บัลลังก์เเห่งวาฮัลลา (ภาคศาสตราเเห่งเทพ) ... บทที่ 4





Flowing River by Mary Hildesheim





“เจ็ดสิบคะแนน! เป็นไปได้ยังไงกัน! มาสเตอร์ฟาสลับคะแนนของนายกับนักเรียนคนอื่นแน่ๆ”


เสียงเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์หน้าสวยอันเดรียส แฟร์โร เรียกความสนใจจากนักเรียนคนอื่นๆ ที่กำลังมุงดูผลการสอบกลางภาควิชาการปกครอง ให้หันหน้ามาดูเขาด้วยความสนใจ


ปกติเวลาที่เขาเดินไปไหนมาไหนกับทั้งอันเดรียสและวิลเลม เขาสามคนก็เป็นเป้าสายตาของเหล่านักเรียนในตักศิลาอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาคือตรีพิทักษ์ แถมยังเป็นตรีพิทักษ์ที่รูปร่างหน้าตาดีอีกต่างหาก แม้อันเดรียสจะเถียงคอเป็นเอ็นว่า เรื่องหน้าตาดีนั่นไม่ได้หมายรวมถึงตัวเขาก็ตาม


“เฮ้ย... วิลล์ นายเชื่อมั้ยว่ามาสเตอร์ฟาต้องลงคะแนนให้ไอ้ตัวป่วนเนี่ยผิดแน่ๆ” อันเดรียสเพื่อนหนุ่มหน้าสวยจากอัลวาโรยังไม่หายกังขา และคำว่าไอ้ตัวป่วนนี่มันก็หมายถึงตัวเขา ซึ่งหากจะว่าไปเขาก็นึกไม่ออกแล้วว่าเมื่อไหร่กันที่อันเดรียสเลิกเรียกเขาว่าเทียเรลล์


“นายจะแปลกใจอะไรอันเดรียส ก็มันกี่ครั้งแล้วที่เทียเรลล์โดนสั่งคัดรายงานในวิชาของมาสเตอร์ฟา แล้วแต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่าร้อยจบ หากมันไม่เข้าหัวเลยนี่สิ ฉันว่ามันจะน่าสงสัยว่าอะไรบ้างที่อยู่ในหัวสมองของมัน” เจ้าวิลล์ตอบหน้าตาเฉย


“อะไรกันพวกนาย พูดแบบนี้ดูถูกกันนี่หว่า ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือเฟ้ย ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี จริงๆแล้วก็คงต้องขอบคุณมาสเตอร์ฟาที่ทำโทษเขาเสียบ่อย จนทฤษฎีการปกครองสารพัดรูปแบบมันซึมซับเข้าไปในหัวสมองของเขาเรียบร้อย แม้ว่าเขาไม่เคยสนใจอยากจะจำเลยก็ตาม


“เฮ้อ... น่าเบื่อ... ไอ้ตัวป่วนหลุดจากที่โหล่แบบนี้ เรื่องสนุกก็หมดกันพอดี” อันเดรียสยังไม่วายบ่น เจ้าเพื่อนตัวเเสบทำหน้ายังกับเซ็งเสียเต็มประดา


“เทียเรลล์หลุดจากที่โหล่ได้ ฉันว่านายน่าจะดีใจ อย่างน้อยพวกเราตรีพิทักษ์จะได้ไม่ต้องอับอายขายหน้าคนอื่นเขาอีกต่อไป” วิลเลมพูดเนิบๆตามสไตล์ของมัน


“เฮ้ยๆ... นี่ชมหรือด่าฟะ ไอ้วิลล์” เขารู้สึกตะหงิดๆกับคำพูดแปร่งๆนั่นจนต้องส่งเสียงประท้วง


“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่าไอคิวจะไม่ได้เพิ่มตามคะแนนไปด้วยนี่นะ งั้นก็ค่อยยังชั่ว จะได้มีอะไรเหลือให้ได้ฮาบ้าง” อันเดรียสผิวปากอย่างอารมณ์ดี ขณะที่พวกเราเดินออกมาจากแท่นศิลาหน้าหอระฆังที่มักใช้เป็นที่ประกาศผลสอบวิชาต่างๆ


“เชอะ... คอยดูกันต่อไปเหอะ ดูถูกกันนัก เทียเรลล์ ลาเรนส์คนนี้ไม่เคยยอมเป็นสองรองใครหรอกเฟ้ย” เขายังไม่วายคุยโว เรื่องอะไรจะยอมให้โดนดูถูก แม้เขาจะรู้ดีว่า หากพูดเรื่องการเรียนแล้ววิลเลม เดอฟริส ลูกชายนายพลลูเธอร์จากบาวาเรีย อีกหนึ่งเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์นี่ต่างหากที่ดูแล้วน่าจะครองที่หนึ่งไปเสียทุกอย่าง แต่ของแบบนี้มันก็ไม่แน่ การเรียนการสอนภาควิชาการสำหรับภาคเรียนแรกกำลังจะสิ้นสุด และภาคศิลปะการต่อสู้ที่เขามั่นใจนักหนาว่าตัวเองไม่เป็นสองรองใครกำลังจะเริ่มต้น คราวนี้ทุกคนจะได้ประจักษ์เสียทีถึงความสามารถที่แท้จริงของเขา


นับจากหยุดกลางภาคพวกเขาก็กลับเข้าสู่รั้วตักศิลาได้เกือบเดือนแล้ว อากาศต้นฤดูร้อนช่างอบอุ่น ดวงอาทิตย์ฉายแสงเจิดจ้า ดอกไม้สารพัดชนิดผลิดอกบานสะพรั่งส่งให้ตักศิลาดูมีสีสันสวยงาม เขาชอบฤดูร้อน แม้ตัวเองจะไม่เคยสนใจชื่นชมธรรมชาติเท่าไรนัก แต่ฤดูร้อนทำให้เขารู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน พลังงานที่บางครั้งเขาเองก็นึกแปลกใจว่า ทำไมช่างเหมือนกับจะไม่มีวันหมด ตั้งแต่เขากลับบ้านช่วงหยุดกลางเทอม เขาก็เริ่มฝันประหลาด ความฝันแปลกๆที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ความฝันที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายถูกอัดแน่นไปด้วยพลังงานจำนวนมหาศาล พลังงานที่บีบเค้นจนเขารู้สึกเจ็บปวดทรมาน พลังงานแห่งความร้อนที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ


“เที่ยงนี้จะกินอะไรดีนะ…” เสียงของอันเดรียสหยุดความคิดที่กำลังโลดแล่นไปไกล “นายว่าไง” เจ้าเพื่อนหนุ่มหน้าสวยหันมามองหน้าเขาก่อนจะตอบเสียเอง “อ้อ... ลืมไป ไม่ต้องถามก็รู้อยู่แล้ว... สเต๊กปลาแซลม่อนย่างสไตล์นอร์ส ข้าวสวยจากตะวันออกไกลชามเบ้อเริ่ม ซุปผักกับมันบด แถมท้ายด้วยพานาค๊อตต้าจากอัลวาโรกับอินทผลัมจากคัสปาร์เป็นของหวาน” อันเดรียสทำหน้าเหม็นเบื่อ “กินทุกวันมาตั้งหลายเดือนแล้ว ไม่เซ็งบ้างหรือไง”


“นายนี่จำอะไรได้แม่นจริง แต่พูดแล้วก็ชักหิวแฮะ” เขาลูบท้องบ้าง “พวกนายจะเอาอะไร ฉันจะตักเผื่อ” เขาหันไปถามเมื่อเราทั้งสามคนเดินมาหยุดอยู่หน้าโรงอาหาร


“ฉันเอาเหมือนนายละกันวันนี้ ขี้เกียจคิด แต่ขอเว้นข้าวกับอินทผลัม” อันเดรียสโบกไม้โบกมือ “กินไม่ไหว ขืนโดนข้าวชามเบ้อเริ่มอย่างนาย อ้วนตายกันพอดี อีกอย่างฉันไม่ชอบอินทผลัมด้วย”


“กลัวคะแนนนิยมในหมู่สาวๆจะตกเหรอไง... ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ” เขาแหย่ ก่อนหันไปถามอีกหนึ่งเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์จากบาวาเรีย “แล้วนายล่ะวิลล์”


“ฉันขอขาหมูย่าง กะหล่ำเปรี้ยว มันบด กับขนมปังโบการ์ดก็พอ” วิลเลมตอบเรียบๆ


“นั่นไง... ใช่ฉันคนเดียวเสียที่ไหนที่กินอย่างเดิมทุกวัน ไอ้วิลล์ก็เหมือนกันล่ะน่า” เขาหาพวก จริงๆแล้วเขาไม่ต้องถามก็พอเดาได้เหมือนที่อันเดรียสเดาใจเขาได้ เพราะวิลเลมก็ไม่ต่างจากเขาที่กินอาหารแบบเดิมติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว หากจะมีต่างออกไปก็แค่เปลี่ยนจากขาหมูย่างเป็นไส้กรอกย่าง ซึ่งทั้งสองอย่างส่งตรงจากบาวาเรียบ้านเกิด


“ฉันไปเอาน้ำให้ นายไปช่วยเทียเรลล์ยกก็แล้วกันนะอันเดรียส” วิลเลมเดินไปยังอีกฟากของโรงอาหาร ขณะที่เขาสาละวนอยู่กับการเดินตักอาหารหลากชนิด โดยมีอันเดรียสคอยรับไปวางยังโต๊ะที่ว่าง ไม่กี่อึดใจเราสามคนก็ง่วนอยู่กับการจัดการกับอาหารกลางวันสารพัดอย่างตรงหน้า


“เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว ฉันว่าจะแวะไปที่ห้องรวมสาส์นเสียหน่อย พวกนายกลับหอนอนไปก่อนก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลาเดินย้อนไปมา” วิลเลมเอ่ยเนิบๆ ห้องรวมสาส์นเป็นส่วนงานที่ทำหน้าที่รับส่งสาส์น ตั้งอยู่ในหอระฆังที่เป็นที่รวมส่วนอำนวยการ วิลเลมคงลืมเข้าไปดูว่ามีสาส์นส่งมาถึงบ้างหรือไม่ ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาไปยืนมุงดูผลสอบที่หน้าแท่นศิลา


“เออ... จริงด้วย บ่ายวันนี้ไม่มีเรียนนี่นา ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็ยกเลิกการสอนกะทันหันแบบนี้” อันเดรียสเปรยก่อนหันไปมองวิลเลม “ฝากดูของฉันด้วยสิ ไม่รู้แม่ส่งอะไรมาหรือเปล่า”


“อืม... รู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องมาสเตอร์ที่จะมาสอนภาคศิลปะการต่อสู้ มาสเตอร์ที่ได้รับการวางตัวไว้แต่แรกดูเหมือนว่าจะขอถอนตัวเพราะปัญหาสุขภาพ ตอนนี้ก็เลยต้องรอมาสเตอร์คนใหม่ที่จะมาแทนล่ะมั้ง” เจ้าวิลล์ตอบก่อนจะส่งขนมปังคำสุดท้ายเข้าปาก ทำไมวิลเลมดูเหมือนจะรู้อะไรไปเสียทุกเรื่อง เขาเสียอีกเป็นนักเรียนเจ้าถิ่นแท้ๆแต่กลับไม่เคยรู้อะไรเลย


“งั้นนายไปเถอะ เดี๋ยวฉันกับไอ้ตัวป่วนเก็บจานชามเอง” อันเดรียสอาสาโดยไม่วายดึงเขาเข้าร่วมด้วย


“ขอบใจนะ” วิลเลมลูกชายนายพลจากบาวาเรียตอบก่อนเดินออกจากโรงอาหารย้อนกลับไปยังหอระฆัง ส่วนอันเดรียสและเขาเดินกลับไปยังหอนอนที่ตั้งอยู่ไม่ไกล




“ขอโทษนะคะ... อันเดรียส เอ่อ... ขอรบกวนเวลานิดได้มั้ยคะ” เสียงเรียกของเด็กนักเรียนสาวที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้พวกเขาต้องหยุดเดินก่อนหันกลับไปมอง


“ฮะ... เอ่อ... เราเคยรู้จักกันหรือเปล่าฮะ” อันเดรียสเลิกคิ้วก่อนกระตุกยิ้มบางๆให้เด็กสาวแปลกหน้า ไอ้ยิ้มแบบนี้ล่ะที่ทำให้เขาอดค่อนขอดบ่อยๆไม่ได้ว่าคือการกระตุกยิ้มกระชากใจสาว


“เอ่อ... เปล่าค่ะ แต่หากจะกรุณา ไม่ทราบพอมีเวลาสักครู่มั้ยคะ” เด็กสาวคนเดิมก้มหน้าต่ำเสียจนเขาอดมองตามไม่ได้ว่า ใครทำเหรียญทองมาร์เทนหล่นตกไว้แถวนั้นหรือเปล่า


“อ้อ... ฮะ พอดีบ่ายนี้ไม่มีเรียน ไม่มีปัญหาฮะ” อันเดรียสตอบก่อนหันมาทางเขา “นายกลับหอนอนไปก่อนละกัน เดี๋ยวอีกสักพักฉันตามไป”


เขาพยักหน้าหงึกหงัก ไม่วายหันไปมองเด็กสาวคนนั้นอีกครั้งด้วยความสงสัย หน้าตาก็ดูพอไปวัดไปวิหารตอนสายๆได้ สองมือหอบห่อกระดาษบางอย่างเอาไว้แนบอกอย่างทะนุถนอม เขาแอบเห็นซองจดหมายสีชมพูหวานวางอยู่บนห่อนั้นด้วย เลยต้องหัวเราะออกมากับตัวเองขณะที่เดินแยกจากมา


คนที่เท่าไรแล้วหนอที่มาสารภาพความรู้สึกของตัวเองกับอันเดรียสเพื่อนหนุ่มหน้าสวยจากอัลวาโรของเขา แต่อันเดรียสก็ไม่เห็นเคยจะสนใจใครจริงจัง ทำตัวเป็นดอนฮวนที่ดูจะรักใครจริงไม่เป็น หรือจริงๆแล้วมันรักทุกคนไปหมดจนไม่เลือกใครสักคนเลยกันแน่ ที่น่าเห็นใจคือสาวน้อยเหล่านั้น ที่ดูจะยังไม่เคยมีใครรู้ความจริงข้อนี้ หลายครั้งที่เขาอดสงสัยไม่ได้ว่า อะไรบ้างในชีวิตที่อันเดรียสให้ความสนใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกชายเคานต์อัลฟอนโซจากอัลวาโรทำตัวลอยไปลอยมาไปเสียทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเรียนที่เขาไม่เคยเห็นเจ้าตัวจะสนใจอ่านหนังสือดูตำรา แต่เมื่อผลสอบภาควิชาการประกาศออกมาครั้งใด อันเดรียสเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์หน้าสวยแสนป๊อบปูล่าร์ก็ไม่พ้นได้คะแนนสูงสุดเสียทุกครั้งไป






...............ฟิ้ว..... ฉึก!


“เฮ้ย เขาร้องออกมาอย่างตกใจ กริชเล่มสั้นๆพุ่งผ่านเส้นผมไปอย่างเฉียดฉิว ตรงไปปักฉึกอยู่ที่เสาต้นใหญ่ด้านหลัง โชคดีที่เขาได้รับการฝึกฝนการต่อสู้สารพัดรูปแบบมาตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยเพราะเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลลาเรนส์ ประสาทสัมผัสทั้งห้าจึงไวกว่าคนปกติ เขาจึงทันได้ยินเสียงแหวกอากาศของอาวุธอันตรายและสามารถเบี่ยงตัวหลบคมแหลมของมันได้อย่างหวุดหวิด มิเช่นนั้นกริชเล่มนั้นคงพุ่งปักเข้าที่หัวใจแทนที่จะเป็นเสาไม้แกะสลักโบราณที่ตั้งตระหง่านค้ำหลังคาทางเดินระหว่างโรงอาหารและหอนอนนั่น


ไวเท่าความคิด เขาหันควับกลับไปยังทิศทางที่คาดว่าจะเป็นตำแหน่งที่กริชถูกขว้างออกมา แต่กลับไม่เห็นร่องรอยใดใดของเจ้าของอาวุธ จึงตัดสินใจเดินไปถอนมันออกจากเสา ลวดลายดอกกุหลาบที่สลักเสลาอยู่บนด้ามจับดูงดงาม เจ้าของคงไม่ใช่คนธรรมดา เพราะการจะสลักลวดลายที่อ่อนช้อยขนาดนี้ลงบนเนื้อเหล็กกล้าจะต้องอาศัยช่างตีเหล็กระดับยอดฝีมือ ที่นอกจากจะสามารถสร้างอาวุธที่แกร่งกล้าได้แล้ว ยังสามารถสร้างลวดลายอันวิจิตรลงบนเนื้อเหล็กชั้นดีได้อีกต่างหาก


“เทียเรลล์... มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงเรียกชื่อทำให้เขาต้องหันกลับไปมอง วิลเลมซึ่งพึ่งเดินกลับมาจากห้องรวมสาส์นนั่นเอง


“อ้าว... มาเร็วแฮะ” เขาเกาหัวแกรก “บังเอิญฉันเก็บของได้น่ะ... แหะๆ”


“เก็บของได้? กริชเนี่ยน่ะหรือ?” เจ้าวิลล์ขมวดคิ้วมองตรงมาที่อาวุธเจ้าปัญหาในมือเขา


“อืม...” เขาผ่อนลมหายใจ ก่อนจะอธิบายวินาทีเฉียดตายที่พึ่งผ่านไปเมื่อครู่


“ขอดูหน่อยสิ” วิลเลมรับกริชจากมือเขา ก่อนจะพลิกไปมาพิจารณาอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงส่งคืนให้


“นายคิดยังไง” เขาถาม


“แล้วนายล่ะ คิดยังไง” วิลเลมลูกชายนายพลย้อนถามตามสไตล์ของมัน


“ไม่รู้สิ อาจเป็นอุบัติเหตุ ใครมาซ้อมขว้างมีดแถวนี้หรือเปล่าหว่า...” เขาหัวเราะแกนๆ ที่ผ่านมาเขาค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองไม่เคยสร้างศัตรูเอาไว้ที่ไหน แต่แล้วจู่ๆกลับมีคนหมายจะเอาชีวิต มันจะเป็นไปได้หรือ นอกเสียจากเป็นเรื่องอุบัติเหตุ


“เป็นอุบัติเหตุที่ดูเหมือนจงใจอยากให้เกิดขึ้น” วิลเลมเอ่ยลอยๆ ดวงตาสีฟ้าล้ำลึกดูจริงจังจนเขาอ่านความคิดไม่ออก


“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ คงไม่มีอะไรหรอกน่า ก็แค่คนซ้อมขว้างมีดมั่วซั่ว” คราวนี้เขาหัวเราะเสียงดัง เพราะต่อให้ลงนั่งขบคิดตอนนี้เขาก็คงคิดอะไรไม่ออก จะจับมือใครดมก็ไม่ได้ งั้นก็สู้ทำใจสบายๆแล้วปล่อยให้มันผ่านไปดีกว่า



“เฮ้! เกิดอะไรขึ้น ไหงมายืนชมสวนดอกไม้กันทั้งคู่แบบนี้” อันเดรียสโผล่หน้ามาอีกคน ในมือหอบห่อกระดาษที่มีซองจดหมายสีชมพูแนบอยู่ด้วยห่อนั้น


“ฮั่นแน่... ฉันรู้นะเฟ้ย ว่าเมื่อกี๊เด็กนั่นเรียกนายไว้ทำไม” เขาอดไม่ได้ที่จะแหย่ แม้ตัวเองจะพึ่งผ่านวินาทีแห่งความเป็นความตายมาหยกๆ


“หืม? เด็กนั่น? เด็กไหน” วิลเลมผู้ไม่รู้เรื่องราวอะไรด้วยทำหน้างง


“ก็เด็กสาวที่เรียกเจ้าอันเดรียสเอาไว้ ตอนฉันกับมันเดินออกมาจากโรงอาหารนั่นล่ะ” เขาหันไปเฉลย ก่อนหันกลับไปทางอันเดรียส “ขอดูหน่อยสิ สาวเจ้าให้อะไรมา”


“เฮ้ย... ไม่ได้... อ้าว...เฮ้ย! ส่งคืนมานะไอ้ตัวป่วน อันเดรียสโวยวาย เมื่อเขาฉกห่อกระดาษต้องสงสัยมาจนได้


“โอ้โห... ขนมทั้งนั้น น่ากินชะมัด ขอลองชิมหน่อยคงไม่ว่ากันนะ” เขาถือวิสาสะฉีกห่อกระดาษออกหน้าตาเฉย คุ๊กกี้สารพัดสีสารพัดขนาดยั่วสายตาจนทำให้รู้สึกน้ำลายไหล อันเดรียสจึงได้แต่กุมขมับ


“พึ่งเฉียดตายมาหยกๆ ยังมีแก่ใจกิน ฉันล่ะเชื่อเลย” เจ้าวิลล์ส่ายหน้าน้อยๆ


และนั่นทำให้อันเดรียสหูผึ่ง “นายว่ายังไงนะ ใครเฉียดตาย”


วิลเลมจึงเล่าเรื่องราวให้อันเดรียสฟัง ระหว่างที่เขาตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยวคุ๊กกี้อย่างสบายอารมณ์


“งั้นเหรอ... อืม...” อันเดรียสทำสีหน้าครุ่นคิดหลังจากฟังเรื่องราวจนจบ ก่อนส่งคำถามไปยังคนเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นพหูสูตรที่รู้ไปหมดเสียทุกอย่าง “แล้วนายคิดไงวิลล์”


“ฉันไม่แน่ใจ จะว่าเป็นอุบัติเหตุก็เป็นไปได้ แต่อุบัติเหตุแบบนี้มันคงไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันแน่” วิลเลมตอบสั้นๆ


“อืม... ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ดวงตาสีทรายของอันเดรียสหรี่ลงเล็กน้อย แต่แล้วลูกชายของเคานต์อัลฟอนโซจากอัลวาโรก็ต้องร้องออกมาอีกครั้ง “เฮ้ย! ไอ้ตัวป่วน! ส่งจดหมายคืนมา! ไอ้เทียเรลล์! ไอ้เพื่อนตัวแสบ! ส่งคืนมาเดี๋ยวนี้


เขาหัวเราะเสียงดัง หลังจากที่อาศัยจังหวะตอนอันเดรียสเผลอเพราะกำลังใช้ความคิด ฉกจดหมายรักสีชมพูนั่นมาอย่างรวดเร็ว แถมยังเปิดออกอ่านโดยไม่รั้งรอ “ถึงอันเดรียส... คุณอาจแปลกใจว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนด้วยหรือ ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะคะ เพราะคุณไม่เคยรู้จักฉันเลย เพราะฉันได้แต่เฝ้ามองคุณอยู่ไกลๆมานานแล้ว...”


“ไอ้ตัวแสบ! หยุดอ่านเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่” อันเดรียสโวยวายเสียงลั่น ในขณะที่เขาเต้นวนไปรอบๆ มือชูจดหมายรักสีชมพูเอาไว้เหนือศีรษะ ปากก็อ่านข้อความในจดหมายไปด้วยอย่างสนุกสนาน อันเดรียสหนุ่มป๊อบปูล่าร์วิ่งวนไล่คว้าจดหมายเจ้าปัญหาดูไม่ต่างจากเด็กกำลังเล่นไล่จับ ส่วนวิลเลมลูกชายนายพลจากบาวาเรียได้แต่ยืนส่ายหัวก่อนจะระบายลมหายใจออกมาอย่างระอา


เหตุการณ์เฉียดตายที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆทำให้เขานึกถึงคำพูดของพ่อ พ่อเคยสอนว่าความเป็นและความตายอยู่ใกล้กันเพียงแค่เส้นกั้น ชีวิตของนักรบคือการยืนอยู่บนเส้นทางแห่งความตาย ตราบที่เรายังมีชีวิตจงใช้เวลาทุกวินาทีให้มีคุณค่า เพื่อว่าในวันที่ความตายเดินทางมาถึง จะไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เรานึกเสียใจ ตอนนั้นเขายังเล็กอยู่มาก สิ่งที่พ่อเคยพูดไว้ช่างยากเกินกว่าที่เด็กน้อยที่พึ่งลืมตามาดูโลกได้เพียงสามปีจะเข้าใจ และแม้ตลอดชีวิตของเขาจะได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มามากมายหลายแขนง แต่เขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มันจริงๆเลยสักครั้ง


หากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้คือจุดเริ่มต้น ชะตาชีวิตของเขาคงถูกกำหนดเอาไว้แล้ว วันนี้เขาเข้าใจสิ่งที่พ่อพูดแล้วอย่างชัดเจน

‘.....จากนี้ไป เทียเรลล์ ลาเรนส์ คนนี้... ขอเลือกเดินบนเส้นทางแห่งนักรบ และจะไม่มีวันนึกเสียใจ แม้ว่าจุดจบอาจเป็นเพียงความตายที่รออยู่ปลายทาง... พ่อครับ... อวยพรให้ผมด้วยนะครับ......’





Free TextEditor






Create Date : 04 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 18 ธันวาคม 2551 6:40:27 น. 48 comments
Counter : 455 Pageviews.

 
โห ขยันมาก อย่างไวจัง เดี๋ยวติดสปีดตามมาอ่านนะคะ

ขอทำงานที่ค้างอยู่อีกหน่อยก่อน
เดี๋ยวมาอีกทีค่ะ



โดย: พรายทราย วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:35:10 น.  

 
......นี่!..แล้วเมื่อไหร่เพชราจะได้เล่นละครกะเขาซะทีฮะ?......


โดย: jetsada.999 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:36:44 น.  

 
วู้ กว่าจะกลับมาอ่านได้อีกรอบ

เปิดเทอมใหม่แล้ว เร็วดีจัง
กริชสวยอีกต่างหาก
แต่แบบนั้นไม่เรียกว่าอุบัติเหตุแน่ ๆ เกิดอะไรขึ้นละนี่
ตาเทียไปขวางทางใคร ยังไม่ทันเป็นนักรบเลย จะโดนฆาตกรรมก่อนสะแย้ว

ส่งหลักฐานไปให้ CSI พิสูจน์ดีก่า แหะ แหะ


วันนี้ไปหาหมอเป็นยังไงบ้างนา พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ อย่าหักโหมทำงานนา


โดย: พรายทราย วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:26:45 น.  

 
พี่พรายจ๋า...


มาเร็วยังกะติดจรวดเหมือนกันนะคะนี่ อิอิ
งานก็เยอะท่วมท้น ยังอุตส่าห์มาส่งกำลังใจให้น้องนุ่ง
ขอบพระคุณมากๆเลยกั๊บ...


ดีใจจังมีคนชอบกริชปริศนาด้วย 5555
ตอนเขียนเนี่ยเห็นภาพกริชเเสนสวยจริงๆด้วยล่ะค่ะ
เเต่เอ... นั่นสิเนาะคะ บ๊องส์ๆอย่างตาเทียเนี่ยนะ
จะเดินไปสะดุดขาใครได้ เห็นเเก่กินก็ปานนั้น


เช้านี้พี่หนูบัวไปหาคุณหมอมาเเล้วค่ะ
เเต่คุณหมอว่าถึงผ่าตัดไปก็ไม่เเน่ว่าจะหายขาด
โอ้... ไม่รู้จะดีใจหรือเศร้าใจดี
พี่หนูบัวก็เลยเซ็งไปเหมือนกัน
เพราะคุณหมอโอนคนไข้ต่ออีก
พี่หนูบัวก็จะต้องไปหาหมออีกคนนึงต่อ
รวมเเล้ว 3 หมอเเล้วค่ะ เอิ๊ก..


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:29:26 น.  

 
คุณตาฯ...


ใจเย็นๆจิ๊... คนเขียนบทเค้าต้องใช้เวลาน้า
กว่าจะเขียนอะไรได้เเต่ละเรื่องเนี่ย


ยังไงซะเพชราได้เล่นเป็นนางเอกเเน่นอนค่ะ
เเต่หนูพลอยฯว่า ที่น่าเป็นห่วงจริงๆอะ
คือว่าที่พระเอกที่ชื่อตาเจษมากกว่า
หนูพลอยกลัวใจเธอจะเเอบหลบลี้หนีคิวไปซะก่อนนี่สิ


หรือคุณตาฯว่าไงคะ....


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:35:54 น.  

 
......อยากให้มเหสีเป็นนางเอกน่ะ......


โดย: jetsada.999 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:32:19 น.  

 
มเหสีเป็นผู้ปกครองไม่ใช่เหรอ จะเป็นนางเอกได้งาย...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:59:25 น.  

 
Image hosting by UpPicth.com



โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:10:57 น.  

 
ขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบจ้า.. นู๋หญิงจ๋า
สีเเดงสดสวยจังเลย เหมือนลวดลายบนกริชเลยนะนี่
นู๋หญิงเลือกดอกไม้ได้เข้ากะเนื้อเรื่องตอนนี้เป๊ะเลยล่ะ


โดย: หนูพลอยฯ .. ต้องไปทำงานละ (อมิธีสท์ ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:46:44 น.  

 
Image hosting by UpPicth.com



โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:15:23 น.  

 
เมื่อตอนสองทุ่ม หนูพลอยฯเอาข้าวหน้าหมูทอด
ไปส่งไว้ที่บ้านนู๋หญิงล่ะ เเลกกันนะ อิอิ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:55:46 น.  

 
อิอิ หมอหล่อ ใจดี น่ารัก ไม่เป็นไรค่ะ
หมอรู้ดีอยู่แล้วเนอะคะ

มาราตรีสวัสดิ์ค่ะ ช่วงนี้โหมดเตาอบตลอดค่ะ แหะ แหะ


โดย: พรายทราย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:54:18 น.  

 
หมอหล่อ ใจดี น่ารัก เเละเป็นนักบินด้วยหรือเปล่าคะ
พี่หนูบัวฝากถาม อิอิ


ฝันดีค่ะพี่พราย วันนี้หนูพลอยฯโดนคำสั่งให้พักผ่อน
ห้ามยุ่งวุ่นวายกะตาเทียหนึ่งวัน หนูพลอยฯเลยต้องลา
ไปนอนด้วยอีกคน เหะเหะ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:51:23 น.  

 
น้องพลอยสบายดีน๊า


โดย: thaigirl21 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:33:06 น.  

 
......อันเดรียส นี่รูปร่างเป็นไงน่ะ..ตาเจษมีเพื่อนชื่อเดียวกันนี้คนนึง เป็นเยอรมัน ตัวใหญ่เท่ารถตู้......


......(เขาชื่อ อันเดรียส โรท่าห์ น่ะ)......


โดย: jetsada.999 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:06:39 น.  

 
ดีคะ นู๋พลอย มารายงานตัวจ๊ะ วันนี้นู่หญิงมาพร้อมดอกกุหลาบสีแดง นู๋พลอยเซ็นรับด้วย




Image hosting by UpPicth.com


โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:00:54 น.  

 
พี่จิ๋วขา...


อรุณสวัสดิ์ค่ะ


หนูพลอยฯยังเเข็งเเรงดี พี่จิ๋วเป็นไงบ้างคะ
เห็นว่าเเถวบ้านติดลบเเล้ววว


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:44:37 น.  

 
คุณตาฯ...


อันเดรียสของหนูพลอยฯเป็นหนุ่มสำอางค์น้า
ขืนตัวใหญ่เท่ารถตู้ สาวที่ไหนจะมาติดละเนี่ย เเง่มๆ


เข้าไปดูความหล่อของอันเดรียสได้ในบทเเรกค่า...
เเต่ส่วนตัวเเล้วหนูพลอยฯชอบวิลเลมมากก่า อิอิ
มีเเอบลำเอียงหน่อยนึง


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:50:54 น.  

 
อรุณสวัสดิ์จ้า... นู๋หญิงจ๋า


หอมกลิ่นกุหลาบฟุ้งไปทั้งห้องเลย อิอิ
พี่หนูบัวชอบกุหลาบ หนูพลอยเลยเเอบเอาไปใส่ไว้
ที่ด้ามกริชปริศนา เเล้วยังได้กุหลาบจากนู๋หญิงมาประดับ
อีกตั้งหลายดอกเเน่ะ ดีใจ ดีใจ


โดย: ขออนุญาตเซ็นรับนะก๊ะ .. (อมิธีสท์ ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:55:48 น.  

 
Image hosting by UpPicth.com


โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:06:56 น.  

 
พึ่งเเวะไปส่งนมร้อนๆให้นู๋หญิงดื่มก่อนเข้านอน
จะได้นอนหลับสบายนะจ๊ะ


ขอบคุณสำหรับของว่างจ้ะ...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:35:13 น.  

 
น้านนน คุณหมอให้พักผ่อน ไม่ยอมนอนนะ

พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ จะได้แข็งแรง ไม่ปวด อย่าหักโหมน้า

มาราตรีสวัสดิ์ไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ ช่วงนี้เวลานับเป็นเศษวินาทีตลอดเลย


โดย: พรายทราย วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:42:34 น.  

 
พี่พรายขา...


ขอบพระคุณงามๆสำหรับคำเเนะนำที่เป็นประโยชน์กะหนูพลอยฯเสมอเลยค่ะ...


คืนนี้หนูพลอยฯเลยนั่งรื้อสี่บทเเรกชนิดม้วนเดียวจบ ดูทั้งคำที่ใช้ เเล้วก็เเก้ไขสรรพนามของตัวละครเพื่อให้คนอ่านอ่านได้เข้าใจง่ายเเละชัดเจนยิ่งขึ้น


หากพี่พรายพอมีเวลาเมื่อไร ขอความกรุณาอ่านดูอีกครั้งนะคะ หวังว่าคราวนี้คงโอเคขึ้นค่ะ...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:2:57:51 น.  

 
อิอิ ตื่นได้แล้วนู๋พลอย นู๋หญิงคิดถึง




Image hosting by UpPicth.com


โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:51:36 น.  

 
หนูพลอยฯเอาข้าวหมูเเดงไปส่งเเลกกะกาเเฟนะจ๊ะ...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:12:53 น.  

 
......หาเนื้อย่างให้มั่งดิ ปลาหมึกย่างก็ได้......


โดย: jetsada.999 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:19:02 น.  

 
หักโหมอีกแย้ว คุณหมอให้พักเยอะ ๆ ไม่ใช่หรือคะ
พี่อ้อมาราธอนจนเจ็บตาเหมือนกัน เดี๋ยวต้องไปพักตาแล้วค่ะ

ขอปะโป้งไว้ก่อนนะคะ มีเวลาแล้วจะรีบไปอ่านเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้าวหมูแดงค่ะ

ยังไงก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ แล้วคุยกันใหม่ค่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:16:28 น.  

 
............


โดย: jetsada.999 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:57:58 น.  

 
เอาใจว่าที่พระเอกสุดฤทธิ์...
รับไปเลยค่ะ... เนื้อย่างหน้าตาน่ากินขนาดนี้ อูยยยย




โดย: อมิธีสท์ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:03:31 น.  

 
คุณหมอไม่ได้สั่งให้พักหรอกค่ะพี่พราย...
เธอสั่งห้ามทำงานเลยต่างหาก กร๊ากกกก
เพราะงานเเบบที่ต้องเดินยืนเยอะๆ
ไม่เหมาะกะคนที่ควรจะเกิดมานั่งนอนกินเเบบหนู อิอิ


ยัยพลอยฯฝากบอกว่าไว้มีเวลาค่อยอ่านค่ะพี่พราย
ไม่รีบร้อนอะไรเลย


โดย: หนูบัวฯ .. ไปทำงานก่อนละ (อมิธีสท์ ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:08:26 น.  

 
เอาไว้ออกจากโหลมูลิเน็กซ์ แล้วจะมาชวนทำข้าวหมูแดงนะคะ

ยังไงก็พักบ่อย ๆ แล้วกันนะคะ ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็อย่าทำอะไรหักโหมเกินกำลังนะคะ

ยังปะโป้งอยู่ค่ะ คงต้องผ่านอาทิตย์หน้าไปแล้วน่ะค่ะ ถึงจะออกจากโหลเครื่องปั่นได้

แล้วคุยกันใหม่นะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:33:53 น.  

 



ได้เวลาลาไปนอนเเล้วค่ะ... ฝันดีราตรีสวัสดิ์ทั้งพี่พรายฯ เเละทุกท่านที่เเวะเวียนมาทักทายกันเสมอนะคะ... เจอกันวันพรุ่งค่ะ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:23:14 น.  

 

มาลงชื่ออ่านตอนที่ 4 ค่ะ ..

เหตุการณ์ระทึกขวัญที่เทียเรลล์ได้พบในครั้งนี้
เป็นเรื่องที่น่าตระหนกและคุกคามชีวิตว่าที่นักรบ
ของเขาเป็นอย่างมากเลยนะคะ
และก็เป็นปมพิศวงที่ผู้อ่านจะต้องติดตามอย่าง
ไม่กระพริบกันต่อไป

ขอให้หนูพลอยและหนูบัวมีสุขภาพแข็งแรง
และทำงานอย่างมีความสุขทั้งสองคนเลยนะคะ



                  


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:38:08 น.  

 
รับไปเลยค่ะ... เนื้อย่างหน้าตาน่ากินขนาดนี้
............


โดย: jetsada.999 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:47:52 น.  

 
สวัสดีตอนดึกค่ะ... คุณป้าติ๋ว


หนูพลอยฯดีใจจัง คุณป้าติ่วเเวะมาดูหน้าตาเทียอีกเเล้ว
เดี๋ยวจะปะตอนที่ 5 เเล้วค่ะ ขอเวลาอีกสองวัน เหะๆ


พี่หนูบัวเจ็บป่วยเป็นปกติค่ะ เหะๆ เเต่หนูพลอยเเข็งเเรงดี
ยังมีเเรงเเวะไปวิ่งเล่นกะเทียน้อย


ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจจากคุณป้าติ๋วนะคะ
เราสองคนปลื้มใจมากๆเลยค่ะ

ขอให้คุณป้าติ๋วสุขภาพดีเช่นกัน ไว้หนูพลอยกะพี่หนูบัว
จะไปเเวะเยี่ยมอีกเเน่นอนค่ะ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:28:26 น.  

 
คุณตาฯ...


ค่ำนี้ให้เพชราหม่ำนมเเล้วยัง...
หนูพลอยฯเอามาส่งให้ก่อนนอนนะ อิอิ




โดย: อมิธีสท์ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:36:20 น.  

 
มาราตรีสวัสดิ์ ไปงีบก่อนกลับลงโถปั่น

ยังปะโป้งอยู่นะคะ อาทิตย์หน้า Task 2 เสร็จแล้วจะรีบมาอ่านเลยค่ะ
Task 1 นี่แทบจะขาดใจอยู่แล้ว แต่มีความสุขเหลือเกิน

หลับฝันดีอย่างมีความสุขนะคะ

อดไม่ได้อ่ะ...ลากกลับไปอ่านมาหน่อย พอเห็นนิดหน่อย แต่ชัดเจนกับชื่อมากขึ้น

ย้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ นะคะ เดี๋ยวคนอ่านจะจำได้เอง ว่าใครเป็นใคร

อิอิ แล้วอย่าเผลอหลุดอีกนะคะ

ไปงีบจริง ๆ ล่ะ


โดย: พรายทราย วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:08:21 น.  

 
พี่หนูบัวม่อกหมดสภาพไปตอนไหนก็ไม่รู้ค่ะ
เลยไม่ทันเห็นว่าพี่พรายมาส่งโน้ตทิ้งเอาไว้


หนูพลอยฯขอบพระคุณพี่พรายค่ะ อุตส่าห์รีบๆเหลือบๆ
ขึ้นไปมองตาเทียให้เเว่บๆ เเม้จะยังงานท่วม เหะเหะ
เดี๋ยววันนี้จะต่อบทห้า วันสองวันนี้คงได้ปะ


พี่พรายก็ต้องพักมากๆด้วยนะคะ ไม่งั้นปั่นไปปั่นมา
มอเตอร์ขาดคาโถฯขึ้นมา เดี๋ยวคุณเเม่จะสั่งห้ามขาด
ห้ามเขียนอีกชั่วชีวิต อิอิ...


โดย: หนูพลอยฯ .. (อมิธีสท์ ) วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:02:55 น.  

 
ค่ำนี้ให้เพชราหม่ำนมเเล้วยัง...
......เมื่อคืนเพชราได้หมูปิ้งไปหลายไม้เลย......


โดย: jetsada.999 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:55:45 น.  

 
สวัสดีวันจันทร์ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการทำงาน ดูแล สุขภาพด้วยนะค่ะ

นู๋หญิงกลับมาแล้วนะ นู๋พลอย หลังจากที่หายไปสองวัน คิดถึงนะ



Image hosting by UpPicth.com


โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:01:50 น.  

 
คุณตาฯ...


เเบ่งลูกชิ้นที่หนูพลอยฯเอาไปส่งไว้ให้เพชราด้วยนะ อิอิ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:56:47 น.  

 
นู๋หญิงจ๋า...


หายหน้าไปเที่ยวไหนมานี่ หนูพลอยฯเเวะไปเยี่ยมหน้าดู
ที่บ้านของนู๋หญิงก็ไม่เห็นเปลี่ยนหน้าบ้านใหม่
เลยเดาว่าสงสัยเเอบหนีไปเที่ยวเเน่เลย


ขอบคุณสำหรับความคิดถึงค่ะ หนูพลอยฯสัมผัสได้
เเละคิดว่านู๋หญิงคงสัมผัสความคิดถึงจากหนูพลอยฯ
ได้เช่นกัน...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:00:45 น.  

 
แทคแคร์หวานใจคะ นู๋พลอย อุตส่าห์ โดดเรียนลงมาหา นู๋หญิง ก็เลยต้องดูแล อิอิ



เพราะ นานมาก ถึงจะได้เจอ กัน สุราษฎร์ฯ-กทม.




โดย: นู๋หญิงจ๋า IP: 118.173.6.27 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:41:54 น.  

 
เเบ่งลูกชิ้นที่หนูพลอยฯเอาไปส่งไว้ให้เพชราด้วยนะ อิอิ
......คงเหลือแต่กระเทียมเจียวน่ะ......


โดย: jetsada.999 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:36:22 น.  

 
ที่เเท้นู๋หญิงเเอบไปเเฮ้บปี้มีความสุขมานี่เอง อิอิ
น่าอิจฉาคนมีความรักจริงหนอ...


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:58:32 น.  

 
เมื่อทั้งพระเอกเเละเพชราชอบเนื้อเหมือนกันทั้งคู่
การทะเลาะเบาะเเว้งเพื่อเเย่งชิงจึงเกิดขึ้น... เห้อออ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:02:11 น.  

 
เอ๊า ตาเทีย ซนจริงแฮะ แบบนี้สาวเขาก็อายแย่สิ น่าตีจริงเชียว

อ่านถึงตอนกินข้าวเที่ยง

โอ้... เฮือกกกกกกก

อยากกินทุกอย่างเลยคร้าบ แง้ง


โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:52:13 น.  

 
ท่านบอกอพีทคุง...


ชอบหม่ำอะไรๆเหมือนตาเทีย สงสัยอาจเกิดศึกชิงของกินกันซะเเล้วมังคะ... อิอิ


เเอบกระซิบว่าเเซลม่อนย่างกะข้าวสวยเนี่ย อีกเมนูโปรดของพี่หนูบัวเค้า หนูพลอยฯก็เลยเอามาเเบ่งให้ตาเทียกินบ้าง..คิคิ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:26:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อมิธีสท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขออนุญาตสงวนสิทธิ์การคัดลอก ดัดเเปลง เเก้ไข เผยเเพร่ หรือนำผลงานทุกชิ้นไปใช้ไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใด เว้นเเต่ได้รับอนุญาตก่อนนะคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจค่ะ





ลายปากกา










Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add อมิธีสท์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.