ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
รหัสรักในดวงใจ ตอน ๑๓

สวัสดีค่ะ...


เอิ่ม ช่วงนี้ยังไม่เปลี่ยนโปรนะคะ ใช้โปรเดิมกันไปก่อนค่า^^


555 ไปแอบดูคุณหมอกับของขวัญกันดีกว่าคะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


รหัสรักในดวงใจ ตอน ๑๓





ของขวัญรีบปาดน้ำตา หากไม่ใช่เพราะเสียงอุทานอย่างตกใจของธีร์หล่อนก็คงยังไม่รู้ตัวว่ากำลังร้องไห้ โดยปกติหล่อนไม่ใช่คนที่จะร้องไห้ได้ง่ายๆ เพลงลาวดวงเดือนมักจะทำให้หล่อนนึกถึงเมืองขวัญอยู่เสมอ หากไม่เคยที่จะลืมตัวอย่างนี้ ของขวัญไม่รู้ว่าทำไมคราวนี้น้ำตาจึงไหล อาจจะเป็นเพราะ...เสียงขลุ่ย

เมืองขวัญเป่าขลุ่ยเพลงลาวดวงเดือนแทบทุกวัน...หล่อนเคยแกล้งบอกว่ารำคาญ คู่แฝดของหล่อนมักโต้กลับมาว่า คงต้องรอให้เขาตายเท่านั้นหล่อนจึงจะหายรำคาญ

“มะ...ไม่ได้เป็นอะไรค่ะอาจารย์”

ธีร์ไม่เชื่อคำปฏิเสธของหล่อน โดยเฉพาะเมื่อหล่อนถูกเมืองขวัญสวมกอดจากด้านหลัง คู่แฝดของหล่อนก้มศีรษะลงมาชิดเรือนผม กระซิบอะไรบางอย่างราวกับกำลังปลอบประโลม

ทำอย่างกับเจ้าหล่อนจะฟังรู้เรื่องอย่างนั้น...

“คุณแน่ใจนะ”

ของขวัญเงยหน้าขึ้น หล่อนไม่แน่ใจว่าแสงไฟในร้านล้อเล่นกับสายตาของหล่อนหรือเปล่า จึงเห็นแววอาทรในนัยน์ตาสีสวยราวกับอำพันคู่นั้น

“ค่ะ...” หล่อนพยักหน้าอีกครั้ง ร่ำๆ ที่อยากจะบอกเขาเหมือนกัน แต่หล่อนก็ไม่คิดว่าจะพูดเรื่องของเมืองขวัญกับ ‘คนอื่น’ ได้

ธีร์ผ่อนลมหายใจ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยังมองสบตากับของขวัญ ไม่สนใจร่างโปร่งแสงที่ยังโอบหล่อนเอาไว้ แต่ไม่ได้กระซิบปลอบหล่อนอีกแล้ว

อะไรที่ทำให้หล่อนร้องไห้แบบนั้น...

เขายังติดใจอยากรู้ และค่อนข้างไม่พอใจที่หล่อนปิดปากเงียบ นัยน์ตาสีนิลวาววับของหล่อนนั้นบอกชัดว่าหล่อนไม่พูด

ไม่เป็นไรหรอก...เขาจะหาวิธีรู้ให้ได้

ธีร์ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องสนใจและอยากรู้ขนาดนั้น

เพียงช่วงเวลาไม่กี่นาทีเมื่อเข้ามานั่งในร้าน แม้จะไม่ถึงกับร่าเริงสนุกสนาน แต่หล่อนก็ยังดูปกติดี จนกระทั่งสั่งอาหารเรียบร้อย จากนั้นก็เพียงนั่งรอโดยมีเสียงเพลงลาวดวงเดือนขับกล่อม

“นึกว่าร้องไห้เพราะเพลงนี้เสียอีก” ธีร์ไม่เห็นว่าหล่อนสะดุ้ง แต่นัยน์ตาสีนิลซึ่งเขาจ้องอยู่ตลอดนั้นมีแววไหววูบ

เป็นเพราะเพลงจริงๆ เสียด้วย...

“ลาวดวงเดือน...” ธีร์ยังตรึงสายตาไว้ที่ดวงตาคู่นั้น “ผมชอบเพลงนี้นะ...คุณล่ะ”

“เอ้อ...” นัยน์ตาคมที่สะท้อนแสงไฟจากเพดานร้านทำให้ของขวัญมีปัญหาในการออกเสียง แม้กระทั่งการคิดและการหายใจ “ชะ...ชอบมั้งคะ” ของขวัญรู้สึกว่าน้ำเสียงของหล่อนฟังพร่าอย่างประหลาด

“ทำไมต้องมี ‘มั้ง’ ด้วย”

ถ้าไม่มัวแต่จัดลำดับความคิดของตนเองอยู่ ของขวัญคงขันความเข้มงวดในประโยคคำถามของเขา คล้ายกับครูที่กำลังรอคำตอบของนักเรียนอยู่

“ก็...ชอบค่ะ” คราวนี้หล่อนตอบชัดขึ้น พยายามเรียกสติที่กระเจิงไปชั่วครู่กลับมา ก่อนเกือบจะกระเจิงอีกครั้งเพราะรอยยิ้มของเขา นัยน์ตาสีอำพันเปล่าประกายราวกับพอใจในคำตอบของหล่อนเป็นนักหนา

“ชอบแล้วทำไมร้องไห้” ธีร์โจมตีโดยไม่ให้หล่อนตั้งตัว “ผมคงเข้าใจไม่ผิด เพราะเพลงนี้ใช่ไหม”

ของขวัญไม่รู้ว่าจะโมโหหรือขำดี

“ถ้าไม่ตอบ อาจารย์จะหักคะแนนไหมคะ”

ธีร์ยิ้มกว้างขึ้น

“ถ้าไม่ตอบข้อสอบผม คุณก็ไม่ได้คะแนน” เขาเล่นลิ้น “แต่ถ้าไม่ตอบคำถามของผม คุณก็จะต้องเจอคำถามอีกบ่อยๆ จนกว่าจะตอบ เลือกเอาแล้วกันนะครับ”

ของขวัญชั่งใจ...

“เพลงนี้ทำให้ขวัญคิดถึงใครบางคนค่ะ”

คำตอบของหล่อนทำให้ธีร์ชะงัก แปลกใจที่จู่ๆ ก็โมโหวูบขึ้นมา แทบจะถามสวนไปว่า ‘ใครบางคน’ของหล่อนคือใคร หากหางตาที่เขาเหลือบเห็นสีหน้าของเมืองขวัญ... ใบหน้าบึ้งตึงนั้นหายไปราวกับถูกเสก มีเพียงสายตาที่มองของขวัญด้วยความอ่อนโยน

ของขวัญละสายตาจากดวงตาคม หล่อนมองเหม่อไปเบื้องโดยไม่มีจุดหมาย

“ถ้าตอบแค่นี้อาจารย์จะยังถามต่ออีกไหมคะ” ของขวัญตวัดสายตากลับมา

ธีร์สบแววตาเชิงท้าทายของหล่อน เขาอยากถามอยู่เหมือนกัน แต่คงไม่จำเป็นแล้ว เพราะเขาได้คำตอบจากท่าทางของเมืองขวัญแล้วว่าใครบางคนของหล่อนคือใคร

ถ้าเพลงนี้ทำให้หล่อนคิดถึงคู่แฝดที่เป็นเพียงวิญญาณของหล่อนแล้ว เขาเป็นใครจึงจะทำให้หล่อนเศร้าไปกว่านี้

“อืม...เอาเป็นว่าผมพอใจในคำตอบก็แล้วกัน” เขาเอนหลังพิงพนัก ยิ้มนิดๆ เมื่อเอ่ยประโยคถัดไป “แล้วนิสิตมีปัญหาอะไรอยากถามอาจารย์บ้างไหม...ก่อนหมดชั่วโมง”

‘อยากถามว่าเมื่อไหร่ จะไปให้พ้นๆ หน้าสักที’

ธีร์ไม่สนใจเสียงนกเสียงกา...คงต้องเรียกว่าเสียงวิญญาณที่กลับมาตีหน้าบึ้งใส่เขาเหมือนเดิม

ของขวัญพยายามไม่มองริมฝีปากที่แย้มน้อยๆ นั่น หล่อนสงสัยว่าทำไมชื่อเสียงของเขาที่ฟังมาจากรุ่นพี่ทั้งหลายมีเสียงเดียวว่า ‘อาจารย์ธีร์ดุมาก’

“อาจารย์ชอบเพลงนี้จริงๆ หรือคะ”

“เชื่อยากนักเหรอของขวัญ” เขาแอบถลึงตาใส่ร่างโปร่งแสงที่อยู่เบื้องหลังซึ่งเบ้ปากใส่เขา

“ก็...” ของขวัญยิ้มแหยๆ เหลือบมองเค้าหน้าที่เห็นได้ชัดว่ามีเชื้อสายตะวันตกของเขา

หน้าฝรั่งแต่ชอบเพลงไทยเดิมนี่นะ

“คุณหมอเป่าขลุ่ยเพราะด้วยนะครับ” เอกปรากฏตัวขึ้นโดยที่สองหนุ่มสาวไม่ทันสังเกต เขาวางจานแรกซึ่งเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยขึ้นชื่อของร้านลง “ที่เหลือรอสักครู่นะครับ วันนี้คนเยอะหน่อย”

ของขวัญกะพริบตาปริบๆ มองตามร่างสันทัดของเจ้าของร้านไป ก่อนจะตวัดสายตากลับมา

หล่อนไม่รู้สึกตัวเมื่อมีคนเข้ามาใกล้อีกแล้ว...

“กุ้งแก้วของพี่เอกอร่อยนะ คุณลองสิ” ธีร์ตักกุ้งขนาดพอดีคำให้กับของขวัญ หล่อนมองเขาตัวสายตาคำถาม

“ลาวดวงเดือน...ขลุ่ยด้วยเหรอคะ” ของขวัญอดถามไม่ได้ เพียงแค่เขาบอกว่าชอบเพลงไทยเดิมก็ทำให้หล่อนประหลาดใจได้มากอยู่แล้ว แต่ถึงกับเป่าขลุ่ยนี่...

‘หน้าตาแบบนั้นเป่าขลุ่ยไม่เป็นหรอก ขวัญอย่าไปเชื่อพวกชอบโม้เลย’ เมืองขวัญบอกคู่แฝดด้วยท่าทางฮึดอัด ขัดใจสีหน้ายิ้มๆ แววตาเยิ้มๆ ของหมอบ้า ‘กลับโรงพยาบาลไปไป๊’

“อยากฟังไหม” ธีร์ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเอ่ยไปแบบนั้น หากเห็นหล่อนแทบสะดุ้งเลยทีเดียว

ก่อนที่ของขวัญจะมีสติพอคิดหาคำตอบ คำถามที่ทำหล่อนรู้สึกเหมือนถูกครูสอนยูโดจับทุ่มเป็นครั้งแรก เรียกว่าจุกจนพูดอะไรไม่ออก หล่อนก็ได้ยินเสียงระฆังมาช่วยไว้ทัน

ธีร์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับ สายตามองของขวัญที่ก้มหน้าก้มตากินกุ้งแก้ว รอยยิ้มบนริมฝีปากค่อยๆ เลือนหายไป

ของขวัญชำเลืองไปยังใบหน้าคมเพราะน้ำเสียงที่เริ่มเข้มขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกับหัวคิ้วขมวดเข้าเรื่อยๆ หล่อนคาดว่าปลายสายน่าจะมาจากโรงพยาบาล

“โอเค...ผมจะเข้าไปเดี๋ยวนี้” ธีร์กดปุ่มตัดสาย

ของขวัญเห็นแววตาบ่งบอกความยุ่งยากใจของเขา

“มีเวลาทานข้าวก่อนไหมคะ”

“อาการคนไข้ไม่น่าไว้ใจ” ธีร์ส่ายหน้า “ขอโทษนะของขวัญ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เชิญอาจารย์เถอะค่ะ ขวัญจัดการทางนี้” หล่อนเอ่ยยิ้มๆ เพื่อไม่ให้เขาเป็นกังวล ธีร์พยักหน้าแล้วลุกขึ้น

“ขอโทษนะครับ”

ของขวัญมองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินออกจากร้านไปด้วยความรีบเร่งโดยไม่ได้รู้สึกน้อยใจเลยสักนิด หล่อนยังสบายดี...ในขณะที่ใครบางคนอาจจะอยู่ในช่วงวิกฤตของชีวิต

“อ้าว...คุณหมอไปไหนแล้วล่ะครับ” เอกถามอย่างแปลกใจเมื่อไม่เห็นธีร์นั่งอยู่ที่โต๊ะ เขาช่วยลูกน้องลำเลียงอาหารลงบนโต๊ะ

“กลับโรงพยาบาลไปแล้วค่ะ” ของขวัญตอบยิ้มๆ

เอกส่ายหน้า มองหญิงสาวอย่างเห็นใจ เห็นคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่แป๊บๆ หมอธีร์ก็ต้องรีบกลับโรงพยาบาลซะแล้ว

มิน่า...ถึงได้อยู่เป็นโสดจนทุกวันนี้

“พี่เอกคะ...ช่วยเอาอาหารพวกนี้ใส่กล่องให้ทีสิคะ”







ธีร์กลับเข้ามาในห้องพักแพทย์เมื่อพ้นชั่วโมงวิกฤติของคนไข้ผ่าตัดรายเมื่อเช้า ซึ่งจู่ๆ อาการก็ทรุดลงกะทันหัน ทั้งๆ ที่หลังผ่าดัดดูอาการดีทุกอย่าง หากร่างกายของมนุษย์ก็สุดแสนซับซ้อน แม้ว่าวิวัฒนาการทางการแพทย์จะก้าวหน้าขึ้นแทบจะทุกวินาที แต่ก็ยังไม่สามารถไขปริศนาของร่างกายมนุษย์ได้ทั้งหมด

เขาทรุดนั่งลงที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงานซึ่งใช้ร่วมกันกับแพทย์ท่านอื่น เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันจนแทบไม่อยากลืมตา

แม้ว่าตอนนี้คนไข้จะยังอยู่ ทำให้ทีมของเขาหายใจโล่งขึ้น...แต่ก็ไม่สามารถวางใจได้เต็มที่

หนึ่งชีวิต...ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยื้อเอาไว้จนสุดความสามารถ

ไม่ว่าชีวิตไหนๆ ก็ย่อมมีความสำคัญทั้งนั้น

‘แล้วทำไมนายถึงทิ้งชีวิตไปง่ายๆ’ ธีร์อยากถามเพื่อนสนิทที่ควรจะเดินเข้ามาในห้องพักแพทย์กับเขาในวันนี้

แต่...เขาก็ไม่มีโอกาสได้ถามเพื่อน

ตอนนี้ไชยยศอยู่ที่ไหน...จะยังวนเวียนล่องลอยอยู่ในโลกนี้หรือไม่

หากเขาไม่ได้พบกับเมืองขวัญ คำถามพวกนี้ก็คงจะไม่เกิด ผีหรือวิญญาณจะมีอยู่ใครความคิดของเขาเลยสักนิด

ผีหรือวิญญาณ...เมืองขวัญ ใช่แล้ว

เขาอาจจะมองไม่เห็นวิญญาณตนอื่น...แต่เมืองขวัญน่าจะมองเห็น

ถ้าหากไชยยศยังไม่ได้ไปไหน...ยังอยู่เหมือนเมืองขวัญล่ะ

“อาจารย์คะ” เสียงหวานๆ ทำให้ธีร์กะพริบตา หลุดออกจากภวังค์ มองพยาบาลสาวที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน หล่อนยกถุงใบใหญ่ซึ่งมีกล่องพลาสติกใสซ้อนกันอยู่สามกล่อง

“มีคนฝากไว้ให้อาจารย์ค่ะ” พยายามบาลสาวยิ้มหวานไม่แพ้น้ำเสียง “อาจารย์จะทานเลยไหมคะ เดี๋ยวนิดจะจัดใส่จานให้ค่ะ”

ธีร์เลิกคิ้ว

“ใครฝากไว้ให้ผมหรือ” ไม่มีใครรู้นี่ว่าเขาย้อนกลับมาโรงพยาบาลอีก

“เอ่อ...ไม่ได้แจ้งชื่อไว้ค่ะ” พยาบาลสาวพยายามนึก สันนิษฐานว่าหญิงสาวที่เอากล่องอาหารเหล่านี้มาให้คงเป็นพนักงานขายของบริษัทยาหรือเครื่องมือแพทย์สักแห่งซึ่งเห็นได้ทั่วไปในโรงพยาบาล “สงสัยจะเป็นเซลละมังคะ แต่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเท่าไร” หล่อนมองลงไปในถุง พบว่ามีกระดาษโน้ตเสียบอยู่

“มีโน้ตมาด้วยค่ะ”

ธีร์รับกระดาษแผ่นเล็กขึ้นมาดู

‘ทานอาหารตอนดึกไม่ค่อยดี แต่ดีกว่าไม่ได้ทานนะคะ’

เขาไม่เห็นเคยเห็นลายมือของขวัญมาก่อน แต่คงไม่มีใครอื่นเป็นเจ้าของอาหารพวกนี้แน่ๆ ธีร์ยิ้มน้อยๆ เก็บกระดาษโน้ตไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตแล้วพยักหน้าให้กับพยาบาลสาว

“รบกวนด้วยครับ”

พยาบาลสาวสะดุ้งเพราะเผลอมองนายแพทย์หนุ่มหล่อที่ยังโสดของโรงพยาบาลเพลินไปหน่อย

“อาจารย์รอสักครู่นะคะ” หล่อนเอ่ยเสียงหวานพร้อมกับโปรยยิ้มหวานอีกรอบ เผื่อจะฟลุ๊ก...พยาบาลสาวหัวเราะในใจ

โชคดีจริงๆ ที่วันนี้เวรดึก ได้เจอเทพบุตรในฝันของสาวโสดและไม่โสด รวมทั้งบุรุษสีรุ้งทั้งหลายของโรงพยาบาลนี้ แล้วยังโชคดีสุดๆ ที่ได้เห็นยิ้มของอาจารย์หมอธีร์เสียด้วย

นอกจากคนไข้แล้วไม่ค่อยมีใครได้เห็นยิ้มของหมอธีร์นักหรอก...โดยเฉพาะพวกนักเรียนแพทย์ทั้งหลาย ใครขึ้นวอร์ดเจออาจารย์ธีร์ละก็ แทบจะต้องสวดมนต์ก่อนทุกครั้ง

สงสัยต้องไปเม้าท์กับเพื่อนๆ เสียหน่อย







ศาสตร์เหลือบไปยังระเบียงเหนือมุขกลางตึก เขาเปลี่ยนใจไม่เดินแยกไปยังห้องส่วนตัวเพราะร่างบอบบาง ริมฝีปากเปิดยิ้มกว้างเมื่อเดินเข้าไปที่มารดาที่ชุดเก้าอี้เหล็กดัดสีขาวซึ่งสะท้อนแสงโคมไฟ

“ดึกขนาดนี้แล้ว มัวแต่นั่งคิดถึงหนุ่มเมืองนอกที่ไหนอยู่หรือเปล่าครับถึงไม่ยังไม่เข้านอน”

คุณนาเดียค้อนให้บุตรชายคนโต

“หนุ่มเมืองในน่าสนใจกว่าเยอะจ้ะ” เธอเอ่ยยิ้มๆ มองร่างสูงทรุดลงนั่งเก้าอี้ตรงข้าม “รู้เหรอจ๊ะว่าดึกดื่น”

“ผมไปงานเลี้ยงของลูกค้ามาครับ” ศาสตร์รีบแก้ตัว เขาเลิกท่องราตรีไปแล้ว “ว่าแต่...สนหนุ่มเมืองใน ระวังผมจะฟ้องคนทางเมืองนอกนะ” เขาแหย่ ช่วงนี้บิดาเขากลับไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนมารดายังอยู่ที่เมืองไทย

“เชิญเถอะจ้ะ...ถ้าเขายอมเชื่อนะ” เธอท้อ ประกายตาแสดงความขบขัน

ศาสตร์ได้แต่หัวเราะ

“ถ้าอย่างนั้นมานั่งตากน้ำค้างตรงนี้ทำไมครับ...ไม่ต้องรอพวกผมก็ได้ครับ” เขามองไปเบื้องล่าง จุดนี้สามารถมองเห็นประตูใหญ่และถนนที่ตรงเข้ามายังตัวตึกได้ชัดเจนที่สุด

“โอ๊ะ...ใครจะรอกันล่ะจ๊ะ” คุณนาเดียโคลงศีรษะ “ขืนรอก็ไม่ต้องนอนกันพอดี” เธอปรายตามองศาสตร์ซึ่งยิ้มกว้างตอบ บรรดาบุตรชายของเธอรวมถึงหลานชายในบ้านนี้ มักจะกลับบ้านกันไม่เป็นเวลา ส่วนใหญ่ก็ดึกหรือล่วงเข้าวันใหม่ หรือไม่ก็ไม่กลับกันเสียเลย

ศาสตร์หัวเราะที่ถูกย้อนเอา

“แม่อยากมีแต่ลูกชายหล่อๆ ก็แบบนี้ละครับ”

“จ้ะ...แม่ผิดเอง” เธอลากเสียง “ถ้าอย่างนั้นแม่ก็จะแก้ไข หาวิธีให้ลูกชายตัวแสบของแม่เลิกเหลวไหลกัน”

แววตาของมารดาทำให้ศาสตร์รู้สึกเสียวสันหลัง

“อย่างนั้นเลยเหรอครับ” เขาพยายามจะหัวเราะ แต่คงฟังกร่อยๆ

คุณนาเดียมองบุตรชายด้วยประกายตาวิบวับ

“ศาสตร์เองก็เถอะ มีหนูเพลงพิณแล้วก็อยากทำตัวเหลวไหลนะ”

“โธ่...ผมทำที่ไหนล่ะครับ” ศาสตร์ออด ขืนทำมีหวังแม่สาวลูกครึ่งภูไท-อุบลเล่นงานเขาแน่

คุณนาเดียอดหัวเราะไม่ได้ ใครจะนึกว่าลูกชายจอมลื่นราวกับปลาไหลของเธอจะยอมสยบลงได้ เธอก็เหมือนแม่ๆ ทั้งหลายที่อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝากัน นี่เธอก็โล่งใจว่าลูกสาวคนเดียวแต่งงานแต่งการไปแล้วอย่างมีความสุข ส่วนลูกชาย...นอกจากศาสตร์แล้วก็ยังไม่มีวี่แววเลย

“ว่าแต่...ผมได้ข่าวมาไม่ผิดใช่ไหมครับว่าแม่อยากได้ลูกสะใภ้อีกสักคน”

คุณนาเดียเลิกคิ้ว

“แม่อยากได้ครบห้าคนเลยต่างหาก”

ศาสตร์เริ่มหัวเราะอีกรอบ คำตอบของแม่คงทำให้น้องๆ ของเขาสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว

“แต่ถ้ายังไมได้ครบทั้งห้า ให้ได้สักสองสามคนก็ยังดี” คุณนาเดียยิ้มหวาน

ศาสตร์เริ่มสนุก ประกายวิบวับในแววตาของมารดาบอกว่าท่านเอาจริง มิน่าหมู่นี้ท่านถึงขยันพาธีร์ไป ‘โชว์ตัว’ อยู่เรื่อย

ธีร์เอ๊ย... ตัวใครตัวมันก็แล้วกันนะ

คุณนาเดียหัวเราะเบาๆ ปรายตาไปยังเครื่องแบล็กเบอร์รี่รุ่นใหม่ล่าสุดของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ แน่นอน...เธอแอบดึงข้อมูลตารางนัดหมายประจำวันของธีร์เข้ามาไว้เรียบร้อยแล้วโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

เรื่องแบบนี้ คนเป็นแม่ถนัด







รวินันท์ขมวดคิ้ว มองตัวเลขจากผลแล็บของนิสิตที่หล่อนรับเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ นิสิตที่หล่อนรับมีทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอก อาจารย์สาวใช้ปากกาสีแดงวงผลทดสอบ มือเรียวสวยเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์

“อาจารย์ดูผลแล็บคุณแล้วนะ” เธอมองตัวเลข ขณะพูดให้อีกฝ่ายฟัง “คุณไปลองเช็กขั้นตอนการทำแล็บอีกครั้งแล้วมาคุยกับอาจารย์นะคะ” หล่อนวางสายพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

ผลแล็บที่ผิดพลาด...เป็นไปได้เสมอในการทดลอง ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องมือ ขั้นตอนการทำการทดลอง สภาพแวดล้อม หรือคนทำการทดลองเอง แต่สิ่งเหล่านี้มีวิธีการแก้ไข

ทว่าตัวเลขแปลกๆ ที่หล่อนวงสีแดงเอาไว้ก็ยังดีกว่าตัวเลขที่ออกมาสวยหรู

การจงใจเปลี่ยนตัวเลขเพื่อให้ได้ผลการทดลองตามที่คาดหวังไว้...เป็นสิ่งที่รวินันท์เกลียดที่สุด

การวิจัย...ถ้าไม่ใช่เพื่อหาผลที่แท้จริงแล้วจะมีประโยชน์อะไร อาจารย์สาวเหยียดยิ้ม กระดาษแผ่นเดียวที่เหล่านิสิตนักศึกษาอยากได้นั้น ต้องแลกมาด้วยความสามารถสิ

“เชิญ...” รวินันท์เอ่ยอนุญาตให้คนที่เคาะประตูห้องเข้ามา หล่อนรับไหว้นิสิตสาว “เป็นยังไงบ้าง” หล่อนยิ้มให้กับนิสิตที่อาจารย์นิพนธ์ส่งมา นอกจากจะขยันช่วยหล่อนทำแล็บแทบทุกวันแล้วยังพยายามหาข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนความคิดในการวางโครงร่างวิทยานิพนธ์ที่บางครั้งหล่อนก็จงใจแย้งบ้าง ทำให้ไขว้เขวบ้างเพื่อทดสอบไหวพริบและความอดทน

“นี่ค่ะ หนูลองเขียนพร็อบโพรซอลมาให้อาจารย์ดูค่ะ” ของขวัญยื่นแฟ้มเล็กๆ ซึ่งหล่อนเขียนโครงร่างวิทยานิพนธ์ให้กับอาจารย์สาว หล่อนรู้ว่ายังไงคงต้องมีการแก้ไขกันอีกกว่าจะใช้เป็นฉบับจริงได้ เพราะเท่าที่สักเกต เห็นได้ชัดว่าอาจารย์รวินันท์ชอบอะไรที่สมบูรณ์แบบ การผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ นั้นเธอไม่ยอมรับ

แล้วความผิดพลาดใหญ่ล่ะ

หล่อนอ่านเอกสารโครงการวิจัยที่อยู่ในแฟ้มของนพนันท์จนแทบจะจำได้ขึ้นใจ ดูเหมือนว่าหลังจากล้มเลิกโครงการไป ทุกคนก็กลับไปทำงานตามปกติ เรื่องราวก็ค่อยๆ เลือนไป ไม่มีใครเอ่ยถึง ก็คงไม่มีใครอยากเอ่ยถึงความผิดพลาด

แม้ว่าจะไม่ใครเอ่ยถึง...แต่ก็ใช่ว่าจะลืมไปจากความทรงจำ

“อืม... ดูคร่าวๆ ก็พอใช้ได้ แต่คุณลองไปทบทวนขั้นตอนการวิจัยอีกที” รวินันท์เงยหน้าขึ้น มองท่าทางกระตือรือร้นของอีกฝ่ายยิ้มๆ “ว่าแต่คุณคิดยังไงถึงจะใช้เครื่องมือรุ่นนี้”

“ก็มันเป็นเครื่องที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ค่ะ ได้ผลที่เที่ยงตรงมากกว่ารุ่นอื่น” ของขวัญตอบทันทีเพราะรู้ว่าจะต้องถูกถามแน่นอน

รวินันท์พยักหน้า “ก็ใช่ แต่คุณจะต้องส่งแล็บไปอเมริกานะ”

ของขวัญยิ้มกว้าง “ตอนนี้เมืองไทยไม่มี แต่อีกเดือนสองเดือนก็จะมีแล้วนี่คะอาจารย์”

อาจารย์สาวเลิกคิ้ว

“ถ้าอาจารย์จะกรุณา หนูก็ขออนุญาตใช้ทำแล็บนะคะ”

คราวนี้รวินันท์หัวเราะอย่างชอบใจ

“คุณรู้ได้ยังไง” เครื่องมือรุ่นที่ของขวัญระบุมาในโครงร่างวิทยานิพนธ์นั้นยังไม่มีในเมืองไทย แต่หล่อนทำเรื่องสั่งซื้อไปแล้วซึ่งจะได้รับในอีกไม่เกินสองเดือนนี้

“หนูมีเพื่อนเป็นเซลหลายคนค่ะ” ของขวัญตอบ นอกจากจะสามารถทำงานเป็นนักเทคนิคการแพทย์ตามวิชาชีพที่เรียนมาแล้ว เพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องของหล่อนหลายคนยังเบนเข็มออกไปทำงานด้านการขายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์

การมีเพื่อนดีๆ ก็ทำให้หาข้อมูลได้ไม่ยาก

“อืม...ฉลาดดี” รวินันท์ชม นอกจากจะขยัน ฉลาดแล้วยังมีไหวพริบดี...แต่จะดีจนสามารถฉกอาจารย์หมอหนุ่มโสดที่น่าสนใจที่สุดของโรงพยาบาลไปได้หรือเปล่า ผู้ชายที่ทุกๆ คนก็บอกว่าเหมาะสมกับหล่อนมากที่สุด

ก็คงต้องดูกันต่อไป...





ของขวัญปิดประตูห้องอาจารย์รวินันท์เบาๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องแล็บที่อาจารย์ใช้อยู่เป็นประจำ หล่อนใช้กุญแจที่อาจารย์รวินันท์ให้มาเปิดห้องแล็บไว้รอก่อนที่จะอาจารย์จะตามมา ของขวัญไม่รู้ว่าอาจารย์สาวจะถูกโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก่อนจะออกจากห้องดึงไว้นานแค่ไหน

หล่อนคงต้องรีบ...

แม้จะช่วยอาจารย์รวินันท์อยู่ในห้องแล็บนี้หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีเลยที่จะอยู่ตามลำพังสักครั้ง เวลาสั้นๆ ที่หล่อนมีโอกาสในครั้งนี้คงจะต้องสำรวจคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในห้องนั้นก่อน แม้หล่อนอยากจะสำรวจโน้ตบุ๊กของอาจารย์รวินันท์มากกว่า แต่นั่นคงต้องหาโอกาสอีกครั้ง

ไม่ว่าจะเจอหรือไม่เจออะไร...ก็ล้วนแล้วแต่มีความหมายทั้งสิ้น








ธีร์ปิดแฟ้มรายงานของแพทย์ประจำบ้านในความดูแลของเขา รู้สึกปวดตุบๆ ที่ต้นคอ คงเพราะนั่งอ่านและตรวจรายงานพวกนี้ติดต่อกันเป็นชั่วโมง ธีร์มองนาฬิกาข้อมือแล้วโคลงศีรษะ

“สองทุ่มแล้วเรอะ” เขาจำได้ว่าหอบรายงานพวกนี้กลับมาอ่านตอนสี่โมงเย็นนี่เอง

ธีร์หยิบกุญแจรถจากลิ้นชักโต๊ะ หยิบรายงานเล่มที่เหลือแล้วปิดเครื่องปรับอากาศปิดไฟออกจากห้อง ทางเดินมีไฟตรงโถงหน้าลิฟต์เปิดทิ้งไว้ทำให้ไม่ลำบาก บรรยากาศตอนกลางคืนเงียบและวังเวงขึ้นอีกเป็นสิบเท่าเขายิ้มขณะไขกุญแจประตูเหล็กที่ปิดล็อกไว้ เมื่อออกมาแล้วจึงปิดไว้ตามเดิม

เขาคิดถึงคนที่กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ สงสัยว่าของขวัญคงจะมือไม้อ่อนจนไขกุญแจไม่ได้แน่ๆ ไม่รู้ว่ามีใครเคยเล่า ‘ประวัติ’ ของตึกนี้ให้หล่อนฟังหรือยัง

แต่หล่อนคงจะไม่ยอมอยู่ในตึกนี้ค่ำมืดแน่

นี่ก็สามวันแล้วตั้งแต่วันที่เขาต้องทิ้งหล่อนไว้ที่ร้านของพี่เอก เขายังไม่ได้เจอหล่อน รวมทั้งฝาแฝดของหล่อนอีก เพราะจู่ๆ ก็มีคนไข้ฉุกเฉินเพิ่มขึ้น จะว่าไปก็แทบจะไม่มีเวลาพักเลย

คราวหน้าคงต้องเลี้ยงหล่อนมื้อใหญ่ๆ แล้ว เพราะหล่อนยังอุตส่าห์มีน้ำใจเอาอาหารมาส่งให้เขาอีก แถมเมื่อวานกับวันนี้ยังมีแซนด์วิชลึกลับวางอยู่ที่โต๊ะเขาอีกต่างหาก

เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังกุกกักจากชั้นบน ดังชัดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธีร์หันไปมอง ถ้าหากเป็นคนกลับผีเหมือนใครบางคนเขาคงวิ่งเตลิด แต่เพียงอึดใจเดียวเสียงที่ดังชัดขึ้นนั้นก็ปรากฏเป็นร่างโปร่งระหงบนรองเท้าส้นสูงที่เดินลงมาจากบันได

“อาจารย์ธีร์” รวินันท์อุทานเบาๆ หล่อนยิ้มหวานให้กับนายแพทย์หนุ่มที่ยืนอยู่กลางโถงชั้นล่าง

“อาจารย์รวินันท์” ธีร์ทักตอบ มองหญิงสาวที่มีกระเป๋าอยู่ในมือสองใบ ทั้งกระเป๋าถือและกระเป๋าแบบถุงใบใหญ่ “จะกลับแล้วเหรอครับ”

“ค่ะ...อาจารย์ล่ะคะ วันนี้อยู่ค่ำ” รวินันท์ยิ้มหวาน หล่อนให้ของขวัญกลับบ้านไปตั้งแต่ก่อนหัวค่ำแล้ว คงไม่ได้รออยู่แถวนี้หรอกนะ

“ทำงานเพลินไปหน่อยครับ กำลังจะกลับเหมือนกัน” ธีร์รอหญิงสาวให้เดินมาใกล้จึงเริ่มเดินลงไปที่ประตูหลังของตึก เมื่อออกมาแล้วเขากวาดสายตาไปรอบๆ ลานจอดรถ มีรถจอดอยู่เพียงสามคันรวมทั้งของเขาด้วย แต่ไม่มีเมอร์ซิเดสกึ่งสปอร์ตสีขาวของรวินันท์ซึ่งทุกคนจำได้ดี

“อาจารย์จอดรถไว้ที่อื่นเหรอครับ” เขาถามเพราะยังมีลานจอดรถทางด้านหลังโรงพยาบาลอีก หากลานจอดรถตรงนี้เต็ม

“เปล่าค่ะ...วันนี้ฉันไม่ได้เอารถมา” รวินันท์ตอบยิ้มๆ “ให้ศูยน์เอารถไปเช็กน่ะค่ะ”

“แล้วอาจารย์จะกลับยังไงล่ะครับ”

“อ๋อ...คงจะกลับแท็กซี่ค่ะ” รวินันท์ตอบเรื่อยๆ ความจริงหล่อนให้คนรถของที่บ้านออกมารับแล้ว เพียงแต่อยากทดลองอะไรบางอย่าง

ธีร์ขมวดคิ้ว มองอาจารย์สาวสวยในชุดแซคพร้อมเครื่องประดับและกระเป๋ายี่ห้อดัง เวลาถอดเสื้อกาวน์ ก้าวออกจากห้องแล็บ รวินันท์ก็พร้อมจะไปงานสังคมอะไรสักงาน

ถ้าหล่อนกลับถึงบ้านได้จริงก็คงโชคดีสุดๆ

“ดึกแล้วอย่านั่งแท็กซี่เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปส่งเอง”

“เอ่อ...เกรงใจอาจารย์ค่ะ เดี๋ยวอาจารย์จะกลับบ้านดึก”

ธีร์ก็ไม่อยากกลับบ้านดึก แต่จะปล่อยให้รวินันท์กลับเอง เขาก็ไม่อยากเจอข่าวเพื่อนร่วมงานในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์

เขาไม่อยากมองโลกในแง่ร้าย...แต่ความเสี่ยงมันมีสูง

“ไม่ต้องเกรงใจครับ”

รวินันท์ยิ้มหวาน...หล่อนจะปล่อยให้สุภาพบุรุษแสนดีแบบนี้ไปให้ผู้หญิงอื่นได้ยังไง





+++++++++++++++++ แล้วพบกันในตอนหน้าค่ะ ++++++++++++++++++++





Create Date : 11 สิงหาคม 2552
Last Update : 11 สิงหาคม 2552 0:02:39 น. 39 comments
Counter : 1251 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: blackcrab IP: 124.120.70.158 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:07:15 น.  

 
แวะมาให้กำลังใจพี่ฬีฬาค่ะ กำลังจะปิดคอมพ์อยู่แล้วเชียว นึกงัยไม่รู้ค่ะเลยลองคลิกเปิดบล็อกพี่ฬีก่อน

เจอหมอธีร์ก่อนนอนอย่างนี้หนูต้องฝันดีแน่เลยใช่มั้ยคะ


โดย: หมีสีชมพู IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:12:37 น.  

 
นึกว่าคุณฬีจะไม่มาซะแล้วค่ะวันนี้
อยากเปลี่ยนโปรเต็มทีแล้วค่ะคุณฬี ที่มีอยู่มันไม่จุใจไงก็ไม่รู้ 555 เป็นโรคไม่รู้จักพอน่ะค่ะ อิอิ

เมื่อไหร่คุณฬีจะยอมใจอ่อนซะทีล่ะคะ


โดย: Yuii IP: 58.9.32.215 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:19:09 น.  

 
ขอบคุณขอรับ

แบบว่าน่าติดตามขอรับ


โดย: hayee IP: 124.120.117.93 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:19:21 น.  

 
เพราะวันนี้มีงานติดพันต้องเอากลับมาทำต่อ กว่าจะเสร็จก็ดึกแล้ว เลยแวะมาเสียหน่อยไม่ผิดหวัง คืนนี้อดนอนก็คุ้มแล้วที่ได้เจอหมอธีร์


โดย: นกกระเต็น IP: 117.47.117.105 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:25:34 น.  

 
ขอบคุณครับ นึกว่าจะมาวันอังคารซะแล้ว ไม่เป็นไรครับคราวหน้าขอโปร 1แถม 1 นะครับ ....


โดย: ตากุ๊ก IP: 58.9.46.7 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:43:23 น.  

 
ดีนะเนี่ยเข้ามาอีกรอบก่อนปิดคอม
ในที่สุดหมอธีร์ก็มา

พี่ฬีเปลี่ยนโปรเถอะค่ะ
อยากอ่านอีกอะ
หมอธีร์


โดย: กุ๊กกิ๊ก IP: 124.120.217.162 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:44:19 น.  

 
ทำการบ้านรอหมอธี..

ในที่สุดก็สำเร็จ

ฮิ..ฮิ


โดย: หนอนฮับ IP: 202.12.73.3 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:46:46 น.  

 
หึๆ นางมารกำลังจะสิงร่างคุณครูสาวรึเปล่านะ

งี้คุณครูพี่ธีร์ก็ยุ่งเลยสิ


โดย: โบ IP: 58.8.128.207 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:57:55 น.  

 
อ่านจบแล้ว รู้สึก คู่แข่ง ของขวัญน่ากลัวจัง อย่างนี้ต้องให้แองจี้มาช่วยแล้ว


โดย: ตากุ๊ก IP: 58.9.46.7 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:1:03:35 น.  

 
เชอะๆๆ

มารยาหญิง

-*-


โดย: GoOsHa!R IP: 202.44.135.39 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:1:09:41 น.  

 
Thank you ka.
Tomorrow is mother's day na ka
Everyone doesn't forget to buy ma-ri to mum na ka. Love mum ka.


โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:3:43:45 น.  

 
คุณหมอมาแล้วววววววว


โดย: อัน IP: 58.8.169.97 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:7:23:35 น.  

 
ตื่นมาอ่านยามเช้าาาาา
เหอๆๆ ช่วงนี้อ่านตอนเช้าท่าจะดีกว่าค่ะ

ไม่ชอบหมอรวินันท์เลยอ่ะ




โดย: pond (pondsomby ) วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:7:29:03 น.  

 
อยากอ่านต่อจังเลย จะทนถึงวันจันทร์หน้าได้ใหมหนอ มีรวมเล่มวางขายยัง อยากได้มากๆเลย


โดย: meen IP: 192.168.103.47, 61.7.143.159 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:8:27:04 น.  

 
เจอคำผิดค่ะ
- หล่อนมองเหม่อไปเบื้องโดยไม่มีจุดหมาย
-“เชิญเถอะจ้ะ...ถ้าเขายอมเชื่อนะ” เธอท้อ ประกายตาแสดงความขบขัน

รอรวมเล่มอยู่นะคะ


โดย: Ly IP: 124.120.63.74 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:8:38:06 น.  

 
หมอรวินันท์จะแย่งหมอธีร์เหรอค่ะ ฮึมฮึม อยากอ่านต่ออีกค่ะ


โดย: winnie.the.noon IP: 58.8.75.179 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:9:00:16 น.  

 
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ


โดย: เอื้อ IP: 10.6.147.73, 202.28.183.10 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:9:01:40 น.  

 
อาจารย์สาวนี้ ไม่ใช่ย่อยเลยนะ
แต่ว่าพระเอกเราจะตามทันรึเปล่าเนี้ยเรื่องมารยาของผู้หยิงนะ


โดย: ngek IP: 203.144.220.243 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:9:03:27 น.  

 
ทำไมรู้สึกไม่ค่อยชอบหมอรวินันท์คนสวยเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย


โดย: panon IP: 203.158.141.254 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:9:23:37 น.  

 
แหม แหม อ.หมอธีร์มีคุณแม่ทันสมัยซะด้วยอ่ะ


โดย: นู๋หยง IP: 202.143.150.93 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:9:52:35 น.  

 
ตายแน่หมอธีร์ เจอมารยาหญิงเข้าให้


โดย: ฟ้าเคียงเดือน IP: 58.9.105.172 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:14:25:36 น.  

 
อยากเปลี่ยนโปรแล้วค่ะ คุณฬี

จะได้ชื่นใจนานๆ


โดย: cerebrate IP: 118.173.239.103 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:14:58:44 น.  

 
อยากให้ลงมากว่านี้จังเลย.....รุ้สึกกระตุ้นความรู้สึกอย่างมาก


โดย: aoi'pit IP: 61.19.22.180 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:16:44:10 น.  

 
น่าติดตามจังเลยค่ะ


โดย: ฟ้า IP: 124.122.224.58 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:18:05:05 น.  

 
มาอ่านพี่หมอคลายเครียด

คะแนนกลางภาคออกแล้ว แล้วก็ตกไปเรียบร้อยแล้ว ^^ ตอนนี้เลยอยู่ในช่วงปรับปรุงตัว ฟิตสู้กับปลายภาคค่ะ


โดย: มู๋ IP: 10.90.6.19, 202.28.181.7 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:20:27:22 น.  

 
มีการชิงตำแหน่งนางเอกกันด้วย สนุกมากเลยค่ะ.....*v*


โดย: นู๋เต่า IP: 61.90.24.84 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:21:49:32 น.  

 
ของขวัญน่ารักที่สุด
ส่วนหมอธีร์ .. ดีเกินไป หมั่นไส้ค่ะ ฮ่าๆๆๆ



โดย: PINGPING IP: 70.224.52.127 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:22:44:13 น.  

 
อยากให้ถึงวันจันทร์เร็วๆจังค่ะ


โดย: pauline IP: 112.143.48.61 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:23:25:16 น.  

 
ชอบหมอธีร์มากๆค่ะ


โดย: ปูน IP: 125.27.244.11 วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:13:24:16 น.  

 
เจ้าเล่ห์จังเลยคุณหมอรวินันท์นี่ คิดจะจับหมอธีร์เหรอ อย่าหวังเลย ต้องผ่านด่านของขวัญก่อน

พี่ฬีฬาอยากได้บทของขวัญแบบเพลงพิณเอาร้ายนิดๆ หรือมากกว่าเพลงพิณก็ได้ น่ารักดี

ลงสัปดาห์ละ 2 ตอนไม่ได้เหรอ


โดย: jieb IP: 192.168.0.98, 61.19.69.30 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:13:50:06 น.  

 
“เชิญเถอะจ้ะ...ถ้าเขายอมเชื่อนะ” เธอท้อ ประกายตาแสดงความขบขัน

ไม่แน่ใจว่าพิมพ์ผิดรึเปล่านะคะ
เพราะคุณแม่ไม่น่าจะท้อนะคะ


โดย: MadamMim IP: 203.149.31.118 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:17:36:41 น.  

 
ถ้าหากเป็นคนกลับผีเหมือนใครบางคน

น่าจะเป็นถ้าหากเป็นคนกลัวนะคะ


โดย: แตงกวา IP: 61.7.185.246 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:22:28:37 น.  

 
ยิ่งอ่านยิ่งมันส์ค๊า
อ่านรวดเดียวเลย
สนุกมากๆๆค่ะ
เเล้วจะเเวะมาอีกนะค่ะ


โดย: fordear วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:22:37:29 น.  

 
คุณฬี

อย่าลืมที่เคยขอนะคะ ขอของขวัญให้แรงๆกว่าเพลงพิณหน่อย คุณครูสาวจะได้สะอึกมั่ง คือไม่ชอบพวกมั่นใจไร้สติค่า เพราะเราเป็นคนเดียวก็พอละ !_!


โดย: โบ IP: 115.67.102.100 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:3:36:21 น.  

 
มารอแล้วนะคะนู๋ฬี


โดย: นู๋กบ IP: 192.168.16.1, 202.129.44.130 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:23:37:30 น.  

 
Waiting too ka.


โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:3:41:49 น.  

 
แว๊บมาดู ว่าแล้วคุณฬียังไม่มา เดี๋ยวมาดูตอนดึกๆอีกรอบ ระหว่างรอกลับไปอ่านตั้งแต่ตอนแรกก่อนจะได้ต่อเนื่อง...
ปล.คุณฬีไม่ต้องเกรงใจ เอามาทีละ 2-3 ตอนก็ได้นะค๊าบ...หุหุหุ...ขอบคุณค๊าบ


โดย: ตากุ๊ก IP: 61.90.124.35 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:20:41:32 น.  

 
ไม่เข้าใจว่าทำไมหมอธีร์ถึงเข้างานแต่ตอนเที่ยงคืน จะรอถึงตอนนั้นคงไม่ไหว เพราะพรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า กว่าจะว่างมาอ่านอีกทีก็คงเย็นพรุ่งนี้ เซ็งเป็ดเลย


โดย: himawari IP: 210.86.222.116 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:21:37:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.