พะนอขวัญ บทที่ ๑๖
พะนอขวัญบทที่ ๑๖ แล้วแกก็ชวนคุณพระเอกนั่นกินข้าวด้วย...แน่มากเพื่อนแพง พะนอขวัญส่ายหน้าไปกับเสียงหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจของเพื่อนสาวซึ่งคุยกันทางโทรศัพท์หากสายตาและมือยังคงง่วนอยู่กับการเพนต์เสื้อ หลังจากกลับมาที่อพาร์ทเมนต์เธอก็มาเพนต์เสื้อต่อเพราะชอบทำงานตอนกลางคืนอยู่แล้ว สนุกนักนะแกว่างมากสิคืนนี้ หญิงสาวแอบแขวะนิดหน่อย กลางดึกอย่างนี้ว่าที่คุณหมอที่กำลังอยู่เวรก็โทรศัพท์มาหาเพื่อนคุยแก้ง่วงเพราะเนตรารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่เคยนอนก่อนเที่ยงคืน เออ...ขอว่างๆบ้างเหอะ แล้วตกลงแกคิดยังไงกับเขาวะ เนตราลดเสียงลงในประโยคหลังแม้จะตื่นเต้นที่มีชายหนุ่มสุดหล่อ โปรไฟล์เลิศสุดๆ มาจีบเพื่อนสาว แต่เมื่อความตื่นเต้นผ่านไปแล้วความเป็นห่วงก็เริ่มเข้ามาแทนที่ เรื่องราวของ น่านฟ้าอังสนา ไม่ได้หายากในโลกยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างนี้แค่พิมพ์ชื่อลงไปในเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล เรื่องราวของน่านฟ้าก็ขึ้นมาพรึบเลยทีเดียวแต่ทุกอย่างก็เป็นเพียง ข่าวเท่านั้น ไม่รู้ว่าความจริงมีอยู่มากน้อยเท่าใด อือ...ไม่รู้เหมือนกันว่ะพะนอขวัญหยุดมือที่กำลังตวัดพู่กัน คำตอบที่ให้เพื่อนไม่ได้โกหกเพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับคุณพระเอกตาคมกันแน่ ถ้าถามว่ารู้สึกดีกับเขาไหม...ก็ใช่ ถ้าถามว่าหวั่นไหว...ก็ไหวหวั่น ถ้าถามว่าลึกซึ้ง...กว่านั้น คำตอบก็ยัง...ไม่ชัดเจน เออนะ ยังไงแกก็ดูดีๆก็แล้วกัน ท่าทางไม่ใช่เล่นอยู่นะคุณพระเอกของแกนะเนตราอดเตือนเพื่อนอย่างเป็นห่วงไม่ได้เพราะแน่ใจว่าพะนอขวัญคงไม่เคยสนใจบรรดาข่าวกอสซิปในพวกหนังสือพิมพ์หรืออินเตอร์เน็ตแน่ๆ ภาพคู่ของคุณพระเอกกับเซเลปริตี้สาวคนดังและคำแซวแบบหยิกแกมหยอก หือ...แกรู้อะไรมาหรือเปล่าเนี่ยพะนอขวัญพอเดาคำพูดของเพื่อนสาวได้ อืม...ฉันก็แค่อยากรู้อยากเห็นเรื่องคุณพระเอกของแกนิดหน่อยเนตราจึงเล่าข่าวกอสซิปให้เพื่อนสาวฟัง ดาริกา...อ๋อ...พะนอขวัญเอ่ยทวนชื่อของหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวกับน่านฟ้าภาพสาวสวยที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรผุดขึ้นมา อะไร...นี่แกรู้จักเหรอเนตราถามอย่างแปลกใจ อืม...ก็เคยเจอจนถึงตอนนี้เธอยังจำรอยยิ้มและแววตาเย็นชาของคุณพระเอกในเช้าวันนั้นนึกถึงทีไรก็ขนลุกขนพอง ยังคิดอยู่ว่าไฮโซสาวคนนั้นไม่รู้สึกกลัวบ้างหรืออย่างไร อะไร...ยังไงเล่ามาเลยเพื่อน นี่ไอ้เนตร...ฉันว่าแกกระตือรืนร้นไปนะ แหมๆก็เพื่อนจะลงจากคานทั้งที ก็ต้องสนใจหน่อยสิ สนใจเยอะไปแล้ว...พะนอขวัญหัวเราะเบาๆ ไม่ได้เคืองเพื่อนสาวเพราะถ้าเป็นเรื่องของเนตรา เธอเองก็คงจะสนใจอยู่ไม่น้อย น่านฟ้ามองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานแล้วเหลือบไปยังเลขานุการที่ตามเข้ามาในห้อง เขาทรุดลงนั่งเก้าอี้รอยยิ้มของไตรดูระรื่นกว่าปกติ ยิ้มอะไรของนายแต่เช้า หืม...ผมก็แค่ยิ้มตามบอสเห็นบอสดูอารมณ์ดี ไตรตอบก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่พยายามกลั้นหัวเราะมองเจ้านายที่เอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ มองเขาด้วยสายตาดุดันหากเขารู้ว่าตอนนี้น่านฟ้ากำลังอารมณ์ดี สามารถที่จะล้อเล่นได้...นิดหน่อย ไม่ค่อยได้เห็นน่านฟ้าแสดงอารมณ์แบบนี้บ่อยๆหรอก เฮอะ...ไร้สาระน่านฟ้าคำรามในลำคอเบาๆ รู้สึกแปลกใจที่เผลอแสดงอารมณ์ให้ไตรจับได้ง่ายๆ แบบนี้ ใช่ล่ะ...เขาอารมณ์ดี ตั้งแต่เมื่อคืนที่เสียงหวานๆ นั่นเรียกเขาไว้แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานหากทำให้เขารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจจนถึงตอนนี้ได้อย่างน่าประหลาด น่านฟ้าสบตาแพรวพราวของเลขานุการหนุ่มแล้วเลิกคิ้วเป็นสัญญาณให้ไตรหยุดล้อเลียนเขาได้แล้ว ไตรกระแอมเบาๆก่อนจะเริ่มทบทวนตารางงานในวันนี้ของเจ้านายซึ่งยังแน่นเหมือนกับทุกวัน ครับๆถ้าอย่างนั้นก็ตารางงานวันนี้นะครับตอนสิบโมงเอเจนซีจะมานำเสนอโฆษณาของโปรเจคคอนโด ตอนเที่ยงมีนัดรับประทานอาหารกับกลุ่มธนาคารที่สโมสรตอนบ่ายไปดูไซต์งาน แล้วก็เอกสารด่วนอยู่ในแฟ้มแดงขอก่อนเที่ยงนะครับส่วนแฟ้มดำไม่ด่วนมาก แต่ถ้าได้เย็นนี้จะดีมากครับอ้อ...เย็นนี้ไปงานวันเกิดคุณหญิงเกศแก้วกับท่านรองฯ ครับ อันสุดท้ายนี่ฉันเพิ่งรู้ตัวนะ น่านฟ้าหรี่ตา ผมก็เพิ่งทราบก่อนหน้าบอสนี่แหละครับเลขาของท่านรองฯ แจ้งมาให้ผมใส่ลงในตารางงานของบอสเมื่อเช้านี้ ไตรตอบหน้าตายพยายามกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์ อืม...หมดแล้วใช่ไหม น่านฟ้าพยักหน้า ครับ...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว ไตรค้อมศีรษะนิดๆ แล้วออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม โดยที่น่านฟ้าเริ่มเปิดแฟ้มเอกสาร คุณแม่...ยังไม่ยอมอีกสินะ น่านฟ้าระบายยิ้มออกมาช้าๆ เสียงเรียกชื่อดังโหวกเหวกมาจากด้านหลังทำให้พะนอขวัญต้องวางดินสอแล้วหันไปทางต้นเสียงมัทวียิ้มกริ่มพร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะตัวเองตรงมายังรุ่นน้องสาว หยุดทำงานได้แล้วแพง ถึงเวลาทำสวยแล้ว พะนอขวัญขมวดคิ้ว เหลือบมองนาฬิกา ยังไม่ห้าโมงเย็นเลย โหย...อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลา ไม่ได้จ้ะ น้องเจ๊จะออกงานทั้งทีจะสวยฉุกละหุกไม่ได้นะจ๊ะ มัทวีส่ายหน้า อะไรของแกวะไอ้แป๋ว สวยฉุกละหุกของแกนี่ โตมรตะโกนแซวมาจากหลังห้อง เออ...ก็สวยแบบเร่งแบบรีบไงแบบนั้นแป๋วไม่นิยม มัทวีหันไปตอบแล้วสะบัดหน้ากลับมาเพราะเสียงหัวเราะอย่างไม่เกรงอกเกรงใจของโตมร ไอ้แพงวันนี้ต้องสวยต้องเลิศเจ๊ว่าวันนี้แกต้องเจอเนื้อคู่เป็นหนุ่มไฮโซแน่มัทวีเอ่ยกลั้วหัวเราะ หากคนถูกแซวกลับยิ้มแหยๆ พะนอขวัญกลืนน้ำลาย ก็ไม่ค่อยอยากจะนึกภาพตามที่มัทวีว่าหวังว่าคงไม่บังเอิญไปเจอเข้าให้หรอกหากก็ฝืนเอ่ยตอบโต้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายผิดสังเกต แหม... แพงนิยมหนุ่มรักธรรมชาติเสียงเพลง และสันติภาพมากกว่านะเจ๊ แบบเฮียใช่ไหมไอ้แพง เสียงตะโกนจากหลังห้องดังมาอีก พวกมหาโจรไม่ต้องมาเสนอหน้าย่ะ ชิ้วๆ มัทวีหันไปโบกมือไล่คนคู่ปรับ ก่อนจะกลับมาดึงพะนอขวัญออกจากโต๊ะทำงาน มาๆ เนื้อคู่จะเจอไม่เจอไม่รู้ แต่งานนี้น้องเจ๊ต้องสวยไว้ก่อน เฮ้อ...ทำไมคนโลโซอย่างแพงต้องไปงานไฮโซด้วยเนี่ย พะนอขวัญถูกรุ่นพี่สาวไล่ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่เตรียมมาตั้งแต่เช้าเพราะไม่อยากกลับไปอพาร์ทเมนต์ให้เสียเวลานอกจากห้องทำงานและสตูดิโอแล้วบริษัทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างไม่ต่างจากบ้านเรียกว่าแทบจะใช้ชีวิตอยู่ได้เลยพะนอขวัญใช้เวลาไม่นานนักก็ออกจากห้องน้ำพร้อมกับชุดเดรสสั้นผ้าไหมสีไวน์แดง พักนี้ชีวิตธรรมดาของเธอชักเริ่มมีเรื่องไม่ธรรมดาเข้ามาบ่อยๆงานเลี้ยงที่เธอเคยไปอย่างมากก็แค่งานแต่งงานของเพื่อนของรุ่นพี่รุ่นน้องคนรู้จักแต่งานสังคมแบบที่เขาเล่าลือกันนั้นไม่เคยสัมผัสสักครั้ง และพะนอขวัญไม่คิดอย่างจะเหยียบย่างเข้าไปด้วย ชีวิตในแบบที่คุณพระเอกคนนั้นเป็นอยู่ หากคราวนี้ไม่ใช่เพราะน่านฟ้าหรอกแต่เป็นเพราะสิทธายื่นการ์ดสีทองสวยหรูมาให้เธอ บอกว่างานนี้ห้ามปฏิเสธ เจ้าของงานซึ่งเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัทระบุชื่อเธอมาด้วย ก็ดีใจหรอกนะที่มีคนให้ความสำคัญ...แต่มันก็รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ คงไม่น่าเหมาะกับเธอ โอ๊ะ...ใช้ได้เลยนะแพงเจ๊ดูทีแรกมันเรียบๆ ไปหน่อย สีได้ใจเจ๊จริงๆมัทวีมองชุดที่พะนอขวัญสวมอยู่ เดรสคอตั้งเปิดไหล่ทั้งสองข้างให้เห็นหัวไหล่กลมกลึงตัวเสื้อแนบไปกับทรวงอกและเอว ช่วงกระโปรงบานออกเล็กน้อยยาวเหนือเข่าสีไวน์แดงก็ขับผิวของพะนอขวัญให้ผ่องขึ้นอย่างที่เธอนึกไม่ถึง แม้ดีไซน์จะไม่หวือหวออะไรแต่การตัดเย็บประณีตบวกกับความสวยงามของผ้าไหมนั้นดูทำให้ดูเรียบหรูอาจจะไม่ใช่ชุดจากห้องเสื้อแบรนด์ดัง หากก็ไม่ได้ด้วยกว่า ผ้านี่เพื่อนแพงไปสั่งทอเองน่ะเจ๊แพงเห็นสีสวยดีก็เลยบอกให้ทำชุดให้หน่อย กว่าจะกล่อมให้ยอมทำแบบเรียบๆ ให้ได้นะพะนอขวัญเอ่ยกลั้วหัวเราะถึงเพื่อนที่เรียนด้วยกันแต่ตอนนี้เปิดร้านเสื้อผ้าที่เจ้าตัวออกแบบและตัดเย็บเองเธอกับเพื่อนคนอื่นก็แวะเวียนไปอุดหนุนเป็นระยะ แม้จะไม่ค่อยอยากไปแต่เมื่อต้องไปแล้วการแต่งตัวอย่างเหมาะสมกับงานก็เป็นการให้เกียรติทั้งเจ้าของงานและตัวเองชุดนี้เธอก็มองว่ามันพอใช้ได้เพราะเธอเองก็ไม่ใช่สาวไฮโซโก้หรูจะได้ต้องสวมชุดจากแบรนด์ดังไปประชันกับใคร อือ...ฝีมือดี เดี๋ยววันหลังเจ๊แวะไปดู เจ๊เข้าไปดูแบบในเว็บไซต์ก่อนก็ได้นะคะมีขายออนไลน์ด้วย มีชุดแซบๆ แนวเจ๊เยอะอยู่ ราคามิตรภาพสมกับคุณภาพค่ะเจ๊ พะนอขวัญรีบบอก นอกจากจะเป็นร้านเล็กๆ ในโครงการช็อปปิ้งเซ็นเตอร์แห่งหนึ่งแล้วเพื่อนเธอยังเพิ่มช่องทางการขายอีกอย่างซึ่งค่อนข้างจะได้ผลดีเสียด้วย จ้า แม่แบรนด์แอมบาสเดอร์ ตอนนี้มาแต่งหน้าทำผมได้แล้วมัทวีพยักหน้าให้พะนอขวัญนั่งลงที่เก้าอี้เพื่อที่เธอจะได้แต่งหน้าทำผมให้ พะนอขวัญนั่งลงอย่างว่าง่าย เพราะไหนๆรุ่นพี่สาวก็มีน้ำใจ เธอก็ไม่ขัดศรัทธา อีกทั้งฝีมือมัทวีก็ไม่ใช่แค่ราคาคุย พักใหญ่นั่นแหละกว่ามัทวีจะพอใจกับผลงานของตัวเองผมยาวของเธอถูกรีดให้เรียบตรง ก่อนจะรวบและมัดสูง ปล่อยปลายผมลงอย่างอิสระเปิดวงหน้าซึ่งถูกเติมแต่งให้ชัดขึ้น พะนอขวัญมองตัวเองในกระจก...ภาพที่สะท้อนออกมาก็ยังเป็นเธอไม่ได้เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ เพียงแต่มัทวีทำให้เครื่องหน้าของเธอเด่นขึ้นมาจนดูแปลกตากว่าปกติ โดยเฉพาะดวงตาที่ดูจะโดดเด่นขึ้นเป็นพิเศษ ตาแพงสวยนะ ผู้ชายคนไหนสบตาด้วยมีเผลอเดินตามแน่ มัทวีหัวเราะคิกคัก มองผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ แถมเมียเขาเดินตามมาด้วยหรือเปล่าเจ๊ พะนอขวัญขัดยิ้มๆ แหม...นี่ก็ช่างขัดคอ มัทวีตีเพี๊ยะเข้าให้ ก่อนจะมองหากล่องเครื่องประดับแล้วเปิดออก เออ...นี่ก็ฝีมือเพื่อนเราอีกล่ะสิ ต่างหูแบบเก๋คริสตัลใสสะท้อนแสงวาววับ ตรงแป้นเป็นคริสตัลรูปทรงกลมเม็ดใหญ่ห้อยระย้าด้วยด้วยคริสตัลเม็ดเล็กสามสายยาวน่าจะเกือบถึงไหล่ นอกจากต่างหูแล้วยังมีแหวนเป็นรูปนกยูงรำแพนหางฝังด้วยคริสตัลหลากสี ใช่แล้วค่ะเหมือนเจ๊นั่นแหละมีเพื่อนเปิดร้านโน่นนี่เพียบ แต่ก็แอบแพงอยู่นะเนี่ยเพราะโครงเป็นเงินชุบทองคำขาว คริสตัลก็สวารอฟด้วย พะนอขวัญเอ่ยพลางหยิบต่างหูมาสวมปกติแล้วเธอไม่ค่อยได้สวมเครื่องประดับ อย่างมากก็ต่างหูสักคู่ แต่ที่มีเยอะหน่อยก็คือปิ่นไม้เรียกว่าเห็นสวยถูกใจก็อดซื้อเก็บไว้ไม่ได้ มันก็สวยสมราคานั่นแหละแต่ก็ยังไม่แพงเท่าพวกติดป้ายแบรนด์ดังๆ มัทวีเอ่ยยิ้มๆ เด็กศิลปกรรมอย่างพวกเธอก็มักมีเพื่อนเปิดร้านโน่นนี่ด้วยตัวอยู่ไม่น้อยเพราะบางคนก็ทนกับระบบบริษัทไม่ได้ การทำงานเป็นเจ้านายตัวเองนั้นสบายใจกว่าก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มลุกคลุกคลานกันไป อันนั้นก็ต้องให้คนทรัพย์เยอะๆไปซื้อไงคะ เงินทองจะได้กระจายๆถึงรวยที่สุดจะเป็นเจ้าของแบรนด์แต่มันก็ตกไปถึงพนักงานคนงานบ้างล่ะ ส่วนเราทรัพย์น้อยก็ซื้อแบบพอประมาณนานๆ ค่อยซื้อของแพงบ้าง พะนอขวัญหัวเราะคำพูดตัวเอง ยังไงผู้หญิงกับของสวยๆ งามๆ ก็เป็นของคู่กันแล้วแต่ว่าใครจะจัดการกับเงินในกระเป๋าตัวเองยังไงไม่ให้เดือดร้อน เออ...ก็ถูกของแพง มีตังค์เยอะอยากซื้อของแพงก็ซื้อไปแต่พวกตังค์ก็ไม่ค่อยจะมีแต่อยากจะใช้ของแพงจนต้องเป็นหนี้เป็นสิน หรือหาเงินผิดๆนี่ล่ะน่าเหนื่อยใจ มัทวีเอ่ยอย่างเห็นด้วยก่อนจะมองสำรวจพะนอขวัญอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง โอเค...สวยล่ะ ขอบคุณเจ๊มากนะคะพะนอขวัญเอ่ยขอบคุณ แล้วช่วยรุ่นพี่สาวเก็บข้าวของ ไม่นานก็เดินกลับมาที่ห้องแผนกเสียงเป่าปากโห่ร้องแซวดังขึ้นเมื่อสองสาวก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนเลิกสนใจสิ่งอื่นหันมามองพะนอขวัญโดยเฉพาะ นานๆ จะได้เห็นพะนอขวัญแต่งตัวเต็มยศขนาดนี้ ไอ้แพงแต่งตัวมาทำงานแบบนี้ทุกวันดีไหมวะโตมรปรี่เข้ามาหารุ่นน้องสาวเป็นคนแรก วันไหนพะนอขวัญองค์ลงก็สวมกระโปรงสวยๆมาบ้างหรอก แต่ยังไม่เคยเห็นแนวนี้ ไม่ดีหรอกเฮีย...เปลืองเงิน คำตอบของพะนอขวัญได้รับเสียงหัวเราะและเสียงเป่าปากอย่างถูกใจรวมทั้งโตมรเองด้วย เจ๊ถึงบอกว่าแพงจะเจ๊เนื้อคู่ทั้งหล่อทั้งรวยไง มัทวียักคิ้ว มุ่งมั่นย้ำคำทำนายของตัวเอง พะนอขวัญหัวเราะแห้งๆนี่ถ้ามัทวีรู้ว่ามีผู้ชายที่เข้าข่ายคำพูดมาวนเวียนอยู่ใกล้ตัวเธอไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เอ่อ...ยังไม่ถึงเวลานัดของพี่สิทธิ์เลยแพงหาอะไรกินก่อนดีกว่า เปลี่ยนเรื่องไปให้ไกลดีกว่าแต่เธอก็เริ่มหิวนิดๆ ล่ะ หาอะไรรองท้องไปก่อนน่าจะดีกว่า ไม่รู้ว่างานแบบนั้นเขามีอะไรบ้าง อ่ะ...อย่าบอกว่าจะออกไปหาอะไรทานข้างนอกในชุดแบบนี้นะไม่เอานะยายแพง มัทวีตาโต แค่ไปหาอะไรในห้องครัวเองเจ๊น่าจะมีพวกขนมกับผลไม้เหลืออยู่บ้างล่ะ พะนอขวัญรีบตอบเธอก็คงไม่กล้าออกไปข้างนอกทั้งที่ทรงเครื่องใหญ่ขนาดนี้หรอก เออ...งั้นเจ๊ไปด้วย หิวเหมือนกัน มัทวีพยักหน้า และก็มีเสียงตะโกนเซ็งแซ่ว่าหิวด้วยเหมือนกันมัทวีแสยะยิ้มแล้วปรายตามองเพื่อนร่วมงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ย่ะ...ใครอย่าคิดเบี้ยวค่าของกินส่วนรวมคราวนี้อีกนะ แม่จะด่าเปิงให้ พะนอขวัญหัวเราะคิกคักเพราะทุกครั้งที่มัทวีเก็บเงินกองกลางสำหรับซื้อเสบียงส่วนกลางมักมีเสียงโอดครวญเสมอ แต่ก็ไม่มีใครเบี้ยวมัทวีได้สักคน คุณแพง...อยู่พอดีเลยมีคนส่งของมาให้ค่ะแม่บ้านของบริษัทเปิดประตูเข้ามาให้ห้องแผนกออกแบบ มองหานักออกแบบสาว โอ้โห...คุณแพง สวยจังเลยนะคะ ขอบคุณคุณค่ะป้า ใครส่งอะไรมาให้เหรอคะ พะนอขวัญเดินมารับถุงใบใหญ่เธอมองเข้าไปข้างในก็พบกว่าเป็นกล่องพลาสติกวางซ้อนกันอยู่สามกล่อง ไม่ทราบเหมือนกันค่ะมีแมสเซนเจอร์เอามาส่งให้ ป้าอยู่ตรงพีอาร์พอดีก็เลยเอาขึ้นมาให้คุณแพงนี้แหล่ะค่ะ ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนให้ส่งมา ขอบคุณป้ามากนะคะ อุตส่าห์เอาขึ้นมาให้ พะนอขวัญยิ้มหวาน ค่ะ ป้าไปล่ะ แหม...แต่งสวยๆแบบนี้ทุกวันก็ดีนะคะ ป้าชอบ พะนอขวัญได้แต่ยิ้มตอบท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมงานเธอถือถุงกลับมาวางที่โต๊ะทำงานตัวเองโดยมีสายตามองตามอย่างอยากรู้อยากเห็นพะนอขวัญทำเฉยเสีย มีเพียงมัทวีที่เดินตามมา อะไรน่ะแพงรุ่นพี่สาวพยักพเยิด ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พะนอขวัญส่ายหน้า แต่ก็รู้สึกตะหงิดๆ ใจอย่างไรบอกไม่ถูก หยิบกล่องออกมาวางบนโต๊ะหากไม่เห็นกระดาษหรืออะไรส่งอย่างที่บ่งบอกว่าใครส่งมา เธอเปิดกล่องออกตามเสียงของมัทวี โห...แซนด์วิชน่ากินชะมัด มัทวีอุทาน ภายในกล่องแรกเป็นแซนด์วิชเรียงกันเต็มกล่องเธอมองหน้ารุ่นน้องก็เห็นรอยยิ้มแหยๆ อีกสองกล่องเป็นขนมปังกลมก้อนเล็กและขนมปังกระเทียมกลิ่นหอมฟุ้งชนิดเรียกให้ทุกคนเข้ามารุมเกาะกำแพงพาทิชั่นล้อมโต๊ะทำงานของพะนอขวัญ สงสัยเราจะมีอะไรกินแล้วล่ะพี่แป๋ว พะนอขวัญเอ่ยยิ้มๆ หวังว่าคงไม่ได้มีสีหน้าผิดปกติอะไรไปนะสายตาอยากรู้อยากเห็นของแต่ละคนที่พุ่งมาเหมือนโดนไมค์จ่อปากบังคับพูดยังไงยังงั้น พี่ก็ว่าอย่างนั้น... มัทวีลากเสียง รอยยิ้มขยายกว้าง มองรุ่นน้องสาวด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับอย่างถูกใจ ชักจะมีเรื่องสนุกๆ แล้วล่ะสิ พะนอขวัญพยายามยิ้ม...เธอเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่วางทิ้งไว้ที่โต๊ะตั้งแต่ออกไปแต่งตัวแสงกะพริบเตือนว่ามีสายเรียกเข้า เอ่อ...พี่แป๋วไปที่ห้องแพนทรีก่อนก็แล้วกันนะเดี๋ยวแพงตามไป พะนอขวัญเอ่ยเร็วๆคว้าโทรศัพท์แล้วก้าวแทบเป็นถลาไปยังประตูหน้าห้อง ของพวกนี้ล่ะมัทวีตะโกนตาม เอาไปทานกันก่อนเลยค่ะ พะนอขวัญตอบ ก่อนจะเปิดประตูแล้ววิ่งไปยังสุดทางเดินของตึกซึ่งมักไม่ค่อยมีคนอยู่แถวนั้น แกคิดว่าไงวะไอ้แป๋ว... โตมรเอ่ยขึ้นเมื่อร่างโปร่งออกจากห้องไปแล้ว ก็คิดว่า...เฮียน่าจะกินแห้วถาวรน่ะสิ มัทวีตอบยิ้มๆ ปกติกริยาของพะนอขวัญบ่งบอกว่าคนที่ส่งของเหล่านี้มาน่าจะเป็นคนพิเศษนั่นแหละ อืม... ไอ้แพงนะ ทำเฮียได้ โตมรแกล้งคำราม แต่สีหน้าแววตาไม่ต่างจากคู่ปรับเลยชักอยากรู้อยากเห็นซะแล้วสิ อยากเห็นหน้าคนที่ส่งของกินมาจีบสาวจริงๆแฮะ เสียงหนึ่งในเหล่านักออกแบบดังขึ้นมา น่านฟ้ายกมุมปากขึ้นเมื่อมีสัญญาณรอสายหายไปแล้วมีเสียงหวานๆ ดังขึ้นแทนเขากำลังจะตัดสินใจส่งข้อความแทนอยู่แล้วเมื่อพะนอขวัญยังไม่รับสายในครั้งที่สามเจ้าตัวคงติดธุระอะไรอยู่จึงไม่ได้รับโทรศัพท์ เมื่อตอนสายที่เขาโทรศัพท์หาเจ้าตัวก็ไม่ได้รับสายกว่าจะโทรกลับมาหาเขาก็เกือบเที่ยงเห็นว่ากำลังทำชิ้นงานอะไรสักอยู่ในสตูดิโอเลยไม่ทันได้สนใจโทรศัพท์ แต่การที่เธอโทรศัพท์กลับมาหาเขาก็ถือว่าอะไรบางอย่างเริ่มพัฒนาขึ้นบ้างละนะ ค่ะ...สวัสดีค่ะพี่ใหญ่ ครับ... รสชาติถูกปากน้องแพงไหม คะ...อื้อ พี่ใหญ่เป็นคนส่งมาเหรอคะ ครับ...น่านฟ้าอมยิ้ม อยากเห็นสีหน้าตอนนี้ของอีกฝ่ายจริงๆ ถ้าไม่ชอบก็บอกนะครับคราวหน้าพี่จะได้ปรับปรุง ยังไม่ได้ชิมเลยค่ะ แม่บ้านเพิ่งเอาขึ้นมาให้เมื่อกี้เอ๊ะ...นี่พี่ใหญ่ทำเองเหรอคะ น่านฟ้าอดหัวเราะน้ำเสียงประหลาดใจของอีกฝ่ายไม่ได้ ถ้าอร่อยคงต้องยกความดีความชอบให้คริสส่วนใหญ่ล่ะนะจำเพื่อนพี่ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารได้ไหม ขนมปังกับพวกชีสพวกแฮม วัตถุดิบทุกอย่างคริสเตรียมให้หมดพี่ก็แค่ช่วยทำแซนด์วิชนิดหน่อยน่านฟ้ามองเพื่อนที่กำลังจิบน้ำชาอยู่ที่โต๊ะ ส่วนเขาลุกออกมาโทรศัพท์อีกมุมหนึ่งฝ่ายนั้นยักคิ้วล้อเลียนเพราะรู้ว่าเขากำลังคุยกับใคร พอดีงานเสร็จเร็วหรอก เขาก็เลยมาทันได้ช่วยทำนิดหน่อย จำได้ค่ะ ฝากขอบคุณด้วยนะคะแต่ทำมาเยอะขนาดนี้ถ้าแพงทานหมดนี่แย่เลยนะคะ หึๆ จะทานหมดคนเดียวก็ได้นะพี่เลี้ยงไหว น่านฟ้าหัวเราะเบาๆเพราะน้ำเสียงปนเย้าแหย่ของหญิงสาว แต่ไม่รู้ว่าพอหรือเปล่านะครับพี่ไม่ทราบว่าจะอยู่กันกี่คนเขาเอ่ยถึงบรรดาเพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งของว่างที่ส่งไปให้นั้นเผื่อเพื่อนๆของพะนอขวัญด้วย แม้เวลานี้น่าจะเลิกงานกันแล้วแต่เชื่อได้ว่าคงยังอยู่ทำงานกันหลายคน แค่นี้ก็เยอะแล้วค่ะแล้วที่ออฟฟิศก็มีเสบียงติดอยู่บ้างค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปทานเถอะครับ...เดี๋ยวจะต้องไปงานแล้วใช่ไหม น่านฟ้าเอ่ย แม้จะยังอยากคุยกับเธออีก แต่เข้าใจว่าใกล้ถึงเวลาที่พะนอขวัญจะไปงานเลี้ยงอะไรสักอย่างกับเจ้านายตอนค่ำเขาจึงไม่ได้เอ่ยเรื่องที่จะชวนเธอไปงานเลี้ยงของคุณหญิงเกศแก้ว รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจว่างานเลี้ยงก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เพราะเขาเองก็เจออยู่เสมอ ถึงไม่ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจตอนแรก แต่เมื่อรู้ว่าพะนอขวัญจะไปงานเลี้ยงเขาก็เลยขอให้คริสเตรียมของว่างให้เพราะรู้ว่าบางทีอาหารในงานเลี้ยงต่างๆ อาจจะไม่ถูกปากหรือไม่ก็แทบจะไม่ได้ทานยิ่งไปกับเจ้านายด้วยก็จะเกร็งไม่น้อย รายนี้ยิ่งกินอะไรไม่ค่อยเป็นเวลาเสียด้วยสิ แล้ว...ถ้างานที่เขาจะต้องไปกับมารดาเลิกก่อนงานของพะนอขวัญก็ดีสิ ขอบคุณมากนะคะพี่ใหญ่ ครับ...ทานให้อร่อยนะ น่านฟ้าเดินกลับมายังโต๊ะที่เพื่อนสนิทนั่งอยู่ยังไม่มีลูกค้าเข้ามาในร้าน คริสจึงนั่งคุยกับเขาได้ เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ อุตส่าห์มาทำด้วยตัวเองทั้งทีทำไมไม่เอาไปให้เองล่ะ คริสถามอย่างข้องใจ เว้นจังหวะให้เขาได้คิดถึงบ้าง น่านฟ้าวางถ้วยชาลง เขามีความรู้สึกว่าระยะระหว่างเขากับหญิงสาวค่อยๆขยับใกล้เข้ามาทุกที หึๆ ก็ยังร้ายเหมือนเดิมนะ คริสหัวเราะอย่างถูกใจในสมองของน่านฟ้าไม่มีใครรู้ได้หรอกว่ามีอะไรซ่อนอยู่บ้าง แค่นี้ไม่เรียกว่าร้ายหรอก น่านฟ้าหัวเราะในลำคอ แต่ก็ไม่เคยเห็นนายทำแบบนี้มาก่อนนะคริสเอ่ยยิ้มๆค่อนข้างแน่ใจว่าหญิงสาวรายนี้น่าจะเป็นคนพิเศษมากทีเดียว เพราะไม่ใช่บ่อยๆที่น่านฟ้าจะลงมือจัดแจงทำอะไรเองหรอก เมื่อก่อนจะส่งดอกไม้ให้ผู้หญิงก็แค่สั่งเลขานุการคำเดียวฝ่ายนั้นจะส่งอะไรให้ก็แทบไม่ได้สนใจ อืม...นั่นสิน่านฟ้าพยักหน้านิดๆ ไม่ใช่ไม่เคยมีแฟนแต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรให้ผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน แต่สำหรับพะนอขวัญแล้วอะไรบางอย่างกระตุ้นให้เขาอยากลงมือเอง นั่นสิ...ไม่ใช่บังเอิญที่เขาทำงานเสร็จเร็วจึงมาที่ร้านคริสทันเวลาหรอกแต่เป็นเพราะเขาพยายามเร่งทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดต่างหาก แสดงว่า...คนนี้พิเศษมากใช่ไหมล่ะ เขาอยากฟังให้แน่ใจจากปากเพื่อนจริงๆ น่านฟ้าเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนก่อนจะยกมุมปากขึ้นน้อยๆ มีไม่กี่คนหรอกที่เขาจะพูดเรื่องส่วนตัวได้อย่างสนิทใจคริสเป็นเพื่อนที่เรียกได้ว่าสนิทที่สุดและก็น่าจะพอเดาใจเขาได้อยู่บ้าง ก็...คิดว่าถ้าอีกห้าสิบปีข้างหน้ามีเขาอยู่ด้วยก็น่าจะดี
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2556 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2556 10:09:59 น. |
|
40 comments
|
Counter : 6092 Pageviews. |
|
|