|
"บ้านผีสิง" ... หลอนก็งั้นๆ ตัวหนังก็งั้นๆ ดูจบแล้วก็งั้นๆ
"ชาลินี" นักข่าวสาวผู้เบื่อหน่ายกับการทำข่าวโสเภณี ยาเสพติด ที่เดิมๆ ได้รับโอกาสหยิบยื่นจากเพื่อนร่วมวิชาชีพให้มาทำรายการสกู๊ปข่าว รื้ออดีต ที่จะเป็นการรื้อฟื้นความเป็นมาเป็นไปของคดีอาชญากรรมเลื่องชื่อ ...ซึ่งสกู๊ปแรกที่ชาลินีได้มาทำเป็นการประเดิม ก็เริ่มด้วยข่าวที่อยู่ในกระแส คดีที่กำลังจะตัดสินความของ "หมอวสันต์" ผู้ทำการฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง "หมอผุสรัตน์"
เมื่อชาลินีได้สืบสาวเบื้องลึกเบื้องหลังของเหตุการณ์นี้ เธอได้พบกับความข้องเกี่ยวอย่างหนึ่งของหมอทั้งสอง กับบ้านพักแพทย์หลังหนึ่ง ที่อยู่หลังโรงพยาบาลมักกะสัน ...จนเธอได้ลองเข้าไปดูในตัวบ้าน ก็ได้พบอีกเบาะแสหนึ่งที่ว่าที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่เกิดเหตุของอีกหนึ่งคดีดังของ "หมอเฉลิม" และแฟนสาว "จามจุรี" ...แต่มันยังสืบไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อชาลินีได้พบอีกหนึ่งข้อข้องเกี่ยวจากทะเบียนบ้าน และปากคำคนแวดล้อม ที่ว่า บ้านหลังนี้ก็เคยคือที่พักอาศัยของ "หมออุทิศ" ที่ก่อเหตุฆาตกรรมช็อกวงการแพทย์แต่แรกสุด กับพยาบาล "นวลฉวี" อีกด้วย
ด้วยสันดานของนักข่าวที่ชอบสอดรู้สอดเห็นแม้เรื่องที่เกี่ยวดองเพียงจุดเล็กๆ กับความมุ่งมั่นที่ ชาลินี จพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้สกู๊ปข่าวของเธอน่าสนใจ ...เธอจึงต้องแลกมาด้วย ความหลอน ที่คอยตามหลอกเธอไปทุกที่ ที่ชาลินี เข้าไปแส่
"บ้านผีสิง" ... หนังผีๆเรื่องต่อมาของ "อ๊อฟ-มณฑล อารยางกูร" ผู้กำกับ "ผีคนเป็น" (และหนังโคตรซีจีสุดเหียก "ปักษาวายุ") ...มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ น่าติดตาม ว่าเหตุใดไฉนหนอ คดีดัง 3 คดี(ที่ถูกสมมติขึ้นมาให้เหมือนจริง)จึงได้มาเกี่ยวดองข้องกับบ้านหลังเดียวกัน ที่ได้ชื่อว่าเป็น บ้านผีสิง ...ถึงพลอตจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร หากมันก็มีจุดกระตุ้นให้รู้สึกว่า ถ้าหนังจะเอาเค้าโครงเรื่องที่เรารู้จักมาโยงสอดคล้องได้ดี ก็จะเป็นอะไรที่สนุกน่าลุ้นได้ดียิ่ง
แต่ทว่า บ้านผีสิง ก็ยังคงทำได้ดีแค่ที่ ตัวพลอต ...กับตัวหนัง ก็ไม่ได้มีจุดไหนที่คิดว่ามันสนุก มีอะไรให้อยากลุ้น ออกจะรู้สึกว่า มันดูงั้นๆกันไปแทบทั้งเรื่อง
ในช่วงแรกของหนัง อาจจะยังเข้าข่าย ดูน่าติดตาม น่าสนใจ ไม่รู้สึกน่าเบื่อนัก ...แต่พอหนังเริ่มเดินมาสู่จุดที่ปมหลายๆอย่างมาอีรุงตุงนัง ตัวบทก็เริ่มจะออกทะเลมันไปเรื่อย แม้ไม่ถึงกับเละเทะเหลวเป๋ว แต่ก็เหมือนว่ามันสักจะเล่าเพื่อให้คนทำเข้าใจกันเอง ส่วนคนดูก็แล้วแต่จะคิดจะอ่านไป แถมเรื่องบางเรื่องที่เป็นช่องโหว่ ก็กลายมาเป็นจุดที่น่าขันว่า ทำไมรายละเอียดเล็กน้อยแค่นี้ ยังมีผิดพลาดกันได้ลง (ยกตัวอย่าง ปีพ.ศ.ที่เกิดคดีทั้ง 3 ...เนื้อหนัง , โน้ตของชาลินี และทะเบียนบ้าน มีความแตกต่างกันได้ชวนให้ฉงน)
ฉากผีหลอกทั้งหลายแหล่ ก็นับว่าสร้างความหลอนได้ไม่น้อยเลย (และออกจะรู้สึกดี ว่าผีในเรื่องนี้ ไม่ออกมาตะลุ้งตุ้งแช่แบบเดิมๆ) ...หากแต่มันก็กลายเป็นความบันเทิงที่งั้นๆ ได้ด้วยเทคนิค C.G. ราคาถูก สุดจะไม่เนียน ทำออกมาแล้วกลับกลายเป็นมุขตลกแสนขบขัน ไม่ยักนึกรู้สึกขยาดกลัวเนื้อตัวสั่นแต่ใดเลย (ด้วยความหวังดี เลิกยุ่ง C.G. ซะเหอะครับ คุณอ๊อฟ ...คุณทำมา 3 เรื่องแล้ว หาความดีไม่ได้เลยสักเรื่อง)
สิ่งที่ดีที่สุดของ บ้านผีสิง (ที่มีเพียงอย่างเดียว) คือ การแสดงของ คุณ "ทราย เจริญปุระ" ...ที่ให้ความพอดี กับบท "ชาลินี" ไม่กลัวจนเว่อร์ ไม่นิ่งจนแข็ง รู้สึกอินกับสิ่งที่เธอเจอ มากกว่าที่เราจะอินกันไปตามท้องเรื่อง ตามเหตุการณ์มันพาไป ...อีก 2 นักแสดงที่มีบทบาทกับเรื่องราวมากสุด อย่าง คุณชมะนันทน์ (ผู้สื่อข่าวช่อง 9) หรือ คุณคมสัน (108 มงกุฎ) ก็ถือได้ว่าโอเค แต่ไม่มีอะไรให้ต้องติดใจในความวิปริตของ 2 คนนี้
ถ้าถามผมว่า ระหว่าง ผีคนเป็น กับ บ้านผีสิง ...เรื่องไหนที่ชอบ ผมพูดได้ว่า "ไม่มีสักเรื่อง" แต่เมื่อถามเชิงเปรียบเทียบว่าเรื่องไหนดีกว่า ผมก็กล้าจะพูดเลยว่า "ดู ผีคนเป็น ยังได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า บ้านผีสิง ซะอีก"
"บ้านผีสิง" ... หลอนก็งั้นๆ(เพราะซีจีแท้ๆ) ตัวหนังก็งั้นๆ(เพราะบทแท้ๆ) ดูจบแล้วก็งั้นๆ ...จะมีไม่งั้นๆอย่างเดียว ก็ตรงที่รู้สึกดียอมเสียบัตรฟรีของเมเจอร์ไปกับหนังเรื่องหนึ่งที่ขืนเสียตังค์ ต้องรู้สึกเสียดายแน่นอน
เกรด C ... { }
ปล. "ผีคนเป็น" ...มีบทที่หักมุมพลิกผันได้เนียน และเข้าใจคิด มีจังหวะจะโคนเล่าเรื่องกำลังดี ฉากผีๆก็ดูน่ากลัว น่าขนลุก (ถึงตะลุ้งตุ้งแช่กันบ่อยๆ ก็พอทน) แต่ความเสียหายหนักที่ฝากเอาไว้กับช่วงท้าย ยันตอนจบ ช่วยลดคุณค่าที่ตั้งใจไปโดยไม่ตั้งใจ
ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว-แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว)-ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน
วันนี้ คุณดู "ไชยา" แล้วหรือยัง ...ถ้ายัง ขอเชิญชวนให้ไปดู
ถึงหนังจะไม่เพอร์เฟกต์เลิศเลอ แต่คุณจะรู้สึกประทับใจในสิ่งที่คุณได้เห็นแน่นอน...อย่างน้อยๆ ก็เป็นการให้กำลังใจสนับสนุนกับกลุ่มคนคุณภาพกลุ่มหนึ่งที่ร่วมกันสร้างสรรค์อีกหนึ่งหนังดีๆ ควรค่าให้จดจำครับ
"ไชยา" ... หนัง(มวย)ไทยที่คุณต้องดูด้วยตา แล้วจะ(ต่อย)ทะลวงไส้ไปถึงหัวใจ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=03-09-2007&group=2&gblog=86
ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
| Create Date : 08 กันยายน 2550 |
|
16 comments |
| Last Update : 7 ตุลาคม 2550 2:55:49 น. |
| Counter : 5770 Pageviews. |
|
 |
|
}
ภาพไม่ครบ เนื้อเรื่องก็ไม่มี แย่สุดๆ!!.............
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [
@ 
เข้ามาดู กะว่าพรุ่งนี้จะไปดูซะหน่อย อ่านบทวิจารณ์แล้วชักจะเปลี่ยนใจไม่ดูหรือดูดีหว่า