จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน ตื่นได้แล้ว
สิ้นเสียงคนพูดเสียงน้ำสาดก็ตามมาดังซ่าใหญ่
ว้าก......! ไอ้วิลล์ มันหนาวนะเฟ้ย ปลุกกันดีดีไม่ได้เหรอ...หา! น้ำร้อนมีก็ไม่ใช้ดันเล่นน้ำเย็นแต่เช้า กะฆ่ากันให้ตายเลยใช่มั้ย คนโดนน้ำสาดกระโดดโหยงจากเตียงลงมายืนขาสั่นพั่บ ตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก ผมเผ้าหัวหูดูไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ
ก็ใครใช้ให้ไม่รู้จักตื่นนอนให้เป็นเวล่ำเวลา จะปลุกเทียเรลล์ตัวกินนอนน่ะปลุกอย่างคนปกติเค้าได้เสียที่ไหน ช่วยไม่ได้ วิลเลมตีหน้าเรียบเฉย
นายก็เหมือนกันอันเดรียส รู้ทั้งรู้ว่าไอ้วิลล์จะสาดน้ำใส่ยังปล่อยให้มันทำได้ เทียเรลล์หาเป้าหมายโจมตีต่อ ชายหนุ่มยังหงุดหงิดไม่หายทั้งที่ปากคอเริ่มสั่นสะท้าน
ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ... ก็ไอ้วิลล์มันเรียกแล้วตั้งหลายครั้ง นายหลับไม่รู้เรื่องเองนี่นา อีกอย่าง... วันไหนไม่เห็นลูกหมาโดนน้ำสาด วันนั้นฉันคงกินอะไรแล้วไม่ย่อย อันเดรียสหัวเราะร่า
อันเดรียส! ไอ้เพื่อนบ้า เจ้าลูกหมาโดนน้ำสาดเริ่มสบถ
หากยังไม่ยอมไปอาบน้ำแต่งตัว ฉันกะอันเดรียสจะลงไปโรงอาหารก่อน ส่วนนายหากอยากอดมื้อเช้าเข้าชั้นเรียนก็ตามสบาย ก็แค่นมแพะจากคัสปาร์ ไส้กรอกบาวาเรีย ไข่คน แล้วก็ขนมปังโบการ์ด วิลเลมเอ่ยขึ้นลอยๆ
เฮ้ย... ทำงั้นได้ไง ขืนปล่อยให้พวกนายกินหมด เสียชื่อเทียเรลล์คนนี้แย่ คนตัวเปียกปอนรีบสงบศึกทันควัน ขอสิบนาทีเท่านั้น... เดี๋ยวมา! ชายหนุ่มว่าพลางวิ่งทั่กๆออกจากห้องไปอย่างไม่รอคำตอบ
เฮ้อ... ค่อยยังชั่ว หากจับไข้ขึ้นมาล่ะน่าดู เจ้าวิลล์จอมโหด เทียเรลล์บ่นพึมพำพลางยื่นหน้าเข้าไปรองรับน้ำอุ่นจากฝักบัว ขัดถูใบหน้า หัว และหู
เวลาผ่านไปไม่ถึงสองเดือนกับการเริ่มต้นชีวิตนักเรียนในรั้วตักศิลาแห่งแดนนอร์ส ตักศิลาที่มีชื่อเสียงด้านศาสตร์โบราณแขนงต่างๆมานับร้อยปี ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อนึกย้อนไปถึงตอนที่ได้รู้จักเพื่อนร่วมหอนอนทั้งสอง เขายังจำวันแรกที่เจอเพื่อนใหม่สองคนนี้ได้เป็นอย่างดี.............
ทุกฤดูใบไม้ผลิแท่นศิลาหน้าหอระฆังจะได้รับการจารึกรายชื่อนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนในตักศิลาแห่งนอร์ส ปีนี้ก็เหมือนทุกปีที่ผ่านมา เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์จากดินแดนต่างๆต่างส่งลูกหลานเดินทางเข้ามาในดินแดนศักสิทธิ์เพื่อรับการคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนของตักศิลา แน่นอนว่าค่าเล่าเรียนแพงลิบลิ่ว แต่สำหรับคนที่ไม่มีทุนทรัพย์หรือไม่ใช่ผู้ลากมากดีมาจากไหน ตักศิลาก็ยินดีรับเข้าเป็นนักเรียนทุน หากผลการสอบคัดเลือกได้คะแนนยอดเยี่ยม
ใครกันน่ะ วิลเลม เดอฟริส เด็กหนุ่มคนหนึ่งตั้งคำถาม
เห็นเขาว่าเป็นลูกชายคนเดียวของท่านนายพลใหญ่แห่งบาวาเรีย อีกคนตอบ
หา... จริงหรือ พวกบาวาเรียเนี่ยไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้สหพันธรัฐตะวันออกกำลังระส่ำระสายกันอยู่ด้วย คนตั้งคำถามหน้าตื่น
วิ้ว... แต่เขาทำคะแนนได้สูงสุดทั้งภาควิชาการและภาคศิลปะการต่อสู้เลยนะ ท่าทางจะไม่ธรรมดา คนตอบคำถามเป่าปาก
เฮ้ย... แล้วเทียเรลล์ ลาเรนส์เนี่ย เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลลาเรนส์ผู้ก่อตั้งตักศิลาหรือเปล่า เด็กหนุ่มขี้สงสัยยังถามต่อ ดูสิทำคะแนนภาคศิลปะการต่อสู้ได้เกือบเท่าเดอฟริสเลย แต่... ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ตลกชะมัด ดูคะแนนภาควิชาการสิ เกือบโหล่เลยนะนั่น
แล้วเด็กหนุ่มขี้สงสัยก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง พูดแบบนี้ดูถูกกันหรือไง...
เมื่อเขาหันหลังกลับไปมอง ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มร่างกำยำ ผิวคล้ำแดด กำลังสะบัดปอยผมสีน้ำตาลเข้มที่ระลงมาปรกหน้าผาก คิ้วเข้มบ่งบอกสายเลือดลูกผสมจากแดนตะวันออกไกล นัยน์ตาสีอำพันส่งประกายกล้าท้าทาย ชายหนุ่มแปลกหน้าที่ดูแตกต่างไปจากคนนอร์สท้องถิ่นที่มักมีผิวขาวจัด ผมสีทองอ่อนจนเกือบซีด และนัยน์ตาสีฟ้าใส
ฉันนี่ล่ะเทียเรลล์ ลาเรนส์ เจ้าของนัยน์ตาสีอำพันประกาศก้อง ยังไงเสียก็สอบผ่าน พวกที่พูดกันอยู่นี่สอบได้หรือเปล่าหรอก ...ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ชายหนุ่มกางแขนเท้าสะเอวอย่างภาคภูมิ
ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจอมตั้งคำถามจะโต้ตอบ เสียงนักเรียนหญิงอีกคนก็ดังแทรกขึ้น เอ๋... นี่มัน... อันเดรียส แฟร์โร ใช่ตระกูลแฟร์โรจากอัลวาโรมั้ยนี่?
กรี๊ด... ต้องใช่แน่ๆ อันเดรียส แฟร์โร ฉันเคยเห็นเขาแล้วนะ ตัวจริงน่ะหล่อมากเลยล่ะ เด็กสาวอีกคนขานรับอย่างตื่นเต้น
จะสักเท่าไรกัน ก็แค่พวกหนอนหนังสือ ดูสิ... คะแนนภาคศิลปะการต่อสู้ก็งั้นๆ เทียเรลล์ยิ้มเหยียด ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเองไม่ได้รับความสนใจจากเหล่านักเรียนที่ยืนมุงดูผลการสอบคัดเลือกอย่างที่ควรจะเป็น
แต่ฉันว่า คนเราควรใช้สมองมากกว่าใช้กำลังในการตัดสินปัญหานะ หึๆๆ เสียงสดใสที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง
กรี๊ด............อันเดรียส............. อันเดรียสใช่มั้ยคะ ต้องใช่แน่ๆ นี่ไงพวกเรา คนนี้ละอันเดรียส แฟร์โร เสียงเด็กสาวคนเดิมแทงทะลุแก้วหูของเทียเรลล์จนชายหนุ่มต้องยกมือขึ้นปิดหูแทบจะทันที
แล้วความชุลมุนก็บังเกิดเมื่อเหล่านักเรียนสาวยื้อแย่งกันเพื่อเข้าถึงตัวอันเดรียส ชายหนุ่มร่างเล็ก ผิวแทนสวย ผมสีนิลหยักเป็นลอนดังเกลียวคลื่นในทะเลอัลวาโรแดนใต้บ้านเกิดของเขา หน้าตาอ่อนใสและนัยน์ตาสีทรายทรงเสน่ห์ทำให้เทียเรลล์นึกถึงตำนานนักรักบันลือโลกที่เคยได้ยินผู้คนร่ำลือ... ดอนฮวนหรือโรมิโอ? ใครสักคนที่ต้องจบชีวิตลงเพราะผู้หญิง
เชอะ...วันๆทำเป็นแต่หลีผู้หญิงมากกว่ามั้ง เทียเรลล์รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาติดหมัด
หึๆๆ ก็ยังดีกว่าพวกชอบใช้แต่กำลัง อันเดรียสหนุ่มหน้าสวยจากแดนใต้สวนกลับทันควัน
พูดแบบนี้ อยากมีเรื่องใช่มั้ย เทียเรลล์ตาขวาง
บวกลบเลขให้ถูกเสียก่อน แล้วค่อยคิดหาเรื่องคนจะดีกว่า อันเดรียสยังอารมณ์ดี เขารู้สึกสนุกที่ได้ยั่วโทสะฝ่ายตรงข้าม
หนอย...ไอ้หนุ่มนักรัก เทียเรลล์เลือดขึ้นหน้า อยากรู้นักว่าหากหน้าหล่อๆมีสีเลือด จะยังปากดีได้อีกมั้ย ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า กำปั้นลุ่นๆถูกส่งออกไปทันที แต่ก่อนที่หมัดนั้นจะกระทบใบหน้าสวยราวกับใบหน้าหญิงสาวของอันเดรียส มันก็ปะทะเข้ากับอุ้งมือกำยำของใครอีกคนอย่างเต็มแรง
นายเป็นใคร! เข้ามายุ่งทำไม! เทียเรลล์ตวาด ทั้งที่เขามั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนตัวเล็ก แต่ชายหนุ่มที่รับกำปั้นของเขาไว้ได้ด้วยอุ้งมือเพียงข้างเดียวนั่นรูปร่างสูงใหญ่กว่าเขาเสียอีก ผิวขาวดูหมดจดแบบคนเชื้อสายบาวาเรีย ผมสีทองเจิดจรัสพลิ้วไหวสะท้อนประกายแดด นัยน์ตาสีฟ้าล้ำลึกที่สบตรงมาที่เขากำลังส่งผ่านความรู้สึกเย็นเยือกราวน้ำแข็ง
วิลเลม เดอฟริส เจ้าของดวงตาสีฟ้าล้ำลึกตอบน้ำเสียงราบเรียบ หากอยากสู้ เอาชนะให้ได้ในเกมจะดีกว่า อีกอย่าง... คนหอนอนเดียวกันห้ามชกต่อยกันเอง ฉันไม่อยากถูกลงโทษเพราะเรื่องงี่เง่า
นายหมายความว่าไง เทียเรลล์ยังไม่ยอมลดละ
ก็หมายความว่าอันเดรียส นาย และฉัน เราสามคนคือตรีพิทักษ์ ผู้ดูแลหอนอนตามกฎของตักศิลา โดยคัดเลือกจากคนที่ทำคะแนนได้สูงสุดจากการสอบภาควิชาการ ภาคศิลปะการต่อสู้ และจากคะแนนรวมทั้งสองภาค ดังนั้นตรีพิทักษ์จะชกต่อยกันเองไม่ได้ วิลเลมส่งสายตาคมกริบ เป็นอีกครั้งที่เทียเรลล์สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่ดูเหมือนจะแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ความรู้สึกที่ส่งผ่านออกมาจากนัยน์ตาสีฟ้านั่นทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆ
เชอะ... ก็ได้ อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้านักรักเนี่ยจะไปได้สักกี่น้ำ ขี้คร้านจะถูกตีหลังเดาะก่อนจะได้เริ่มเรียนภาคศิลปะการต่อสู้ซะอีกละมั้ง เทียเรลล์ยังไม่วายแดกดัน
อันเดรียสหนุ่มหน้าสวยจากอัลวาโรแดนใต้หัวเราะร่วน ได้ยินว่าตระกูลลาเรนส์มีทายาทคนเดียว คงเป็นนายสินะ ฉันว่าหากเทียเรลล์ ลาเรนส์ ทายาทคนเดียวของตระกูลลาเรนส์สอบตกภาควิชาการ ตระกูลลาเรนส์คงต้องอับอายขายขี้หน้าชาวบ้านไปทั่วทุกแคว้นแน่ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
เป็นอีกครั้งที่ทำให้เทียเรลล์กัดฟันกรอด แต่ก่อนที่จะมีมวยยกสองเกิดขึ้น วิลเลมผู้ทำหน้าที่กรรมการก็จับคู่กรณีแยกออกจากกันเสียก่อน เข้าประชุมหอนอนได้แล้ว มาสเตอร์ให้มาตามทุกคน
การประชุมนักเรียนใหม่ใช้เวลาเกือบค่อนวัน เพื่อแนะนำเหล่ามาสเตอร์ผู้สอนศาสตร์แขนงต่างๆและนำชมตักศิลา ทั้งห้องสอนภาควิชาการ สนามฝึกฝนภาคศิลปะการต่อสู้ โรงอาหาร หอนอน หอสมุด และหอระฆังซึ่งเป็นที่รวมส่วนอำนวยการ ท้ายสุดเป็นการปิดประชุมด้วยการกล่าวต้อนรับจากประมุขแห่งตักศิลาโอลาฟ ลาเรนส์
ไม่น่าเชื่อว่าประมุขโอลาฟที่ดูสุขุมคัมภีรภาพน่านับถือขนาดนั้น จะมีหลานชายงี่เง่าได้ถึงขนาดนี้ หึๆๆ อันเดรียสส่งเสียงสดใสแต่กวนอารมณ์ในความรู้สึกของเทียเรลล์ ขณะที่นักเรียนใหม่ทะยอยเดินออกจากหอประชุมใหญ่ไปยังหอนอนเพื่อเข้าห้องพัก
ทำไม...มีหลานชายอย่างฉันน่าภูมิใจจะตาย อ้อ... ได้ยินมาว่าเคานต์อัลฟอนโซพ่อนายออกจะใหญ่โตคับอัลวาโร แต่น่าสงสาร... ดันมีลูกชายที่ว่าไปแล้วก็ไม่ต่างจากมีลูกสาว ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ เทียเรลล์สวนกลับทันควันลามปามไปถึงบิดาของอันเดรียส
วิลเลมที่เดินนำอยู่ข้างหน้าถึงกับส่ายหัว สองคนนี้ฟัดกันตั้งแต่เช้าจนบ่าย ไม่เห็นมีใครทำท่าเหน็ดเหนื่อย คนกลางที่ต้องคอยทำตัวเป็นกรรมการอย่างเขาเสียอีกที่เหนื่อย
เอ้า...ถึงละ สามห้องนอนติดกันนี่ถูกจัดไว้สำหรับตรีพิทักษ์โดยเฉพาะ พวกนายอยากอยู่ห้องไหนก็เลือกเอาละกัน วิลเลมพูดเนิบๆ ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องตรงกลางไปทันที
เฮ้ย...ห้องริมนี่ของฉันเฟ้ย เทียเรลล์คนเลือดร้อนโวยวาย เมื่อเห็นอันเดรียสหนุ่มนักรักเดินเข้าห้องที่ตัวเองต้องการไปหน้าตาเฉย
มาก่อน เลือกก่อน ช่วยไม่ได้ อันเดรียสส่งยิ้มยียวน
อันเดรียส! ไอ้....... โครม! โอ๊ย! ไอ้วิลล์ เล่นอะไรฟะ ใบหน้าของคนเลือดร้อนฟาดเข้ากับประตูที่วิลเลมเปิดออกมาเต็มแรง
อ้าว... นึกว่าตกลงกันได้แล้ว โทษที...ไม่ทันเห็น วิลเลมแลบลิ้นแผลบทั้งที่สีหน้ายังเรียบเฉย
เทียเรลล์จึงได้แต่คำรามลั่น อันเดรียส! ไอ้โรมิโอ! ไอ้ดอนฮวน! ฝากไว้ก่อนเหอะ! และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ทุกคนในหอนอนได้ยินก่อนค่ำคืนแรกในตักศิลาจะเริ่มต้นขึ้น...........
ก๊อกๆ... หืม? เทียเรลล์พึมพำ
ก๊อกๆ ฮื่อ... ไม่เอาน่า ชายหนุ่มชักเริ่มหงุดหงิด
ก๊อกๆๆ บอกว่าไม่เล่น! ทายาทตระกูลลาเรนส์ผุดลุกขึ้นยืนเกือบจะทันที พร้อมๆกับเสียงหัวเราะครื้นเครงของเพื่อนนักเรียนร่วมชั้น
อ่า.... มาสเตอร์ฟา..... เทียเรลล์ครางเสียงอ่อยเมื่อเห็นมาสเตอร์ฟายืนตัวสั่นเทิ้มท่าทางโกรธจัด มาสเตอร์โกรธก็ไม่แปลกเพราะชายหนุ่มมักหลับเวลาเข้าเรียนวิชาการปกครองเป็นประจำ แต่ที่แย่กว่าทุกครั้งก็เพราะครั้งนี้ทายาทตระกูลลาเรนส์นอนกรนเสียงดังสนั่น
เทียเรลล์ ลาเรนส์... ฉันขอสั่งให้เธอไปคัดรายงานเรื่องระบอบการปกครองแบบสหพันธรัฐตะวันออกจากหอสมุดหนึ่งร้อยจบ เข้าชั้นเรียนคราวหน้าต้องมีมาส่ง! มาสเตอร์ฟาประกาศิต
นั่นทำให้เทียเรลล์แทบล้มทั้งยืน อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองทำกรรมเวรอะไรไว้ถึงต้องมาทนนั่งเรียนนั่งหลับ แถมโดนสั่งคัดรายงานมหาโหดในวิชาที่ไม่เคยเห็นประโยชน์อะไรสักนิด วิชาการปกครองเป็นวิชาบังคับสำคัญก็จริง แต่ในความคิดของเทียเรลล์มันเหมาะสำหรับพวกเจ้าครองนครที่ต้องปกครองดูแลผู้คนมากกว่า ชายหนุ่มไม่เคยสนใจเรื่องแบบนี้แม้แต่น้อย ก็งานแสนเครียดขนาดนั้นไม่เห็นสนุกสักนิด
เฮ้อ... น่าสงสาร จะให้พวกที่รู้จักแต่รบพุ่งมาเข้าใจงานปกครองของปราชญ์ คงเหมือนตักน้ำรดหัวตอ... หึๆๆ อันเดรียสหนุ่มหน้าสวยได้โอกาสกัด
แต่ครั้งนี้เทียเรลล์ไม่มีกะจิตกะใจจะตอบโต้ เพราะเพียงแค่คิดถึงรายงานที่ต้องคัดมาส่งครั้งหน้าที่เข้าเรียน หัวใจของชายหนุ่มก็หล่นวูบ ไม่รู้ว่าเขาต้องอดหลับอดนอนกี่คืนกว่าจะคัดได้ครบถ้วน
อย่าไปยั่วมันนักเลยอันเดรียส เดี๋ยวมันคลั่งขึ้นมา ฉันขี้เกียจเล่นบทกรรมการ วิลเลมปรามเสียงเรียบ
ก็แค่นึกสนุกเท่านั้นละน่า อันเดรียสยิ้มจนตาหยี นายก็เหมือนกันนะวิลล์ จริงจังมากไประวังจะไม่มีสาวไหนกล้าเข้าใกล้นะ... หึๆๆ
อันเดรียสเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์หน้าสวยเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง ช่างพูดช่างเจรจา จนเทียเรลล์อดคิดไม่ได้ว่าหนุ่มนักรักจากอัลวาโรแดนใต้อาจได้บุคลิคแบบนี้มาจากเคานต์อัลฟอนโซ บิดาผู้เป็นขุนนางใหญ่ฝ่ายการต่างประเทศ เทียเรลล์เคยได้ยินโอลาฟปู่ของเขากล่าวถึงว่า เคานต์อัลฟอนโซเป็นดั่งพระหัตถ์ขวาของกษัตริย์เปโตรทีเดียว
ส่วนวิลเลมลูกชายคนเดียวของนายพลลูเธอร์ เดอฟริส จอมทัพผู้เกรียงไกรแห่งบาวาเรีย หนึ่งในห้ารัฐของสหพันธรัฐตะวันออก กลับเป็นคนพูดน้อย เงียบขรึม และเยือกเย็นจนเทียเรลล์รู้สึกว่า บ่อยครั้งที่ลูกชายคนเดียวของท่านนายพลใหญ่ทำให้สิ่งรอบตัวดูคล้ายจะกลายเป็นน้ำแข็งไปเสียให้ได้
ภาพของอันเดรียสที่อยู่ในวงล้อมของนักเรียนหญิงเป็นภาพที่เทียเรลล์เห็นจนชินตา ขณะเดียวกันก็มีนักเรียนหญิงอีกจำนวนไม่น้อยที่เฝ้าติดตามวิลเลม แต่สิ่งหนึ่งที่เทียเรลล์ต้องยอมรับว่าอันเดรียสพูดไม่ผิดก็คือความเย็นชาที่ส่งผ่านออกมาจากดวงตาสีฟ้าคมกริบของเจ้าลูกชายนายพลใหญ่ วิลเลมเย็นชาเสียจนนักเรียนสาวๆไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้แม้จะชื่นชอบเขามากเพียงใดก็ตาม
ฉันไม่เหมือนนาย สาวๆไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตของฉัน วิลเลมพูดเรื่อยๆ
แล้วเป้าหมายในชีวิตของนายคืออะไรฟะ เทียเรลล์อดไม่ได้จนต้องพูดแทรกขึ้น ก็นานๆทีวิลเลมผู้แสนเย็นชาจะยอมเปิดปากพูดอะไรยาวๆกับคนอื่นเขาบ้าง
ไม่ใช่การได้เป็นนักชิม เพื่อที่จะได้เดินทางไปกินฟรีทั่วราชอาณาจักรอย่างนายก็แล้วกัน วิลเลมตอบหน้าตาเฉยก่อนเดินเข้าห้องพักไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้อันเดรียสหัวเราะจนท้องแข็ง และเทียเรลล์คนเลือดร้อนเต้นเร่าๆ
อะ... อะ... ไอ้วิลล์... ไอ้เพื่อนบ้า! เรารึอุตส่าห์ตั้งใจฟัง กลับออกมาเดี๋ยวนี้นะ! มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน... ไอ้วิลล์!............
เผื่อใครผ่านไปมาจะได้ไม่งง
เรื่องนี้เป็นเรื่องยาวเรื่องเเรกของหนูพลอยสีม่วงค่ะ
เลยเอามาลองปะลงบล๊อก บล๊อกก็พึ่งลองทำใหม่
มือใหม่หัดทำเลยนะนั่น เหะๆ
เรื่องราวเกี่ยวกับความโลภที่ไม่มีสิ้นสุดของมนุษย์
การตามหาศาสตราเเห่งมหาเทพ ที่เชื่อกันว่า
ผู้ใดได้ครอบครองมัน ผู้นั้นจะได้ครอบครองโลก
เเต่เเท้ที่จริงเเล้ว อาวุธอันยิ่งใหญ่เหนือกว่าเทพศาสตราใด
ก็คือความรักเเละมิตรภาพนั่นเอง
ฝากทุกท่านช่วยติดตาม รวมทั้งหากมีข้อเเนะนำติชม
ทิ้งเม้ต์ไว้ได้เลยนะคะ ด้วยความขอบคุณจากใจเลยค่ะ