บรรยากาศยามเช้าดูสดใส เสียงพ่อค้าแม่ขายและผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อหาของกินสารพัดชนิดดังจ้อกแจ้กจอแจไปทั่วบริเวณตลาดใจกลางเมือง
ตลาดเก่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวงเอเซียร์ ของสดทั้งหลายอย่างเนื้อสัตว์สารพัดชนิดโดยมากเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พวกพืชผักและผลไม้ส่วนใหญ่นำเข้าจากโบการ์ด อัลวาโร หรือสหพันธรัฐตะวันออก นอกจากนี้ยังมีตลาดนัดที่ตั้งอยู่ติดกัน ขายของใช้นานาสารพัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมไปจนถึงเครื่องครัว หรือเครื่องนอน ซึ่งมีทั้งแบบผลิตได้ในท้องถิ่น และนำเข้าจากแคว้นใกล้เคียง
ซีรีดา ลาเรนส์ เฟอร์เรอร์ หญิงสาวร่างแบบบาง ผิวขาวจัด ผมสีทองอ่อนจนเกือบซีดยาวสลวยเกือบถึงบั้นเอว กับดวงตาสีฟ้าอ่อนใส เดินผ่านผู้คนที่หยุดยืนเลือกเฟ้นของสดต่างๆจากแผงสองข้างทาง โดยมีดีน่าห์สาวใช้เดินถือถุงของสดตามหลังไปติดๆ
เนื้อวัวก็ได้แล้ว... ซี่โครงแกะก็ได้แล้ว... ผักก็มีแล้ว... คราวนี้ก็เหลือแต่ผลไม้กับพวกเครื่องเทศ ใช่ไหมจ๊ะ...ดีน่าห์ ซีรีดาหันไปถามสาวใช้คนสนิท
ค่ะ... คุณหนู แต่ว่าทำไมวันนี้ถึงซื้อของเยอะกว่าทุกครั้งคะ... ปกติก็มีแต่คุณท่านกับคุณหนูเท่านั้นที่จะรับทานกัน... บารอนบาร์เทลกับบารอนเนสควินเนียตอนนี้ก็ยังอยู่ที่เวสต์ฟาเลีย... ดีน่าห์สาวใช้ก้มลงมองถุงของสดในมืออย่างสงสัย
ฉันอยากไปเยี่ยมเทียเรลล์ที่ตักศิลา ไม่ได้เจอกันมาจะสามเดือนแล้ว แล้วก็คิดว่าจะทำซี่โครงแกะย่างไปฝากจ้ะ ซีรีดาเฉลยพร้อมรอยยิ้ม
อ๋อ... แบบนี้นี่เอง นายน้อยคงดีใจมากเลยนะคะ หากได้เจอคุณหนู แถมยังได้กินอาหารฝีมือคุณหนูอีกด้วย... ฮิ...ฮิ...ฮิ ดีน่าห์หัวเราะคิก เจ้าหล่อนนึกไปถึงภาพนายน้อยเทียเรลล์ ทายาทคนเดียวของตระกูลลาเรนส์ ทำท่าดีอกดีใจเมื่อเจอคุณหนูซีรีดา พี่สาวซึ่งมาเยี่ยมพร้อมกับอาหารโปรดออกทันที
ซีรีดา คุณหนูแห่งตระกูลลาเรนส์ ตระกูลขุนนางอันทรงอิทธิพลที่สุดในแคว้นนอร์ส เดินมาหยุดหน้าแผงขายผลไม้ ลูกแพร์สีเขียวสดวางเรียงอยู่หน้าแผงดูสวยงามน่ากิน
รับลูกแพร์ไหมจ๊ะ... ลูกแพร์สดๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลยจ้ะ... แม่ค้าวัยกลางคนร่างป้อมส่งยิ้มให้กับซีรีดา
ขายยังไงจ๊ะ... แม่ค้า ซีรีดาส่งยิ้มหวานกลับ
กิโลละสามเหรียญทองจ้ะ แม่ค้าร่างป้อมหยิบตะกร้าเปล่าส่งให้ ในขณะที่ซีรีดาสาละวนเลือกเฟ้นลูกแพร์ใส่ตะกร้า แม่ค้าหยิบลูกแพร์จากตะกร้าขึ้นวางบนเครื่องชั่ง ก่อนบอกราคา สองกิโลนิดๆ... คิดแค่สองกิโลก็แล้วกันคุณหนู... ทั้งหมดก็หกเหรียญทองจ้ะ
ซีรีดาล้วงถุงกำมะหยี่ที่บรรจุเหรียญทองมาร์เทนเอาไว้ออกมาจากชายพก คลี่เปิดปากถุงออกเพื่อจะนับเงินส่งให้แม่ค้าผลไม้ ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามา ฉวยถุงเงินจากมือของหญิงสาว แล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจจากคุณหนูตระกูลลาเรนส์
ช่วยด้วย!.... ช่วยด้วย!.... โจรวิ่งราว!......ช่วยด้วย.............! ดีน่าห์ตะโกนขึ้นอย่างตระหนก คุณหนู!... เป็นยังไงบ้างคะ! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า.....! สาวใช้คนสนิทรีบหันมาประคองนายสาวที่ล้มลงไปอยู่กับพื้นเพราะแรงกระแทก
สายลมพัดวูบผ่านร่างของทั้งนายสาวและบ่าว เงาของใครอีกคนวิ่งกวดตามหลังโจรวิ่งราวไปอย่างกระชั้นชิด หยุดเดี๋ยวนี้นะ!.... เจ้าหัวขโมย!...ฉันบอกให้หยุด!... หยุดเดี๋ยวนี้...........!
คนวิ่งไล่กวดฝีเท้าเร็วกว่า เพียงไม่กี่ก้าวก็ตามทัน ตะปบมือลงที่หัวไหล่ของโจรวิ่งราว หวังกระชากให้หยุด เจ้าโจรหันกลับมาพร้อมกับกำปั้น ส่งตรงไปยังคนที่วิ่งตามหลังมาทันที ทว่าคนวิ่งไล่ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หลบกำปั้นนั้นได้ พร้อมกับส่งหมัดสวนเข้าปลายคางของโจรวิ่งราว โจรตัวแสบกระเด็นลงไปนอนแอ้งแม้งไม่เป็นท่า กว่าจะรู้ตัวอีกที ปลายดาบของคนที่วิ่งไล่กวดมาก็จ่ออยู่ที่คอหอยเสียแล้ว
ส่งถุงเงินนั่นมา...เดี๋ยวนี้...! คนวิ่งไล่กวดมาออกคำสั่ง มือข้างหนึ่งจ่อปลายดาบที่ดูลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยวไปที่โจรวิ่งราว
เจ้าโจรวิ่งราวรีบยื่นถุงเงินให้ทันที ก่อนละล่ำละลัก อย่าทำอะไรข้าเลย... ข้ายอมแล้ว เอาคืนไปเลย... ถุงเงินนี่... ไม่เอาแล้ว
อย่าทำอะไรเขาเลยนะคะ....! ซีรีดาที่วิ่งกระหืดกระหอบตามมารีบห้าม ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ
คุณหนู....! ดีน่าห์ที่วิ่งตามมาอีกคนร้องเสียงหลง จะปล่อยไปได้ยังไงกันคะ... ทำตัวเป็นหัวขโมยแบบนี้...แถมยังทำร้ายคุณหนูอีก...!
แต่ซีรีดาไม่สนใจ คุณหนูตระกูลลาเรนส์เดินเข้าไปหาโจรวิ่งราวที่หมอบอยู่กับพื้นด้วยความหวาดกลัว ฉันจะให้เงินเธอ... แต่เธอต้องรับปากว่าต่อไปจะไม่ลักขโมยฉกชิงของของใครอีก... เธอจะทำได้ไหม
เจ้าโจรเงยหน้าขึ้นมองงงๆ ก่อนตัดสินใจพยักหน้ารับ แล้วส่งถุงเงินในมือคืนให้หญิงสาว ซีรีดารับถุงเงินมา ล้วงลงไปในถุง หยิบเหรียญทองมาร์เทนขึ้นมากำมือหนึ่งส่งให้โจรวิ่งราว
เจ้าโจรวิ่งราวตกตะลึงกับจำนวนเงินที่หญิงสาวมอบให้ น้ำตาของหัวขโมยเอ่อล้นขึ้นมาทันที ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า.... จะได้มาพบคนที่มีน้ำใจงามเช่นนี้... คุณหนูช่างมีน้ำใจประเสริฐ... ข้าให้สัญญา... ต่อไปนี้จะไม่ลักขโมยของใครอีก... จะใช้เงินที่คุณหนูมอบให้เป็นทุนตั้งตัว... ขอบคุณคุณหนูเหลือเกิน... ขอให้เทพโอดินจงคุ้มครองคุณหนูด้วย...
ซีรีดาหันกลับมาที่ชายหนุ่มแปลกหน้า ซึ่งยังคงชี้ปลายดาบไปที่เจ้าโจรกลับใจ ได้โปรด... ปล่อยเขาไปเถอะนะคะ... ฉันขอร้อง
ชายหนุ่มแปลกหน้าเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวมองมาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเขา ข้อหาลักขโมยหรือฉกชิงวิ่งราวมีโทษสถานเดียว คือตัดมือเท่านั้น แต่หญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูลูกผู้มีอันจะกินคนนี้ นอกจากไม่คิดจะเอาโทษหัวขโมยแล้ว ยังจะให้เขาปล่อยตัวไปอีกต่างหาก
นะคะ... ได้โปรดเถอะค่ะ... ฉันเชื่อ... ว่าเขาจะไม่ทำผิดแบบนี้อีกแล้ว... ซีรีดาส่งสายตาวิงวอน
ชายหนุ่มแปลกหน้าเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวตัดสินใจลดดาบลง เจ้าโจรกลับใจรีบก้มลงหมอบแทบพึ้นอีกครั้ง ละล่ำละลักขอบคุณอย่างดีใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากไป
ปล่อยไปแบบนี้... จะดีหรือคะคุณหนู... นี่หากบารอนเนสรู้เรื่องนี้เข้า... ดีน่าห์มีหวังโดนเฉดหัวออกจากปราสาทแน่... ดีน่าห์สาวใช้มองตามหลังโจรกลับใจไปอย่างลังเล
ซีรีดาไม่ตอบว่ากระไร คุณหนูแห่งตระกูลลาเรนส์หันกลับไปยังชายหนุ่มแปลกหน้าผู้ช่วยจับโจรวิ่งราว พึ่งจะได้โอกาสพินิจพิจารณาเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนต่างถิ่น ชุดเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะสีขาวหมดจดนั่นคล้ายเครื่องแต่งกายของชนเผ่าทะเลทราย คิ้วเข้มดกหนากับไรเคราเขียวจางๆรับกับริมฝีปากหนาแต่ได้รูป และดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมปลาบที่กำลังมองตรงมา
หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงขึ้นมาทันที เอ่อ... ขอบคุณนะคะ... ขอบคุณเหลือเกิน
ชายหนุ่มแปลกหน้าเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวเก็บดาบประจำตัวลงฝัก ก่อนหันหลังให้ทำท่าจะเดินจากไป
เดี๋ยวค่ะ... อย่างน้อยขอให้ฉันได้รู้ชื่อของคุณด้วยเถอะค่ะ... นะคะ ซีรีดาตัดสินใจส่งเสียงตามหลัง ทว่าชายหนุ่มแปลกหน้าไม่ได้หันกลับมาอีก
เสียงเหยี่ยวทะเลทรายร้องก้องอยู่บนท้องฟ้า ชายหนุ่มเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวเป่าปากเบาๆเป็นสัญญาณ เหยี่ยวทะเลทรายตัวเขื่องบินร่อนลงเกาะที่ท่อนแขนแข็งแรงที่ยื่นออกไปรออยู่ก่อนแล้ว ภาพชายหนุ่มแปลกหน้าเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวในชุดคลุมสีขาวที่หันหลังเดินจากไปพร้อมกับเหยี่ยวทะเลทรายคู่ใจ ช่างดูสง่างามในความรู้สึกของหญิงสาว .....หวังว่าสักวันหนึ่ง... เราคงจะได้พบกันอีกนะคะ.......
พี่?..... พี่ซีรีดา?...... พี่ฮะ....... เสียงของเทียเรลล์ที่ดังเข้ามาในโสตประสาท ปลุกซีรีดาให้ตื่นจากภวังค์ ทำไมจู่ๆก็หน้าแดงล่ะฮะ... ไม่สบายหรือเปล่า
เอ๋... เอ่อ.... หรือจ๊ะ หญิงสาวยกมือขึ้นแตะสองข้างแก้มของตัวเอง รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ผะผ่าว
อ้าว... ยิ่งพูดยิ่งหน้าแดงใหญ่เลย... เทียเรลล์ทำตาปริบๆ ก่อนหันไปถามสาวใช้คนสนิทของพี่สาว ดีน่าห์... พี่ซีรีดาไม่สบายหรือเปล่า
พี่ไม่เป็นอะไร.... ไม่ต้องห่วงหรอกนะ สงสัยอากาศคงร้อนมากไปหน่อย ซีรีดาอ้อมแอ้ม รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที ทำไมหนอหัวใจถึงไพล่ไปคิดถึงชายหนุ่มแปลกหน้าเจ้าของดาบพระจันทร์เสี้ยวที่ช่วยจับโจรวิ่งราวเมื่อวันวานคนนั้นเสียได้
อืม... อาจมีไข้ก็ได้นะฮะ ผมว่าเดี๋ยวพี่รีบกลับบ้านแล้วนอนพักดีกว่า... อากาศร้อนแบบนี้ เดี๋ยวจะเป็นลมได้ง่ายๆ เทียเรลล์จับมือพี่สาวขึ้นมาเกาะกุมเอาไว้อย่างห่วงใย นึกโทษตัวเองที่ตัดสินใจพากันมานั่งกินซี่โครงแกะย่าง ที่พี่สาวทำมาให้อยู่กลางสวนของตักศิลาแบบนี้ เพียงเพราะรู้ว่าพี่สาวชอบดอกไม้หลากสีสันในหน้าร้อน ชายหนุ่มลืมคิดไปเสียสนิทว่าซีรีดาเป็นเพียงหญิงสาวบอบบาง ไหนเลยจะทนทานต่อแดดฝน
แต่ว่าเรายังกินไม่เสร็จเลย... หรือว่าซี่โครงแกะที่พี่ย่างมาให้คราวนี้ไม่ถูกปากจ๊ะ ซีรีดาท้วง
ใครว่าล่ะฮะ... อาหารที่พี่สาวของเทียเรลล์คนนี้ทำ อร่อยที่สุดในโลกอยู่แล้ว น้องชายส่งยิ้มประจบ แต่ผมไม่อยากให้พี่ล้มป่วย... พี่ต้องพักผ่อนให้มาก... พวกงานบ้านทั้งหลายก็ยกให้ดีน่าห์กับพวกสาวๆในครัวทำนะฮะ ส่วนซี่โครงแกะนี่... เดี๋ยวผมจะหอบไปฝากเจ้าวิลล์กับอันเดรียสด้วย พี่ทำมาตั้งเยอะ เจ้าพวกนั้นต้องดีใจแน่ๆ
แล้วไม่คิดจะหอบอาหารน่ากินพวกนี้... มาฝากฉันบ้างหรือ... เทียเรลล์ ลาเรนส์ เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
ยัยม้าดีดกะโหลก! ... เธอมาได้ยังไงนี่ เทียเรลล์แหวใส่ทันทีที่เห็นว่าผู้ที่ส่งเสียงมาก่อนตัว คือ เลดี้เอลวีน่า โบชอง สาวน้อยจอมแก่นจากโบการ์ด
เทียเรลล์... เพื่อนหรือจ๊ะ ซีรีดาหันมาถามน้องชาย
ใช่ที่ไหนกันฮะ... ผมไม่มีเพื่อนทอมบอยแบบนี้หรอก เทียเรลล์ทำท่าปั้นปึ่ง
เธอนี่ใจร้ายจริง... เทียเรลล์ ลาเรนส์ ใจคอจะไม่แนะนำฉันกับสาวสวยคนนี้สักหน่อยหรือ เอลวีน่าพยักเพยิดไปทางซีรีดา
พี่เป็นพี่สาวของเทียเรลล์จ้ะ... ชื่อซีรีดา หนูเป็นเพื่อนของเทียเรลล์หรือจ๊ะ ซีรีดาหันมาส่งยิ้มหวานเสียเอง เมื่อเห็นว่าน้องชายทำท่าเป็นทองไม่รู้ร้อน
ที่แท้คุณหนูตระกูลลาเรนส์นี่เอง... ฉันเอลวีน่า โบชอง จากโบการ์ดค่ะ บุตรีของมาควิสปิแอร์เผยรอยยิ้ม
ดีน่าห์!..... เก็บข้าวของ!... พี่ซีรีดาจะได้กลับไปพักผ่อน เทียเรลล์หันไปออกคำสั่ง หางเสียงหงุดหงิดจนทำให้ดีน่าห์สาวใช้ต้องรีบกุลีกุจอเก็บอาหารลงตะกร้า
ผมจะไปส่งพี่ที่รถม้านะฮะ... ป่านนี้นีลส์คงรอแย่แล้ว เทียเรลล์อ้างไปถึงนีลส์คนขับรถม้าประจำตระกูล
เอ่อ... แต่ว่าพี่ยังไม่ได้คุยกับเอลวีน่าเลย ซีรีดาทำท่างุนงง เมื่อโดนน้องชายตัวดีประคองให้ลุกขึ้นจากพื้นสนามหญ้า
ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกฮะ... กลับบ้านไปพักดีกว่าเสียเวลากับยัยม้าดีดกะโหลกนี่ เทียเรลล์หน้าบูดบึ้ง
ดูเธอจะจงเกลียดจงชังฉันเสียเหลือเกินนะ... เทียเรลล์ ลาเรนส์ ขนาดจะพูดดีด้วยยังทำไม่ได้เลย... ฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจนักหนาหรือ เลดี้เอลวีน่า สาวน้อยจอมแก่นจากโบการ์ดตีหน้าเศร้า
นั่นสิจ๊ะ... เทียเรลล์ ทำไมพูดจาไม่น่ารักกับเอลวีน่าแบบนี้... ไม่ดีเลย ซีรีดาอดสงสารไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเอลวีน่า
อย่าไปฟังยัยม้าดีดกะโหลกนี่พล่ามเลยฮะ... ยัยคนนี้เชื่อไม่ได้หรอก ... เราไปกันเถอะฮะ เทียเรลล์ประคองซีรีดาให้ออกเดิน โดยมีดีน่าห์หอบหิ้วตะกร้าอาหารตามหลังสองพี่น้อง
ซีรีดาจึงรีบเอ่ยลา เอ่อ... หวังว่าเราคงจะได้พบกันอีกนะจ๊ะ... เอลวีน่า
เลดี้เอลวีน่ามองตามหลังสองพี่น้องตระกูลลาเรนส์ที่กำลังเดินห่างออกไป แววตาสีเขียวมรกตสะท้อนประกายเจ้าเล่ห์ สาวน้อยจากราชนิกูลโบชองแย้มรอยยิ้มแฝงความนัย นายไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอก... เทียเรลล์ ลาเรนส์... เราต้องได้พบกันอีกแน่..............
ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ... นายก็เลยรีบเดินหนีออกมาแทบไม่ทันเลยสิ อันเดรียสหัวเราะจนตัวโยน ทันทีที่เทียเรลล์กลับเข้ามายังหอนอน แล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สวนดอกไม้ของตักศิลาให้ทั้งวิลเลมและอันเดรียสเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์ฟัง
มีอะไรน่าขำฟะ... ทำไมชีวิตฉันถึงหนียัยม้าดีดกะโหลกนี่ไม่เคยพ้นเสียทีก็ไม่รู้ คอยตามรังควานไปเสียทุกที่ เทียเรลล์บ่นไม่หยุด ท่าทางหงุดหงิดเต็มแก่
อืม... ฉันว่ามันชักจะน่าสงสัยเสียแล้ว อันเดรียสแกล้งทำท่าขึงขัง คนถือตัวอย่างเลดี้เอลวีน่า ท่านหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งราชนิกูลโบชอง... คอยตามตื๊อคนธรรมดาสามัญที่ไม่มีอะไรนอกจากความห่าม...อย่างเทียเรลล์ ลาเรนส์นี่นะ
พูดแบบนี้หมายความว่าไงฟะ... เทียเรลล์ชักรู้สึกตะหงิดๆกับคำพูดของอันเดรียสเพื่อนหนุ่มจากอัลวาโร
ก็หมายความว่านอกจากความห่ามแล้ว หน้าตาก็ยังดูไม่ได้ หัวสมองก็กลวงโบ๋ ไม่มีอะไรเข้าทีสักอย่างแบบนี้ สาวที่ไหนมาชอบได้ก็น่าแปลกใจอยู่ล่ะ อันเดรียสพูดหน้าตาเฉย
อันเดรียส...! ไอ้เพื่อนตัวแสบ! ได้ทีล่ะเอาใหญ่เลยนะ เทียเรลล์แยกเขี้ยว
เว้นเสียแต่ว่า... คนธรรมดาสามัญอย่างเทียเรลล์ ลาเรนส์จะมีอะไรอย่างอื่น ที่สามารถดึงดูดท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ให้คอยตามติดแจได้ วิลเลมเอ่ยขึ้นมาลอยๆ หลังจากนั่งฟังอยู่นาน
อันเดรียสชะงักมือที่กำลังจะส่งซี่โครงแกะย่างเข้าปาก นายคิดอย่างนั้นหรือวิลล์
ฉันก็... แค่เดาไปเรื่อยเปื่อย วิลเลมลูกชายนายพลใหญ่แห่งบาวาเรียเสคว้าซี่โครงแกะย่างขึ้นมาแทะ
ชักน่าสนใจ... ดวงตาสีทรายของอันเดรียสหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ลูกชายของเคานต์อัลฟอนโซจากอัลวาโรแย้มรอยริ้มมุมปาก ดูเหมือนว่าเรื่องสนุกๆกำลังจะเริ่มต้นขึ้น....ในอีกไม่นานนี้แล้วสินะ.....
เทียเรลล์ทายาทตระกูลลาเรนส์หันมองวิลเลมที อันเดรียสที อย่างไม่เข้าใจ เพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์ทั้งสองคนของเขาพูดเรื่องอะไรที่เขาเองตีความไม่ออกเลยสักนิด แต่สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มรู้แน่ชัดก็คือ เอลวีน่า โบชอง เป็นหญิงสาวคนแรกที่เข้ามาใกล้ชิดพัวพันกับตัวเขา แม้เขาจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร สาวน้อยจอมแก่นจากโบการ์ดถึงได้คอยตามติดแทบจะตลอดเวลาแบบนั้น แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นหน้าเอลวีน่า ความรู้สึกแปลกๆที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็ก่อตัวขึ้น มันปั่นป่วน รุ่มร้อน อึดอัดเสียจนชายหนุ่มต้องแสดงออกมาเป็นความหงุดหงิด และโมโหที่ตัวเองไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างแรง อดนึกถึงมารดาที่ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ในเวลาแบบนี้หากแม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่อาจจะให้คำตอบแก่เขาได้ว่า เพราะอะไรความรู้สึกประหลาดนี้ถึงเข้าจู่โจมทุกครั้งที่เอลวีน่าเข้าใกล้
หรือนี่คือลิขิตจากเทพโอดิน... เอลวีน่า โบชอง... ฉันควรทำยังไงกับเธอดี............
เพราะบทที่ผ่านมา... ดูจะเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต... บทนี้เลยตั้งใจให้ดูเบาขึ้น... ก่อนที่บทหน้าจะกลับมาเครียดกันอีกครั้ง... เนื่องจากกำลังจะเข้าช่วงกลางเรื่องเเล้ว...