พะนอขวัญ บทที่ ๑๔
พะนอขวัญบทที่ ๑๔ น่านฟ้ามองรอยยิ้มของเลขานุการที่รออยู่หน้าห้องแล้วเลิกคิ้วขึ้นแววตาของไตรเป็นเชิงล้อเลียนอย่างที่ทำให้เขาต้องหัวเราะในลำคอ มีเรื่องอะไรสนุกเหรอไตร น่านฟ้าถามขณะผ่านเข้าประตูห้องทำงานโดยมีไตรเดินตามมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารและแท็บเลตยี่ห้อดัง ไตรวางแฟ้มบนโต๊ะทำงานเมื่อเจ้านายหนุ่มนั่งลงรีบร้อยพร้อมกับเปิด ข่าว จากแท็บเล็ตให้น่านฟ้าดูการเป็นเลขานุการน่านฟ้าไม่ใช่แค่เพียงเรื่องงานเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับเจ้านายด้วย น่านฟ้ามองภาพตัวเองกับดาริกาพร้อมกับคำบรรยายแกมหยอกแกมหยิกเกื่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างดาริกากับเขา ไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่มีภาพนี้ออกมาเพราะในงานนั้นมีนักข่าวมากมายและการที่ดาริกาเกาะแจอยู่กับเขานั้นก็น่าเป็นที่สนใจหรือไม่ก็มีคนช่วยทำให้น่าสนใจ ไม่นึกว่านายจะสนใจข่าวกอสซิปด้วยนะ น่านฟ้าเหลือบมองเลขานุการที่ยิ้มกว้าง ท่าทางชอบอกชอบใจ ผมก็ไม่ค่อยสนใจหรอกครับ แต่เห็นพวกสาวๆเขาสนใจข่าวแบบนี้กัน น่านฟ้ายักไหล่ ส่งแท็บเล็ตคืนให้เลขานุการและกำลังจะเปิดแฟ้มงานก็ต้องชะงัก บอสคิดว่าพวกติสต์ๆ เขาจะอ่านข่าวกอสซิปกันบ้างไหมครับ หึ...น่านฟ้าทำเสียงในลำคอ ก่อนจะเปิดแฟ้มต่อ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเลขานุการหากเดาได้ว่าไตรคงจะยิ้มอย่างสนุกที่สามารถเย้าเขาได้ ไตรกลั้นหัวเราะมองเจ้านายซึ่งแสร้งอ่านแฟ้มงานต่อโดยไม่ตอบโต้ หากปฏิกิริยาแค่นี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่าหญิงสาวคนนั้นน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง พะนอขวัญเลี้ยวเวสป้าเข้ามาในบริเวณอพาร์ตเมนต์ยังไม่ทันได้จอดรถ ทโมนสองคนที่นั่งอยู่แถวล็อบบี้ก็เริ่มโบกไม้โบกมือตะโกนร้องเรียกเธอนี่ถ้าไม่ได้หน้าตาแต่ละคนช่วยเอาไว้คงถูกเจ้าหน้าที่ที่ล็อบบี้ไล่ออกไปแล้วแต่บรรดาน้องๆ ทั้งสี่ของเธอเอาหน้าหล่อๆ คารมฮาๆ มาหลอกล่อตั้งแต่ยามรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ล็อบบี้ ป้าร้านข้าว ไปจนถึงคนในอพาร์ทเมนต์ เรียกว่าคุ้ยเคยกันดี เจ๊แพง... แมทธิวกับวาษิตประสานเสียงกันพาร่างสูงๆ เข้ามาหารุ่นพี่สาว ที่ลงจากเวสป้าแล้วเดินเข้ามาด้านในตัวอาคาร มานานหรือยังพะนอขวัญถาม เธอตรงจากที่บริษัทกลับมาอพาร์ตเมนต์เลย ไม่ได้อยู่ยาวเช่นทุกวันเพราะนัดกับน้องๆ เรื่อง ของฝาก จากบ้านของเธอ ไม่นานเจ๊ แต่นานเท่าไรเราก็รอเจ๊ได้ แมทธิวทำเสียงเล็กเสียงน้อย รอของฝากเจ๊มากกว่า พะนอขวัญขัด อันนั้นก็แน่นอนอยู่แล้ว แมทธิวยิ้มกว้าง ส่วนวาษิตหัวเราะอย่างชอบใจ งั้นรอแป็บเดียวพี่ขึ้นไปเอาของข้างบนก่อน พะนอขวัญบอก แล้วขึ้นไปบนห้องหิ้วกล่องของฝากลงมา แมทธิวรีบเข้าไปรับ ขอบคุณมากครับเจ๊แพงสุดที่รักของผม วาษิตมองกล่องตาเป็นมัน ขณะที่รุ่นพี่สาวส่ายศีรษะ ไปกันดีกว่า...ไม่รู้ว่าพวกเฮีย ไปถึงคอนโดหรือยัง พะนอขวัญพยักหน้าตามน้องทั้งสองคนไปยัรถของวาษิต ปกติเธอไม่ค่อยเห็นน้องๆ ขับรถกันนักเพราะในมหาวิทยาลัยหาที่จอดรถยาก จึงมักใช้รถเมล์ รถไฟฟ้าหรือแท็กซี่ตามแต่จะสะดวก แหม...น้องเจ๊พะนอขวัญหัวเราะ เหลือบมองไอ้หนุ่มผมยาวสุดเซอร์กับออดี้คันงาม วันนี้เหลือแต่รถของพ่อ วาษิตลูบท้ายทอยเขินๆ เพราะสภาพเขากับรถไม่ค่อยจะเข้ากันนักเขาไม่ค่อยชอบขับรถ แต่วันนี้มีภาระกิจต้องมารับรุ่นพี่สาว แล้วรถที่บ้านก็เหลืออยู่คันเดียว ก็ไม่ได้ว่าอะไรพะนอขวัญยังหัวเราะไม่เลิก แม้จะเข้ามานั่งในรถแล้วก็ตามช่วงนี้ดวงเธอถูกโฉลกกับรถหรูๆ หรือยังไงนะ พอเลี้ยวออกจากอพาร์ทเมนต์ก็พบกับการจราจรหนาแน่นทันใดแม้จะไม่ชอบใจแต่ก็คงจะทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อจำนวนรถนั้นมากกว่าที่ว่างบนท้องถนน อ่ะ...นี่ของฝากจากกรุงเทพฯ ครับเจ๊ แมทธิวค้นของในย่ามผ้าฝ้ายซึ่งเขาใช้แทนกระเป๋าหยิบซองส่งให้รุ่นพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับ พะนอขวัญเอี้ยวตัวมารับ ก่อนจะหัวเราะของฝากที่ว่าเป็นขนมปังสอดไส้เจ้าโปรดของแมทธิวเอง น้องสุดท้องกินเก่งมาก รองท้องไปก่อนเจ๊ กว่าจะถึงคอนโดเฮียคม ของเฮียล่ะวาษิตทวง หมดแล้วแมทธิวเอ่ยหน้าตาเฉย ขณะฉีกซองขนมปังอันสุดท้ายในมือตัวเองออกแล้วส่งเข้าปากอย่างไม่สนใจพี่รหัส เฮอะ...ไอ้น้องเลว วาษิตแค่นเสียง พะนอขวัญยิ้ม สองพี่น้องชอบแกล้งเหมือนเด็กๆเธอฉีกซองแล้วบิขนมปังออกเป็นสองส่วน ส่งให้วาษิตครึ่งหนึ่ง เจ๊แพงน่ารักที่สุด วาษิตยักคิ้วใส่แมทธิวที่เป้ปากใส่เขา ก่อนจะหันกลับมาตั้งใจขับรถอีกครั้งหากก็แอบชำเลืองมองใบหน้าของรุ่นพี่สาวบ่อยๆ ไม่ได้ ก็เจ๊แพงใจดีอย่างนี้น่ะสิ...ทำให้คนหลงรักง่ายๆโดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้ พะนอขวัญมองคอนโดมิเนียมที่วาษิตเลี้ยวรถเข้าไปแค่มองภายนอกเธอก็ไม่กล้าเดาราคาแล้วว่าจะมีเลขศูนย์อยู่ด้านท้ายกี่ตัว ไหนว่าจะไปคอนโดของคมไง เธอเอ่ยอย่างแปลกใจเพราะตกลงกันว่าเย็นนี้จะกินข้าวกันที่ห้องชุดของคมคิด นี่แหละฮะ...เฮียเพิ่งย้ายมาเมื่อวันก่อนนี้เองพวกเรามาช่วยแบกของจนแทบเดี้ยง วาษิตตอบรุ่นพี่สาวแล้วจอดรถไว้ที่ลานด้านข้างในส่วนของบุคคลภายนอก อ้าว...ไม่เห็นบอกเจ๊ พะนอขวัญขมวดคิ้ว ก็นี่ไงฮะ...วันนี้ก็ถือโอกาสฉลองขึ้นบ้านเอ๊ย...ขึ้นคอนโดใหม่ของเฮียคม เจ๊ว่าหาโอกาสเมามากกว่า สองหนุ่มหัวเราะ เพราะรุ่นพี่สาวพูดถูก ดูซิ...เจ๊เลยไม่ได้หาของขวัญมาให้คมเลย ไม่เป็นไรหรอกเจ๊...ของฝากที่เจ๊หิ้วมานี่เฮียเขาก็ดีใจแล้วล่ะ นี่มันของฝากใช่ของขวัญที่ไหนล่ะ...ดูซิเด็กพวกนี้ พะนอขวัญส่ายหน้า แต่ตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะเดี๋ยวเธอค่อยหาของขวัญให้ทีหลังก็แล้วกัน เข้าไปรอที่ล็อบบี้ดีกว่าเดี๋ยวพวกเฮียๆ คงมาแล้วล่ะครับวาษิตรีบเปลียนเรื่องก่อนที่รุ่นพี่สาวจะบ่นเพิ่ม ทั้งสามจึงตรงเข้าไปในตัวตึกพะนอขวัญมองการตกแต่งแนวเรียบหรูอย่างสนใจ ก่อนที่จะเลิกคิ้วเมื่อเห็นร่างสูงเดินออกมาลิฟต์ คุณแพง... ณัฐนนทยาเหยียบเบรกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่ลงมาจากรถคันหรูนั้นคือเพื่อนเก่าโดยคนที่ขับรถนั้นเป็นผู้ชายร่างสูง แต่อยู่ในภาพที่เธอต้องเบ้ปาก คือผมยาวรุงรังเสื้อเชิ้ตปล่อยชายกับกางเกงยีนส์เก่าๆ ขาดๆ และรองเท้าผ้าใบเน่าๆเช่นเดียวกับผู้ชายอีกคนที่แม้จะดูเป็นฝรั่งแต่ก็ดูสภาพไม่ต่างกัน ยังคบแต่พวกติสส์แตกเหมือนเดิมล่ะสิ ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย นานๆเธอจะบังเอิญเจอกับพะนอขวัญสักครั้ง เพื่อนที่อยู่กับพะนอขวัญก็มีแต่พวกแต่งตัวโทรมๆไว้ผมยาวไว้หนวดเคราดูสกปรกทั้งนั้น เธอไม่เคยนึกอยากเสวนาด้วยสักครั้ง ความสงสัยแล่นขึ้นมาขณะที่ทั้งสามเดินผ่านรถของเธอโดยไม่เหลือบมองทั้งๆปกติแล้วนิวบีเทิลสีขาวคันนี้มักจะเด่นสะดุดตาเสมอ มันเป็นรถที่เธอเลือกแล้วว่าเหมาะสมกับเธอที่สุด หากเมื่ออยู่ในระยะใกล้เป็นณัฐนนทยาที่มองชายหนุ่มทั้งสองอย่างประหลาดใจ ถึงแต่งตัวโทรมๆแต่ทั้งคู่หล่อจนเธอต้องหันตาม และยังออร์ดี้คันงามนั่นอีก....พะนอขวัญมากับใคร ณัฐนนทยามองทั้งสามที่เดินตรงไปยังล็อบบี้ก่อนจะตัดสินใจจอดรถไม่ห่างจากออร์ดี้คันนั้นเธอมองจนแน่ใจว่าทั้งสามไม่หันมาจึงลงจากรถ และตามเข้าไปในล็อบบี้ ก่อนจะก้าวผ่านประตูกระจกเข้าตัวตึกเธอก็ชะงัก คุณเขตชลนี่...เขาอยู่ที่นี่เรอะทำไมเธอไม่เคยรู้ หญิงสาวร้องในใจเมื่อเห็นร่างสูงก้าวออกมาจากลิฟต์แต่ก็ต้องเม้มปากเมื่อเห็นเขาเดินตรงเข้ามาหาพะนอขวัญโดยไม่มองไปทางอื่นเลย เธอมองตามทั้งกลุ่มที่เดินเลี่ยงไปยังบริเวณมุมโซฟาอีกด้านของล็อบบี้ณัฐนนทยาเม้มปากก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าใบใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมาวันก่อนทำให้เพื่อนในแผนกมองอย่างอิจฉา เธอเหลือบมองเห็นว่ากลุ่มของพะนอขวัญมัวแต่คุยกันไม่ได้สนใจจึงแกล้งเดินไปยังต้นไม้พุ่มเล็กๆ ที่เป็นของประดับใกล้ๆ กับกลุ่มโซฟาแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เธอสามารถได้ยินบทสนทนานั่นโดยอีกฝ่ายมองไม่เห็นเธอ ริมฝีปากเคลือบสีสวยค่อยๆ เม้มแน่นขึ้น โห...คอนโดนี้ของบ้านน้องแดนเหรอ พะนอขวัญกลอกตา ขณะที่รุ่นน้องทั้งสองหัวเราะร่วนส่วนเขตชลได้แต่ยิ้มบางๆ มิน่า...เธอถึงเห็นภาพดอกประดู่ที่เคาน์เตอร์ล็อบบี้ เขตชลกำลังสงสัยว่าสิ่งที่เรียกว่าความบังเอิญกำลังอาละวาดอยู่หรือยังไงครอบครัวของเขามีห้องชุดส่วนตัวอยู่ในคอนมิเนียมนี้ แต่คนที่มักมาใช้มากที่สุดก็เป็นเขาวันนี้หลังจากออกมาจากไซต์งานตอนบ่ายแก่ๆ เขาก็หอบงานมานั่งทำที่นี่ เพราะไม่ชอบเข้าออฟฟิศใหญ่กำลังคิดว่าจะกลับบ้านเลยหรือออกไปหาอะไรกินแล้วกลับเข้ามานอนที่นี่ก็เจอเข้ากับพะนอขวัญที่ล็อบบี้ ให้ตายเถอะ...น้องเจ๊แต่ละคน มีใครบ้านธรรมดาๆแค่พอมีพอกินแบบเจ๊บ้างไหม พะนอขวัญส่ายหน้าเธอไม่ค่อยได้สนใจเรื่องฐานะครอบครัวของน้องแต่ละคน วาษิตกับแมทธิวสบตากันแล้วหัวเราะดังขึ้นไปอีกขณะที่เขตชลต้องกลั้นหัวเราะ ท่าทางของหญิงสาวไม่ได้ตื่นเต้นเลยดูอ่อนอกอ่อนใจมากกว่า หากระหว่างนั้นสองหนุ่มเหลือบมองพี่ชายของรุ่นพี่อย่างไม่ค่อยไว้ใจแววตาของเขตชลดูพึงพอใจพะนอขวัญมากไป สรุปว่าไม่มีใช่ไหม...เฮ้อ จะยังไงเราก็เป็นน้องของเจ๊อยู่ดี สองหนุ่มซึ่งนั่งประกบหญิงสาวที่โซฟายาวเอนศีรษะซบไหล่บางอย่างอ้อนๆ เจ๊แพงก็ไม่ค่อยจะรู้เนื้อรู้ตัวหรอก... เขตชลเลิกคิ้วเมื่อเห็นแววตาของสองเด็กหนุ่มที่มองมายังเขา หึๆ...ไอ้พวกเด็กหวงพี่สาว จ้าๆ เอาหัวออกไปได้แล้ว เจ๊หนัก พะนอขวัญดันศีรษะของน้องทั้งสองออก ทั้งคู่ยอมแต่ก็ยังนั่งประชิดรุ่นพี่สาวอยู่ดี เขตชลเปิดยิ้มกว้าง เจอคุณแพงก็ดีแล้วไปทานข้าวกับผมนะครับวันนี้ ไม่ได้...สองเสียงประสานกันก่อนที่พะนอขวัญจะเอ่ยอะไร เพราะเจ้าตัวมัวแต่อึ้งที่จู่ๆก็ถูกชวนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เอ...พี่ว่าพี่ไม่ได้ถามว่านกับแมทนะ เขตชลยกมุมปาก ก่อนที่สองหนุ่มจะโต้ พะนอขวัญก็เอ่ยก่อน ไม่ได้หรอกค่ะ แพงมีนัดกับน้องๆ แล้วขอบคุณที่ชวนนะคะ เธอตอบยิ้มๆ สบดวงตาคมที่ฉายประกายระยับ ดวงตาที่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแปลกอะไร...ต่างจากดวงตาอีกคู่ที่คล้ายคลึงกัน อ่า...ถ้าอย่างนั้นโอกาสหน้านะครับ เขตชลขยิบตา พะนอขวัญพยักหน้ายิ้มๆ เฮียแดน เฮียคม แมทธิวตะโกนเมื่อเห็นรุ่นพี่ทั้งสองยืนอยู่กลางล็อบบี้ มือถือถุงพะรุงพะรังทั้งคู่ทั้งสองเดินตรงเข้ามาหา เขตชลมองข้าวของในมือน้องชายแล้วยิ้มกว้าง แหม...ขอผมร่วมปาร์ตี้ด้วยคนได้ไหมคุณแพง พะนอขวัญยิ้มอย่างอ่อนใจ ส่วนแดนดินเดินหน้ามุ่ยเข้ามาเมื่อเห็นว่ามีพี่ชายคนกลางนั่งรวมอยู่ด้วยและจากคำพูดที่ได้ยินแว่วๆ ท่าทางจะกำจัดเขตชลออกไปไม่ได้ง่ายๆ เสียด้วย เขตชลกอดคอน้องชายขณะเคลื่อนขบวนกันไปที่หน้าลิฟต์เขาสบตาหญิงสาวแล้วกลั้นหัวเราะ พะนอขวัญเองก็คงพอรู้ว่าเขาแกล้งพวกน้องๆ เล่นท่าทางเธอน่าจะสนุกไปกับเขาด้วย แต่...เขตชลรู้ดีว่า เขารู้สึกดีแค่ไหนที่ไม่ต้องกินข้าวคนเดียวอีกครั้ง เอ๋ ...นะ...นีน่า พะนอขวัญอุทานอย่างดีใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินคุยโทรศัทพ์ตรงมาที่หน้าลิฟต์เธอเกือบเรียกเชื่อเดิมของจันทร์นวลไปแล้ว ณัฐนนทยาเลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนนะเปิดยิ้ม แพง...อุ๊ย คุณเขตชล สวัสดีค่ะ ณัฐนนทยายิ้มหวาน และไหว้ชายหนุ่มอย่างอ่อนช้อย สวัสดีครับเขตชลรับไหว้ และไม่เอ่ยอะไรอีก ณัฐนนทยาชะงักไปเสี้ยววินาทีกับความเฉยชาของชายหนุ่มไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีความสนใจขณะที่มองเธอ หากที่หญิงสาวแสดงออกก็คือรอยยิ้ม แพงอยู่ที่คอนโดนี้เหรอนี่น่าไม่เคยเห็นเลย เธอแกล้งถาม เปล่าหรอก...เรามาห้องน้องน่ะนี่น่าอยู่ที่นี่เหรอ พะนอขวัญถามอย่างแปลกใจแม้เธอจะไม่รู้ราคาจริงๆ ของห้องชุดที่นี่แต่ก็ประมาณได้ใกล้เคียงล่ะ จันทร์นวลซื้อห้องที่นี่เลยหรือนี่ มันแพงจนเธอนึกไม่ออกว่าเพื่อนสาวเอาเงินมาจากไหน ณัฐนนทยาพยักหน้ายิ้มๆเหลือบมองปกิริยาของชายหนุ่มทั้งหลาย แล้วต้องรู้สึกเคืองใจขึ้นมาเมื่อแต่ละคนมองเธอด้วยท่าทางเฉยชาไม่ต่างจากเขตชล ทำไมล่ะ...ทั้งๆที่ผู้ชายส่วนใหญ่จะต้องมองเธอด้วยความชื่นชมในความสวยเสมอ หรือว่าพวกติสต์แตกพวกนี้จะไม่รู้จักความสวยของผู้หญิงเธอมองการแต่งตัวของแต่ละคนอย่างไม่ชอบใจ ถึงจะหล่อแค่ไหน...แต่สภาพแบบนี้เธอก็ไม่สนใจหรอก อ้อ...นี่น้องๆ สายรหัสของแพงเอง นี่พี่นีน่าเพื่อนพี่เอง พะนอขวัญแนะนำ แต่ดูเหมือนทั้งณัฐนนทยาและน้องๆ จะไม่ค่อยสนใจนักเธอเห็นสายตาของเพื่อนสาวเหลือบไปยังเขตชลบ่อยๆ พะนอขวัญกลอกตา...รู้สึกบรรยากาศอึดอัดขึ้นมาอย่างน่าแปลก ข้าวของเยอะแยะเชียวจะจัดปาร์ตี้กันเหรอจ๊ะ ณัฐนนทยาโปรยยิ้ม เปล่าจ้ะ แค่กินข้าวกันเฉยๆเออ...จริงสิ แพงมีไส้กรอกกับหม่ำมานะ ขนมาให้เด็กๆ พวกนี้ นีน่าแบ่งไปไหมพะนอขวัญเอ่ยอย่างกะตือรือร้น พยักหน้าไปยังกล่องที่แมทธิวหิ้วอยู่อาหารขึ้นชื่อของที่บ้านซึ่งพวกน้องๆ ชอบนักหนามักขอร้องให้เธอเอามาฝากทุกครั้งที่กลับบ้าน ไม่ใช่แค่ขนมาให้อย่างเดียวเธอต้องทำให้กินอีกด้วย ไม่...ณัฐนนทยารีบปฏิเสธ แทบค้อนให้เพื่อนสาวตาคว่ำ เธอปรายตามองเขตชล หวังว่าเขาคงไม่ทันคิดหรอกนะว่าเธอจะรู้จักไส้กรอกหรือหม่ำได้ บ้าจริง...เธอคิดถูกหรือผิดที่เข้ามาให้พะนอขวัญเห็นกันแน่ อ้าว...พะนอขวัญมองเพื่อนสาวอย่างแปลกใจ เหมือนจันทร์นวลจะโกรธเธออย่างนั้นแหละ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อพะนอขวัญก็ได้ยินเสียงดนตรีจากโทรศัพท์จึงหยิบขึ้นมาดู ริมฝีปากแย้มกว้าง จ๋า...มิตร มีอีหยังจ้า พะนอขวัญดีใจและแปลกใจที่พี่ชายคนโตโทรศัพท์มาหา ณัฐนนทยานิ่วหน้ามองเพื่อนสาวซึ่งพูดโทรศัพท์ด้วยภาษาอีสานหน้าตาเฉยดีแล้วที่เธอบอกว่าเป็นเพื่อนกันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย นักการตลาดสาวค่อยๆเหลือบมองเขตชล อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง หากแววตายิ้มๆ ที่มองเพื่อนสาวนั้นทำให้ณัฐนนทยาเม้มริมฝีปาก เขตชลรับได้งั้นเหรอที่รู้ว่าพะนอขวัญเป็นเด็กอีสานบ้านนอกอย่างนั้น...หรือว่าเขาไม่รู้กันแน่ ให้ตายสิ... ณัฐนนทยาเหลือบมองเพื่อนสาวที่ยังคุยโทรศัพท์อย่างหมั่นไส้เสียงกริ่งของลิฟต์ดังขึ้นพอดี ทั้งหมดจึงเข้าไปในลิฟต์ อ้าว...สายหลุดไปแล้ว พะนอขวัญมองลดมือที่ถือโทรศัพท์ลงเมื่อเสียงพี่ชายหายไปเพราะลิฟต์เคลื่อนขึ้น ก็อยู่ในลิฟต์นี่ครับ เขตชลเอ่ยยิ้มๆ เขาฟังพะนอขวัญพูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างหากก็ฟังเพลินดี น้ำเสียงสูงๆ ต่ำๆ ที่ทำให้เขาคิดถึงช่วงเวลาดีๆ แต่...ท่าทางของหญิงสาวอีกคนดูแปลกๆอย่างไรก็ไม่รู้ พะนอขวัญพยักหน้าพอออกจากลิฟต์ค่อยโทรศัพท์กลับไปเพราะเมื่อกี้ยังคุยไม่ทันรู้เรื่องว่ามิ่งมิตรอยากให้เธอช่วยทำอะไรให้ ถึงชั้นของนี่น่าแล้ว...ขอตัวก่อนนะคะคุณเขตชลไปก่อนนะแพง ณัฐนนทยาปั้นรอยยิ้มจนถึงชั้นที่เป็นห้องของเธอและจำต้องก้าวออกไปก่อนโดยที่พะนอขวัญโบกมือให้ เขตชลนั้นแค่พยักหน้านิดๆส่วนเด็กหนุ่มคนอื่นๆ เธอไม่สนใจ บ้าจริงๆ ทำไมเป็นอย่างนี้นะ สายตามองตัวเลขบนลิฟต์ที่ขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เธอรู้ว่าชั้นสูงขึ้นนั้นยิ่งเป็นห้องที่ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง ทั้งน่านฟ้าและเขตชลต่างมองผ่านเธอไปทั้งนั้น ยายแพงมีดีอะไร เธอถามตัวเองอย่างไม่เข้าใจ พะนอขวัญมองครัวสวยๆในห้องชุดของรุ่นน้องแล้วถอนหายใจครัวแบบฝรั่งไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารกลิ่นแรงนักหรอก แม้ว่าจะมีเครื่องดูดกลิ่นและควันช่วยก็ตามแต่มันก็ช่วยไม่ได้ เธอเปิดกล่องที่หอบหิ้วขึ้นรถทัวร์มา อาหารวันนี้เธอทำแค่ทอดไส้กรอกกับหม่ำเท่านั้นเพราะแดนดินกับคมคิดช่วยกันซื้ออาหารอื่นๆ มาแล้ว พวกน้องๆช่วยกันแกะอาหารอย่างใส่จาน ชิมไป แขวะกันไป โดยมีเขตชลทำตัวกลมกลืนทั้งๆที่เมื่อกี้ยังดูเขม่นกันอยู่เลย ผมไม่ได้กินมานานแล้วนะเนี่ย เขตชลโฉบเข้ามาหาหญิงสาว เคยกินด้วยเหรอคะพะนอขวัญอดถามไม่ได้ เพราะแม้จะเป็นอาหารอร่อยชนิดหนึ่งในแถบจังหวัดบ้านเกิดเธอแต่มันก็ไม่ได้แพร่หลายเหมือนอาหารอีสานชนิดอื่นๆ บ่อยไปคุณแพง เพื่อน...ผมเขาเอามาให้ชิมก็เลยติดใจ พะนอขวัญหัวเราะเบาๆ ส่วนมือจับมีดเล่มเล็กตัดฟางที่มัดข้อไส้กรอกออกทั้งไส้กรอกและหม่ำเป็นการถนอมอาหารตามภูมิปัญญาพื้นบ้านจนกลายเป็นอาหารยอดนิยม มีทั้งหมูและเนื้อ ไส้กรอกที่เธอนำมาเป็นไส้กรอกข้อใหญ่คนและแบบกับไส้กรอกอีสานอันเล็กๆที่นิยมกินเป็นของว่างกัน แต่เป็นกับข้าวที่กินจริงจัง ทำได้ทั้งทอด ย่างหรืออบรสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ มันๆ กินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อย ส่วนหม่ำนั้นมีสองแบบทำจากเนื้อหรือหมูสับผสมกับตับกระเทียม ข้าวสุก เกลือ ตามสัดส่วนของแต่ละสูตร บรรจุลงในใส้เรียกว่าหม่ำสายหรือใส่ในกระเพาะจะเรียกหม่ำพกทิ้งไว้ไม่กี่วันก็กินได้ จะปิ้งย่าง ทอด อบก็ได้ทั้งนั้น ถ้าจะให้เด็ดต้องมีพริกเผ็ดๆกินแกล้มด้วย ตอนที่เรียนอยู่บางครั้งเธอก็หอบจากบ้านไปให้เพื่อนๆ ลองชิม ก็มีคนติดใจไม่ได้น้อย โดยเฉพาะบรรดาน้องรหัสตัวดีทั้งหลาย เฮีย...พี่กลางเขาชอบเจ๊แพงจริงๆ เหรอ แมธทิวพยักเพยิดไปยังรุ่นพี่สาวกับพี่ชายของแดนดินที่คุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งอยู่อีกฝั่งขณะที่เขาเองก็แกะกล่องออก เป็นปลาหมึกผัดไข่เค็ม หนึ่งในของโปรดเจ๊แพงวันนี้พี่ทั้งสองซื้อมาแต่ของโปรดเจ๊แพงทั้งนั้น แดนดินมองตามแล้วแสยะยิ้ม...เผลอนิดเดียวเขตชลก็เข้าใกล้พะนอขวัญจนได้ เจ๊แพงนี่ก็สนิทกับคนง่าย...แล้วก็ใจดีกับทุกๆคน เสียงดนตรีดังแทรกบทสนทนาขึ้นมาทำให้พะนอขวัญรีบหยิบผ้ามาเช็ดมือแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวเก่งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหากต้องชะงักเมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอ ชื่อที่เธอเพิ่งเพิ่มเข้าไปในเครื่องเมื่อวานนี้เอง ท่าทางของพะนอขวัญทำให้เขตชลมองอย่างแปลกใจ นึกอยากรู้ขึ้นมาว่าใครกันที่โทรศัพท์เข้ามา ค่ะ...พะนอขวัญรับสายเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้น ไม่เพียงแค่เขตชลที่มองเธอ แต่น้องๆทั้งสี่ก็มองเป็นตาเดียว จึงเดินออกจากห้องครัวเพราะรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวเกินกว่าจะให้ใครเห็นได้ ท่าทางเจ๊แพงแปลกๆ นะ เฮียว่าไหม แดนดินเห็นด้วยกับคำพูดของรุ่นน้อง ว่าแต่...ใครทำให้เจ๊แพงมีท่าทีแปลกๆ แบบนั้นกัน
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555 |
|
60 comments |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 15:16:14 น. |
Counter : 22770 Pageviews. |
|
|
|