังคาใจ เทียเรลล์สบตาเพื่อนหนุ่มทั้งสองก่อนตัดสินใจเล่าความฝันประหลาดให้ฟังคร่าวๆ
โธ่เอ๋ย... นึกว่าอะไร ฝันเลอะเทอะได้แบบนี้ กินมากไปน่ะสิ อันเดรียสหัวเราะเบาๆ
นั่นสิ คงไม่มีอะไรหรอกงั้น วิลเลมเสริมอีกคน
ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน เทียเรลล์เกาหัวแกรกพลางยิ้มเก้อ แม้ชายหนุ่มจะเล่าความฝันเมื่อคืนให้เพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์ทั้งสองฟัง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้เล่าก็คือ ความฝันนี้มันเกิดขึ้นซ้ำๆมาเป็นเดือนแล้ว ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาทั้งสามคนใช้เวลาหยุดกลางภาคด้วยกันที่ปราสาทลาเรนส์บ้านของเขาเสียอีก
วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นการเรียนการสอนภาคศิลปะการต่อสู้ นักเรียนใหม่ต้องไปรวมตัวกันที่สนามฝึกฝน ทุกคนอยู่ในชุดซ้อมหลากสีซึ่งเป็นเครื่องแบบของตักศิลา เสื้อกางเกงยืดสีดำ ขาว แดง หรือน้ำเงิน รองเท้าบู๊ทสีดำยาวเกือบถึงเข่า นอกจากนี้ยังมีเสื้อเกราะอ่อนสีเงินสำหรับสวมทับเพื่อป้องกันอวัยวะสำคัญจากการบาดเจ็บขณะฝึกฝน
หากเป็นปกติแล้วเทียเรลล์คงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีความสุขอยู่ไม่น้อย เพราะชายหนุ่มนับวันรอเวลานี้มานาน แต่ความฝันประหลาดนั่นทำให้อารมณ์ของเขาไม่ค่อยแจ่มใสนัก
นักเรียนใหม่ของตักศิลาทุกคน... นับจากบัดนี้ พวกเธอจะเข้าสู่การเรียนการสอนภาคศิลปะการต่อสู้ ขอให้พวกเธอทุกคนตั้งใจฝึกฝน เพื่อสักวันจะได้นำวิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียนนี้ไปใช้ประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า เสียงประกาศก้องด้วยน้ำเสียงทรงพลังจากโอลาฟ ลาเรนส์ประมุขแห่งตักศิลา ฉันขอแนะนำมาสเตอร์คนใหม่ที่จะมารับหน้าที่ฝึกฝนพวกเธอตลอดภาคเรียนนี้... มาสเตอร์ซาเบรียล ลาเกรฟจากคัสปาร์
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมและผ้าโพกศีรษะสีขาวก้าวออกมายืนเบื้องหน้าทันทีที่สิ้นเสียงประกาศของโอลาฟ ผิวขาวที่เปลี่ยนเป็นสีแทนเข้มเพราะแดดทะเลทราย คิ้วดำเข้มดกหนาและไรเคราเขียวจางๆรับกับริมฝีปากหนาแต่ได้รูป นัยน์ตาคมปลาบสีน้ำตาลเข้มไม่ต่างจากดวงตาของเหยี่ยวทะเลทรายที่เกาะอยู่บนบ่า มาสเตอร์คนใหม่สร้างเสียงฮือฮาให้เกิดขึ้นในหมู่นักเรียนทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนสาวๆ
ฉัน... ซาเบรียล ลาเกรฟ... ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้ฝึกสอนพวกเธอทุกคนในภาคเรียนนี้ มาสเตอร์คนใหม่กล่าวทักทาย ก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนกัน... ฉันอยากขอทดสอบฝีมือของพวกเธอดูสักหน่อย ใครอยากเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ ลองทดสอบดูบ้าง มาสเตอร์หนุ่มจากคัสปาร์ดินแดนแห่งทะเลทรายสีทองกวาดตามองไปรอบบริเวณ
สามตรีพิทักษ์เลยครับ... มาสเตอร์ เสียงนักเรียนชายคนหนึ่งนำเสนอ
อีกคนรีบสนับสนุน วิลเลม เดอฟริสครับ... มาสเตอร์
เสียงฮือฮาเห็นพ้องด้วยดังไปทั่ว นักเรียนทุกคนหันหน้ามองไปยังวิลเลมเป็นตาเดียว ในขณะที่วิลเลมลูกชายนายพลใหญ่แห่งบาวาเรียยังคงยืนนิ่ง ดวงตาสีฟ้าล้ำลึกไม่แสดงอารมณ์ใดใด
ฉันขอเป็นตัวแทนของตรีพิทักษ์เองก็แล้วกัน เทียเรลล์ประกาศก้อง ก่อนจะก้าวออกมาจากด้านหลัง ชายหนุ่มแย้มรอยยิ้มมุมปากอย่างมั่นใจ เรื่องอะไรจะให้วิลเลมโดดเด่นบดบังรัศมีของทายาทตระกูลลาเรนส์ผู้สืบเชื้อสายนักรบแห่งเทพโอดีนมาแต่ครั้งโบราณกาลอย่างเขา แม้บารอนเนสควินเนียผู้มีศักดิ์เป็นป้าจะไม่ยอมรับสายเลือดตะวันออกไกลอีกครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาก็ตาม แต่มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้แสดงฝีมือที่ฝึกฝนมานานปีให้ทุกคนได้เห็นกันเสียที
เฮ้ย... ไอ้ตัวแสบ แน่ใจเหรอ อันเดรียสหันมาทำตาโต ในขณะที่วิลเลมเองก็มองตรงมาที่เทียเรลล์
ของแค่นี้... กล้วยๆ เทียเรลล์ยกมือขึ้นกอดอกทำท่าวางเขื่อง
ดีมาก... เทียเรลล์ ลาเรนส์ ได้ยินมาว่าเธอเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลลาเรนส์ผู้ก่อตั้งตักศิลา หวังว่าคงไม่ทำให้ตระกูลลาเรนส์ต้องขายหน้า มาสเตอร์ซาเบรียลแย้มรอยยิ้มน้อยๆ
มาสเตอร์อยากทดสอบอะไร ว่ามาได้เลย เทียเรลล์โต้ตอบ
เอาเป็นว่าเธอถนัดอะไรที่สุด เลือกมาละกัน ซาเบรียลยังคงยิ้มบาง
ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ เทียเรลล์ ลาเรนส์คนนี้ถนัดไปหมดทุกอย่างล่ะครับ... เทียเรลล์ยังคงคุยโว ก่อนกวาดตาไปยังแท่นอาวุธหลากชนิดด้านข้างและตัดสินใจชี้มือไปยังขวานโบราณคู่เขื่องที่ตั้งอยู่บนแท่นด้านซ้าย เอาเจ้าคู่นั้นก็แล้วกัน ชายหนุ่มเดินไปหยิบขวานคู่โบราณออกมาจากแท่นวาง หมุนอาวุธด้วยมือทั้งสองข้างอย่างมาดมั่น
มาสเตอร์ซาเบรียลก้าวไปยังแท่นด้านขวา ก่อนหยิบขวานลักษณะเดียวกันอีกคู่หนึ่ง ไม่มีเสียงใดใดหลุดรอดออกมาอีก สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังคนทั้งสอง
เพียงเสี้ยววินาที เทียเรลล์ก็พุ่งตัวเข้าจู่โจม ขวานในมือขวาถูกเหวี่ยงตรงไปยังซาเบรียล แต่มาสเตอร์หนุ่มจากคัสปาร์ดินแดนแห่งผืนทรายสีทองเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว คมขวานพุ่งเฉียดชายเสื้อคลุมสีขาวที่สะบัดตามแรงหมุนของเจ้าของเสื้อ เหยี่ยวทะเลทรายสีน้ำตาลตัวนั้นสะบัดปีกโผบินออกจากหัวไหล่ของซาเบรียลทันที
เทียเรลล์หันตัวพุ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว ขวานในมือซ้ายฟาดลงที่เป้าหมาย ซาเบรียลรับมันเอาไว้ด้วยขวานทั้งสองเล่มในมือ ก่อนออกแรงผลักส่งให้ฝ่ายตรงข้ามต้องถอยออกมา โดยไม่รอช้าเทียเรลล์ทะยานกลับมาอีกครั้ง ส่งขวานคู่ในมือทั้งสองข้างให้ทำหน้าที่ของมันอย่างหนักหน่วงและทรงพลัง แต่ซาเบรียลก็สามารถรับแรงปะทะจากอาวุธโบราณคู่นั้นไว้ได้อย่างแคล่วคล่อง
เวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจ เทียเรลล์เริ่มหอบหายใจแรงขึ้น แม้ชายหนุ่มเป็นคนแข็งแรงและฝึกซ้อมการใช้อาวุธอยู่เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การถือขวานโบราณคู่เขื่องไว้ในมือทั้งสองข้างก็สร้างภาระหนักให้เขาอยู่ไม่น้อย
เหนื่อยแล้วหรือ... เทียเรลล์ ลาเรนส์ ซาเบรียลส่งยิ้มบางอีกครั้ง งั้นคราวนี้... ตาฉันบ้างล่ะนะ
ซาเบรียลทะยานตัวเข้าใส่เทียเรลล์ทันทีที่สิ้นเสียง มาสเตอร์หนุ่มจากดินแดนแห่งทะเลทรายกระหน่ำขวานทั้งสองข้างในมือเข้าใส่ทายาทตระกูลลาเรนส์ไม่ยั้ง เทียเรลล์ได้แต่ปัดป้องและรับมันไว้ด้วยอาวุธในมือ แต่ความหนักหน่วงของขวานทั้งคู่บวกกับพลังอันรุนแรงที่ซาเบรียลส่งออกมาทำให้เขาต้องถอยกรูด และแล้วชายหนุ่มก็เสียหลัก ซาเบรียลไม่รอช้า ฉวยจังหวะฟาดขวานในมือซ้ายตามลงไปอย่างรวดเร็ว
แกร๊ง!................ เสียงขวานปะทะเข้ากับทวนเหล็กที่พุ่งสวนทางเข้ามารับไว้ได้อย่างทันท่วงที ซาเบรียลหันกลับไปยังทิศทางที่ทวนถูกส่งออกมาขวางเอาไว้... วิลเลม เดอฟริสนั่นเอง!
มาสเตอร์คงไม่ได้คิดจะทดสอบให้ถึงตาย... ใช่มั้ยครับ ดวงตาสีฟ้าล้ำลึกของวิลเลมลูกชายนายพลใหญ่แห่งบาวาเรียส่งประกายวาวโรจน์ และเพียงชั่ววินาทีที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมปลาบของมาสเตอร์หนุ่มจากคัสปาร์ฉายประกายอำมหิต
ดูเหมือนว่า... ฉันจะประมาทเธอไม่ได้เลยสินะ... วิลเลม เดอฟริส รอยยิ้มบางกลับมาประดับบนใบหน้าของซาเบรียล ก่อนที่มาสเตอร์หนุ่มจะหันไปบอกนักเรียนทุกคน วันนี้พอแค่นี้ก่อน... พรุ่งนี้เราจะเริ่มเรียนกันอย่างจริงจัง
เป็นยังไงบ้าง... เทียเรลล์ วิลเลมช่วยพยุงเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์ ทายาทคนเดียวของตระกูลลาเรนส์ที่ลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นสนามฝึกฝน ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของเทียเรลล์ ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากสนามฝึกฝนไปทันที
สงสัยคงจะช้อค อันเดรียสมองตามอย่างเป็นห่วง เดี๋ยวฉันตามไปดูมันเอง
อย่าเลย วิลเลมปราม ปล่อยไปสักพักก่อนเถอะ ชายหนุ่มเข้าใจดี เทียเรลล์เชื่อมั่นในฝีมือของตัวเองเสมอมา ยิ่งเมื่อสอบได้คะแนนสูงสุดภาคศิลปะการต่อสู้ยิ่งทำให้เจ้าตัวมั่นใจในความสามารถนั้น แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า ซาเบรียล ลาเกรฟ... ผู้ชายคนนี้ฝีมือร้ายกาจจริงๆ แววตาอำมหิตที่ส่งออกมาตอนเขาสอดทวนเข้าไปขวาง คนๆนี้อันตราย นับจากนี้ไปเขาคงต้องระวังตัวให้มากยิ่งขึ้นไปอีก...........
ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวลงต่ำ ลมเย็นโบกโบยพัดมาบางเบา ต้นบัวจากแดนตะวันออกไกลที่ตักศิลานำพันธุ์มาปลูกลงในสระน้ำกว้างชูดอกสีน้ำเงิน ม่วง และขาว เทียเรลล์ยืนจ้องมองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนแผ่นน้ำ ภาพความทรงจำของพ่อในอดีตหวนกลับมาให้ต้องสะเทือนใจ ฝีมือการต่อสู้ด้วยขวานของพ่อเป็นหนึ่งในแผ่นดิน
โอลาฟปู่ของเขาเคยเล่าตำนานของเทพทอร์ บุตรแห่งมหาเทพโอดีน ผู้มีขวานเป็นอาวุธคู่กาย อันเป็นที่มาของชื่อของพ่อ ปู่ยังบอกอีกว่าตอนพ่อยังเป็นเด็ก พ่อชื่นชมขวานโบราณที่เชื่อกันว่าเป็นอาวุธอันศักดิ์สิทธิ์ของบุตรแห่งโอดีน และตั้งใจมุ่งมั่นฝึกฝนการต่อสู้ด้วยขวานจนกระทั่งเติบโตเป็นหนุ่ม ชื่อเสียงของพ่อเลื่องลือไปไกล นักรบและยอดฝีมือจากดินแดนต่างๆเดินทางเข้ามาขอท้าประลอง แต่ทุกคนก็ต้องพ่ายแพ้กลับไป ผู้คนจึงพร้อมใจกันขนานนามพ่อว่ามาสเตอร์ทอร์นับจากนั้น
พ่อครับ... ผมทำให้พ่อต้องผิดหวัง ผมแพ้อย่างหมดรูป ทั้งที่มั่นใจว่าอาวุธของพ่อจะต้องนำชัยมาให้ ผมทำให้ชื่อเสียงของมาสเตอร์ทอร์ต้องเสื่อมเสีย ผมจะทำยังไงต่อไปดี..... เทียเรลล์รำพึงกับตัวเอง
แค่แพ้ดวลหนเดียว ทำท่าอย่างกับสอบตกติดกันสิบครั้ง เสียงหญิงสาวที่ดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้เทียเรลล์ต้องหันหน้ากลับไปหาต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
เด็กสาวที่อายุน่าจะไล่เลี่ยกับเขายืนกอดอกมองตรงมาอยู่ก่อนแล้ว ผิวขาวอมชมพูส่งให้แก้มนั้นเป็นสีเรื่อตามธรรมชาติ ผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนสวยถูกรวบขึ้นสูงยาวเป็นหางม้า ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่โตจ้องตรงมาแทบไม่กระพริบ ที่น่าประหลาดใจคือเจ้าหล่อนสวมเสื้อและกางเกงหนังแบบที่ชายหนุ่มโดยทั่วไปสวมใส่
แพ้ดวลแค่หนเดียวไม่ตายหรอกน่า... หากอยากรู้ว่าควรทำยังไงต่อไป ง่ายนิดเดียว... จากนี้ไปตั้งใจฝึกฝนให้เต็มที่ ฝีมือของนายก็ไม่ถึงกับแย่ เพียงแต่ที่นายแพ้ ก็เพราะอ่อนประสบการณ์เท่านั้น เด็กสาวคนเดิมพูดต่อ
เธอ... เป็นใครกัน เทียเรลล์ส่งคำถามออกไปอย่างงงๆ ชายหนุ่มมั่นใจว่าไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเด็กสาวคนนี้ในรั้วตักศิลามาก่อน
หากไม่อยากให้ชื่อเสียงของมาสเตอร์ทอร์ต้องเสื่อมเสีย ก็เลิกตีหน้าเศร้าคอตก แล้วออกไปสู้โลกเผชิญความจริง ไม่อย่างนั้น พ่อนายคงลุกขึ้นมาจากหลุมแล้วเอาเจ้าขวานโบราณนั่นแพ่นกะโหลกหนาๆของนายแน่ เจ้าหล่อนหัวเราะคิก
เทียเรลล์จึงเริ่มรู้สึกตัว ห้ามพูดจาลบหลู่พ่อของฉันนะ!
ทำไมจะพูดไม่ได้... ก็มีลูกชายไม่เอาอ่าวเอาแหลมแบบนี้ เด็กสาวคนเดิมลอยหน้าลอยตา
หนอย... เธอ... ผู้หญิงอะไรปากร้ายได้ขนาดนี้ เทียเรลล์กำหมัดแน่น
ทำไม... อยากชกฉันหรือไง เอาสิ... ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู เจ้าหล่อนกระพริบตาถี่ๆเป็นเชิงท้าทาย
บ้าชะมัด! เทียเรลล์ส่งหมัดกระแทกใส่ลำต้นของต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง ระบายอารมณ์ออกมาอย่างโมโห ก่อนหันไปตะเบ็งใส่เด็กสาวแปลกหน้า อย่าให้เจอกันอีกนะ! ยัยม้าดีดกะโหลก! ยัยทอมบอย!
ชายหนุ่มสะบัดหน้าพรืดเดินจากไปทันที ทิ้งให้เด็กสาวคนเดิมส่งเสียงตามหลังมาอย่างขัดใจ ว่ายังไงนะ! ฉันไม่ใช่ทอมนะ รู้ไว้เสียด้วย! แน่จริงกลับมาก่อนสิ เทียเรลล์ ลาเรนส์! คนขี้แย! คนบ้า! คนผีทะเล! ..................
วันนี้ช่างเป็นวันที่แย่เสียจริง เทียเรลล์ถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ขณะที่เดินจ้ำอ้าวๆกลับหอนอน เมื่อคืนชายหนุ่มก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืนเพราะฝันประหลาดนั่น วันแรกของการเรียนภาคศิลปะการต่อสู้ก็กลายเป็นวันแห่งฝันร้ายที่เขาต้องมาพ่ายแพ้อย่างหมดรูปต่อมาสเตอร์คนใหม่ แถมยังต้องมาเจอยัยทอมที่ไม่รู้เป็นใครมาจากไหนด่าพ่อล่อแม่ส่งท้ายเข้าให้อีกต่างหาก ชายหนุ่มยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ลืมความเศร้าเสียใจเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้น
คอยดูเถอะ... ซาเบรียล ลาเกรฟ... ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าลาเรนส์เป็นตระกูลแห่งนักรบที่ไม่เคยเป็นสองรองใคร... สักวัน... เทียเรลล์ ลาเรนส์คนนี้... จะต้องเอาชนะนายให้จงได้.........
สวัสดีตอนสายๆ ของวันอังคารค่ะนู๋พลอย วันนี้นู๋หญิงมาพร้อมดอกไม้สีหวานๆ ขอให้สดชื่นกับวันทำงานนะค่ะ อาการหนาว ฝนตกบ่อย อย่าลืมดูแลสุขภาพนะค่ะ เป็นห่วงค่ะ / นู๋หญิง
ปล. มีคนไปลอยกระทงด้วยหรือยัง เป็นนู๋หญิงได้ไหม อิอิ