" Stay together & fat together"
Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
7 เมษายน 2554
 
All Blogs
 

BASIC SPONGE CAKE WITHOUT USING SP.

เมื่อก่อนตอนเริ่มทำขนมใหม่ๆ ไฟแรงอยากทำเค้กมาก
แล้วเจอสูตรที่ต้องใช้เอสพีอยู่บ่อยๆ

ก็มีปัญหาว่าหาเอสพีไม่ได้ เพราะอยู่ไกลบ้าน
กระแตว่าหลายๆคนที่อยู่ต่างประเทศ
ก็อาจจะเจอปัญหาแบบนี้ แทบจะทุกคน

เมื่อก่อนเคยคิดตลอดเวลาว่าทำสปองค์เค้กต้องใช้เอสพี
ไม่มีก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเนื้อเค้กจะไม่นิ่ม
กลัวเค้กเป็นไตบ้าง ยุบบ้าง หยาบบ้างล่ะ
กระแตก็เลยหันไปทำชิฟฟ่อนแทน



แต่ก็เจอสูตรสปองค์ของฝรั่งหลายๆสูตร
ที่ทำออกมาแล้วนุ่มมากเหมือนกันนะคะ

เช่นสูตรของแม่บ้านชาวสิงคโปร์ happyhomebaking ก็นุ่มมากค่ะ

จริงๆแล้วสูตรสปองค์แบบชาวยุโรป
ก็ไม่ได้ใส่สารเสริมใดๆนะคะ
ตัวสปองค์ก็ออกมานิ่มมากเหมือนกัน

แต่!!!

ฟองอากาศในเนื้อเค้กจะไม่ค่อยละเอียด
สู้แบบที่ใช้เอสพีไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ

วันนี้สูตรที่กระแตเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ
เป็นสูตรพื้นฐานมากๆของชาวฟินแลนด์ค่ะ

สูตรนี้ไม่มี น้ำ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีเนยนะคะ
ฟังดูแล้ว หลายๆคนอาจจะคิดว่า แล้วมันจะออกมาดีได้ยังไง?

มันก็ออกมาดีค่ะ ดีจนน่าพอใจ

บอกเพื่อนๆตามตรงนะคะว่ากระแตทำเค้กที่บ้าน
กระแตก็ใช้เอสพีค่ะ

กระแตเองก็ติดนิสัยใช้แต่เอสพี
จนเลิกทำชิฟฟ่อนเค้กไปเลยล่ะคะ..แฮ่ๆ

แต่!!!

บางครั้งกระแตได้รับหน้าที่ทำเค้กในชั้นเรียน(กุ๊ก)
เวลาไปฝึกงานร้านอาหารฝรั่ง แล้วเค้าให้เรารับหน้าที่ทำเค้ก
หรือ เวลาไปบ้านเพื่อนต่างชาติ ที่เค้าไม่มีเอสพี
ไม่รู้จักแม้กระทั่งเอสพี .....จะทำไงค่ะ
จะปฏิเสธ..ว่าฉันไม่ทำ ก็คงไม่ได้

กระแตไม่อยากให้เพื่อนหลายๆคนยึดติดแต่เอสพี
และ คิดอยู่เสมอว่า ไม่มีเอสพีแล้ว ฉันไม่สามารถทำสปองค์เค้กได้
ลืมความคิดนี้ไปเลยนะคะ
ไม่มีเอสพี ก็ทำสปองค์เค้กได้ค่ะ

ไม่ใช่ว่ากระแตจะมาแนะนำเพื่อนๆต่อต้านเอสพีนะคะ
กระแตเองก็ชอบเอสพีมากๆๆๆ

กระแตก็เลยอยากแนะนำเพื่อนๆที่อยู่ต่างประเทศ
ถ้ามีโอกาศกลับประเทศไทย
ก็ไปหาชื้อเอสพี กลับมาด้วยนะคะ

กระแตเองก็หอบหิ้วกลับมาฟินแลนด์ทุกปีเลยค่ะ

จุดประสงค์ของกระแตก็แค่อยากให้เพื่อนๆ ที่รักการทำเค้ก
ทำเค้กได้ทุกๆแบบ ไม่ว่าจะเป็นบัตเตอร์เค้ก
ชิฟฟ่อนเค้ก หรือสปองค์เค้กค่ะ

และทำสปองค์เค้กให้เป็นทั้งแบบใส่เอสพี และแบบไม่ใส่เอสพีค่ะ

มาดูสูตรและวิธีทำเลยนะคะ
สูตรนี้สามารถทำเป็น โรลเค้กและคัพเค้กค่ะ

BASIC SPONGE CAKE WITHOUT USING SP.
พิมพิ์เค้กกลม ขนาด 16-17cm

แป้งเค้ก 65g
แป้งมันฝรั่ง 50g
ผงฟู 1/2 ชช.
ไข่......3 ฟอง
น้ำตาล 70g

ร่อนแป้งเค้ก, แป้งมันฝรั่ง และผงฟูรวมกัน
(หรือจะร่อนตอนผสมกับไข่อีกรอบก็ได้ค่ะ)

วอร์มเตาอบที่ 180C,

รองกระดาษที่ก้นและด้านข้างของพิมพิ์เอาไว้

วิธีทำ

ตีไข่ให้แตกฟองหยาบแบบในรูป
แล้วค่อยๆเทน้ำตาลลงตีผสมทีละน้อยๆ โดยไม่ต้องหยุดเครื่องตี
(กระแตต้องหยุดตี เพราะต้องถ่ายรูปด้วยค่ะ)

ตีไข่กับน้ำตาลด้วยเครื่องตีแบบไฟฟ้า ความแรงสูงสุด
จนข้นเหนียว และเปลี่ยนเป็นสีขาวนวลแบบในรูปนะคะ
ตีประมาณ 8 นาทีค่ะ



ในระยะเวลา 8 นาที สามารถปาดขอบอ่างได้ 1-2 ครั้งนะคะ
แต่..ห้ามคนแรงและนานนะคะ แค่ปาด
เพราะถ้าคนแรง จะทำให้ฟองอากาศในไข่ยุบตัวค่ะ


ส่วนผสมต้องข้นและเหนียวแบบในรูป
จากนั้น ร่อนแป้งลงไปค่ะ




คราวนี้เราไม่ใช้ที่ตีแบบไฟฟ้าแล้วนะคะ
ให้ใช้ตะกร้อมือคนผสมอย่างเบามือค่ะ
ห้ามคนแรงค่ะ

ปกติกระแตก็ถอดหัวตีออกจากเครื่องตี
แล้วก็ใช้หัวตีอันเดิมละคะคนผสมด้วยมือ
เพราะไม่จำเป็นต้องเปื้อนอุปกรณ์หลายชิ้นค่ะ

คนจนหมดผงแป้ง และส่วนผสมเข้ากันดี
ใช้เวลาคนผสมแค่ระยะเวลาสั้นๆค่ะ




เทแบทเทอร์ลงในพิมพิ์ แล้วอบทันทีค่ะ
แบทเทอร์ต้องข้นแบบนี้นะคะ
เวลาเทลงพิมพิ์แล้ว แบททเอร์ทบกันเป็นชั้นๆแบบในรูป
แสดงว่าสปองค์เค้กของเราออกมาดีแน่นอนค่ะ





ถ้าเป็นถาดแบนแบบทำโรลเค้ก อบประมาณ 12-15 นาที
ถ้วยคัพเค้ก อบประมาณ 15-18 นาที
เค้กก้อนเล็ก อบประมาณ 25-30 นาที
เค้กก้อนใหญ่ อบประมาณ 45-50 นาที

ระยะเวลาในการอบ ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณเค้ก และ
ขนาดของพิมพิ์ด้วยนะคะ

ระยะเวลาอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้นิดหน่อยก็ได้ค่ะ
ทดสอบโดยการใช้ไม้จิ้มฟัน จิ้มลงไปตรงกลางเค้ก
ถ้ามีเศษเค้กติดออกมา ก็แปลว่ายังไม่สุกคะ
แต่ถ้าไม้จิ้มฟันแห้งสะอาดดี
ไม่มีเศษเค้กติดออกมาก็แปลว่าเค้กสุกแล้วค่ะ





อีกอย่างเล็กๆน้อยๆนะคะ

อยากให้เพื่อนๆพรมน้ำเชื่อมบางๆลงบนชิ้นเค้กด้วยค่ะ
ไม่ว่าจะเค้กแบบใส่เอสพี หรือไม่ใส่ก็ตาม

คือถ้าทำเค้ก สามชั้น ก็อยากให้พรมน้ำเชื่อมลงบนเค้กทุกๆชิ้นค่ะ
ก่อนที่เราจะใส่พวกฟิลลิ่ง หรือวิปปิ้งครีม
เพราะจะทำให้เนื้อเค้กฉ่ำ และไม่แห้งเป็นผงบาดคอค่ะ

เพราะเคยกินเค้กของเพื่อนที่ไม่พรมน้ำเชื่อม
มันแห้งและบาดคอมากๆค่ะ
ทำให้รู้สึกไม่อร่อย และไม่อยากกินไปเลย

น้ำเชื่อมใสเราสามารถทำแบบไม่หวานได้นะคะ
โดยการต้มน้ำกับน้ำตาลเท่านั้นเองค่ะ
ไม่ต้องต้มจนน้ำตาลเปลี่ยนสี หรือถึงขั้นเหนียวนะคะ
แค่ต้มน้ำใส่น้ำตาลคงไปคนจนน้ำตาลละลายค่ะ
ชิมเอาความหวานที่เราพอใจ แต่อย่าให้หวานมากนะคะ
เพราะคงไม่มีใครชอบทานเค้กที่หวานจัดเกินไปจนแสบคอค่ะ







กระแตเองก็ไม่ได้มีความรู้มากมายที่จะสอนใครๆได้
แค่ความรู้เล็กๆน้อยๆที่อยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆค่ะ


ขอให้สนุกกับการอบขนมนะคะ





 

Create Date : 07 เมษายน 2554
17 comments
Last Update : 19 มีนาคม 2555 15:14:51 น.
Counter : 5961 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับวิธีทำค่ะ

 

โดย: ceacar salad 7 เมษายน 2554 7:16:29 น.  

 

ขอบคุณสำหรับสูตรและวิธีทำนะคะ
เบสิคมาก แต่เนื้อเค้กออกมาสวยจัง
รสชาติจะคล้ายๆขนมไข่หรือเปล่าคะเนี่ย ^^

 

โดย: แจ๊ค IP: 210.1.4.194 7 เมษายน 2554 8:14:38 น.  

 

ไว้จะหัดทำดูนะคะ แต่ไม่มีแป้งมันฝรั่งนี่จิ

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 7 เมษายน 2554 8:18:18 น.  

 

คุณกระแต ส่วนผสมคล้ายสาลี่ที่แอร์ทำสมัยตอนหัดทำขนมตอนแรกเลยแบบนึ่งเอา ไม่ต้องใส่เนยใส่น้ำมัน ตอนนั้นไปทำงานในป่าที่ลาว ทำสูตรคล้ายที่ว่าไม่เคยเสียเลยค่ะถึงแม้ว่าจะตีไข่ให้ฟูด้วยตะกร้อมือ สงสัยเป็นสูตรพื้นฐานอันเดียวกับขนมไทยเลยเนอะ วิธีทำก็เหมือนกันเลยใส่แป้งตอนสุดท้ายแล้วใช้พายค่อยๆคนให้เข้ากัน

 

โดย: rasinee 7 เมษายน 2554 9:22:28 น.  

 

พีกระแตค่ะ
แล้วถ้าพิม24cmล่ะค่ะ ต้องเพิ่มเท่าไหร่เหรอค่ะ

 

โดย: Namfon IP: 10.25.148.34, 127.0.0.1, 195.255.174.9 7 เมษายน 2554 15:12:04 น.  

 

ตูนเป็นคนหนึ่งที่ไม่มี sp ค่ะ อิอิ แล้วก็เป็นแบบพี่กระแตว่า คือหันไปทำชิฟฟ่อนแทน เดี๋ยวจะลองทำแบบนี้บ้าง ดูเค้กมันนุ่มดีจังเลย

 

โดย: allenalina 7 เมษายน 2554 16:23:29 น.  

 

แวะมาชมเค้กสูตรไม่ง้อ SP
เชอะ เชอะ ไม่ต้องง้อจริง ๆ ด้วย
น่ากินมากคะ ดูนุ่มนิ่มละลายในปาก
ทำได้แบบนี้ เยี่ยมยอดไปเลย
ว่าแล้วก็ต้องไปลองทำบ้าง อิอิ

เอ แบบนี้ใช้แป้งทุเรียนแทนได้ไม๊น๊า
เมืองไทยกำลังฮิตแป้งทุเรียนอ่ะคะ

 

โดย: บ่งบ๊ง 7 เมษายน 2554 16:45:58 น.  

 

ขอบคุณค่ะทุกๆคน
ลองทำดูนะคะ ดี หรือ ไม่ดี ก็แวะมาฝากเม้นต์ไว้ได้ค่ะ

พิมพิ์ 24cm

แป้งเค้ก 130g
แป้งมันฝรั่ง 100g
ผงฟู 1 ชช.
ไข่......6 ฟอง
น้ำตาล 130g

คุณบ่งบ้งค่ะ
กระแตไม่รู้จักแป้งทุเรียนค่ะ มันคงไม่เหมือนแป้งมันฝรั่งนะคะ ฮิฮิ

แป้งมันฝรั่งที่เมืองไทยก็มีขายค่ะ ตามห้างสรรพสินค้าค่ะ

 

โดย: กระแตpp_parich IP: 85.157.70.221 7 เมษายน 2554 19:02:42 น.  

 

ดีจัง ได้เทคนิคเพียบเลย
เจ้าของบล็อกน่ารักจัง
ขอบคุณนะคะ

 

โดย: Secreate (secreate ) 8 เมษายน 2554 0:39:41 น.  

 

ขอบคุณนะคะ
กำลังอยากได้สูตร หาซื้อ SP ไม่ได้ แต่อยากลองทำสปองค์เค้กค่ะ
ดูจากรูปแล้วดูเนื้อเค้กนุ่มมากเลย
จะลองทำดูนะคะ

 

โดย: AdrenalineRush 8 เมษายน 2554 10:28:16 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณกระแต
ทีนี้จะได้ทำ sponge cake แบบไม่ง้อ sp บ้างแล้ว... ดีจังเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับสูตรและเทคนิคนะคะ

แต่ถ้าไม่มีแป้งมันฝรั่งจะใช้แป้งอะไรแทนได้บ้างคะ

หรือใช้แป้งเค้กทั้งหมดได้ไหมค่ะ

 

โดย: ปังปอนด์ (พอใจไชโย ) 8 เมษายน 2554 14:52:18 น.  

 

ขอบคุณสำหรับสูตร+เทคนิคพรมน้ำเชื่อมค่ะ
เนื้อเค้กดูนุ่มน่าทานมากๆ เลย...

 

โดย: คาร์เนชั่นสีม่วง 9 เมษายน 2554 11:32:12 น.  

 

ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ
คุณปังปอนค่ะ สูตรนี้กระแตได้มาจากกุ๊กชาวฟินค่ะ และหนังสือตำราทำเค้กเค้าก็ให้ใส่แป้งมันฝรั่งค่ะ

กระแตก็ไม่กล้าบอกว่าจะใช้อะไรแทนได้ แต่เพื่อนกระแต(คนฟิน) บอกมาว่าแป้งมันฝรั่งเป็นตัวทำให้เค้กนุ่มค่ะ

แป้งมันฝรั่งหาชื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตนะคะ เห็นเพื่อนบอกว่าที่เมืองไทยก็มีขายค่ะ

 

โดย: กระแต (pp_parich ) 12 เมษายน 2554 2:07:47 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณกะแต. ขอบคุณมากค่ะสำหรับสูตรที่ไม่ใช้ SP แต่อยากทราบว่าแป้งมันฝรั่ง ภาษาอังกฤษ. คืออะไรคะ

 

โดย: ลักษณ์ IP: 192.99.14.34 14 พฤษภาคม 2557 8:18:19 น.  

 

อธิบายละเอียดมากขอบคุณมากๆ

 

โดย: แม่บ้านเยอรมันนี IP: 94.23.252.21 24 มีนาคม 2558 0:15:22 น.  

 

เลิกทำชิฟฟอนเสียทีค่ะ ขอบคุณสูตรดีๆนะคะ

 

โดย: peth IP: 192.99.14.36 29 มีนาคม 2559 7:18:54 น.  

 

SPONGE CAKE น่าทานค่า

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 17 มีนาคม 2563 13:15:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pp_parich
Location :
vaasa Finland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




กระแตเป็นผู้หญิงธรรมดา ที่ชอบทำอาหาร และขนมมากๆ

ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคน
พูดคุยทักทายกัน และยินดีรับฟังคำแนะนำที่ดีดีจากทุกคนค่ะ
อนุญาต ให้นำสูตรต่างๆไปใช้ได้ค่ะ แต่สงวนสิทธิ์ห้าม!!! นำรูปไปใช้ในทางการค้าโดยเด็ดขาด


New Comments
Friends' blogs
[Add pp_parich's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.