ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
มงกุฎกุหลาบ ตอน ๔

มารายงานตัวแล้วค่ะ... หลังจากกบดาน เอ๊ย เก็บตัวอยู่หลายวันจนผิดนัดไปอีกสัปดาห์(กะว่าคราวนี้จะไม่เบี้ยวแล้วเชียว)

แหะๆ ดูแลตัวเองไม่ค่อยดี เลยเดี้ยงไปนิดหน่อยค่ะ แต่(คิดว่า)อาการดีขึ้นมากแล้ว ยังไงจะพยายามส่งเจ้าชายมาตามนัดให้ทันค่ะ

ยังไงก็ขอให้มิตรรัก แฟนเจ้าชายทุกคนดูแลสุขภาพกันนะค้า เดี๋ยวปีใหม่จะไม่มีแรงเที่ยวค่ะ (ฬีก็จะพยายามฟิตให้เต็มที่ เตรียมเที่ยวเหมือนกัน ฮา...)

---------------------------------------------------



มงกุฎกุหลาบ ตอน ๔




ไลล่าส์กวาดตามองนักเรียนของเธอเร็วๆ เด็กหญิงชายกำลังทยอยเข้ามาในห้องเรียนเพื่อเริ่มเรียนในชั่วโมงแรก เสียงหัวเราะ พูดคุยอย่างร่าเริงของเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยคือความสุขของเธอ

รอยยิ้มแจ่มใสจางไปเล็กน้อย โต๊ะตัวหนึ่งว่าง ไลล่าส์ขมวดคิ้วนิดๆ นักเรียนหญิงของเธอขาดเรียนไปหนึ่งคน หัวใจของผู้เป็นครูกังวลขึ้นมาทันใด ปกติแล้วผู้ปกครองมักจะไปบอกเธอถึงที่บ้านหากลูกไม่สบายมาโรงเรียนไม่ได้

“แนนน่าคะ... ไอน์ไม่สบายหรือเปล่าถึงไม่มาเรียน”

เด็กหญิงแนนน่าส่ายหน้าจนผมเปียสองข้างแกว่งไปมา

“เปล่าค่ะครูไลล่าส์ ไอน์บอกว่าแม่เขาจะพาไปดูโรงเรียนที่หมู่บ้านใหญ่โน่นค่ะ”

“อ้อ... ขอบใจมากค่ะแนนน่า” นัยน์ตาสีน้ำตาลทองหม่นลงเล็กน้อย หากก็ยิ้มให้ลูกศิษย์ทั้งหลายซึ่งเริ่มคุยกันถึงเรื่องการไปดูโรงเรียนใหม่ของเพื่อน “เดี๋ยวเรามาเริ่มเรียนกันเลยนะคะ

ไลล่าส์พยายามขับไล่ความกังวลออกไปก่อน เพื่อเริ่มการสอนในวันนี้ เธอเริ่มสอนเด็กๆ ด้วยความตั้งใจเช่นเดียวกับทุกวัน ทุกครั้งที่มีคนถามว่าทำไมเธอถึงเลือกมาเป็นครูในโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ ทั้งที่บัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยแห่งเลนีเธียสามารถที่จะเลือกโรงเรียนใหญ่พรั่งพร้อมเท่าใดก็ได้

ครูสาวนึกถึงวัยเด็กของตนเอง เด็กหญิงไลล่าส์ก็เช่นเดียวกับเด็กเหล่านี้ การกลับมาทำงานที่บ้านเกิดนั้น ไลล่าส์มีเพียงเหตุผลเดียว

อยากให้เด็กที่อยู่ตรงหน้าเธอเหล่านี้มีโอกาสเช่นเธอบ้าง

โอกาสที่หมายถึงการได้รับการศึกษาต่อไปในอนาคต อนาคตที่เขาสามารถเลือกเองได้ และอาจจะมีใครสักคนที่จะเลือกมายืนอยู่ตรงนี้เหมือนเธอ... เช่นเดียวกับที่เธอเลือกเหมือนพ่อกับแม่

นี่แหละ...คือคำตอบของเธอ







หลังจากดูแลเด็กๆ รับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ไลล่าส์ไปที่ห้องพักครูเพื่อรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนครูด้วยกัน ความกังวลกลับมาเยือนครูสาวอีกครั้งเมื่อเปิดกล่องอาหารที่เตรียมมา แซนด์วิชขนมปังข้าวโพดเนื้อปลาอบสมุนไพรของโปรดไม่ทำให้เธอรู้สึกหิวได้เลย

“เป็นอะไรเหรอไลล่าส์... หน้าตากลุ้มใจเชียว” ครูดาเรียถามด้วยความเป็นห่วง ไลล่าส์เป็นครูอายุน้อยที่สุดจึงเป็นที่เอ็นดูของครูคนอื่นเสมอ เธอเองก็เคยสอนเด็กหญิงไลล่าส์เช่นกัน จึงยิ่งเอ็นดูเป็นพิเศษ

ไลล่าส์ยิ้ม ครูดาเรียเป็นครูอาวุโสอีกคนหนึ่งของโรงเรียน แม้จะอยู่หมู่บ้านใหญ่ที่ห่างออกไป แต่ครูดาเรียก็สมัครใจเป็นครูที่นี่มากว่าสามสิบปีและกำลังจะเกษียณในปีนี้

“ไอน์...นักเรียนของไลล่าส์ไม่มาโรงเรียนค่ะ เพื่อนบอกว่าพ่อกับแม่พาไปดูโรงเรียนอื่น” ไลล่าส์ตอบครูอาวุโสเบาๆ

ความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะอาหาร ก่อนจะตามมาด้วยเสียงถอนหายใจของผู้เป็นครูแต่ละคน

“อีกรายแล้วเรอะ...” ไม่ใช่คำถาม หากเป็นคำเปรยที่ครูทุกคนทราบดี การไปดูโรงเรียนมักลงท้ายด้วยการย้ายโรงเรียน

สองสามปีหลังนี้ จำนวนนักเรียนลดลงเรื่อยๆ จนครูทุกคนหวั่นใจ แม้โรงเรียนแห่งนี้จะไม่ถึงกับขาดแคลน แต่จะสู้กับโรงเรียนใหญ่ที่มีครูมากกว่า อุปกรณ์การเรียนการสอนที่มากกว่า ด้วยปัจจัยที่มากกว่าได้อย่างไร

พ่อแม่ย่อมต้องการให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด

แม้จะเข้าใจ หากหัวใจครูทำไมจะไม่เสียใจ

“เราก็พยายามกันเต็มที่แล้วนะครับ” ครูผู้ชายอีกคนเอ่ย แม้จะเป็นโรงเรียนเล็กๆ แต่ครูก็ตั้งใจทุ่มเทให้กับนักเรียน “เด็กที่จบจากโรงเรียนเราก็ไม่ได้เก่งน้อยกว่าที่อื่น” เขามองไปที่ไลล่าส์

นี่เป็นตัวอย่างและความภูมิใจของโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้

“แล้วนี่ครูใหญ่กลับมารู้เข้าคงไม่สบายใจอีก” ครูดาเรียเอ่ยแล้วถอนหายใจ

ไลล่าส์พยักหน้าช้าๆ ครูใหญ่เข้าไปประชุมที่โรซานน์ เมื่อกลับมาทราบเรื่องเข้าก็คงจะไม่สบายใจเช่นทุกครั้ง เธอลอบถอนหายใจแล้วหยิบแซนด์วิชขึ้นมา

การที่จำนวนนักเรียนลดลงเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดีเลย







รถโฟร์วีลแล่นด้วยความเร็วสูง แม้ถนนจะคดโค้งแต่ก็ไม่ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเหยียบเบรกเลยสักครั้ง ส่วนผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือขึ้นกอดอก สีหน้าเรียบเฉยหากมีแววอ่อนใจในดวงตาคม

“สมกับชื่อหุบเขากุหลาบจริงๆ เห็นแต่ไร่กุหลาบสุดลูกหูลูกตา” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงแย้มพระสรวลกว้าง พระเนตรหลังแว่นกันแดดทอดตรงไปข้างหน้า

นี่ไม่ใช่การเสด็จโรซานน์เป็นครั้งแรกก็จริง แต่ก็ไม่เคยเสด็จลึกเข้ามาแถบหุบเขากุหลาบ แหล่งที่มาของน้ำมันกุหลาบซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ

แม้พระองค์จะไม่ได้โปรดกุหลาบมากเช่นพระเชษฐา แต่ก็ยังทรงทราบว่าชื่อเสียงของน้ำมันกุหลาบเลนีเธียในตลาดโลกไม่ได้ด้อยไปกว่ากุหลาบจากบัลเกเรีย ตุรกี โมร็อกโค อิหร่าน หรือแม้กระทั่งจีน

“พระเจ้าค่ะ” เรย์รับคำตรัสด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “การทำไร่กุหลาบเป็นอาชีพหลักของชาวเมืองโรซานน์...เมืองดอกกุหลาบ”

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียสรวลเบาๆ ทรงรู้ว่าเรย์ไม่ค่อยชอบใจที่ทรงขับรถเร็วเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยแย้ง เรย์ตามพระทัยเสมอ... ยกเว้นจะทรงก้าวข้ามความปลอดภัย แต่ก็ยังไม่ทรงเคยทำเช่นนั้น

การได้ออกจากเลนีธนั้นทำให้พระอารมณ์ดียิ่งนัก

พระองค์และเรย์มาถึงและรายงานตัวต่อผู้บัญชาการค่ายในช่วงก่อนเที่ยง ค่ายทหารโรซานน์เป็นค่ายขนาดเล็ก ภารกิจหลักคือพิทักษ์ชายแดนด้านตะวันออกและเป็นกำลังสนับสนุนสำหรับฝ่ายปกครอง

ผู้บัญชาการค่ายนั้นพระองค์ทรงรู้จักเป็นอย่างดี พลเอกเรนัสเคยเป็น ‘ครู’ สอนดาบโบราณให้พระองค์ พลเอกเรนัสมอบหมายภารกิจที่ทรงทราบมาจากพระเชษฐาคือการควบคุมการก่อสร้างสะพานข้ามลำธารใหญ่ในเขตหุบเขากุหลาบซึ่งทางค่ายได้รับการร้องขอจากฝ่ายปกครองให้ช่วยสนับสนุนภารกิจนี้ โดยก่อนออกจากเลนีธพระองค์ได้เสด็จไปพบกับนายทหารช่างซึ่งควบคุมการก่อนสร้างสะพานที่กำลังอยู่ในโรงพยาบาลในตอนนี้เพื่อทำความเข้าใจกับแผนงานทั้งหมด

หลังจากเสวยพระกระยาหารเที่ยงกับพลเอกเรนัสและได้รำลึกความหลังเมื่อครั้งทรงเรียนกับท่านนายพลแล้วก็ทรงเข้าไปยังบ้านพักนายทหารที่ทางค่ายจัดไว้เป็นที่ประทับ แม้จะทรงขอร้องให้ผู้บัญชาการค่ายปฏิบัติต่อพระองค์เช่นเดียวกับนายทหารทั่วไป แต่ที่ประทับนั้นยังถูกตกแต่งอย่างประณีตมากกว่าบ้านพักธรรมดา

แม้จะทรงหลีกเลี่ยงพระอิสริยยศของพระองค์ไม่ได้ แต่ที่โรซานน์นี้ก็ยังดีกว่าเลนีธมากนัก

เวลาว่างในตอนบ่ายทำให้ทรงชวนเรย์ออกจากค่าย มุ่งเข้าหุบเขากุหลาบ แทนที่จะเสด็จตามหมายกำหนดการในวันพรุ่งนี้

“น่า... เราไม่ทำรถของนายบุบสลายหรอก”

“กระหม่อมห่วงเรื่องนั้นเสียเมื่อไหร่” เรื่องรถเขาไม่เคยห่วงเท่ากับเรื่องของปลอดภัยขององค์เจ้านายอยู่แล้ว การย้ายมาประจำที่โรซานน์ทำให้ทรงทิ้งรถสปอร์ตไว้ที่เลนีธ พาหนะประจำพระองค์จึงเป็นรถโฟร์วีลของเรย์แทน และผู้เป็นเจ้าของรถก็ไม่ได้แตะพวงมาลัยสักครั้งตั้งแต่ออกจากเลนีธมา

ก็ถ้านายมัวแต่ขับรถ จะคุ้มกันเราได้ยังไง...

เขาไม่ได้เห็นด้วยกับรับสั่งขององค์เจ้านายหรอก แต่เป็นเพราะเรย์รู้ว่าการขับรถเป็นสิ่งที่เจ้าฟ้าชายเซเนเธียโปรดเป็นนักหนา

หากไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง เขาก็จะตามพระทัย

“ก็ได้ๆ เราลดความเร็วลงก็ได้” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงผ่อนคันเร่ง... เล็กน้อย

ทรงใช้เวลาน้อยกว่าที่นายพลเรนัสกราบทูลไว้เกือบครึ่งมาถึงจุดก่อสร้างสะพาน ลำธารสายใหญ่ทอดขวางเบื้องหน้า โครงสร้างหลักของสะพานซึ่งดำเนินการก่อสร้างไปใกล้แล้วเสร็จตั้งเด่นกลางลำธาร







หลังจากโรงเรียนเลิกไลล่าส์รีบกลับมาในหมู่บ้าน ไลล่าส์ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถเปลี่ยนใจพ่อกับแม่ของไอน์ได้หรือไม่ แต่เธอก็อยากจะได้พูดคุยกับทั้งสองสักนิด ครูสาวพบว่าบ้านของเด็กหญิงอันนายังปิดเอาไว้ เพื่อนบ้านบอกว่าอาจจะเลยเข้าไปที่โรซานน์เพราะยังไม่กลับมากัน

ไลล่าส์จึงข่มความผิดหวังกลับมาที่บ้าน หากบ้านซึ่งเงียบสงบท่ามกลางดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งกลับไม่อาจสลายความรู้สึกในหัวใจได้ ไลล่าส์จึงตัดสินใจขี่จักรยานออกจากบ้านอีกครั้ง

สายลมเย็นปะทะใบหน้า หอบเอากลิ่นหอมแบบพิเศษซึ่งผสมผสานระหว่างดิน ต้นไม้ ดอกไม้ และอากาศของหุบเขากุหลาบทำให้ความหนักอึ้งในหัวใจของไลล่าส์เริ่มเบาบางลงเช่นเดียวกับทุกครั้ง หากจักรยานสีเหลืองก็ยังเล่นไปตามถนนซึ่งขนาบด้วยไร่กุหลาบทั้งสองข้างทาง

กว่าจะรู้ตัวว่าขี่จักรยานมาไกลแค่ไหนก็เมื่อเห็นสะพานอยู่เบื้องหน้า

ไลล่าส์เลิกคิ้ว ไม่ห่างจากรั้วซึ่งล้อมบริเวณก่อสร้างมีเด็กสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ด้วยท่าทีไม่เป็นมิตรนักจึงรีบขี่จักรยานตรงเข้าไปทันที



“ท่าทางเราจะไม่เป็นที่ต้องการแล้ว” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียตรัสเบาๆ ทอดพระเนตรหญิงสาวที่ขี่จักรยานตรงเข้ามายังกลุ่มเด็กชายซึ่งกำลังเริ่มทะเลาะกันอยู่ใต้ต้นไม้ที่ทรงปีนขึ้นมากับเรย์

เรย์มองหญิงสาวแล้วตวัดสายตากลับมายังเจ้าฟ้าชายของเขา ดูเหมือนพระเนตรสีม่วงเข้มนั้นจะวาววับขึ้นกว่าปกติ

“เธอต้องเป็นทายาทของนักรบเผ่าอะเมซอนแน่ๆ” ทรงแย้มพระสรวลกว้าง เปรียบเทียบหญิงสาวที่จอดรถจักรยานแล้ว ลงมายืนปักหลักมั่น กวาดสายตามองเด็กชายแต่ละคนซึ่งเปลี่ยนมาเป็นยืนเงียบกริบ

ถ้าเปลี่ยนจักรยานเป็นม้าศึกตัวใหญ่ เปลี่ยนชุดกระโปรงเป็นชุดเกราะ มีโล่และดาบในมือ เธอคงดูไม่ต่างจากนักรบของเผ่านักรบสตรีโบราณ

เป็นผู้หญิงที่ตัวโตจริงๆ

แต่กระโปรงสีม่วงอ่อนทับบนชุดกระโปรงสีขาว และผ้าโพกผมซึ่งสาวๆ ในเลนีธไม่นิยมใช้ แต่เห็นได้ทั่วไปในเมืองโรซานน์ เน้นโครงหน้าละมุนละไมกับดวงตากลมโต ทำให้ลดความหนักแน่นลงไปมากทีเดียว

อืม... เป็นผู้หญิงตัวโตที่น่ารักดี





ไลล่าส์มองเด็กๆ จนครบแล้วหยุดนิ่งไปอึดใจ ทุกคนต่างถือคันเบ็ดไม้สำหรับตกปลาอยู่ในมือ ก่อนจะหันกลับมาจ้องเด็กชายที่ดูท่าทางจะเป็นหัวหน้ากลุ่มทั้งสองฝ่าย

“คุยอะไรกันคะ...ท่าทางน่าสนุก”

เด็กชายคนหนึ่งหลุบตาลง ไม่กล้าสบตาเพราะรู้จักครูไลล่าส์ดี ปกติครูสาวเป็นครูใจดีที่นักเรียนรักมาก แต่เวลาเอาเรื่องแล้วละก็น่ากลัวทีเดียว

“มายุ่งอะไรยายป้า” เด็กชายอีกคนถลึงตาใส่ผู้หญิงที่เข้ามาขวางทาง

ไลล่าส์เลิกคิ้ว มองเด็กชายปากกล้าตรงๆ เธอไม่รู้จักเด็กชายคนนี้ คงไม่ใช่เด็กในหมู่บ้านหรือโรงเรียนของเธอ

“เอ... ยังเป็นเด็ก แต่ทำไมพูดไม่เพราะอย่างนี้ละคะ” เธอยิ้มน้อยๆ แต่จ้องเด็กชายนิ่ง

เด็กชายกลืนน้ำลาย มองผู้หญิงตัวโตอย่างที่เริ่มเกรงขึ้นมาบ้าง แต่ไม่กล้าแสดงออก เพราะมีลูกน้องอีกสี่คนคอยดูเขาอยู่

“เกี่ยวอะไรกับแกด้วย ยายป้าอ้วน”

“แน่ะ... ไม่มีใครสอนเหรอคะว่าต้องพูดกับสุภาพสตรียังไง” ไลล่าส์เอ่ยยิ้มๆ ถ้าไม่ใช่เด็กชายตัวสูงเลยเอวเธอมาไม่มากเป็นคนพูด คงได้เห็นฤทธิ์กันบ้างล่ะ “เป็นผู้ชาย ต้องสุภาพกับผู้หญิงนะคะ”

ไลล่าส์หันมายังเด็กนักเรียนของเธอ ถามเด็กชายซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม เธอจำได้ว่าเขาเรียนอยู่ชั้นประถมห้า เพราะคิดว่าน่าจะได้คำตอบจากฝ่ายนี้มากกว่า

“เกิดอะไรขึ้นคะควินน์ ทำไมถึงทะเลาะกันแบบนี้”

เด็กชายควินน์กลืนน้ำลายฝืดๆ ครูไลล่าส์ถามยิ้มๆ ก็จริง แต่เป็นยิ้มที่ไม่ชวนสบายใจเลย เขาเหลือบมองฝ่ายตรงข้ามก่อนจะตอบครูสาว

“พวกเรากำลังตกปลากันอยู่ครับ แล้วพวกมันก็มากวน”

ไลล่าส์ส่ายหน้า

“พูดเพราะๆ สิคะ” เธอเตือนลูกศิษย์ ควินน์พึมพำรับคำ ไลล่าส์หันไปยังเด็กชายปากกล้า “ควินน์เขาว่าอย่างนั้น แล้วเธอว่ายังไงคะ เกิดอะไรขึ้นกัน”

“เชอะ... ป้ารู้จักมัน ก็เข้าข้างมันน่ะสิ”

ไลล่าส์โคลงศีรษะ มองเด็กชายที่เม้มปากอย่างดื้อดึงด้วยแววอ่อนใจ

“ถ้าครูเข้าข้างวินน์ แล้วครูจะถามเธอทำไมคะ”

เด็กชายชะงักไปเพราะคำว่า ‘ครู’ สายตายังมองผู้หญิงตัวโตอย่างระแวง ใบหน้ายังบึ้งตึง

“ไม่ตอบ มีอะไรไหม” เด็กชายเชิดหน้า เหยียดริมฝีปากออก “ไปไกลๆ เลยไปป้า แก่ก็แก่ อ้วนก็อ้วน”

“ไม่... ครูไม่ไปจนกว่าพวกเธอจะคุยกันดีๆ” ไลล่าส์กอดอก เพื่อไม่ให้มือไม้เคลื่อนไหวโดยไม่ตั้งใจ สายตากวาดมองกลุ่มเด็กชาย เด็กคนที่ยืนอยู่หลังเด็กชายที่โต้ตอบเธอหลบตาวูบ

หากเธอจัดการหัวหน้ากลุ่มได้ก็ไม่มีปัญหา

“เอ๊ะ... บอกว่าอย่ามายุ่ง” เด็กชายตะโกน

“ครูไลล่าส์” วินน์กับเพื่อนร้องลั่น เมื่อเห็นเด็กชายคู่อริฟาดคันเบ็ดในมือใส่ครูสาว

ไลล่าส์รู้สึกเจ็บแปลบเมื่อกำคันเบ็ดที่ฟาดมาไว้ก่อนจะถูกตัวเธอ รอยยิ้มของครูสาวกว้างขึ้น แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลทองจ้องลงไปในดวงตาเบิกโพลงของเด็กชาย เธอดึงคันเบ็ดเข้ามาโดยมีเด็กชายถลามาตรงหน้า ก่อนจะปลดเบ็ดจากมือเด็กชายมาถือไว้เสียเอง

“การทำร้ายคนที่ไม่มีอาวุธ กับผู้หญิงน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายทำกันนะคะ” ไลล่าส์พูดกับเด็กชายด้วยน้ำเสียงเนิบๆ “แต่ครูรู้ว่าเธอคงไม่ได้ตั้งใจ... ใช่ไหมคะ”

เด็กชายพยักหน้า หายใจแรงด้วยความตกใจ

“ถ้าอย่างนั้น... จะขอโทษครูไหมคะ”

“ขะ... ขอโทษครับ”

“ดีค่ะ...” ไลล่าส์พยักหน้าอย่างพอใจ “ชื่ออะไรคะ”

“ฮิวต์... ฮิวต์ วาโลร์”

“ฮิวต์... เล่าให้ครูฟังสิคะ ว่าทำไมถึงทะเลาะกับควินน์”

ฮิวต์กลืนน้ำลาย มองเบ็ดตกปลาในมือของครูสาว แล้วมองใบหน้าที่ระบายยิ้มอย่างไม่เข้าใจนัก เขาไม่อยากเชื่อว่าครูคนนี้จะไม่โกรธ

“ก็ฉัน...เอ่อ ผมกับเพื่อนมาตกปลาตรงนี้ประจำ แล้วพวก...นั้นก็มาแย่งที่” เขาปรับคำพูดเพราะแววตาของครูสาว

ไลล่าส์พยักหน้า หันไปทางควินน์

“ตอนผมกับเพื่อนเห็นว่าไม่มีใครนี่ครับ ลำธารเป็นของทุกคนๆ ไม่ใช่เหรอครับ” เด็กชายตอบ

ฮิวต์อ้าปากจะแย้งแล้วก็หุบปากลง ด้วยสายตาของครูสาวที่ตวัดมา

“อืม... พ่อกับแม่ของฮิวต์ทำไร่กุหลาบหรือเปล่าคะ”

ฮิวต์พยักหน้า

“ฮิวต์จะทำยังไง ถ้าเจ้าของไร่ที่อยู่เหนือกว่ากั้นน้ำในลำธารไว้ใช้เองหมด”

“ผมจะอัดมันให้เละ ลำธารไม่ใช่ของมันซะหน่อย จะกั้นน้ำไว้ได้ยังไง” เด็กชายตอบแล้วชะงัก มองใบหน้าระบายยิ้มของครูสาว

“ใช่... ฮิวต์พูดถูก” ไลล่าส์พยักหน้า รู้ว่าเด็กชายเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการบอกแล้วจึงส่งเบ็ดตกปลาให้ “ลำธารน่ะต้องแบ่งกันใช้นะคะ“

ฮิวต์รับเบ็ดมา มองหน้าครูสาวแล้วหันไปทางคู่อริเมื่อครู่

ไลล่าส์ยิ้มแล้วหันไปทางวินน์กับเพื่อนๆ “เราเป็นคนหุบเขากุหลาบเหมือนกัน... ต้องเป็นเพื่อนกันถึงจะถูกนะคะ”

“คะ... ครับ” เด็กชายทั้งสองกลุ่มประสานเสียงแผ่วๆ ยังไม่มีใครกล้าสบตาครูสาวตรงๆ

“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะค่ะ คุยกันนานๆ เดี๋ยวจะเย็นเสียก่อน” ไลล่าส์กวาดสายตามองใบหน้าเล็กๆ “อ้อ... เวลาตกปลาน่ะ ต้องเงียบๆ นะคะ เดี๋ยวปลาหายหมด”

“ครับ... พวกเราขอตัวก่อนนะครับ” เด็กทั้งสองกลุ่มรีบวิ่งไปอ้อมรั้วเขตก่อสร้างไปด้านเหนือสะพานโดยไม่แบ่งแยก ไลล่าส์ส่ายหน้าช้าๆ ใบหน้าระบายยิ้ม

“เดี๋ยวครูจะไปดูนะคะว่าฝีมือแต่ละคนเป็นยังไง” เธอร้องบอกไล่หลัง แต่ก็ไม่ได้คิดจะตามไป แค่อยากให้เด็กๆ คิดว่าเธอจะยังอยู่แถวนี้เท่านั้น

เด็กๆ นั้นก็คล้ายฟองน้ำ พวกเขาพร้อมจะซึมซับทุกสิ่ง ถ้าสิ่งที่พวกเขาซึมซับได้เป็นสิ่งดี

เด็กๆ เหล่านี้ก็จะเป็นอนาคตที่ดีของเลนีเธีย





เจ้าฟ้าชายเซเนเธียแย้มพระสรวลกว้าง ตอนเด็กชายฟาดเบ็ดตกปลาใส่หญิงสาว ทรงจะกระโดดลงไปแล้ว แต่เธอรับไว้ทันท่วงที ทำให้ทรงทอดพระเนตรต่อเงียบๆ แล้วเธอก็ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยจัดการหย่าศึกได้

เป็นผู้หญิง...คุณครูที่น่าสนใจจริงๆ

เรย์มองไปที่หญิงสาวคนนั้น แล้วชำเลืองกลับมาที่เจ้าชายของเขา สีหน้าของราชองครักษ์หนุ่มไม่เปลี่ยนแปลง แต่นันย์ตาฉายแววยิ้ม

“เธอสวย...”

เจ้าฟ้าชายทรงพยักพระพักตร์อย่างลืมพระองค์ ก่อนจะตวัดสายพระเนตรมายังราชองครักษ์คู่พระทัย

“นี่นาย...”

“กระหม่อมยังไม่อยากตาย...” เรย์เอ่ยก่อนที่เจ้าชายของเขาจะเข้าพระทัยอะไรไปใหญ่ แค่นึกภาพเจ้าของเหรียญจารึกที่ห้อยอยู่กลางอกรู้ว่าเขาสนใจผู้หญิงคนอื่น เรย์ก็ขยาดแล้ว

“เฮอะ...” สุรเสียงเบาๆ นั้นทำให้แววตาราชองครักษ์เปล่งประกายยิ่งขึ้น หากก็รู้สึกแปลกใจอยู่เช่นกัน เพราะว่าไม่เคยมีหญิงสาวคนใดทำให้เจ้าชายของเขาทอดพระเนตรจนลืมพระองค์มาก่อน

แล้วผู้หญิงคนนี้ก็...

เขามองกลับไปที่หญิงสาวเบื้องล่าง

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียเลิกสนพระทัยคนสนิท หันไปทอดพระเนตรหญิงสาวต่อ พระโอษฐ์แย้มน้อยๆ หญิงสาวเดินมาใกล้โคนต้นไม้ที่พระองค์กับเรย์ปีนขึ้นมาเพื่อดูทิวทัศน์ข้างบน





ไลล่าส์กำลังจะหันกลับไปที่จักรยานก็เงยหน้าขึ้น สายตาเพ่งไปบนต้นไม้ใหญ่ เห็นการเคลื่อนไหวอยู่บนกิ่งไม้สูง

“ใครน่ะ... ลงมาเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวเม้มริมฝีปากน้อยๆ เมื่อไม่มีเสียงใดๆ ตอบสนอง

เจ้าฟ้าชายยังไม่ทรงทันตรัสใดๆ ครูสาวก็ก้มลงที่พื้น แทบจะไม่ทันกะพริบพระเนตร ก้อนหินก็พุ่งขึ้นมาทันที

ใช่เลย... เธอเป็นทายาทของเผ่านักรบในตำนานนั่นแน่ๆ

“เฮ้ย...” เรย์อุทานพร้อมขยับหลบก้อนหินที่พุ่งผ่านใบหน้าไปแบบเฉียดฉิว “โอ๊ะ...” เขาอุทานอีกรอบเพราะได้ยินเสียงหักของกิ่งไม้ที่นั่งอยู่

“เรย์...” ทรงอุทาน ทรงคว้าราชองครักษ์ไม่ทัน

“กรี๊ดดด...” ไลล่าส์กรีดร้อง หลับตาแน่นไปอึดใจใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะไม่ได้ยินเสียงอะไร เธอแหงนหน้าขึ้น ก็เห็นชายหนุ่มคนที่เธอขว้างก้อนหินใส่นั้นโหนตัวจับกิ่งไม้อีกกิ่งไว้ได้

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงแย้มพระสรวลกว้าง ทอดพระเนตรเรย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะปล่อยมือจากกิ่งไม้กระโดดลงสู่พื้น แล้วทรงปีนลงจากต้นไม้ตามอย่างคล่องแคล่ว

ไลล่าส์กลืนน้ำลายฝืดๆ แทบก้าวถอยหลังทันทีที่ร่างสูงใหญ่กระโดดลงมายืนอยู่ตรงหน้า ความสูงของเขาทำให้หล่อนต้องเงยหน้ามอง ไลล่าส์ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงตัวเล็ก แต่ผู้ชายคนนี้ทั้งสูงและหนากว่าหล่อนมาก

“เอ่อ... ฉัน...” ไลล่าส์อึกอัก ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว

“ถ้าผมอยากเชิญคุณไปสอนการขว้างแบบนี้ให้ลูกน้องผมบ้าง” เรย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ เขาไม่รู้สึกโกรธหญิงสาวเลยสักนิด แต่กลับสนใจเธอมากกว่า

ไลล่าส์มองคนพูดตาโต ใบหน้าและน้ำเสียงของเขาราบเรียบจนเธอไม่แน่ใจว่าเขาพูดจริงหรือเล่น หากเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มอีกคนที่ก้าวมาข้างๆ แล้วตบไหล่กว้างหนักๆ ทำให้ไลล่าส์รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เหมือนกับว่าเธอถูกล้อมด้วยกำแพงยักษ์คู่... เป็นกำแพงยักษ์คู่ที่หล่อเอามากๆ

“อย่าทำให้คุณผู้หญิงตกใจสิเรย์” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทอดพระเนตรดวงหน้าอิ่ม นัยน์ตาสีน้ำตาลทองของเธอกลมโต สดใส แต่เต็มไปด้วยความระแวดระวังซึ่งพระองค์อยากขจัดมันออกโดยเร็ว “ขออนุญาตแนะนำตัวนะครับ ผม...เซนครับ ส่วนเพื่อนผมชื่อเรย์”

เรย์เหลือบมองพระพักตร์แย้มละไมขององค์เจ้านายด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยน ไม่แปลกใจที่ทรงแนะนำพระองค์แบบปิดบังพระอิสริยยศ แต่เขาสงสัยว่าเธอจะใช้เวลาเท่ารึงจะจำพระองค์ได้

ไลล่าส์ยิ้มแหยๆ นอกจากเขาจะตัวสูงใหญ่ราวกับกำแพงยักษ์แล้ว อะไรบางอย่างในตัวนั้นทำให้หล่อนนึกเกรง ทั้งๆ ที่ใบหน้าคมเข้มที่คุ้นตานั้นระบายด้วยรอยยิ้ม

ใบหน้า...คุ้นตา

ไลล่าส์ขมวดคิ้ว

“แล้วไม่ทราบว่าคุณ...” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียรีบตรัสถามเพราะแววตาของหญิงสาวบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังรำลึกความทรงจำอยู่ แม้จะไม่ได้ปรากฏพระองค์บ่อยเช่นพระเชษฐา แต่ชาวเลนีเธียก็คงจะคุ้นพระพักตร์อยู่บ้าง

ทว่าในตอนนี้ ไม่อยากให้หญิงสาวจดจำเจ้าฟ้าชายเซเนเธียพระองค์นั้นได้เลย

“ไลล่าส์ค่ะ”

ดอกไลล่าส์... ณ ใจกลางหุบเขากุหลาบ

“พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรือทำอะไรไม่ดีนะครับ เพียงแต่เราสองคนอยู่บนโน้นแล้วตอนที่เด็กๆ มากัน” ทรงชี้ไปบนต้นไม้ “เห็นคุณมาพอดี เราก็เลยต้องอยู่บนโน้นต่อ ต้องขอโทษที่ทำให้คุณเข้าใจผิดครับ”

“เอ่อ... ฉันก็ขอโทษค่ะ” ไลล่าส์พึมพำ ลบนัยน์ตาคมลงมองมืออีกข้างที่ยังกำก้อนหินไว้ เธอรีบปล่อยก้อนหินลงพื้น

เรย์เกือบกลั้นยิ้มไม่อยู่ หากเขาไม่ฝึกฝนตนเองจนมีปฏิกิริยาโต้ตอบดีกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ก็ไม่แน่ว่าจะหลบก้อนหินของเธอพ้น

เป็นหญิงสาวที่น่าสนใจจริงๆ

“ผมกับเรย์ไม่ใช่คนหุบเขากุหลาบ แต่ถ้าจะขออนุญาตเป็นเพื่อนใหม่ของคุณจะได้ไหมครับ”

ไลล่าส์เงยหน้าขึ้น ก็พบกับรอยยิ้มพราวพร่าง เธออยากจะค้อนที่เขาหยิบคำพูดของเธอมาใช้

“เอ่อ...“ เธอตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเป็นเพื่อนกับชายหนุ่มแปลกหน้าทั้งสองดีหรือไม่ แม้ว่าท่าทางของเขาจะไม่ได้หลุกหลิกลอกแลก แต่ก็ใช่จะไว้วางใจได้

“เราเพิ่งย้ายมาทำงานที่นี่ครับ... อยากมีเพื่อนเป็นคนที่นี่มาก”

ไลล่าส์กวาดตามองชายหนุ่มอีกครั้งอย่างละเอียด คนที่เธอขว้างก้อนหินใส่นั้นยืนนิ่งไม่พูดอะไรปล่อยให้อีกคนพูดอยู่คนเดียว ไลล่าส์คะเนอายุทั้งคู่ว่าน่าจะไม่เกินสามสิบปี เสื้อผ้าเป็นตัวบอกว่าเขาไม่ใช่คนแถบนี้ กางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ต ไม่ค่อยมีเห็นบ่อยนัก ในโรซานน์การสวมชุดพื้นเมืองยังอยู่ในชีวิตประจำวัน

หญิงสาวมองผมเส้นผมสีเข้มตัดสั้น แล้วตวัดสายตาไปที่สะพาน ก่อนจะเบือนกลับมายังใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาอีกครั้ง

“คุณเป็นทหาร...” น้ำเสียงกึ่งถามกึ่งเปรย

เจ้าฟ้าชายทรงเลิกพระขนง

ไลล่าส์แตะที่หน้าผากแทนคำอธิบาย ผู้ชายเลนีเธียนิยมไว้ผมยาว ไม่ใช่ยาวประบ่าแบบโบราณ แต่ยาวระท้ายทอย แล้วคาดสร้อยหรือเส้นหนังประดับหน้าผาก แถบนี้เป็นชายแดนจึงมักมีทหารลาดตระเวนเสมอซึ่งเธอไม่เคยเห็นทหารใช้กัน

พระขนงคลายลง รอยแย้มพระสรวลกว้างขึ้น

เธอช่างสังเกตจริง...

“ใช่ครับ”

ไลล่าส์เผยอริมฝีปาก แววระมัดระวังหายไปจากนัยน์ตาสีน้ำตาลทองและแทนที่ด้วยประกายยินดีที่ทำให้คนมองเกือบตาพร่า

“คุณมาแทนผู้กองเนช” เธอหมายถึงนายทหารช่างที่ควบคุมการก่อสร้างสะพาน

เจ้าฟ้าชายทรงพยักพระพักตร์

“โอ... ดีจริงค่ะ คราวนี้สะพานจะได้เสร็จเสียที”

เจ้าฟ้าชายทอดพระเนตรใบหน้าเปล่งปลั่งของหญิงสาว นัยน์ตากลมโตของเธอดูใสกระจ่าง จนไม่อยากละสายพระเนตร

“แล้วจะเสร็จทันพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้าไหมคะ” ไลล่าส์ถามอย่างกระตือรือร้น ความหวาดระแวงหายไปตั้งแต่ตอนไหนไลล่าส์ก็ไม่แน่ใจ

อาจจะตั้งแต่... สบนัยน์ตาสีม่วงงดงาม

นัยน์ตาสีม่วง... ไลล่าส์ทวนในใจ แต่ความคิดก็ไม่ปะติดปะต่อ เพราะน้ำเสียงทุ้มนุ่ม

“วันพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้า” ทรงทวน พลางคำนวณระยะเวลา ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชาวเลนีเธียที่จะอ้างอิงวันเวลาจากดวงจันทร์ วิถีชีวิตของชาวเลนีเธียผูกพันกับดวงจันทร์อย่างลึกซึ้ง “ในส่วนของโครงสร้างหลักทั้งหมดก็น่าจะไม่มีปัญหานะครับ หากไม่ทันก็คงไม่นานนัก”

ไลล่าส์ยิ้มกว้าง

“พวกเรา...หมายถึงหมู่บ้านแถบนี้ค่ะ อยากให้สะพานเสร็จทันเทศกาลกุหลาบ”

“เทศกาลกุหลาบ... รู้สึกผมจะได้ยินคำนี้บ่อย”

“เทศกาลกุหลาบ เป็นการฉลองก่อนเริ่มเก็บดอกกุหลาบค่ะ ปีนี้ตรงกับคืนก่อนวันพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้านี้ค่ะ วันรุ่งขึ้นเราจะเริ่มเก็บดอกกุหลาบเพื่อส่งเข้าโรงกลั่น”

เรย์มองเจ้าฟ้าชายของเขาสลับกับหญิงสาวด้วยแววตายิ้มๆ เขาไม่เคยเห็นเจ้าฟ้าชายของเขาทำท่าสนพระทัยอะไรมากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องการทหาร

ยิ่งเรื่องดอกไม้... น่าจะเป็นอันดับสุดท้ายที่ทรงสนพระทัยทีเดียว

“การเก็บกุหลาบจะต้องเก็บตอนเช้ามืดค่ะ เราต้องทำงานแข่งกับเวลาเพราะยิ่งสายคุณภาพของดอกกุหลาบก็จะลดลง” ไลล่าส์สบตาคม “ถ้าสะพานยังไม่เสร็จ ชาวไร่แถบนี้ก็ต้องใช้เวลาในการขนส่งเพิ่มขึ้น ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมาก็ทำให้ลำบากขึ้นค่ะ”

“เอาเป็นว่าผมจะพยายามเร่งงานให้เร็วที่สุดนะครับ”

ไลล่าส์ยิ้มกว้าง

“ขอบคุณค่ะ...”

“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”






ไลล่าส์มองตามร่างสูงใหญ่ทั้งสองที่เดินลุยน้ำในลำธารกลับไปยังฝั่งตรงข้าม เธอเห็นรถคันใหญ่จอดอยู่ข้างรั้วกั้นเขตก่อสร้าง

“แล้วเจอกันนะครับคุณครู”

“ขับรถดีๆ นะคะผู้กอง” ไลล่าส์ยิ้ม โบกมือตอบเพื่อนใหม่ทั้งสอง เพื่อนใหม่ที่คนหนึ่งแทบไม่พูดอะไร ส่วนอีกคนพูดและยิ้มเก่งจนเธอทำให้เธอต้องตั้งสมาธิดีๆ

ไลล่าส์มองรถคันใหญ่แล่นลับหายไป

“เพื่อนใหม่งั้นเหรอ...” หญิงสาวพึมพำ สะบัดศีรษะขับไล่ความคิดแปลกๆ ที่ผุดขึ้นมา แล้วหันกลับไปยังจักรยานที่จอดทิ้งไว้ แต่สายตากลับสะดุดประกายวาววับของโลหะบางอย่างใต้ต้นไม้

ไลล่าส์ก้าวเข้าไป ก้มหยิบสร้อยร้อยเหรียญโลหะสีเหลืองจางขึ้นมาดู แล้วต้องขมวดคิ้ว เธอค่อนข้างแน่ใจว่าจะต้องเป็นเหรียญจารึก

“เซเนเธีย...หรือจะเป็นของเซน” ไลล่าส์เพ่งมองอักษรที่ล้อมรอบภาพแผนที่ดาวเล็กๆ ที่ซ้อนกับรูปพิณโบราณ “เซเนเธีย อารีส เอเธเนส...” ชื่อที่เรียงกันนั้น ยาวเหยียด แบบที่ไม่ใช่ชื่อคนทั่วไป

หรือเพื่อนใหม่ของเธอจะเป็นพวกทายาทขุนนาง เพราะมีตราประจำตัวเป็นรูปกลุ่มดาวไลรา...ดาวพิณเสียด้วย

“เซเนเธีย...” ไลล่าส์แทบหายใจสะดุด

ใบหน้าที่เธอรู้สึกว่าคุ้นเคย นัยน์ตาสีม่วงที่คลับคล้ายคลับคลา

หญิงสาวรีบพลิกอีกด้านของเหรียญขึ้นมาดู ดวงตาสีน้ำตาลทองเบิกกว้าง

ตราพระจันทร์เหนือมงกุฎ


------------------- จบตอน ๔ ค่ะ ------------------






Create Date : 15 ธันวาคม 2551
Last Update : 15 ธันวาคม 2551 21:16:08 น. 35 comments
Counter : 1137 Pageviews.

 
โอ้
ไม่อยากจะเชื่อ
คนแรกเลยนะเนี่ย

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
จะได้เอาตอนต่อไปมาลงเร็วๆๆ

รออ่านอยู่นะ


โดย: TaaN IP: 125.27.10.49 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:21:41:40 น.  

 
ดีใจจังเลยค่ะ ได้เป็นคนแรกด้วย ในที่สุดนางเอกของเราก้อได้เจอเจ้าชายซักที แล้วนี่จะรู้หรือยังเอ่ย ว่าที่คุยด้วยเป็นเจ้าชาย หนูว่าน่าจะรู้แล้วนะ เพราะเห็นเหรียญจารึกแล้วหนิค่ะ

หนูคงไม่ได้ไปเที่ยวปีใหม่แน่เลยค่ะ มีสอบหลังปีใหม่พอดีเลย เศร้าจังเลยค่ะ

เที่ยวให้สนุกน่ะค่ะพี่ฬีฬา แต่อย่าลืมมาลงนิยายก่อนไปเที่ยวนะค่ะ^^


โดย: นู๋เต่า IP: 58.8.249.245 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:21:43:33 น.  

 
แฮะ...แฮะ

ตามมาอ่านต่อจค่ะ

ดีจังพี่หนูฬีอาการดีขึ้นแล้วนะค่ะ


โดย: หนอนฮับ IP: 202.12.73.18 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:1:52:35 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขคะ

เจอคำผิด

"เธอจะใช้เวลาเท่ารึงจะจำพระองค์ได้" น่าจะเป็น " เธอจะใช้เวลาเท่าไรถึงจะจำพระองค์ได้"


โดย: unna_jung IP: 124.121.36.150 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:1:58:14 น.  

 
รู้ความจริงว่าเป็นเจ้าชายเร็วจังเลยผิดกับเรื่องอื่น


โดย: mimny วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:2:24:53 น.  

 
55 เหรียญจารึก หล่นจนได้ แต่ว่านางเอกจะคืนไหมเนี้ย


โดย: ngek IP: 203.144.220.243 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:8:12:23 น.  

 
มีอ่อยนะเจ้าชายไปจำวิธีโบราณที่หญิงสาวทำผ้าเช็ดหน้าหล่นเผื่อให้ชายหนุ่มเก็บมาจากเมืองไทยแหงๆ เหอะๆ


โดย: รัชต์ IP: 125.25.114.25 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:8:37:31 น.  

 
หุหุ...

ทำหล่นจนได้นะเจ้าชาย

ปล. พี่ฬีรักษาสุขภาพนะคะ ปีใหม่จะได้เที่ยวเผื่อเดียร์ด้วย อยู่เวรเฝ้าร.พ.ล่ะ


โดย: DaLaTTa IP: 161.200.255.162 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:13:34:56 น.  

 
เฮ้อ ในที่สุดก็ได้อ่าน
นางเอกเจอเจ้าชายแล้ว รู้ว่าเป็นเจ้าชายเร็วจัง
แต่ก็หนุกมากเลยค่ะ

รักษาสุขภาพด้วย
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจัง


โดย: เจี๊ยบ IP: 203.172.219.213 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:13:39:49 น.  

 
สนุกค่ะ แล้วจะรอตอนต่อไป อย่าหายไปนานนะค่ะ คิดถึง


โดย: midori IP: 203.158.196.115 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:14:18:28 น.  

 
นางเอกรู้เร็วมาก





โดย: วี IP: 58.97.57.114 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:15:56:44 น.  

 
แล้วเค้าก็ได้เจอกัน


โดย: MadamMim IP: 203.149.31.118 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:17:11:08 น.  

 
หุ..หุ..นายเรย์ว่าไว้ไม่มีผิด ว่าต้องทำหล่นให้สาวเก็บได้แน่เลย เมื่อสาวคนนั้นเป็นครูไลล่าส์แล้วจะรับคืนไหมหนอเจ้าชายเซน แต่ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะเอาของพี่ให้เจ้าชายแทน อิ..อิ...


โดย: Minnie IP: 58.9.225.165 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:20:19:24 น.  

 
เจอกันแล้ว ได้เหรียญแล้วด้วย ว่าแล้วไม่ผิด แต่พึ่งรู้นะว่าหนูไลล่าตัวโต


โดย: nasa IP: 202.28.183.10 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:11:57:05 น.  

 
อุ๊ยต้าย....ตาย

เหรียญตก

คลาสสิคจริงๆๆๆๆๆ


โดย: หนอนฮับ IP: 202.12.73.18 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:12:31:57 น.  

 
รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ จะได้มาลงตอนต่อไป


โดย: ปูน IP: 125.27.250.186 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:12:37:19 น.  

 
thank ka


โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:23:14:44 น.  

 
โอ้...เหรียญหล่นอีกคนแล้ว จะโดนใจไหมน้อ


โดย: wild monkey IP: 58.8.20.13 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:23:19:08 น.  

 

เจ้าชายทำหล่นโดยบังเอิญหรือว่าตั้งใจทำหล่นให้เก็บคะเนี่ยยยย..


โดย: bbb IP: 125.27.14.210 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:18:33:02 น.  

 
ทำสร้อยหล่นซะงั้น
จงใจรึเปล่าเจ้าค่ะ
มาอัพเดทเร็วๆนะคะ



โดย: sweeT IP: 125.27.49.122 วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:21:17:03 น.  

 
อุ๊ย เปลี่ยนscreenใหม่
หวานแหวเข้ากับชื่อเรื่องมากเลยคะ

มาลงตอนใหม่เร็วๆนะคะ
อยากรู้ว่าจะแลกสร้อยกันเมื่อไหร่


โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:1:36:34 น.  

 
น่ารักมากคะ อยากรู้ว่ามีความลับอะไรอีกไหมเอย


โดย: jan IP: 124.120.238.227 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:15:53:07 น.  

 
งานเข้าแล้วเซน


โดย: ~ PatSita ~ IP: 124.120.208.116 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:23:15:09 น.  

 
เปลี่ยน Blog ใหม่เข้ากับเรื่องเลยนะค่ะ

หวานแหว๊วสุด ๆ เลยค่ะ


โดย: ปลายฝน IP: 58.8.35.183 วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:12:51:57 น.  

 
merry christmas ka พี่ฬีคนสวย


โดย: ปลายฝน IP: 58.8.40.211 วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:12:29:55 น.  

 
มาอัพเร็วๆนะค่ะ กำลังสนุก สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ


โดย: วีริน IP: 61.47.32.58 วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:13:25:41 น.  

 
มาอัพเร็วๆนะค่ะ
สุขสันต์วันปีใหม่ค่า


โดย: sweeT IP: 113.53.7.147 วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:12:33:34 น.  

 
อ่า เพิ่งมีโอกาสมาได้อ่านเรื่องใหม่ของพี่ฬี ยังสนุกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ติดตามตอนต่อไปค่า


โดย: กลิ่นแก้ว IP: 125.25.176.28 วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:22:56:29 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านและมาสวัสดีปีใหม่ คุณฬี ค่ะ
มีความสุขมากๆ นะคะ

รออ่านตอนต่อไปเช่นกันค่ะ


โดย: sunnyP IP: 24.110.104.207 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:8:17:50 น.  

 
HaPpY New Year 2009 ja.
ปีใหม่นี้ขอให้ไม่จน ไม่เจ็บ นะคะ
HaPpY HapPy na kaรักษาสุขภาพด้วย

ปล. วันนี้เป็นวันเกิดเราล่ะ ฉลองเผื่อเราด้วยนะคะ จะเป็นกำลังใจให้คุณตลอดไป


โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:15:23:02 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค้า คุณฬี ขอให้มีความสุขมาก สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนานะค้า

จะได้มีแรงเขียนนิยายให้พวกเราอ่านเยอะ ๆ


โดย: คามุย IP: 115.67.31.50 วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:20:09:51 น.  

 
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว


โดย: เจี๊ยบ IP: 61.19.69.27 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:16:10:21 น.  

 
อ่าว รู้ฐานะที่แท้จริงแล้ว
นึกว่าไม่รู้จนอีกซักระยะนะเนี่ย


โดย: poohpooh IP: 202.57.129.99 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:11:00:58 น.  

 
ตกลงไลล่าส์นี่อ้วนหรือเปล่าคะ

หรือว่าตัวใหญ่เพราะความสูง


โดย: Ki IP: 110.49.72.189 วันที่: 24 มิถุนายน 2552 เวลา:3:12:39 น.  

 
นางเอกรู้เร็วจังว่าพระเอกเป็นใคร ช้า ๆ หน่อยไม่ได้เหรอค่ะ อิอิอิ
ขอบคุณค่ะคุณฬี รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: arso IP: 14.207.245.203 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:13:48:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.