จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 

ลันตาตรึงใจ (ป.ล.เช้าวันนี้...มีปลาวาฬเกยหาดหลังบ้าน)

เกาะลันตาหน้าฝน

วันที่ 3 กรกฏ 2549

คุณที่รัก


วันเวลาผ่านไปรวดเร็วเหมือนติดปีก สองสัปดาห์เต็มแล้วที่ผมมานอนบนเกาะลันตาเพียงลำพัง ผมยังไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย อย่างไกลสุดก็แค่ที่ทำการไปรษณีย์ที่อำเภอเก่า ยังไม่ได้ออกเที่ยวจริงๆจังๆ อาจจะเป็นเพราะว่านั่งอยู่ตรงไหนมีความสุขก็นั่งอยู่ตรงนั้น ก็เลยไม่คิดจะขยับไปที่ไหน

ในที่สุดผมก็หาเช่าจักรยานจนได้ บนเกาะไม่มีรถโดยสารหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผมรู้สึกสะดวกกายสบายใจที่ไม่ต้องพึ่งมอเตอร์ไซค์คนอื่นหรือต้องเดินเพียงอย่างเดียว เพราะจักรยานคือพาหนะที่ผมชอบที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนผมชอบมีจักรยานใช้เสมอ....


ผมไม่มีเป้าหมายอะไรนักในการมาเที่ยวเกาะลันตาครั้งนี้ จังหวะการเดินทางมันลงตัวกันพอดี ตอนที่ผมยังตะลอนอยู่แถวแม่ฮ่องสอนผมได้รับโทรศัพท์จากเงาศิลป์ (shadow of art) เธอโทรมาถามว่าอยากไปนอนเล่นที่เกาะลันตาบ้างไหม มีที่นอนให้นอนฟรี ทุกอย่างเพียบพร้อมห้องน้ำห้องครัวแสนสะอาดและสบาย เพราะที่จะให้นอนคือรีสอร์ทแห่งหนึ่งเป็นของเพื่อนเธอ ซึ่งมีธุรกิจอีกอย่างคือขายเครื่องเงินอยู่แถวถนนข้าวสาร รีสอร์ทช่วงโลว์ซีซั่นไม่มีคนเฝ้าและเธอกำลังตองการหาคนมาเช่าทำต่อหรือไม่ก็เซ้งไปเลย ช่วงนี้จึงเป็นช่วงสูญญากาศพอดี

บอกตามตรงในตอนที่ได้รับโทรศัพท์นั้นยังไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มานอนเล่นที่เกาะลันตาจริงๆ ผมคิดว่ายังคงเป็นเรื่องยากที่จะเดินทางมาภาคใต้ในช่วงนี้ แต่ในที่สุดเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่นครศรีธรรมราชเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน เมื่อรู้กำหนดวันเผาแน่นอนแล้วผมจึงตัดสินใจเดินทางไปอ.ปายก่อนที่กลับมาเชียงใหม่เพื่อเตรียมตัวเดินทางจากเชียงใหม่รวดเดียวถึงนครศรีธรรมราช ด้วยการเดินทางด้วยเครื่องบินสองไฟลท์ภายในวันเดียวกัน

หลังจากงานเผาศพเรียบร้อยแล้วผมก็เดินทางมาเกาะลันตาของเย็นวันที่ 19 มิถุนายน 2549
ผมชอบฉากเย็นของวันนั้นที่มาถึง ทั้งตื่นเต้นและอยู่ในใจเงียบๆคนเดียว

ผมนั่งรถตู้จากนครฯมาลงกระบี่ และต่อรถตู้จากกระบี่สู่เกาะลันตา ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมมาเหยียบเกาะลันตา และยังไม่รู้เหมือนกันว่า รีสอร์ทที่ชื่อ SOUTHERN BLUE อยู่ตรงไหน จำที่เงาศิลป์บอกว่าให้ลงรถที่คลองโตบ อยู่ใกล้ๆกับรีสอร์ทใหญ่และใหม่ชื่อมูนไลท์ เบย์รีสอร์ท ผมท่องคลองคำว่าคลองโตบ เซาท์เทิร์น บลู และมูนไลท์ เบย์อยู่ในใจ เพื่อคอยบอกคนขับรถตู้ว่าปลายทางของผมคือที่นั่น

ตั้งแต่รถออกจากกระบี่ฝนก็ตกตลอดเวลา จนกระทั่งข้ามมาถึงเกาะฝนก็ยังตกกระหน่ำไม่หยุด ผู้โดยสารค่อยๆทยอยลงจนเกือบหมด ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะเริ่มค่ำแล้ว ในที่สุดโชเฟอร์ก็มาจอดตรงข้างทางเป็นเนินเล็กๆแล้วบอกว่าถึงแล้ว ผมขอลงไปดูป้ายชื่อก่อนว่าใช่ เซาท์เทิร์น บลู หรือเปล่า ? ป้ายที่เขียนไว้คือ ซันเซ็ท ปาร์ค

ผมบอกว่าผมไม่อยากลงที่ผิด เพราะผมไม่รู้จักที่เกาะแห่งนี้เลย โชเฟอร์ยังยืนยันว่าที่นี่ใช่แน่นอน เพราะใกล้มูนไลท์ เบย์ รีสอร์ท ซึ่งอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก ผมยังลังเลไม่กล้าจะลงโชเฟอร์รถตู้หันมาพูดแบบว่า...”ผมยังต้องไปอีกไกลนะครับพี่...” คือนั่นหมายความว่าไม่ว่าจะใช่เซาท์เทิร์นบลูหรือไม่ผมก็ส่งคุณลงตรงนี้แหละ !

ผมตัดสินใจหิ้วของพะรุงพะรังวิ่งเข้าหาร้านอาหารของซันเซ็ทปาร์ค ซึ่งเป็นร้านอาหารใหญ่โตมาตรฐาน แต่ทว่าตอนนี้อาจจะหยุดพักชั่วคราว เพราะในร้านไม่มีผู้คนทั้งลูกค้าและเจ้าของร้าน แม้แต่เก้าอี้ที่จัดไว้ก็รู้ว่าเป็นเวลาหยุดพัก

ผมเอาสัมภาระที่ติดตัวมาคือโน้ตบุ๊คกับเป้เสื้อผ้าและกล้องไปซุกไว้ใต้เคาน์เตอร์ก่อนที่จะออกเดินตามหารีสอร์ทชื่อเซาท์เทิร์น บลูให้ก่อนที่จะมืดค่ำลงไปกว่านี้ ผมตัดสินใจเดินฝ่าฝนไปที่มูนไล้ท์เบย์ เพื่อสอบถามถึงเซาท์เทิร์นบลู ในที่สุดได้คำตอบว่าเดินย้อนกลับลงเนินตามถนนลงไปอีกนิด ผมรู้สึกว่าโชคดีที่รถมาส่งผมเลยเป้าหมายไม่ไกลนัก

ใกล้ค่ำลงไปทุกที ผมถามร้านอาหารริมทะเลขนาดเล็ก ปรากฏว่าเซาท์เทิร์น บลูอยู่ติดกันพอดี ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้พบเป้าหมายแล้ว จึงเดินกลับไปเอากระเป๋าโน้ตบุ๊คและเป้สัมภาระที่ซุกซ่อนไว้ใต้เคาน์เตอร์ โดยที่ขอยืมร่มเจ้าของร้านอาร์มแชร์เดินกางฝ่าฝนไปแล้วเดินกลับมา เมื่อจัดวางสัมภาระเสร็จจึงเดินหาตามกุญแจตามรหัสลับที่นัดกันไว้ หาอย่างไรก็หาไม่เจอ จะโทรศัพท์ไปถามเงาศิลป์แบ็ตเตอรี่โทรศัพท์ก็หมดลงพอดี

โชคดีที่ผมเห็นสวิทซ์ไฟก่อนจึงเปิดไฟไว้ มีชาวบ้านชื่อบังเช็ม(เวลาเรียกชื่อบังเช็ม แต่ในบัตรประชาชนเขียนว่า เซ็ม)เข้ามาช่วยหาด้วย เพราะเงาศิลป์โทรศัพท์สั่งมา เขาขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าฝนมาพร้อมกับภรรยาผู้ใจดี ในที่สุดผมก็คลำหาทางเข้าจนได้ พบกุญแจห้องทุกห้องพร้อมกับเศษกระดาษเขียนโน้ตไว้ว่ากุญแจที่มีอะไรคล้องเป็นกุญแจห้องไหน ซึ่งนับว่าเป็นพวงกุญแจที่น่ารักที่สุดในโลก บางอันแขวนด้วยตัวหนีบเสื้อสีชมพู บ้างเป็นเปลือกหอย บ้างร้อยด้วยเชือกดำ บางอันร้อยด้วยช้อนชงกาแฟ ฯลฯ

ในที่สุดคืนแรกผมเลือกนอนห้องชั้นสองห้องริมติดถนน เพราะเห็นว่าทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่นอนหมอนมุ้ง และรู้สึกว่าเป็นห้องที่ค่อนข้างปลอดภัยจากสายฝนที่กำลังกระหน่ำอยู่ขณะนี้ ตั้งใจว่านอนสักคืนแล้วค่อยหาห้องนอนห้องใหม่ เพราะค่ำแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกคล้ายๆว่ามีสิทธิ์เต็มที่จะเลือกนอนห้องไหนก็ได้

เสียงคลื่นเสียงลมที่ซัดสาดอยู่ตลอดเวลา วูบหนึ่งทำให้ผมนึกถึงวัยหนุ่มตอนาอยุ 25 ปีที่ผมลาออกจากงานแล้วไปอยู่กระต๊อบที่เกาะเสม็ดด้วยความหลงใหลทะเลในตอนนั้น

มีเวลาว่างเมื่อไรแล้วผมจะเขียนเล่าให้คุณฟังอีก...

-------------------

ป.ล. เช้าวันนี้มีปลาวาฬมานอนตายเกย
หาดที่ท้ายบ้าน








ป้ายชื่อรีสอร์ทตอนฝนตกสวย แต่ทว่าตกตัวอะไรไปหนึ่งตัว ?












ห้องพักบางมุม









โต๊ะกินข้าวไปนั่งมองทะเลไป









หลังนี้หันหน้ารับทะเล ข้างในมีห้องใต้หลังคาด้วย









ที่พักด้านหลัง เป็นมุมที่มองจากทะเลเข้ามา







กลางคืนเป็นที่ดูดาว กลางวันเป็นราวตากผ้า











ปลาวาฬอะไรก็ไม่รู้ ลำตัวยาวเก้าเมตร มานอนตายเกยหาดตอนเช้าวันที่ 4 กรกฎาคม 2549 นี้









บังเช็มกับปลาวาฬ




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2549
5 comments
Last Update : 4 กรกฎาคม 2549 12:40:31 น.
Counter : 2583 Pageviews.

 

มาชมทะเลหน้าฝน..อาจดูเหมือนเหงาๆ แต่ ทว่าช่างสงบดีแท้..
อ่านเพลินๆเรื่องการเดินมางไปถึงที่พัก
แต่มาสะดุดตรง"พวงกุญแจที่น่ารักที่สุดในโลก "
ช่างเหมือนกับความคิดเพ้อฝันของฉัน ที่ว่า หากได้เป็นเจ้าของที่พักที่ใดที่หนึ่ง ที่ทะเล
จะทำพวงกุญแจ ที่น่ารัก แตกต่างกัน และ ฉันจะทำมันขึ้นมาเอง เมื่อใครมาพัก พอคืนกุญแจห้อง ฉันก็จะปลดเจ้าพวงกุญแจลายนั้นให้เขาเป็นที่ระลึก ติดไม้ติดมือเขายามเขากลับไป ฉันก็ได้แต่นึกฝัน..มันอยู่ไกลเอามากๆเลยหละ

แฮมๆ เจ้าปลาตัวโต๊โต มันมาตายอย่างนี้ได้ไงนะ
น่ากลัวจังนิ..

คิดถึงทะเล..อยากไปทะเล..ก็จะไปทะเล..

 

โดย: null (วีดวาด ) 4 กรกฎาคม 2549 15:10:42 น.  

 

เจ้าคำว่า null มาได้ไงอะ

 

โดย: null (วีดวาด ) 4 กรกฎาคม 2549 15:12:09 น.  

 

ว๊าว...ปลาวาฬจริงๆหรือครับเนี่ย...

น่าสงสารจัง....

 

โดย: ขนมตะโก้ (ขนมตะโก้ ) 4 กรกฎาคม 2549 16:34:33 น.  

 

ไม่ลองเอาเนื้อมันมาปิ้งกินบ้างเหรอคะ

ตายวันอินดีเพนเด้นซ์ ของอเมริกันพอดี
สงสัยมันประกาศอิสรภาพแห่งความตาย
แน่ๆ

 

โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 5 กรกฎาคม 2549 4:54:34 น.  

 

สวัสดีค่ะ...วิวบ้านที่หันหน้าเข้าทะเลสวยจัง แต่เจ้าปลาวาฬไม่น่ามาตายเลย

 

โดย: ชีพชีวิน 10 กันยายน 2549 10:09:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.