เสียงระฆังโบราณที่แขวนอยู่บนยอดหอระฆังดังหง่างเหง่งติดต่อกันเป็นเวลานานกว่าสิบนาที
มันคือสัญญาณเรียกประชุมฉุกเฉิน ซึ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายร้อยปีของตักศิลาแล้ว การเรียกประชุมฉุกเฉินเคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง ความสับสนอลหม่านเกิดตามมาแทบจะทันที เพียงไม่กี่อึดใจ เหล่านักเรียนต่างวิ่งกรูกันออกมาจากห้องพักในหอนอน บางส่วนจากหอสมุด และอีกส่วนจากโรงอาหารและสนามฝึกฝน
เทียเรลล์กระโดดขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้มือที่สุด สวมใส่อย่างลวกๆ แล้วรีบเปิดประตูออกมาจากห้องนอน อันเดรียสโผล่หน้าออกจากห้องเกือบจะพร้อมกันกับเขา ในขณะที่วิลเลมยืนรออยู่ก่อนแล้ว
เกิดอะไรขึ้นนี่... อันเดรียสหน้าตาตื่น มือยังกลัดกระดุมเสื้อเม็ดบนสุดไม่เสร็จ ในขณะที่สาวเท้าก้าวตามเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์อีกสองคนอย่างรีบเร่ง
นั่นสิ... ฉันก็สะดุงโหยง กระโดดลงจากเตียงแทบไม่ทัน เทียเรลล์หยีตา เมื่อพวกเขาทั้งสามเดินออกมาพ้นหอนอน และปะทะเข้ากับแสงแดดแรกของวัน
หน้าตายังไม่ได้ล้าง ฟันก็ไม่ได้แปรง... เฮ้อ อันเดรียสเพื่อนหนุ่มหน้าสวยจากอัลวาโรไม่วายบ่น
กลัวเสียภาพลักษณ์หรือไงฟะ... จากอันเดรียสสุดหล่อเป็นอันเดรียสสุดเหม็น ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เทียเรลล์แหย่ ทั้งที่ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจลมหายใจของตัวเองนัก คนกำลังนอนเพลินๆ จู่ๆเสียงระฆังก็ดังลั่น แล้วนี่มันก็พึ่งหกโมงเช้าเองกระมัง
ยังกับนายหอมงั้น อันเดรียสหันมาค้อน ท่าทางดูไม่ต่างจากเด็กผู้หญิง ยิ่งเค้าโครงหน้าที่ดูหวานอยู่แล้วทำให้เทียเรลล์อดคิดไม่ได้ว่า หากสวมวิกผมยาวให้เพื่อนหนุ่มหน้าสวยจากอัลวาโรคนนี้ อันเดรียสคงดูไม่ต่างจากเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งเป็นแน่
สามหนุ่มตรีพิทักษ์เดินมาหยุดหน้าหอระฆัง ซึ่งตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยนักเรียนทั้งหมดของตักศิลา เสียงนักเรียนพูดคุยซักถามกันเองถึงสาเหตุของการเรียกประชุมด่วนดังโขมงโฉงเฉง เพียงครู่เดียวโอลาฟ ลาเรนส์ ประมุขแห่งตักศิลาก็ปรากฎตัวขึ้น เสียงพูดคุยของเหล่านักเรียนจึงเงียบลงทันที
นักเรียนของตักศิลาทุกคน... ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษที่เรียกพวกเรามารวมตัวกันแต่เช้าตรู่แบบนี้ เสียงก้องกังวานของโอลาฟสะกดนักเรียนทุกคนให้เงียบกริบ
ตักศิลาได้รับสาส์นด่วน จากสภาที่ปรึกษาแห่งกษัตริย์มาร์เทนแห่งนอร์ส ถึงข่าวความไม่สงบในสหพันธรัฐตะวันออก ซึ่งพวกเราอาจเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว สาส์นแจ้งว่าขณะนี้เวสต์ฟาเลียซึ่งนำโดยเจ้าชายเคนดริค ออสวาลด์ได้ประกาศแยกตัวออกจากสหพันธรัฐตะวันออก ไม่ขึ้นตรงต่อกษัตริย์ออสมันด์ ออสวาลด์แห่งแซกซอนอีกต่อไป ประมุขแห่งตักศิลาสีหน้าเคร่งเครียด
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลให้กับนอร์สในฐานะที่เป็นแคว้นเพื่อนบ้าน กษัตริย์มาร์เทนจึงตัดสินพระทัยมอบหมายให้สภาที่ปรึกษาฯประกาศภาวะเตรียมพร้อม และให้ตักศิลาหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว โอลาฟประมุขแห่งตักศิลาหยุดเว้นจังหวะ
เสียงฮือฮาของเหล่านักเรียนดังขึ้นพร้อมกัน หลายคนมีสีหน้าเคร่งเครียด เพราะความไม่สงบที่กำลังเกิดขึ้นหมายถึงเหตุการณ์ในบ้านเกิดที่จากมา นักเรียนจำนวนมากของตักศิลาเป็นนักเรียนจากสหพันธรัฐตะวันออก ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐทั้งห้า ได้แก่ คีลส์ทางตอนเหนือ บาวาเรียทางตอนใต้ โพเมอราเนียทางตะวันออก เวสต์ฟาเลียทางตะวันตก และแซกซอนซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของทั้งสหพันธรัฐที่ตั้งอยู่ทางตอนกลาง เสียงวิพากษ์วิจารณ์คาดหมายถึงสงครามที่ส่อเค้ามานานและอาจจะเกิดขึ้นจริงดังตามมาจนฟังไม่ได้ศัพท์
ขอให้พวกเราทุกคนอยู่ในความสงบ อย่าพึ่งวิตกกังวลจนเกินไป ทางการเพียงแต่ต้องการให้ประชาชนตั้งอยู่ในภาวะเตรียมระวังและไม่ประมาทเท่านั้น ในช่วงที่ตักศิลาหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวซึ่งจะมีผลนับจากวันนี้เป็นต้นไป นักเรียนทุกคนสามารถเดินทางกลับบ้านเกิดของตัวเองได้ เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตักศิลาจะส่งสาส์นแจ้งไปยังพวกเราทุกคน โอลาฟกล่าวต่อ หยุดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่านักเรียนให้กลับเงียบสงบลงได้อีกครั้ง
สำหรับนักเรียนที่ไม่กลับบ้านสามารถพักอยู่ในตักศิลาได้จนกว่าสถานการณ์จะสงบ และจนกว่าตักศิลาจะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ประมุขแห่งตักศิลาเว้นจังหวะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันขอให้พวกเราทุกคนโชคดีและเดินทางโดยสวัสดิภาพ
ตรีพิทักษ์ทั้งสาม... วิลเลม เดอฟริส... อันเดรียส แฟร์โร... และเทียเรลล์ ลาเรนส์... ขอให้มาพบฉันที่ห้องศิลา หลังจากนี้ด้วย นั่นคือประโยคสุดท้าย ก่อนที่ประมุขแห่งตักศิลาจะหันหลังเดินกลับเข้าไปยังด้านในของหอระฆัง
เสียงฮือฮาจากเหล่านักเรียนดังขึ้นอีกคำรบ สายตาเกือบทุกคู่หันมองมายังชายหนุ่มทั้งสามด้วยความกังขา การเรียกตรีพิทักษ์ซึ่งเป็นตัวแทนสูงสุดของเหล่านักเรียนทั้งหมดในตักศิลาเข้าห้องศิลาหมายความว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่
อันเดรียสหันไปมองวิลเลมที่ยังคงไม่มีคำพูดใดใดหลุดออกมาจากปาก ดวงตาสีฟ้าล้ำลึกคู่นั้นไม่แสดงอารมณ์เหมือนเคย หากเป็นคนอื่นทั่วไปคงไม่เห็นอะไรมากไปกว่าความเฉยชานั้น แต่สำหรับอันเดรียสที่คลุกคลีอยู่กับเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์คนนี้มาตั้งแต่เปิดภาคเรียน ภาพวิลเลมที่ยืนขบกรามแน่นจนเห็นเป็นสันนูนนั้นไม่สามารถลอดพ้นการสังเกตของเขาไปได้
วิลล์... นายจะเอายังไง อันเดรียสเอ่ยปากถามเบาๆ
นั่นสิ... จะกลับบาวาเรียไหม เทียเรลล์แสดงความห่วงใยอีกคน แม้ปกติชายหนุ่มจะพูดคุยเล่นหัวกับอันเดรียสมากกว่า แต่นั่นก็เพราะอันเดรียสเป็นคนช่างพูด และวิลเลมเองมักเลือกที่จะเงียบ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าเทียเรลล์จะไม่สนใจวิลเลม เพื่อนผู้เย็นชา ลูกชายนายพลจากบาวาเรียคนนี้ เทียเรลล์รู้ดีว่า ภายใต้หน้ากากแห่งความเยียบเย็นที่คนทั่วไปมองเห็น ซ่อนเร้นหัวใจอันอบอุ่นเอาไว้ ชายหนุ่มยังจำได้ดีถึงวันแรกของการเรียนภาคศิลปะการต่อสู้ วันนั้นวิลเลมสอดทวนเข้าขัดขวางการจู่โจมของซาเบรียลมาสเตอร์หนุ่มจากคัสปาร์เพื่อช่วยเหลือเขา เทียเรลล์มั่นใจว่าเพื่อเพื่อนแล้ว วิลเลมจะไม่ลังเล ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
กลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวกันก่อนเถอะ... วิลเลมตอบเสียงเบา ก่อนออกเดินนำหน้าเพื่อนหนุ่มตรีพิทักษ์อีกสองคนกลับไปยังหอนอน..........
ห้องศิลาเป็นห้องประชุมพิเศษ ตั้งอยู่ภายในหอระฆังอันเป็นที่รวมส่วนอำนวยการทั้งหมดของตักศิลา มีเพียงประมุขแห่งตักศิลา เหล่าครุสูงสุดซึ่งประกอบไปด้วยมาสเตอร์ฝ่ายบริหารระดับสูงอีกห้าคน และสามตรีพิทักษ์เท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์เข้าห้องประชุมพิเศษนี้ เมื่อใดที่ประตูของห้องศิลาเปิดออก นั่นหมายถึงการประชุมวาระลับสุดยอดที่เคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง ในประวัติศาสตร์อันยาวนานนับหลายร้อยปีของตักศิลา
เทียเรลล์ อันเดรียส และวิลเลม ในชุดเครื่องแบบเต็มยศของตักศิลาเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูหินโบราณขนาดใหญ่โตมโหฬาร ประตูหินซึ่งเป็นประตูทางเข้าห้องศิลานี้ได้รับการสลักเสลาจารึกเทวตำนานตามคติความเชื่อของชาวนอร์สโบราณ เรื่องราวของเอเซียร์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สงครามระหว่างเหล่าเทพที่เคยอุบัติขึ้นเหนือดินแดนแห่งหิมะและผืนน้ำแข็งอันหนาวเย็น มหาเทพโอดินกับสเปียร์กันเนียร์หนึ่งในศาสตราวุธคู่พระหัตถ์ และนักรบผู้ถูกเลือก ณ โถงแห่งวาฮัลลา
วิลเลมปลดกุญแจรูปดวงดาวสีทองแดงออกจากหัวเข็มขัด อันเดรียสปลดกุญแจรูปดวงจันทร์สีเงิน ตามด้วยเทียเรลล์ซึ่งปลดกุญแจรูปดวงอาทิตย์สีทองออกมาถือเอาไว้ กุญแจทั้งสามดอกทำขึ้นพิเศษสำหรับตรีพิทักษ์ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงตำแหน่งผู้พิทักษ์ทั้งสามเมื่ออยู่ในเครื่องแบบเต็มยศของตักศิลาแล้ว ยังมีไว้เพื่อใช้เปิดประตูหินโบราณขนาดมหึมาของห้องศิลานี้อีกด้วย
พร้อมแล้วใช่ไหม... วิลเลมหันมาถาม ทั้งเทียเรลล์และอันเดรียสพยักหน้ารับเกือบจะพร้อมกัน ชายหนุ่มทั้งสามวางกุญแจลงยังช่องกุญแจซึ่งมีลักษณะตรงกันกับกุญแจของตัวเอง โดยมีวิลเลมเป็นคนให้สัญญาณ หนึ่ง... สอง... สาม
สิ้นเสียงนับ สามหนุ่มตรีพิทักษ์กดลูกกุญแจลงในช่องกุญแจโดยพร้อมเพรียงกัน ได้ยินเสียงดังคลิ้ก บานประตูหินโบราณเคลื่อนตัวเปิดออกอย่างช้าๆ เสียงดังเลื่อนลั่น ชายหนุ่มทั้งสามหยิบกุญแจประจำตัวออกจากช่องกุญแจ คล้องมันกลับเข้าไปยังหัวเข็มขัด ก่อนเดินผ่านประตูเข้าไปยังห้องด้านใน
ภาพที่ปรากฎต่อสายตาคือห้องโถงทรงหกเหลี่ยมกว้างขวาง ณ มุมห้องทั้งหกมีบัลลังก์ซึ่งตั้งอยู่บนยกพื้นที่สูงจากพื้นห้องราวสองเมตร ประมุขแห่งตักศิลาโอลาฟ ลาเรนส์ และเหล่าครุสูงสุดแห่งตักศิลาอีกห้าคนนั่งอยู่บนบัลลังก์ทั้งหกนั้น ผู้อาวุโสทั้งหมดรอคอยการมาของพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว
วิลเลม เดอฟริส...
อันเดรียส แฟร์โร...
เทียเรลล์ ลาเรนส์...
พวกเราตรีพิทักษ์... ขอคำนับครุสูงสุดแห่งตักศิลา!... สามหนุ่มตรีพิทักษ์ทำความเคารพครุสูงสุดทั้งหกด้วยการเปล่งวาจาโดยพร้อมเพรียงกัน
สามผู้พิทักษ์... พวกเราเหล่าครุสูงสุดแห่งตักศิลา... ได้ร่วมประชุมหารือกับสภาที่ปรึกษาแห่งกษัตริย์มาร์เทนแห่งนอร์ส เกี่ยวกับการแยกตัวเป็นอิสระของเวสต์ฟาเลียจากสหพันธรัฐตะวันออก สภาที่ปรึกษาฯและเหล่าครุสูงสุดฯเห็นพ้องต้องกันว่า สถานการณ์เช่นนี้ล่อแหลมต่อการเกิดสงครามภายในสหพันธรัฐตะวันออก ซึ่งอาจลุกลามใหญ่โตจนกลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างแคว้นเพื่อนบ้านใกล้เคียง ประมุขแห่งตักศิลาโอลาฟ ลาเรนส์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาแห่งกษัตริย์มาร์เทน และเป็นหนึ่งในครุสูงสุดทั้งหกกล่าวขึ้น
พวกเราเหล่าครุสูงสุดมีมติว่า ตักศิลาในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาอันศักดิ์สิทธิ์ ทุกแคว้นต่างเชื่อถือและให้เกียรติยกย่องมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี ควรทำอะไรสักอย่างเพื่อป้องกันสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเต็มความสามารถ โอลาฟหยุดเว้นจังหวะ
ทั้งสภาที่ปรึกษาฯและเหล่าครุสูงสุดฯลงมติเห็นชอบร่วมกัน ให้ส่งสามผู้พิทักษ์เป็นตัวแทนของตักศิลาออกเดินทางไปยังเวสต์ฟาเลีย เพื่อส่งมอบสาส์นแสดงเจตจำนงต่อต้านสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น ประมุขแห่งตักศิลากล่าวต่อ
ทว่าการเดินทางในครั้งนี้อาจไม่ราบรื่น อุปสรรครวมทั้งอันตรายที่เหนือความคาดหมายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ พวกเราเหล่าครุสูงสุดฯจึงต้องการถามความสมัครใจว่า สามผู้พิทักษ์พร้อมและเต็มใจที่จะเป็นตัวแทนของตักศิลาเพื่อทำหน้าที่สำคัญในครั้งนี้หรือไม่ ประมุขแห่งตักศิลาทอดสายตามองมายังชายหนุ่มทั้งสามอย่างอาทร
ฮะ ฮ่ะ ฮ่ะ เทียเรลล์ ลาเรนส์คนนี้... ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว แค่เรื่องเป็นตัวแทนนี่นะ ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดมาก เทียเรลล์หัวเราะเสียงดัง
เรื่องน่าสนุกแบบนี้ ขืนปล่อยให้นายไปสนุกคนเดียว ก็ไม่แฟร์น่ะสิ... หึหึ อันเดรียสเผยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนหันไปหาวิลเลม ใช่ไหม... วิลล์
นายสองคน... แน่ใจแล้วหรือ สีหน้าของวิลเลมเรียบเฉย แต่ดวงตาสีฟ้าล้ำลึกคู่นั้นสะท้อนประกายแห่งความห่วงใยเด่นชัด
มันจะไปมีอะไรยากฟะ... กับแค่ทำหน้าที่ส่งสาส์น ...ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เทียเรลล์ตบหลังวิลเลมป้าบใหญ่ เหมือนกับจะให้กำลังใจเพื่อนหนุ่มจากบาวาเรีย
แถมยังได้เดินทางท่องเที่ยว ได้ออกจากตักศิลาหลังจากที่อุดอู้อยู่แถวนี้มาตั้งหลายเดือน แค่คิดก็สนุกแล้ว... หึหึ อันเดรียสยิ้มจนตาหยี ชายหนุ่มตบบ่าวิลเลมเบาๆ
ขอบใจนะ...เทียเรลล์ อันเดรียส วิลเลมพยักหน้า ก่อนหันกลับไปยังโอลาฟและเหล่าครุสูงสุด พวกเราตรีพิทักษ์... ยินดีเป็นตัวแทนเดินทางไปยังเวสต์ฟาเลีย เพื่อส่งมอบสาส์นแสดงเจตจำนงต่อต้านสงคราม พวกเราจะทำหน้าที่สำคัญนี้อย่างเต็มความสามารถ
พวกเราตรีพิทักษ์... จะทำหน้าที่สำคัญนี้อย่างเต็มความสามารถ...! สามหนุ่มตรีพิทักษ์ประสานเสียงตอบรับหน้าที่สำคัญอย่างพร้อมเพรียงกัน
โอลาฟพยักหน้าเป็นการตอบรับ พวกเราเหล่าครุสูงสุดฯ... ขอขอบใจในความตั้งใจจริงของสามผู้พิทักษ์
ประมุขแห่งตักศิลายื่นถุงผ้าสักหลาดสีน้ำเงินที่มีตราประทับของตักศิลาอยู่ทั้งสองด้านให้แก่วิลเลม ฉันขอมอบสาส์นสำคัญฉบับนี้ให้แก่พวกเธอ... ความสงบสุขของไพร่ฟ้า... สันติสุขของประชาชน... อยู่ในกำมือของพวกเธอทั้งสามคนแล้ว... พวกเราเหล่าครุสูงสุดฯ... ขอให้สามผู้พิทักษ์ทำงานสำเร็จลุล่วง... และเดินทางกลับมายังตักศิลาโดยสวัสดิภาพ... ขอให้เทพโอดินคุ้มครอง.....
วิลเลม เดอฟริส หนึ่งในสามผู้พิทักษ์ก้มลงมองถุงผ้าในมือ ชะตากรรมของผู้คนนับแสนขึ้นอยู่กับถุงผ้าเล็กๆใบนี้ ในที่สุดสิ่งที่เขาเฝ้าภาวนา เฝ้าหวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้น ชะตากรรมที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เขาจะไม่มีวันยอมแพ้
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อนทั้งสอง ดวงตาสีอำพันของเทียเรลล์ที่สบตรงมาสะท้อนประกายมาดมั่น อันเดรียสส่งยิ้มบางกลับมาอย่างให้กำลังใจ วิลเลมรู้แล้วว่า นับจากนี้เขาจะไม่ต้องต่อสู้แต่เพียงลำพังอีกต่อไป เขายังมีเพื่อนที่พร้อมจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกันอย่างเทียเรลล์และอันเดรียส
พวกเขาทั้งสามจะไม่มีวันยอมแพ้แก่ชะตากรรม และจะไม่มีวันยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาอย่างเด็ดขาด......