ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
ได้เวลารัก บทที่ ๖

กาดื๊บ...กาดื้บ...

มองซ้าย...มองขวา...มองหน้า...มองหลัง...

อ่า...มีใครอยู่ไหมค้า

แฮะๆๆๆ... (หัวเราะแบบกลบเกลื่อน...ไม่มิด)

แบบว่า...แบบว่า... หายไปนานมากกกกกกกกก

ไม่รู้ว่ายังมีคนจำได้หรือเปล่า

ฬีฬาเจ้าเก่าเจ้าเดิมค่ะ

ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้...

อาจจะหลบหนีไปพรวนดินให้ต้นกุหลาบอยู่ที่เลนีเธีย (ดินแดนที่ไม่มีใครสามารถตามหาได้ เอิ๊กส์)เผื่อจะเจอเหรียญจารึกสักอัน...(ไม่มีทางคืนเจ้าของแน่ๆ หุหุ)

อ่า...กลับมาแล้วนะค้า

กลับมาจริงๆ

นั่งยันนอนยัน

(((แต่จะหายไปอีกหรือเปล่า...ไม่สามารถพยากรณ์ได้ เอิ๊กส์)))



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




ได้เวลารัก บทที่ ๖






เอเธนส์รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังลูบไล้ใบหน้า เป็นสิ่งที่อ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอม...คุ้นจมูกอย่างบอกไม่ถูก จนต้องลืมตาขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่รบกวนการนิทราของเขาคืออะไร

“คุณหนูเว...” เสียงอุทานแผ่วเบาออกจากริมฝีปากได้รูปสวยที่ถูกปลายนิ้วแตะเบาๆ

ดวงหน้าหวานลอยอยู่เหนือใบหน้าเขาไม่ถึงฟุต นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มหวานระยับสบตาเขา ตรึงสายตาเขาไว้...ไม่สามารถถอนออกหรือเบนไปทางอื่นได้ หากเอเธนส์พอจะรู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องพักของบ้านสายลม

แล้ว...เวเนเซียมาได้อย่างไร

เอเธนส์ยังไม่ทันแม้จะเอ่ยปากถามคำถามใดๆ เขาก็แทบสติกระเจิงเมื่อปลายนิ้วซึ่งแตะริมฝีปากเขาอยู่นิ่งๆ นั้นขยับ...ลูบไล้ช้าๆ ไปตามกลีบปาก นัยน์ตาวามวาวที่ยังยึดครองสายตาทั้งหมดของเขานั้นพราวระยับและหวาน...จนเขาอาจจะเมาน้ำผึ้งเดือนห้า

เอเธนส์รู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วง แต่เขาแทบไม่ได้สนใจว่าตัวเองยังหายใจได้อยู่หรือไม่ เพราะความร้อนจากปลายนิ้วนั้นถ่ายถอดสู่ริมฝีปาก กระแสเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายนั้นเหมือนจะร้อนขึ้น อะไรบางอย่างในร่างกายเดือดพล่าน ความรู้สึกทุรนทุรายที่หวานล้ำ

“คุณหนูเว...จะทำอะไรครับ” เอเธนส์ได้ยินเสียงแหบพร่าของใครบางคนดังใกล้ๆ เมื่อใบหน้าหวานนั้นค่อยๆ เคลื่อนลงมา จนเขารู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ปะทะดวงหน้า

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มวาววับ ริมฝีปากสีระเรื่อแย้มยิ้ม...เย้ายวน

“เวก็มารับ morning kiss ไงคะ” ริมฝีปากบางขยับก่อนจะทาบทับลงมาบนริมฝีปากที่เผยอขึ้นราวกับละเมอ

เปรี้ยง!!!

เอเธนส์สะดุ้งเฮือก ร่างสูงผุดลุกขึ้นมานั่งกลางเตียง สายตาหันไปมองรอบๆ เขาอยู่บนเตียง ในห้องพักของบ้านสายลม และอยู่เพียงลำพัง เอเธนส์หันไปมองหน้าต่างกระจกใสที่มีม่านผ้าฝ้ายกั้น มีแสงลอดเข้ามาเล็กน้อยบ่งบอกว่าเลยราตรีมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้สว่างเจิดจ้าอย่างที่ควร เขาได้เสียงน้ำตกกระทบหลังคาไม่ขาด และแว่วเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าเป็นระยะ

เอเธนส์ยกมือขึ้น...แตะนิ้วบนริมฝีปาก

ไม่มีความอุ่นซ่านของปลายนิ้วลูบไล้ หรือร่องรอยของสัมผัสอื่นใด

ไม่มี morning kiss เกิดขึ้น

จะมีก็เพียง...รอยสัมผัสบางเบาที่ข้อนิ้ว

ร่องรอยที่ไม่ปรากฏบนผิวกายของเขา หากกลับจารึกอยู่ภายใน

ใครจะคิดว่า...จูบเบาๆ ที่ข้อนิ้วจะทำให้เขาฟุ้งซ่านได้มากขนาดที่ดูฟุตบอลแทบไม่รู้เรื่อง เกมดุเดือดเมื่อคืนไม่สามารถดึงความสนใจเขาได้ทุกคน

“คุณหนูเว...” เขาพึมพำชื่อของคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ก่อนที่ริมฝีปากขยายยิ้ม เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“แล้ววันนี้คุณหนูเวจะมาเล่นเกมกับผมอีกไหม”








เวเนเซียปรายตาค้อนให้เลขานุการคู่ใจซึ่งจิบกาแฟด้วยใบหน้ายิ้มละไม ในระหว่างช่วงพักหลังจากลุยงานกันมาตั้งแต่เช้า บนโถงกว้างของชั้นสองเรือนสุขใจซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นห้องทำงานชั่วคราวในวันนี้ ชุดเก้าอี้หวายสำหรับจิบน้ำชายามบ่ายกลายเป็นโต๊ะทำงาน เพราะผู้จัดการอัญมณีธาราบอกว่าไม่อยากอุดอู้อยู่ในห้องทำงานในวันฝนตก

แม้ว่าฝนจะขาดเม็ดไปในช่วงสาย แต่เวเนเซียก็ยังไม่ย้ายที่ทำงาน ธารารู้ดีว่าเจ้านายสาวชอบออกมาทำงานตรงนี้ เพราะสามารถมองเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้

“เวจำได้นะว่าเวมีวันพักร้อน แค่ไปสเปนแค่นี้” น้ำเสียงหวานๆ สะบัดเล็กน้อย

ธารายังคงยิ้มบางๆ เขารู้ว่าเวเนเซียไม่ได้ขุ่นเคืองอะไรหรอก แต่ถ้าเป็นแบบหน้าเรียบๆ เสียงนิ่งๆ ละก็ เตรียมวงแตกกันได้เลย

“มีครับ คุณเวมีวันหยุด วันลา พักร้อน ลากิจ ลาป่วย ลาบวชได้เหมือนพนักงานของอัญมณีมันตราทุกคน” ธาราตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แม้ว่าระดับผู้บริหารอย่างเจ้านายของเขาไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบทุกอย่างหรอก เพียงแต่ว่า...ขอขัดคอหน่อยเถอะ

“แต่คุณเวใช้พักร้อนไปหมดตั้งแต่ต้นปีแล้วต่างหากครับ จะเหลือก็แต่ลาป่วยกับลาบวช ผมไม่แน่ใจว่าท่านประธานฯ จะรับใบรับรองแพทย์จากบาเซโลน่าหรือเปล่า” เลขานุการหนุ่มยกมุมปากน้อยๆ

“หมดได้ยัง หมดไปตอนไหน” เวเนเซียเสียงสูงขึ้นเล็กน้อยเพราะสีหน้ายิ้มๆ ของธาราทำให้หมั่นไส้ขึ้นมา

ความจริงก็พอจะนึกได้หรอกว่าใช้อะไรไปตอนไหนบ้าง

“ปีนี้ก็... เฟรนช์โอเพ่น วิมเบิลดัน ภูเก็ตรีกัตต้า” ธาราสาธยายวันหยุดพักร้อนของเจ้านายสาวที่ต้องลงตารางเอาไว้ล่วงหน้าในปีนี้ เพื่อให้จัดตารางงานได้ถูกต้อง แต่ละปีก็หมุนเวียนกันไปแต่ไม่แคล้วเป็นการไปชมกีฬาสุดโปรดอย่างเทนนิสหรือฟุตบอล เวเนเซียมักจะเลือกสองในสี่ของรายการแข่งขันเทนนิสแกรนแสลม บางปีก็เลือกไปชมการแข่งขันฟุตบอลในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ของเอซีมิลาน แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือการไปชมการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานรายการภูเก็ตรีกัตต้า ไม่ใช่เพียงแค่เวเนเซียแต่รวมถึงท่านประธานฯ และพ่อบ้านของบ้านอัญมณีด้วย

นี่ยังไม่นับรายการเสริมบางรายการที่แอบแทรกเข้ามา

“แล้วคุณเวจะเอาเวลาไหนไปสเปนครับ” เลขานุการหนุ่มปิดท้าย

เวเนเซียหัวเราะ ก็รู้หรอกนะว่าไม่มีเวลา แค่อารมณ์ค้างจากเมื่อคืนที่เอซีมิลานเสมอกับบาเซโลน่านิดหน่อย ก็เลยเปรยเล่นๆ ว่าจะไปดูนัดที่เอซีมิลานจะไปเยือนบ้านบาซ่าเท่านั้นก็ถูกขัดคอเอา

“โอเคๆ เข้าใจแล้ว ไม่ไปก็ได้ถึงยังไงบาซ่าก็คงจะแพ้คาบ้านอยู่แล้ว”

“โอ๊ะ...จะมั่นใจอะไรขนาดนั้นครับคุณหนูเว” เสียงห้าวๆ แทรกขึ้นมา ก่อนร่างสูงใหญ่จะเดินพ้นบันไดขึ้นมาบนโถงกว้าง

เวเนเซียและธาราหันไปทางต้นเสียง หญิงสาวสบสายตาคม ส่วนธาราพยักหน้าส่งสัญญาณให้ประชาสัมพันธ์สาวสวยที่เดินเยื้องหลังช่างภาพหนุ่มให้กลับไปทำงานได้ ก่อนจะตวัดสายตามายังร่างสูงใหญ่ซึ่งยังคงคอนเซปท์พ่อมดดำ

เอเธนส์สวมเสื้อผ้าป่านหลวมๆ กับกางเกงขาสั้นสีดำ ในมือมีตะกร้าหวายบรรจุกล่องไม้ซึ่งดูยังไงก็เหมือนกับที่เวเนเซียหิ้วออกไปตอนบ่ายของเมื่อวานและหายไปตลอดบ่าย จนกระทั่งโทรศัพท์มาตามให้เขาขับรถไปรับที่ตลาดโต้รุ่ง

“ไม่ได้มั่นใจ...แต่แน่ใจต่างหากค่ะ บาซ่าก็งั้นๆ” เวเนเซียคุยข่มไว้ก่อน สายตาสองคู่สบกันอย่างหยั่งเชิงกันและกัน อะไรบางอย่างบอกว่าอีกฝ่ายเป็นสาวกของบาเซโลน่าแน่นอน

แล้วเรื่องแบบนี้มันยอมกันได้ซะทีไหน

“งั้นเหรอครับ ว่าแต่ทีมที่อยู่บ้านตัวเองแท้ๆ ก็ยังทำอะไรไม่ได้นี่...จะพูดว่ายังไงดีนะ” เอเธนส์ยักไหล่ มุมปากยกขึ้นน้อยๆ อย่างยียวน

ไม่นึกว่าคุณหนูเวจะเป็นสาวกเอซีมิลาน...

ธารากลอกตาไปมาระหว่างสองหนุ่มสาว

เอาละสิ...พ่อมดดำก็บ้าฟุตบอลเหมือนเจ้านายสาวของเขา แล้วอาการแบบนี้น่าจะอยู่กันคนละฟากฝั่งด้วย

จะเกิดศึกหรือเปล่านี่

เอเธนส์กับเวเนเซียทิ้งช่วงเวลาสั้นๆ ให้ตกอยู่ในความเงียบ สายตาประสานกันโดยที่คนนอกไม่สามารถอ่านออกหรือเข้าใจได้ แล้วเสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นพร้อมกัน

ธาราโคลงศีรษะเบาๆ พลางนึกในใจว่า

‘แล้วเขาจะรู้เรื่องด้วยไหม’





“เอาตะกร้ามาคืนครับ” เอเธนส์ส่งตะกร้าหวายในมือให้กับเวเนเซียซึ่งยื่นมารับไปพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ คิ้วเรียวเลิกขึ้นนิดๆ เพราะน้ำหนักของตะกร้า “มีของฝากนิดหน่อยครับ” เอเธนส์แก้ข้อสงสัย

เวเนเซียเปิดฝากล่องไม้ดูก็พบว่ามีข้าวเหนียวมูนโปะหน้ามาด้วยมะม่วงสีเหลืองทองซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีลักษณะการปอกเปลือกแบบเฉพาะตัว เห็นแล้วจำได้ทันที่ว่าเป็นข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าดังของหัวหินแน่ๆ

“ผมจำได้ว่าคุณเวชอบ” น้ำเสียงนุ่มๆ พร้อมกับนัยน์ตาสีดำเปล่งประกายวิบวับทำให้เวเนเซียยิ้มหวานยิ่งขึ้น

ใช่...เป็นหนึ่งในของโปรดเลย

“รู้ใจกันขนาดนี้ ตกลงปลงใจกับเวแล้วใช่ไหมคะ”

เอเธนส์หัวเราะเบาๆ

เปิดช่องให้ไม่ได้เลยนะคุณหนูเว...หยอดเขาตลอด

“เดตแค่วันเดียว...คงยังตัดสินใจง่ายๆ ไม่ได้หรอกครับ”

เวเนเซียปรายตาค้อนน้อยๆ ให้กับคำตอบที่ได้รับ เธอมีเวลาไม่มากนักหรอกนะ ยิ่งเริ่มงานเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น

แล้วจะทำยังไงให้เอเธนส์ตอบตกลงเร็วๆ

เวเนเซียส่งตะกร้าหวายต่อให้กับธาราที่ก้าวเข้ามารับ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“งั้นเดตกันอีกวันดีไหมคะ”

คนที่อึ้งไม่ใช่ช่างภาพหนุ่ม แต่เป็นธาราที่วางตะกร้าบนโต๊ะซึ่งมีเอกสารวางซ้อนกันอยู่หลายตั้ง เขาหันขวับ หากเวเนเซียและเอเธนส์ยังคงประสานสายตากัน ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ กันทั้งคู่

สองคนนี้เขาเข้าใจกันเองอีกแล้ว

“อืม...ก็ได้ครับ ยังไงวันนี้ผมก็ว่างอยู่แล้ว...ยังอยู่ในพักร้อน” เอเธนส์ตอบรับ นัยน์ตาพราวขึ้นนิดๆ จนแทบมองไม่เห็นกับแววค้อนน้อยๆ ในดวงตาคมสวยของเวเนเซีย

แค่นี้อะไรบางอย่างในตัวก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทีเดียว โปรแกรมพักผ่อนสบายๆ อย่างนอนอ่านหนังสือ ฟังเสียงคลื่นถูกพับไปด้วยความเต็มใจของเขาเอง

การเดตกับเวเนเซียน่าสนใจกว่าเยอะ...แม้จะหมายความว่าเธอจะใช้ไปในการกล่อมให้เขารับงานของเธอก็ตาม

“ถ้างั้นเราก็...” เวเนเซียยังไม่ทันเอ่ยความตั้งใจก็ได้ยินเสียงดนตรีดังขึ้น จึงหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมาดู ชื่อบนหน้าจอทำให้เกิดความสงสัย

“เวขอรับโทรศัพท์สักครู่นะคะ”

“ตามสบายครับ” เอเธนส์ตอบรับพร้อมกับก้าวเลี่ยงไปด้านข้าง เขาสบสายตาเลขานุการของเวเนเซียที่มองเขาพร้อมกับใบหน้ายิ้ม ‘รับแขก’ พลางความขุ่นเคืองใจไว้จนมิดชิด เพราะเขารู้ว่าธาราไม่ค่อยชอบใจนักหรอกที่เห็นความสนิทสนมระหว่างเวเนเซียกับเขา

เขายกมุมปากนิดๆ ก่อนจะหันไปมองสิ่งที่เมื่อวานนี้เวเนเซียอธิบายให้ฟังตอนเดินชมบ้านต่างๆ ว่าคือเครื่องแขวนดอกไม้สดซึ่งมีหน้าคาคล้ายๆ โมบาย ลักษณะเป็นตาข่ายดอกรักหรือดอกพุดร้อยสลับกับกลีบดอกไม้หลากสี เขาเห็นแขวนอยู่ในหน้าต่างทุกบาน มีหลายรูปแบบ เป็นเครื่องตกแต่งที่เขารู้สึกว่าอ่อนหวาน...ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และเข้ากับบ้านโบราณอย่างนี้มากทีเดียว

แม้จะถอยออกห่างมา แต่ก็ได้ยินน้ำเสียงหวานคุยกับคนปลายสาวแว่วๆ

อืม...ไม่ใช่ ‘เจ้าชาย’ เหมือนเมื่อวาน

รอยยิ้มขยายออกโดยไม่มีใครได้เห็น






“อยู่ที่หัวหินค่ะพ่อ” เวเนเซียตอบคำถามของบิดา ก่อนจะตั้งใจฟังสิ่งที่ท่านพูดมาทางโทรศัพท์ “ได้ค่ะ...เวจัดการเองค่ะ” เธอตอบรับทันที เพราะถ้าบิดาไม่ได้ต้องการให้เธอทำก็คงไม่โทรศัพท์มา

ผู้จัดการทั่วไปของแก้วอำพัน มันตรา โรงแรมในเครืออัญมณีมันตราที่กระบี่เกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องเข้าเฝือกอ่อนที่ข้อเท้าและข้อมือแพทย์สั่งพักอย่างน้อยสามวัน แต่พรุ่งนี้จะมีแขกสำคัญจากต่างประเทศ บิดาจึงต้องการให้เธอไปช่วยดูแลงานชั่วคราว

เวเนเซียรู้ว่าบิดาจงใจที่จะส่งเธอไปทั้งๆ ที่อัญมณีธาราก็กำลังจะเปิดทดลองบริการในไม่กี่วันนี้ มันเป็นอีกหนึ่งในบททดสอบมากมายที่บิดาและบรรดาบอร์ดบริหาร รวมทั้งคู่แข่งของเธอจับตามองอยู่

เมื่อบิดาวางสาย เวเนเซียจึงหันกลับมายังชายหนุ่มทั้งสอง เอเธนส์กำลังให้ความสนใจเครื่องแขวน เธอจึงเบนสายตามายังธารา ฝ่ายนั้นคงอ่านสัญญาณออกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

“เวต้องไปแก้วอำพันวันนี้ ธารช่วยจัดการให้ด้วยนะ” เวเนเซียตอบสายตาคำถามของเลขานุการ

“ได้ครับ...” ธารารับคำสั่ง ก่อนจะก้าวไปยังโต๊ะที่มีเอกสารวางไว้ ขณะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินพร้อมเริ่มเก็บเอกสาร งานเร่งด่วนนั้นเสร็จไปแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เวเนเซียต้องพิจารณา และตารางงานที่ต้องเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่าง

การเวเนเซียไม่ได้อยู่ที่อัญมณีธาราแบบกะทันหันอย่างนี้อาจจะทำให้ขลุกขลักนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อันใด เพราะตั้งแต่เริ่มทำอัญมณีธารามา เวเนเซียก็มักจะได้รับคำสั่งทั้งแบบกะทันหันและไม่กะทันหันให้ไปช่วยงานโรงแรมในเครือเสมอๆ

เวเนเซียหันกลับไปยังเอเธนส์ ก็พบว่าเขาหันกลับมาทางเธอแล้วจึงได้สบสายตาคมที่ฉายแววยิ้มน้อยๆ เท่านั้น

งานอื่นๆ เธอไว้ใจว่ารองผู้จัดการของอัญมณีธารานั้นจะจัดการได้ แต่ที่ต้องยุ่งยากใจก็คงเป็นงานเกี่ยวกับคนตัวโตที่ยังไม่ยอมใจอ่อนนี่สิ

“ท่าทางคุณหนูเวจะเบี้ยวผมล่ะสิ” เอเธนส์อมยิ้มนิดๆ แม้ว่าความกระปรี้กระเปร่าที่มีเมื่อครู่จะลดระดับลงไปเหลือศูนย์เท่าเดิมแล้ว

เขาได้ยินที่เธอพูดกับธาราก็พอเดาได้แล้วว่า เดตวันนี้คงถูกยกเลิก

“เวขอโทษนะคะ แต่เวมีธุระด่วนจริงๆ ไม่โกรธเวนะคะ”

เอเธนส์ก้าวเข้ามาใกล้ร่างบาง แต่เว้นระยะห่างประมาณสองก้าว

“ผมไม่เคยโกรธคุณหนูเวอยู่แล้วครับ” แม้จะรู้สึกโหวงๆ ไปบ้างก็เถอะ

“ขอบคุณค่ะ... แต่เวจะต้องอยู่ที่กระบี่สองสามวัน” เวเนเซียเอ่ย ใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องของเอเธนส์ เธอจะไม่ยอมเสียเวลาเปล่าๆ ไปถึงสามวัน

“ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวเราค่อยเดตกันก็ได้ ผมไม่รีบ”

ฟังคำพูดของเขาแล้วเวเนเซียก็อยากประทุษร้ายร่างสูงใหญ่สักที เขาไม่รีบแต่เธอรีบ ยังมีงานด้านอื่นอีกมากที่เธอต้องทำ แต่ภาพของอัญมณีธาราจากสายตาของเอเธนส์น่าจะเป็นจิ๊กซออีกชิ้นที่ทำให้อัญมณีธาราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

“คุณเอเธนส์ก็รู้ว่าเรื่องเดตหมายความว่ายังไง”

นัยน์ตาสีดำสนิทเป็นเปล่งประกายที่เวเนเซียอ่านไม่ออกขึ้นมาแวบหนึ่ง มุมปากยกขึ้นน้อยๆ

“หมายความว่ายังไงละครับ ก็คุณหนูเวอยากจีบผม แล้วขอเดต...ผมเข้าใจอะไรผิดตรงไหนหรือเปล่าครับ”

เวเนเซียอยากจะถอนหายใจแรงๆ เพราะคำตอบแสนจะยียวนของเอเธนส์ เขารู้ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ตั้งใจแปลไปอีกทาง

“เอาเป็นว่า...ผมจะรอเดตครั้งหน้าของเรานะครับ” พูดจบ ร่างสูงใหญ่ก็ขยับเข้าใกล้เวเนเซียอีกก้าว มือใหญ่ฉวยมือเล็กกว่าขึ้น ริมฝีปากได้รูปสวยแตะที่หลังมือเนียนนุ่มอย่างแผ่วเบาไม่ต่างจากที่ได้รับเมื่อวันวาน ก่อนจะปล่อยมือโดยเร็วและก้าวถอยหลัง

ริมฝีปากได้รูปสวยเปิดยิ้มเต็มที่

“คุณหนูเวก็รู้ว่าผมมันพวกหัวดื้อ...ไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ หรอกครับ” เอเธนส์เอ่ยกลั้วหัวเราะ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังบันได ก่อนจะก้าวลงบันไดเขาก็หันมาตามเสียงหวานๆ

“เวก็ไม่เคยเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ เหมือนกันค่ะ”








เอเธนส์ลดมือลงหลังจากกดชัตเตอร์บันทึกภาพรถไฟที่แล่นออกไปจากสถานีพร้อมกับที่บริเวณสถานีสงบลงจากการเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร หากยังมีผู้โดยสารที่นั่งรอรถไฟเที่ยวต่อไป และที่แทบไม่ขาดก็คือนักท่องเที่ยว มีทั้งมาแบบเป็นคู่ เป็นกลุ่ม หากนานๆ ทีจะเห็นมาเดี่ยว...แบบตัวเขา

แม้การเดินทางมาตากอากาศที่หัวหินด้วยรถไฟจะไม่เป็นที่นิยมแล้วก็ตาม หากบรรยากาศของสถานีรถไฟแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนเป็นจำนวนมาก ตัวอาคารสถานีแบบชั้นเดียวลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ สถาปัตยกรรมวิกตอเรียนที่แทบไม่เหลือแล้วในเมืองไทยและอาคารทรงจตุรมุขแบบไทยได้กลายเป็นสัญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ เขาเองก็เช่นกันทั้งๆ ที่เคยถ่ายภาพที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ยังคงแวะเวียนมาอยู่เสมอ

ช่างภาพหนุ่มมองหนุ่มสาววัยนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่กำลังถ่ายภาพกับป้ายสถานีรถไฟด้วยท่าทางหลากหลายสุดแต่จะสร้างสรรค์ขึ้นมา เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วดังมาให้ได้ยิน และก็อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นแล้วกดชัตเตอร์

หลังจากที่เริ่มจับกล้องครั้งแรกเมื่ออายุเจ็ดขวบและทำงานอย่างจริงจังมาเป็นเวลาสิบปี เขาก็ถ่ายภาพมาทุกรูปแบบ จนมาหยุดที่การถ่ายแฟชั่น... เอเธนส์รู้สึกว่าเป็นงานที่เขาชอบมากที่สุด แม้จะมีเรื่องจุกจิกมากมาย บางครั้งก็ทำให้เขาโมโหได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังชอบที่จะทำงานสายนี้และหยุดรับงานแนวอื่น

งานล่าสุดที่ติดต่อมานี่ก็เช่นกัน...เขาปฏิเสธไปแล้ว

แต่...อีกฝ่ายคือเวเนเซีย คนที่เขารู้แล้วว่ามีความตั้งใจแน่วแน่ไม่ได้ต่างไปจากคุณหนูเวของเขานัก

แล้วเขาจะขัดใจคุณหนูเว...ได้ไหมล่ะ

“คุณหนูเว...เฮ้อ” เขาถอนหายใจยาวเมื่อชื่อและภาพของเธอกลายมาเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในความคิดของเขาตลอดเวลา

อุตส่าห์ไปยืนรอข้าวเหนียวมะม่วงของโปรดของคุณหนูเว...แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นจะมีเวลากินหรือเปล่า ท่าทางจะต้องเดินทางด่วน

ก็เป็นอันว่า...เวเนเซียไม่มีเวลาสำหรับเดตวันนี้

แต่มันก็ทำให้เขามีเวลาที่จะคิด...ทบทวน...และตัดสินใจในการกระทำอีกครั้ง

เอเธนส์มองภาพเด็กหนุ่มสาวที่ยังสนุกในการถ่ายภาพ เสียงหัวเราะไม่ขาดระยะ มีสายตาหลายคู่มองแบบเขามองเช่นกัน หากคนที่ใช้บริการสถานีรถไฟหัวหินบ่อยๆ ก็คงจะชินกับภาพแบบนี้

ว่าแต่...เขาต้องคิดและทบทวนด้วยหรือ

เอเธนส์มีคำถามให้ตัวเอง

แต่ไหนแต่ไรมา...

เขาก็ทำตามสัญชาตญาณเสมอ...

และฟังหัวใจมากกว่าสิ่งอื่น








หลังจากจัดการเอกสารเร่งด่วนเสร็จ เวเนเซียก็ขับรถคู่ใจกลับขึ้นมาที่สนามบินพร้อมกับธารา สายธารมารออยู่ที่สนามบินพร้อมกับกระเป๋าเดินทางทั้งของเธอและธารา เธอเห็นสองพี่น้องจูงมือเลี่ยงออกไปคุยกัน พอจะเดาออกว่าไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับเธอ แต่เวเนเซียยังไม่มีเวลาไล่เลียงว่าสองพี่น้องกำลังทำหรือวางแผนอะไรกัน เพราะยังมีเอกสารอีกมากที่ได้รับจากเลขานุการของจีเอ็มแก้วอำพัน มันตรา

เมื่อเครื่องบินมาถึงกระบี่ เวเนเซียและธาราตรงไปเยี่ยมและคุยงานกับผู้จัดการทั่วไปแก้วอำพัน มันตราที่โรงพยาบาลในตัวเมือง ก็พบว่านอกจากจะใส่เฝือกอ่อนที่ข้อเท้าและข้อมือแล้วยังมีผ้าพันศีรษะซึ่งแพทย์ได้ขอให้อยู่โรงพยาบาลหนึ่งคืนเพื่อรอดูอาการ ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่มีอาการแทรกซ้อนก็จะอนุญาตให้กลับได้

กว่าจะมาถึงแก้วอำพันมันตราซึ่งตั้งอยู่ในเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อก็ค่ำพอดี ตัวเธอไม่มีปัญหาใดๆ สามารถทักทายพนักงานซึ่งส่วนใหญ่ก็รู้จักคุ้นเคยกันเพราะตอนที่เรียนจบกลับมาใหม่ๆ เธอมาทำงานที่นี่หกเดือน จะมีก็แต่ธาราซึ่งเมาเรือเร็ว หน้าซีดและผะอืดผะอมตลอดเวลา

หลังจากพักผ่อนครู่หนึ่งให้ธาราอาการดีขึ้น เวเนเซียก็เรียกประชุมทีมงานต้อนรับแขกสำคัญในวันรุ่งขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมอีกครั้งก่อนจะให้ทุกคนแยกกันไปพัก เธอเองก็ขึ้นห้องพัก

“อย่าทำงานต่อดึกมากนะครับ” ธาราเอ่ยเมื่อมาส่งเจ้านายสาวที่หน้าห้องพัก เพราะรู้ว่าเวเนเซียจะต้องดูเอกสารของอัญมณีธาราที่หอบมาด้วยแน่ๆ และก็มักจะลุยต่อให้เสร็จทั้งหมดจนบางครั้งแทบลืมเวลาพักผ่อน

“ค่ะ...คุณเลขาไม่ต้องห่วง รับรองเวไม่นอนดึกตื่นสายจนลุยงานพรุ่งนี้ไม่ได้” เวเนเซียรับคำด้วยน้ำเสียงล้อๆ “ธารก็พักผ่อนนะ อย่าให้ดิมิทรีชวนคุยถึงเช้าล่ะ” เอ่ยแซวแล้วเวเนเซียก็เปิดประตูผลุบเข้าห้องทันที ทิ้งให้ธารามองตามแล้วส่ายหน้าช้าๆ

เมื่อเข้ามาในห้องอย่างแรกที่เวเนเซียทำก็คือตรงไปยังโต๊ะทำงาน แฟ้มเอกสารวางรออยู่แล้ว หากมีเพียงแค่แฟ้มเดียวทั้งๆ ที่เธอแน่ใจว่ามีมากกว่านั้น

“เฮ้อ...ถ้าขาดธารไปเวคงลำบากแย่เลยนะเนี่ย” เวเนเซียหยิบแฟ้มขึ้นมา พอจะเดาได้ว่าเลขานุการคนเก่งคงจำกัดการทำงานของเธอในคืนนี้เพียงแค่นี้

หญิงสาวถือแฟ้มเข้าห้องน้ำ มองไปยังอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปแช่ได้สองสามคนสบายๆ เธอเปิดน้ำใส่อ่าง แล้วเดินไปรูดม่านออก มองทะลุผนังกระจกใสในยามค่ำคืนแทบมองไม่เห็นทะเลกว้าง หากก็ยังสามารถมองเห็นดาวดวงน้อยได้บ้าง

น้ำหนักของแฟ้มในมือเตือนให้เธอรู้ว่า...ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก

เส้นทางการชิงตำแหน่งต่อจากบิดาทำให้เวลาส่วนใหญ่ของเธอคืองาน และเธอก็รู้สึกสนุกกับมันเสียด้วย จะหาว่าเป็นคนบ้างาน...เวเนเซียก็ไม่ปฏิเสธ

ก่อนจะเปิดแฟ้ม...ก็มีเสียงดนตรีดังแทรกขึ้นมา เวเนเซียจับโทรศัพท์ที่แขวนไว้กับสายคล้องคอขึ้นมาดู คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น ก่อนริมฝีปากจะคลี่ยิ้มโดยไม่รู้ตัว

เกือบลืมไปแล้วสิ

“มีเวลาให้ผมสักนิดไหมครับคุณหนูเว” เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากปลายสาย





+++++++++++++++ ขอบคุณจากหัวใจค่ะ +++++++++++++++++




ขอบพระคุณมิตรสหายคุณนักอ่านทุกท่านที่เป็นห่วงและให้กำลังใจฬีเสมอมา...

แล้วเจอกันในบทที่ ๗

เร็วๆ นี้ค่า


ฬีฬา...


Create Date : 20 กันยายน 2553
Last Update : 20 กันยายน 2553 9:51:21 น. 15 comments
Counter : 1477 Pageviews.

 
เจอกันเร็วๆ นี้จริงๆ นะหนูฬี ขอเป็นเล่มงานหนังสือตุลานี้เลยดีกว่านะคะ


โดย: tuk_ora วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:14:45:14 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณ tuk_ora ค่ะ ...คุณฬีฬา ใจอ่อนรึยังะ น้องๆรอกันมานานนนนแล้วอ่ะ


โดย: bijin วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:16:25:28 น.  

 
เห็นด้วยค่ะ รอเดือนตุลาเลยแล้วกันนะ


โดย: นกกระเต็น IP: 114.128.202.224 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:19:32:42 น.  

 
ดีใจจังเลยคุณฬีฬากลับมาแล้ว
รอมานานๆๆๆๆๆๆๆๆๆมาก
บ่นถึงตลอด ไม่ฮ๊าดเช้ยบ้างเหรอค่ะ
อ่านแล้วมีความสุขเสมอ
รักษาสุขภาพนะค่ะ


โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:19:47:06 น.  

 
แล้วเธอก็กลับมา ... กลับมาหามาให้อ่านเหมือนเดิม...ในที่สุดคุณฬีฬาก็กลับมาซะที...เป็นกำลังใจให้เสมอนะค่ะ


โดย: firepink IP: 180.180.24.187 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:23:10:41 น.  

 
แวะเข้ามาตอนดึกมาก ๆ ๆ ๆ ๆ
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ขอรับ
แบบว่าคิดถึงคุณฬีนะเนี่ย สัปดาห์หนังสือครั้งนี้จะได้เจอกันรึเปล่านะ ยังไงก็จะรอนะขอรับ


โดย: hayee IP: 115.87.97.67 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:0:02:26 น.  

 
ช่ายยยย เจอกันอีกทีขอเจอเป็นเล่มในเดือนตุลาคม 53 เลยดีกว่าค่ะ (ต้องระบุให้ชัดเจนไปเลย อิ อิ อิ) ว่าแต่ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนคะ


โดย: kiekie IP: 203.209.90.42 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:19:38:05 น.  

 
เย่ เย้ มาอัพต่อแล้ว ขอบคุณคะ
ดูแล้วท่าทางจะไม่ทันงานหนังสือ
ปีนี้ซะมั๊ง


โดย: วรา IP: 10.98.1.51, 58.137.129.220 วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:10:28:05 น.  

 
ขอเจอแบบเป็นเล่มในงานหนังสือเลยนะคะพี่ฬี ^^


โดย: emmy IP: 58.8.2.234 วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:12:57:51 น.  

 
ได้งานสัปดาห์หนังสือปีนี้ จะดีที่สุดเลยคะ อดใจจะไม่ไหวแล้วค่ะ


โดย: ใบเขียว IP: 180.183.195.164 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:21:18:43 น.  

 
ดีใจมากเลยค่ะ มาต่อแล้ว รออ่านตอนต่อไปน่ะคร่ะ


โดย: นู๋เต่า IP: 61.90.24.205 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:23:51:21 น.  

 
ในที่สุดพี่ฬีก็กลับมาแต่จะดีที่สุด ถ้าออกทันงานหนังสือ ตุลานี้นะค่ะ


โดย: sweeT IP: 203.158.4.226 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:0:00:10 น.  

 
อย่าตั้งความหวังมากไปนะคะ เพราะเผลอๆถ้าไม่มีใครคอยจิกหนูฬีชอบอู้อ่ะค่ะ...แต่ถ้าช่วยกันจิกก็อาจจะได้เจอหนูฬีในงานหนังสือเดือนตุลาฯก็ได้นะคะ ยังไงก็ขอตั้งความหวังไว้ก่อนละกัน 555


โดย: Ouan IP: 192.168.102.99, 123.242.173.132 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:18:16:23 น.  

 
มาแล้ว ๆ ๆ ๆ ๆในที่สุด หนูฬีก็กลับมา


โดย: กระต่าย IP: 192.168.1.142, 124.120.83.196 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:14:40:29 น.  

 
ขอบคุณนะคะ
ตามติดคุณหนูเวต่อค่า


โดย: arso IP: 27.130.12.72 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:15:12:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.