วิธีทำให้ "ฟันขาว"
ถ้าฟันของคุณมีคราบที่เกิดจากการดื่มน้ำชา ไม่ต้องห่วง เพราะมีวิธีมากมายที่จะช่วยให้ฟันของคุณขาวสดใสขึ้นได้ โดยไม่ต้องพึ่งหมอฟัน

อายมากจนไม่กล้ายิ้ม เพราะฟันมีคราบเหลือง แต่ไม่ใช่คุณคนเดียวที่มีปัญหาเช่นนี้ ประมาณกัน ว่ามีคนอย่างน้อย 3/4 ที่มีสีฟันขาวหม่น

ฟันของคนเราเริ่มมีสีหมองคล้ำด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น เกิดจากฟันผุ หรืออุบัติเหตุรุนแรงจนทำให้ประสาทฟันเสีย แต่ที่พบได้บ่อย คือ คราบเหลืองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือดื่มชา กาแฟ หรือไวน์แดง มากเกินไป เมื่ออายุมากขึ้น คราบต่าง ๆ เหล่านี้จะสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนติดแน่น แต่ก็มีวิธีมากมายที่จะช่วยคืนเสน่ห์สดใสให้รอยยิ้ม

ทำอย่างไรฟันจึงขาว

ก่อนอื่นให้กำจัดตัวการสำคัญ นิโคตินและสารทาร์ในบุหรี่ ทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองรวดเร็วมาก ยิ่งถ้าคุณยังไม่เลิกบุหรี่ การหลีกเลี่ยงหรืองดอาหาร และเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเป็นคราบช่วยได้ ระวังอาหารที่มีรสเผ็ดเช่น แกงเผ็ด

ควรใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบฟันที่มีฤทธิ์อ่อน ๆ ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ภายในบ้าน เช่น เกลือผสมกับผิวเปลือกมะนาวสับละเอียด ใช้แทนผงสีฟัน หรือใช้แปรงสีฟันเปียก ๆ จุ่มกับผงเบคกิ้งโซดาก่อนนำมาแปรง หรือจะใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของผงเบคกิ้งโซดาก็ได้

ฟันขาวได้ด้วยมือคุณ

ยาสีฟันและผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งทั้งหลายไม่ได้ช่วยให้ฟันขาวใสขึ้น แต่ช่วยทำให้ฟันมีสีใกล้เคียงสีฟันเดิมตามธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำยาบ้วนปาก จะช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบใหม่

ชุดฟอกฟันขาวด้วยตัวเองซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยา เพียงนำถาดฟันมาใส่น้ำยาลงไปใส่ถาดติดกับฟัน สวมไว้วันละ 2-3 ชั่วโมงจนกว่าจะเห็นความแตกต่างที่เกิดกับฟัน อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ผลควรหยุดใช้

ไปพบทันตแพทย์

ถ้าคุณชอบไปพบทันตแพทย์มากกว่าจะลงมือทำด้วยตนเอง ก็มีวิธีให้เลือกดังต่อไปนี้ at-home bleaching เป็นการฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้านด้วยสารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นต่ำ โดยคนไข้ต้องมาพบทันตแพทย์ เพื่อพิมพ์ปากทำถาดใส่น้ำยาเฉพาะบุคคลให้ แล้นำน้ำยาที่ทันตแพทย์จัดความเข้มข้นให้ใส่ถาดบริเวณหน้าฟัน เพื่อฟอกสีฟันด้วยตัวเอง ใส่ถาดนี้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือตลอดคืน ทำอย่างน้อย 8 ครั้ง

สารที่ใช้ฟอกสีฟันคือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ก็ได้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กแทรกซึมไปในเนื้อฟันได้ง่าย โดยจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับสารมีสีที่อยู่ในเนื้อฟัน ซึ่งมีโมเลกุลใหญ่ และทึบแสงให้แตกตัวเป็นโมเลกุลขนาดเล็กลงและโปร่งแสง ประสิทธิภาพของการฟอกสีฟันขึ้นกับความเข้มข้นของสารฟอกสีฟัน ความสามารถในการแทรกซึมเข้าไปหาโมเลกุลสีระยะเวลา และจำนวนครั้งที่สารฟอกสีฟันได้สัมผัสกับโมเลกุลสีในเนื้อฟัน

หรือถ้าต้องการให้เห็นผลชัดเจนมากขึ้น คุณอาจต้องพึ่งวิธีฟอกฟันด้วย in-office power bleaching ซึ่งทำโดยทันตแพทย์ โดยใช้สารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงและอาจเร่งปฏิกิริยา โดยการใช้ความร้อน ใช้แสงจาก cool light, plasma arc หรือ laser เป็นต้น แสงเหล่านี้จะช่วยเร่งให้โมเลกุลของสารฟอกสีฟันแตกตัวได้เร็วขึ้น ทำให้เห็นผลเร็วขึ้น

พลังแห่งความขาว

พัฒนาการใหม่ล่าสุดคือเลเซอร์ฟอกฟันขาว โดยใช้เจลฟอกฟันแล้วฉายด้วยแสงเลเซอร์ การรักษาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ 5-6 เฉด และให้ผลลัพธ์ยาวนานหลายปี ทั้งนี้ขึ้นกับนิสัยการกินและดื่ม ตลอดจนการรักษาความสะอาดภายในช่องปาก แต่อย่าคิดว่าทันตแพทย์จะฟอกฟันคุณให้ขาวทั้งหมด เพราะถ้าคุณไม่บอก ทันตแพทย์ส่วนมากจะฟอกฟันเฉพาะบริเวณที่เผยให้เห็นเวลาคุณยิ้ม ก่อนเข้ารับการบำบัด ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อน เพื่อจะได้ดูว่าควรฟอกฟันซี่ใดบ้าง และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าฟันไม่ขาวใสอย่างที่คาดไว้

อย่างไรก็ตาม แสงเลเซอร์ที่ใช้ในการฟอกสีฟันควรเป็นแสงสีแดง ไม่ใช่แสงสีฟ้า เนื่องจากเครื่องเลเซอร์เป็นเครื่องที่มีราคาแพง ทำให้บางคลินิกเลือกใช้เครื่องมือที่มีแสงใกล้เคียงกันอย่าง cool light หรือ plasma arc ที่มีแสงสีฟ้าแทน

ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังคลินิกบางคลินิก ที่อาจจะทำการตลาดโดยโฆษณาว่าฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ แต่กลับใช้เครื่องมือที่เป็น cool light หรือ plasma arc เป็นเครื่องมือในการฟอกสีฟัน




ที่มา Helath Plus



Create Date : 10 ตุลาคม 2553
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 14:16:25 น.
Counter : 1464 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณมากๆคะ
โดย: น้ำหอม MizzPerfume (MizzPerfume ) วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:0:35:59 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
ตุลาคม 2553

 
 
 
 
 
3
5
6
8
9
15
17
18
20
22
24
31
 
 
All Blog