จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 

ถาม-ตอบ (ฯ พิชิต 1,000 ล้าน)

คำถามแรกของทุกคน จะเป็นการเล่นกิมมิค เลียนแบบเกมเศรษฐี ตามเนื้อเรื่องในหนังสือ เกมชีวิตพิชิต 1,000 ล้าน แต่คำถามต่อไป จะเข้าเรื่อง โดยจะถามผู้แปลก่อน และตามด้วยคุณโดม / คุณนิรันศักดิ์ และผู้ร่วมเสวนา

ถาม เราทราบมาว่าคุณโดมชอบเดินทาง พอๆ กับชอบอ่านและเขียนหนังสือ คำถามคือ ตอนที่คุณโดมอ่านหนังสือเล่มนี้ ตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหน ข้อ ก.) กระบี่ ข.) นครสวรรค์ ค.) หนองคาย ง.) เชียงใหม่

ตอบ “ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ที่จังหวัดกระบี่ ขณะที่ผมอยู่ที่ทะเลในช่วงมรสุม ทะเลในช่วงมรสุมทำให้ผมไม่อยากออกไปเที่ยวที่ไหนๆแล้ว แต่หนังสือเล่มนี้ยิ่งทำให้ผมไม่อยากออกจากห้องพักเลย”

ถาม ขอความรู้สึกสั้นๆ เมื่ออ่านจบ

ตอบ “เมื่ออ่านจบแล้วบอกตัวเองว่า นี่แหละคือนิยาย คือทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อให้เราเชื่อได้ ประการแรกรู้สึกทึ่งในตัวผู้เขียน เพราะทราบมาว่านี่คือนิยายเรื่องแรกของเขาเสียด้วย เขาคิดกลวิธีการนำเสนอแบบนี้ได้อย่างไร เหมือนกับว่าเขามีทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบหมดแล้ว ก่อนลงมือเขียน แม้กระทั่งการตั้งชื่อตัวละคร ตัวเอกว่า ราม โมฮัมหมัด โทมัส ก็ยังมีความหมายต่อเรื่อง ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ นิยายเรื่องนี้ชวนให้ผมติดตามไปทีละบรรทัด บรรทัดต่อบรรทัด หน้าต่อหน้า จนกระทั่งจบ แทบจะไม่มีตอนไหนที่พูดได้ว่าอืดหรือจืดชืดเลย”

ถาม วรรณกรรมจากนักเขียนชาวอินเดียเล่มนี้ มีเนื้อหาทันสมัยกว่าที่เราบรรดานักอ่านในไทยเคยสัมผัสวรรณกรรมอินเดียมาสมัยเริ่มอ่าน ดังนั้นในความคิดของคุณ มองว่าแตกต่างจาก วรรณกรรมอินเดียยุคเก่าๆ ที่คนไทยเราคุ้นเคยอย่างไร

ตอบ "ความจริงผมก็ไม่ได้อ่านวรรณกรรมอินเดียมากนัก ส่วนใหญ่วรรณกรรมอินเดียที่ผมอ่านมักจะเป็นเรื่องสั้น บทกวี หรือปรัชญาเสียมากกว่า โดยส่วนตัวแล้วมีความเชื่อและศรัธาในปรัชญาหรือวิธีคิดของชาวตะวันออกมากกว่าทางตะวันตกอยู่แล้ว โดยเฉพาะจากอินเดีย เพราะที่อินเดียเป็นศูนย์รวมปราชญ์ โดยเฉพาะพระพุทธเจ้าก็เป็นชาวอินเดีย ซึ่งผมคิดว่าสุดยอดที่สุดแล้ว แต่ยุคเก่าที่ผมเคยอ่านก็จะเป็นเรื่องสั้น และบทกวีของท่านฐากูรมากกว่าของท่านอื่นๆ ส่วนงานในยุคปัจจุบัน อย่างของสารทิส กุมาร “มีเธอจึงมีฉัน” หรือของท่านกฤษณะ มูรติ แต่ล่าสุดผมชอบชาวอินเดียท่านหนึ่ง ออกเสียงว่าโอโซ่ (osho) งานของท่านจะเป็นการบรรยายเสียมากกว่า มีคนไทยแปลมาแล้วสามสี่เล่ม ตั้งแต่ “คิดนอกรีต” “ปัญญาญาณ” “หลุด” และ “วุฒิภาวะ” ศิลปะของผู้ถึงพร้อม ที่ผมเอ่ยมานี้ส่วนใหญ่เป็นงานความจริงแห่งชีวิตเสียมากกว่าที่จะเป็นนิยายหรือวรรณกรรม แต่ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างจากแต่ก่อนก็คงจะเป็นเรื่องของรูปแบบการนำเสนอที่เป็นสากลและฉับไวขึ้น"

ถาม การหลั่งไหลเข้ามาของวรรณกรรมจากต่างประเทศ สร้างอะไรให้กับแวดวงวรรณกรรมไทยบ้าง

ตอบ "ผมมองเห็นว่าการหลั่งไหลในเรื่องวรรณกรรมไม่ว่าจากประเทศใดก็ตาม ผมเห็นว่ามีแต่ประโยชน์ อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบอ่านหรือชอบเขียนก็ได้ จึงมองอย่างนี้ ไม่ได้มองในแง่ธุรกิจ เพราะการมีหนังสือหลากหลายให้คนเลือกอ่านย่อมเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เพราะเราได้เรียนรู้เรื่องราวของชนขาติอื่นๆผ่านงานวรรณกรรมบ้าง"

ถาม อิทธิพลของวรรณกรรมอินเดียยุคเก่า มีอิทธิพลกับงานวรรณกรรมไทยมาก แล้ววรรณกรรมอินเดียในยุคปัจจุบันนี้ จะมีอิทธิพลกับวรรณกรรมไทยบ้างไหม

ตอบ "ไม่ทราบว่าจะมีอิทธิพลในแง่ไหน ในแง่การดำเนินชีวิตหรือในแง่การทำงานวรรณกรรม ผมคิดว่าไม่น่าจะมีผลถึงขนาดนั้น"

ถาม คิดว่าในยุคก่อนๆ ที่มีการแปลวรรณกรรมต่างประเทศ และทำให้คนไทยพัฒนาการเขียนการอ่านกันมากขึ้น / ในยุคนี้ ยังเป็นเหมือนเดิมไหม / ดีกว่าเดิม / หรือแย่กว่าเดิม

ตอบ "คิดว่าน่าจะดีกว่าเดิม โดยทัศนะส่วนตัวคิดว่า แม้จะมีสื่ออื่นๆมากมายที่มาแย่งการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นเกม เป็นอินเตอร์เน็ต หรือหนัง ดีวีดี ต่างๆ แต่ผมคิดว่าการอ่านจะคงอยู่ เพราะผมคิดว่าการอ่านหนังสือนั้นยังมีความแตกต่างจากการเสพสื่อชนิดอื่นๆ ถึงวันนี้คิดว่ากคนไทยน่าจะมีพัฒนาการอ่านมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ไม่เชื่อคุณลองดูร้านหนังสือที่เพิ่มขึ้นและหนังสือทั้งนิตยสารและพ็อคเก็ตบุ๊คในทุกวันนี้สิครับ"

ถาม มองว่าเรื่องแปล มาแย่งพื้นที่ขายเรื่องของคนไทยเขียนเองไหม

ตอบ "ไม่ใช่เรื่องของการแย่งพื้นที่การขาย อาจจะเป็นทางเลือกใหม่ ที่กินข้าวแกงกันเป็นประจำแล้วบางทีก็อยากกินโรตีบ้าง หรือบางคนกินข้าวแกงแล้วก็ยังกินโรตีได้อีก วรรณกรรมคืองานศิลปะชนิดหนึ่ง เป็นเรื่องราวของมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องราวของชนชาติใดชาติหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นผมจึงคิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการแย่งพื้นที่"

ถาม คิดว่าจุดเด่นของหนังสือเรื่อง เกมชีวิตพิชิต 1,000 ล้าน อยู่ตรงไหน

ตอบ "ในความคิดของผมว่าน่าจะเป็นที่กลวิธีนำเสนอในแต่ละบท เหมือนจิ๊กซอว์ยิ่งต่อยิ่งสนุก ไม่เฉพาะโครงเรื่องใหญ่เท่านั้น แต่โครงเรื่องในแต่ละบทซึ่งเป็นที่มาของคำตอบนั้นก็ทั้งสนุกและชวนฉงนประหลาดใจ คาดไม่ถึง ฯลฯ อีกทั้งข้อคิดและภาษาการบรรยายต่างๆก็เห็นภาพชัดเจนไม่คลุมเคลือ"

ถาม คิดว่าผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ต้องการให้อะไรกับคนอ่าน

ตอบ “ตอบแบบนี้ก็ตอบแบบคิดแทนผู้เขียน ซึ่งไม่ทราบว่าจะถูกหรือผิด แต่ก็ดูจากเรื่องราวที่เขาเขียนออกมาก็แล้วกันนะครับ ผมคิดว่าผู้เขียนต้องการเสนอภาพความเหลื่อมล้ำของสังคม และเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมในจิตใจมนุษย์ที่ต้องสู้กับความไม่ชอบธรรมของสังคมในอินเดีย"

ถาม มีจุดไหนที่ประทับใจมากที่สุด ในหนังสือเล่มนี้

ตอบ “พูดยากจริงๆ เพราะว่ามีอยู่หลายจุดด้วยกัน มีทั้งประทับใจและสะเทือนใจ เพราะแต่ละบทต่างก็มีความประทับใจในแงมุมต่างๆกัน แต่ผมรู้สึกประทับใจในตัวเอกของตัวละครในทุกๆตอนที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วมรับรู้ด้วย คือมองโดยรวมแล้วคนอย่างราม โมฮัมหมัด โทมัสนี้ คือคนดีของสังคม คือเป็นพระเอกในอุดมคตินั่นแหละครับ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงขาดแคลนมาก ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน เขามักนึกถึงเรื่องของคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ นี่แหละครับผมรู้สึกประทับใจในลักษณะเด่นของเขาตรงนี้"

ถาม คิดว่าคนอ่านคุณได้อะไรจากการอ่าน เกมชีวิตพิชิต 1,000 ล้าน

ตอบ "ตอบในฐานะที่เป็นผู้อ่านมาแล้ว อันดับแรกคือความสนุกสนาน ชวนติดตาม ประเภทที่วางไม่ลงน่ะ หนังสือเล่มนี้ใช้คำว่าวางไม่ลงได้เต็มปาก เพราะอ่านแล้วจะไม่อยากวาง ส่วนอื่นๆที่เห็นชัดก็จะมีความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายชื่ออาหารอินเดีย ชื่อเมือง และแม้แต่คำตอบที่ราม โมฮัมหมัด ตอบเกมอภิมหาเศรษฐี นั่นก็ถือว่าเป็นความรู้อย่างหนึ่ง และยังมีความรู้อื่นๆอีก เพราะผู้เขียนคือสวารัพต้องเป็นคนที่มีความรู้และมีการศึกษาสูงอย่างแน่นอน"

เปิดให้วิพากษ์วิจารณ์อย่างสะดวก

"ผมคิดว่าผู้เขียนเรื่องนี้ต้องเป็น "นักดูหนัง" (movie goer)แน่เลย ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อเรื่องก็ทำเหมือนหนัง และหลายๆตอนก็พูดเกี่ยวกับหนัง อีกอย่างคิดว่าแต่ละบทแต่ละตอนตั้งแต่ต้นจนจบของนิยายเรื่องนี้ต้องถูกถักทอต่อเติมๆไว้เป็นอย่างดีแล้วก่อนจะลงมือเขียน

ถาม มีอะไรจะฝากให้กำลังใจทางสำนักพิมพ์มังกรยิ้มบ้างไหม

ตอบ “ฝากให้เลือกสรรงานที่มีคุณภาพมาพิมพ์ก่อนอื่น ส่วนเรื่องตลาดนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ แต่ทว่าน่าจะเริ่มต้นจากเฟ้นหาเรื่องที่ดีก่อน ที่จะเริ่มต้นคิดว่าจะพิมพ์เรื่องอะไรแล้วจะขายได้ ถ้าใครรู้เคล็ดลับว่าพิมพ์อะไรแล้วจะขายดี รับรองว่าสำนักพิมพ์นั้นรวยเละแล้ว แต่ผมคิดว่าการเริ่มต้นหาเรื่องที่ดีมาพิมพ์นั้นมันเป็นการเริ่มต้นจากความสามารถของบรรณาธิการก่อน”





คุณสุทัศน์ นิ่มกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ สำนักพิมพ์มังกรยิ้ม ผู้จัดพิมพ์ "เกมชีวิต พพชิตพันล้าน"






คุณบุณฑริกา ทับเกตุ ผู้แปลเรื่องนี้






คุณนิรันศักดิ์ บุญจันทร์ บรรณาธิการจุดประกายวรรณกรรม



วรรณฤกษ์ คอลัมนิสต์วรรณกรรม แห่งหนังสือพิมพ์ "คมชัดลึก" และ คุณจิตติ หนูสุข บรรณาธิการมืออาชีพ





ผศ.ดร.กุลธิดา ธรรมวิภัชน์ (พิธีกร)






อาเครญากับหนอนเมืองกรุง (เยาวราช)





ปก "เกมชีวิตพิชิต 1000ล้าน"





คุณดารี ข่มอาวุธกับ คุณฮอลล์ (จรินยา ศักดิ์ศิริ)(ประชาสัมพันธ์คนเก่ง)





 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2549
18 comments
Last Update : 19 กรกฎาคม 2549 23:01:02 น.
Counter : 1641 Pageviews.

 

มาแวะทักทาย พี่โดมหายไปไหนมา นานมั๊กมาก

 

โดย: แมลงสาปตัวเมีย (แมลงสาปตัวเมีย ) 19 กรกฎาคม 2549 23:43:41 น.  

 

คำถามยากจังเลย ถ้าไม่ใช่นักอ่านก็คงจะ
ตอบคำถามอย่างนี้ได้ยาก(ในความรู้สึก
ของแม่น้องนิกที่ไม่ใช่นักอ่านตัวยง)

อ่านที่พ่อพเยียเล่าจบแล้วผ่อนลมหายใจ
ดังเฮือกเลยแหละ ราวกับตัวเองไปนั่งคอบ
คำถามซะเอง รู้สึกอย่างนั้นจริงๆค่ะ ลุ้นน่ะ

เอ๊ะ..ใครนะใส่เสื้อเหลือง สวยผิดหูผิดตา

 

โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 20 กรกฎาคม 2549 8:39:51 น.  

 

เห็น ตอบคำถาม แต่ละข้อแล้ว ทำให้อยากอ่านจังเลย

ตอบได้สมกับเป็นนักอ่านนักเขียน ขอชมนะจ้ะ

 

โดย: เจ้าอาวาส IP: 58.147.36.83 20 กรกฎาคม 2549 12:56:49 น.  

 

เวลามีน้อยขอดูรูปก่อนนะคะ แล้วจะมาอ่านละเอียดทีหลัง
ดูแล้วยิ้ม.... อู๊ย..ซือแป๋เราสวยผ่องขึ้นเยอะ สวยตามไม่ทันแล้วเนี่ย แล้วไหงไม่มีรูปคนตอบคำถามบ้างล่ะคะ โชว์หน่อยเถิด...ได้โปรด...

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.74.154 20 กรกฎาคม 2549 14:58:09 น.  

 

เข้าอ่านแล้วค่ะ พี่โดม ดีจังเลยค่ะ ขอแบ่งๆ เจียดๆ เนื้อหาเอาไปเขียนสกู๊ปบ้างนะคะ

ชอบบล็อคนี้จัง น่ารักดีค่ะ

ว่างๆ จะเข้ามาอีกค่ะ

ลป. (ลืมไป) ขอบคุณนะคะ ที่ยกย่องจน...แฮ่ๆ ยืนไม่ติด... ได้ข่าวว่าเย็นนั้นพี่โดมไปนั่งเฝ้าคนดริ๊งค์ เหรอคะ เสียดายนะคะ ที่ไปต่อด้วยไม่ไหว...
อาเครญา เอามาปูดค่ะ

 

โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.138.252 21 กรกฎาคม 2549 1:35:33 น.  

 

สวัสดีครับคุณแมลงสาปตัวเมีย

ไม่ได้ทักทายพูดคุยกันเสียนาน
ไปอยู่ต่างประเทศหรืออยู่ประเทศไทยครับ ?

วันก่อนนห้านี้ไปเกาะลันตายังนึกถึงอยู่เลย
ว่าป่านฉะนี้หนูอยู่ไหนหนอ ?

ด้วยความระลึกถึง


สวัสดีแม่น้องนิกครับ

ไปดูบล็อกของแม่น้องนิกแล้ว
เห็นวิวสวยๆทั้งนั้นเลย
ยังไม่มีโอกาสได้อ่านบล็อกของแม่น้องนิกจริงๆจังๆเสียที
อย่าลืมเก็บที่เขียนไว้ใส่ที่ใดที่หนึ่งไว้ให้เรียบร้อยนะครับ


คุณครับ

เจ้าอาวาสไม่ใช่ตำแหน่งที่จะได้กันง่ายๆนะครับ
ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน
แต่สงสัยจังว่าเจ้าอาวาสทำไม...?

ผมรู้นะว่าคุณเป็นใคร ดีใจที่เข้ามาอ่าน
เขียนเรื่องอะไรส่งมาที่บล็อกผมบ้างสิครับ




คุณตะเบบูญ่าครับ


เรื่องรูปคนตอบคำถารม ไม่กล้าเอมาลง
เดี๋ยวไม่มีคนเข้ามาอ่านอีก



สวัสดีจ้ะฮฮอลล์

ยินดีเลย จะเอาไปใช้งานอะไรก็ได้ ถ้าหากใช้ได้
เพราะสิ่งที่พูดออกมานี้ พูดออกมาจริงๆ
ไม่ใช่พูดเพราะเขาเชิญให้มาพูด
และอ่านไปแล้วสองเที่ยว เพื่อไปพูด


วันนั้นก็นั่งดูคนดื่มเบียร์
กินกับแกล้มไป ส่วนตัวเราก็นั่งดื่มไปพิจารณาความสุขหรือความสนุกสนานของคนที่นั่งโต๊ะเดียวกันที่ต้องอาศัย "เหยื่อล่อ" (คือต้องดื่มเบียร์จึงจะสนุกหรือมีความสุข) ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจริงๆที่เลิกดื่มได้ ถึงวันนี้ก็ยังยืนยันว่าเลิกดื่มแล้วดีจริงๆ ส่วนคนที่ยังเลิกไม่ได้ เวลาจะมีความสุขหรือสนุกสนานที่ก็ต้องอาศัย "เหยื่อล่อ"ต่อไป

ตอนดึกๆ พอแยกย้ายกัน ได้รับโทรศัพท์ใครก็ไม่รู้โทรมาบอกว่าพลาดตกบันไดทางเดินรถไฟฟ้า ฟกฃ้ำเล็กน้อย
ให้นึกถึงภาพผู้หญิงหน้าตาดี ตาคม ผิวคล้ำ ก้าวพลาดแล้วก้นน้อยๆอันนิ่มนวลของเธอกระทบกับพื้นอันแข็งกระด้าง น่าสงสารจริงๆ เธอคงจะต้องโทษโชคชะตาอะไรสักอย่างแน่ๆ แต่คงไม่โทษเจ้าน้ำในขวดสีเขียวนั่นหรอก ก็บ่นออกมาด้วยยความเป็นห่วงเธอนั่นแหละ

 

โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.16.32 21 กรกฎาคม 2549 7:05:32 น.  

 

ขอโทษทีที่เขียนผิดหลายที่และตกไปคำที่ว่า "ส่วนตัวเราก็นั่งดื่มน้ำไป..."

 

โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.16.32 21 กรกฎาคม 2549 7:15:50 น.  

 

สวัสดีค่ะพ่อพเยีย

วันนี้ไปช๊อปปิ้งอีกวันหนึง พ่อพเยียไม่ว่าง
ก็ไม่ต้องอ่านหรอกค่ะ แม่น้องนิกเขียนบล๊อกด้วยความสนุก ขอบคุณค่ะที่แนะนำให้เก็บ
เรื่องที่เขียน

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.242.6.220 21 กรกฎาคม 2549 7:30:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่โดม

ขอบคุณมากนะคะ ที่อนุญาตให้นำไปใช้ได้ ดีใจจัง ที่เราได้แบ่งปันอะไรดีๆ ต่อกัน

สำหรับสาวตาคมที่พลาดตกบันได เธอไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย แต่ก็พอเข้าใจ ว่าไอ้น้ำสีอำพัน ไม่ว่ามันจะเป็นขวดใส หรือขวดเขียว หรือขวดสีชา อาณุภาพมันร้ายนัก มันทั้งสร้างและทำลาย มันจะเป็นเหยื่อล่อ หรือ...ล่อเหยื่อได้ ก็ช่างมันเหอะ
แต่ที่แน่ๆ ฮอลล์ว่า มันก็มีจุดดี ตรงที่มันช่วยสร้างมิตรภาพนะคะ
คนธรรมดา ไม่บรรลุ (บางอย่าง) แบบพี่โดม ก็คงจะนั่งดื่มน้ำเปล่าแล้วคุยกันเป็นค่อนคืนไม่ไหวแน่ๆ หรอก เนอะ...

ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย...จะบอกว่า หนูขอดื่มต่อนะเคอะ...

 

โดย: ฮอลล์ค่ะ IP: 58.8.135.238 21 กรกฎาคม 2549 19:41:06 น.  

 

สวัสดี

 

โดย: hjkll;;[ IP: 203.113.45.197 21 กรกฎาคม 2549 19:41:19 น.  

 

สวัสดีค่ะพ่อพเยีย

หนูวีดวาดเธอเข้าไปในบล๊อกแม่น้องนิกๆ
เลยเล่าให้เธอฟังเรื่องโอเรกอนนิดหน่อย
ทำให้นึกถึงพ่อพเยียตะหงิดๆที่ว่า คนโอเรกอเนียน ชอบแค้มป์ปิ้ง ชอบปั่นจักรยาน
เป็นชีวิตจิตใจ ที่ชอบแค้มป์ปิ้งเพราะเขามี
ป่าสนเขาให้ไปพักผ่อน คนมีตังบางกลุ่ม
ก็เลยมีบ้านสองหลัง ถ้าไม่ไปซื้อบ้านบน
เขาก็จะเป็นบ้านที่ทะเลอย่างปู่นิก เพราะได้
ทำกิจกรรมอย่างที่ตัวเองชอบ คือไปตกปู ตกปลา หรือขึ้นเขา

ที่สำคัญคนโอเรกอนเป็นนักปั่นจักรยานอย่างพ่อพเยียซะด้วย อาจจะเป็นเพราะว่า
สภาพภูมิประเทศของเขาที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมเหล่านี้

เห็นคนปั่นจักรยานแล้วคิดถึงพ่อพเยียค่ะ
เพราะสามารถไปไหนๆด้วยจักรยานได้สบายๆ

มาเที่ยวล่ะพอได้ แต่ถ้าให้อยู่ๆที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.242.135.11 21 กรกฎาคม 2549 23:01:44 น.  

 

วันนี้ไปช๊อปปิ้งวันที่สาม หลังจากที่สองวันที่ผ่านมาได้ของให้ลูกๆให้ตัวเองไปเรียบร้อย วันนี้ไปเก็บๆของที่มันหั่นราคาแบบถูกๆมาก เพราะไม่ต้องรีบร้อนหาซื้ออะไรมากนัก ติดรถพี่สาวจอห์นไปน่ะค่ะ

เวลามีมากมาย เดินดูของไปเรื่อยๆสบายๆ
เข้าไปร้านแบรนด์เนมร้านนึงจำชื่อมันไม่ได้
กะว่าเจออะไรถูกก็จะซื้อ โชคดีเป็นของพ่อ
พเยียในที่สุด เพราะไปเจอกางเกงยีนส์ทรงที่พ่อพเยียบอกแม่น้องนิกว่าชอบ ถูกมากกกกกถูกเหมือนได้ปล่าว เลยซื้อมาให้ตัวนึง เป็นของฝากนะคะ ซื้อมากไม่ได้ค่ะ ค่าส่งมันแพงเนอะ แต่ก็ดีใจว่าในที่สุดก็ได้ของดี ราคาถูกแบบไม่ได้ตั้งใจอ่ะค่ะ

 

โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 22 กรกฎาคม 2549 8:37:17 น.  

 

มีเรื่องเขียนเยอะเลยนะ พี่โดม
เป็นไงบ้างครับ การเดินทางตอนนี้อยู่ตรงไหนละครับเนี่ย

 

โดย: pu_chiangdao 22 กรกฎาคม 2549 18:55:11 น.  

 

เข้ามาอ่านประจำมีสาระรสครบถ้วน

 

โดย: เด็กตลาดเหนือ IP: 124.121.62.48 24 กรกฎาคม 2549 16:53:04 น.  

 

เธอว่า ไม่โทษ ฟ้าดิน ไม่โทษรถไฟ ไม่โทษหัวใจ (อิอิ..เกี่ยวไหมนี่)ไม่โทษใดใดเลย กับความรีบเร่งจะขึ้นรถเมล์สายที่ผ่านเส้น กลับบ้าน จนก้าวพลาดนิดเดียว แต่เขียวช้ำไปทั้งหน้าแข้ง หลายมือยื่นมาพยุง ทั้งหนุ่มต่างชาติคนหนึ่งด้วย หึ หึ ก้นเธอเปิดดูแล้วไม่ช้ำเจ้าคะ พ่อพเยีย...และเธอว่ายืนยันจะเป็นเพื่อนฮอลล์...

 

โดย: เพื่อนอาเครญา IP: 210.213.20.122 25 กรกฎาคม 2549 19:53:16 น.  

 

มาจดชื่อหนังสือค่ะ

 

โดย: filmgus 25 กรกฎาคม 2549 21:35:00 น.  

 

ผมตามป้าฟิล์มกัสเข้ามาครับ อิอิ

 

โดย: ตะเกียงลาน 30 กรกฎาคม 2549 21:56:53 น.  

 

เห็นความสวนงาน

 

โดย: รัตนพล สนองเดช IP: 125.26.181.53 16 มิถุนายน 2551 20:52:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.