ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
ได้เวลารัก บทที่ ๑๐

สวัสดีค่ะ หายไปหลายวัน

มัวแต่ลั่นล้ากับหน้าร้อน(จริงๆ) ไปหน่อย

สงกรานต์นี้ขอให้คุณนักอ่านทั้งหลายมีความสุขถ้านหน้ากันนะคะ




....................................................




ได้เวลารัก บทที่ ๑๐





เสียงน้ำถูกกระแทกดังแว่วมาทำให้เด็กชายชะงัก หยุดเดินแล้วหันมองหาต้นเสียง ทางเดินปูด้วยหินไม่กว้างนักสองข้างขนาบด้วยต้นไม้ เวลาทุ่มกว่าทำให้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว แต่แสงจากโคมไฟริมทางเดินตลอดระยะก็ช่วยให้แสงสว่างได้มากทีเดียว

เสียงอะไรบางอย่างกระแทกน้ำดังชัดเจนยิ่งขึ้น เด็กชายเงี่ยหูฟัง จับทิศทางแล้วเดินไปพิสูจน์ เสียงนั้นดังมาจากหลังพุ่มไม้

มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลังพุ่มไม้

เด็กชายเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาเห็นสระว่ายน้ำใหญ่อยู่ติดชายหาด สามารถว่ายน้ำในสระพร้อมกับมองเห็นทะเลไปด้วย แต่ไม่นึกว่าจะมีสระว่ายน้ำอยู่ในสวนด้วย

อืม...โรงแรมใหญ่ขนาดนี้จะมีสระว่ายน้ำสักสองสามสระคงไม่แปลก

หากที่ทำให้เขาแปลกใจในตอนนี้ก็คือต้นกำเนิดเสียง

เวลานี้อาจจะยังถือว่าหัวค่ำ เขาเห็นผู้ใหญ่หลายคนยังใช้สระว่ายน้ำด้านติดชายหาดอย่างสนุกสนาน แต่ไม่ใช่เวลาที่เด็กผู้หญิงจะมาเล่นน้ำคนเดียว แม้จะเป็นในสระเล็กสำหรับเด็กก็ตาม

เด็กชายเดินเข้าไปใกล้ แต่เด็กหญิงยังไม่รู้ตัว เพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตาว่ายน้ำ...โดยที่เจ้าตัวเกาะแผ่นโฟมสำหรับหัดว่ายน้ำ

ขณะกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี เพราะถึงจะยังเป็นเด็กชายแต่เขาก็เรียนว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ชำนาญพอสมควร เขารู้ว่าไม่ควรที่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมาว่ายน้ำอยู่คนเดียวโดยเฉพาะตอนค่ำแบบนี้

เด็กหญิงลองปล่อยแผ่นโฟมสำหรับหัดว่ายน้ำแล้วลองว่ายด้วยตัวเอง แต่เตะขาไปได้แค่ไม่กี่ครั้งก็รู้สึกไม่ไหว เหมือนจะจมลงก้นสระ

ก่อนที่จะจมเด็กหญิงรู้สึกว่ามีแรงดึงจากข้างบนลากเธอขึ้นมาจากสระ ร่างเล็กๆ นั่งแปะอยู่ข้างสระ ดวงหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เป็นเจ้าของแรงดึง

“มาเล่นน้ำคนเดียวได้ยังไงกันคุณหนู มันอันตรายรู้ไหม” เด็กชายสบตาใสแจ๋วของเด็กหญิงที่เขาดึงขึ้นมาจากสระก่อนที่จม นี่ถ้าเขาไม่มาเดินเล่นสำรวจแถวนี้อาจจะมีเรื่องเศร้าได้

“Are you OK?” เขาเปลี่ยนภาษาเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงเอาแต่มองเขาตาโต บางทีเด็กหญิงอาจจะไม่ใช่คนไทย เพราะแขกของโรงแรมนี้เขาก็เห็นมีมาจากหลายชาติ

“เวไม่เป็นไรค่ะ” คำพูดภาษาไทยของเด็กหญิงทำให้เด็กชายโล่งใจ เพราะเขากำลังนึกคำในภาษาต่างๆ เผื่อว่าเด็กหญิงจะพูดได้แค่ภาษาบ้านเกิดเท่านั้น ความจริงภาษาที่เขาพูดได้คล่องก็มีเพียงสามภาษาก็คือภาษาไทย ภาษาบ้านเกิดบิดา และภาษาอังกฤษ ส่วนฝรั่งเศสกับอิตาเลียนนั้นพูดได้นิดหน่อย

“ขอบคุณค่ะ” เด็กหญิงกล่าวพร้อมกับพยายามยิ้มแต่ยังเป็นยิ้มแหยเพราะยังคงตกใจ เธอรู้ว่าถ้าไม่ถูกอีกฝ่ายดึงขึ้นมาอาจจะจมน้ำก็ได้

เด็กชายพยักหน้า ยกมือลูบเส้นผมเปียกของเด็กหญิงเบาๆ ก่อนจะเอ่ย “ทำไมมาหัดว่ายคนเดียวล่ะครับคุณหนู มันอันตรายรู้ไหม”

เด็กหญิงกัดปาก สบตาคมที่ฉายแววดุหากมีแววห่วงใยปะปนทำให้รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเยอะ หากก็อดแก้ตัวเสียงอ่อยไม่ได้

“ก็...เวอยากว่ายน้ำเป็นเร็วๆ”

เด็กชายมองดวงหน้าเล็กๆ นัยน์ตาแจ่มแจ๋วนั้นทำให้นึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก แต่สิ่งที่เด็กหญิงทำก็น่าเป็นห่วง

“แต่มันอันตรายนะ ถ้าอยากหัดต้องมีคนคอยดูแล คุณพ่อคุณแม่อยู่ที่ไหนครับ”

“คุณพ่อไปทำงาน” เด็กหญิงตอบ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ก็เวอยากเซอร์ไพรส์นี่นา”

“ไม่ได้ครับ ยังไงก็ห้ามฝึกเองเป็นอันขาด ห้ามลงสระว่ายน้ำคนเดียว” เด็กชายเสียงแข็ง แต่หน้าเสียของเด็กหญิงก็ทำให้เขาใจอ่อน ลดเสียงแข็งให้นุ่มนวลลง “ถ้าคุณหนูเป็นอะไรขึ้นมา คุณพ่อจะเสียใจรู้ไหมครับ”

เด็กหญิงตาแดงๆ แต่พยายามกลั้นสะอื้น

“แล้วจะให้เวทำยังไงคะ ก็คุณพ่อต้องทำงาน”

เด็กชายถอนหายใจช้าๆ คิดไม่ออกเหมือนกัน ที่เขาต้องมาเดินเล่นคนเดียวก็เพราะบิดาเองก็ทำงานเหมือนกัน แม้กระทั่งมาพักผ่อนอย่างนี้บิดาก็หอบงานมาทำด้วยเสมอ

“ว่ายน้ำเป็นไหมคะ”

เด็กชายเลิกคิ้วกับคำถาม หากก็พยักหน้า

“สอนเวได้ไหมคะ”







เอเธนส์ก้าวขึ้นจากสระว่ายน้ำ ไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองมา แม้ว่าจะเกือบสองทุ่มแล้วแต่สระว่ายน้ำของโรงแรมก็ยังมีคนใช้บริการอยู่ไม่น้อย ทั้งที่ว่ายน้ำแบบเดียวกับเขาและคนที่มานั่งเล่นดื่มด่ำบรรยากาศ

หลังจากเสร็จงานในช่วงเย็น ทางทีมงานบอกว่าวันนี้จะมีปาร์ตี้เล็กๆ ตอนมื้อเย็น เขาไม่ได้สนใจนัก เพราะปกติก็ไม่ค่อยเข้าไปร่วมงานปาร์ตี้อยู่แล้ว ยิ่งวันนี้ที่มีข่าวของเขากับเวเนเซียทางหน้าหนังสือพิมพ์และยังมีช่อดอกรักส่งมาให้อีก

เขารู้ว่าไม่มีใครกล้าถามเขาโดยตรง แต่การไปนั่งให้คนจ้องก็เป็นเรื่องที่เขาไม่อยากจะทำ

เมื่อกลับขึ้นห้องพักแล้วหลับไปงีบหนึ่งเขาจึงเลือกลงมาว่ายน้ำ ซึ่งช่วยได้ทั้งแก้เครียดและทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า กล้ามเนื้อได้ทำงานอย่างเต็มที่ อารมณ์ดีขึ้นมาก

ริมฝีปากได้รูปสวยคลี่ยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ

การพบกันครั้งแรกของเด็กสองคน



“คุณเอเธนส์ มาอยู่ที่นี่เอง”

เอเธนส์ชะงัก ใบหน้าที่กำลังเกลื่อนยิ้มกลายเป็นเรียบเฉย ทำให้คนที่รีบเดินเข้าหาแทบสะอึกทีเดียว เอเธนส์หยิบเสื้อคลุมที่วางทิ้งไว้บนเก้าอี้ริมสระมาสวม ผูกเชือกคาดเอว ก่อนจะมองนางแบบสาวที่เดินมาอยู่ตรงหน้า

“ปาร์ตี้เริ่มแล้วนะคะ” รานียิ้มหวาน เธอไม่เห็นเอเธนส์ในห้องอาหารกึ่งผับของโรงแรมที่ทีมงานจองโต๊ะไว้ ถามฟากฟ้าซึ่งได้พักห้องเดียวกับเอเธนส์ รายนั้นก็บอกว่าช่างภาพหนุ่มลงมาจากห้องแล้ว

เธอจึงแวบออกจากห้องอาหารมา พยายามมองหาเอเธนส์แล้วก็ค่อยโล่งอกเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่กำลังว่ายน้ำอยู่ในสระ เธอแทบอยากจะลงไปว่ายกับเขา แต่จนใจที่เปลี่ยนเป็นชุดเดรสสำหรับปาร์ตี้ไปแล้ว ไม่อย่างนั้นชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ที่พกมาด้วยคงจะทำให้เอเธนส์หวั่นไหวบ้างล่ะ จึงได้แต่เฝ้ามองเอเธนส์จนเขาขึ้นจากสระนี่แหละ

“ตามสบายครับ ผมขอตัวก่อน”

“แล้วคุณเอเธนส์จะไปร่วมปาร์ตี้ไหมคะ”

เอเธนส์ชะงักเมื่อจะก้าวแล้วถูกร่างโปร่งระหงก้าวมายืนขวางหน้า เขามองนางแบบสาวนิ่งๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะขยาดจนถอยหนีแทบไม่ทัน แต่ใช้ไม่ได้กับรานี

“อ้าว...คุณเอเธนส์ว่ายน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ” ฟากฟ้ารีบก้าวเข้ามาหาทั้งสองคนทันที เขาเห็นรานีหายไปจากห้องอาหารก็ยังไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเจ้าตัวอาจจะไปห้องน้ำหรือทำธุระส่วนตัว แต่เห็นหายไปนานมากก็เอะใจ เขาตรงมายังสระว่ายน้ำเพราะเอเธนส์บอกว่าจะไปว่ายน้ำ แล้วก็พบรานีจริงๆ

เปล่า...เขาไม่ได้มาตามรานีเพราะหึงหวง หรือไม่พอใจที่เจ้าตัวชอบเอเธนส์

เขาเกรงว่ารานีจะทำอะไรเลยเถิดให้พ่อมดไม่พอใจต่างหากเล่า เวทย์มนตร์ที่สร้างรานีขึ้นมาก็สามารถลบรานีออกไปได้เหมือนกัน

ถึงจะไม่ได้รักไม่ได้ชอบ...แต่เขากับรานีก็ทำงานด้วยกันมานานพอสมควร

ก็เลยต้องห่วงกันบ้าง เพราะรานีเองก็ใช่จะเป็นคนเลวร้ายอะไร

เอเธนส์พยักหน้านิดๆ อารมณ์คุกรุ่นที่เห็นท่าทางจะตามตื้อของรานีจางลงเมื่อเห็นฟากฟ้าโผล่มา

“ผมจะไปอาบน้ำล่ะ บอกทีมงานด้วยว่าไม่ต้องรอ แล้วผมจะตามไป” เขาเอ่ย แม้จะไม่ค่อยอยากไปสังสรรค์นัก แต่ก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

“ครับ...เดี๋ยวผมลุยล่วงหน้าไปก่อน” ฟากฟ้าหัวเราะเบาๆ มองเอเธนส์เดินจากไป ก่อนหันไปสบตาเขียวปัดของนางแบบสาว

“อีกแล้วนะ” รานีแทบกัดฟันกรอด

ฟากฟ้ายักไหล่

“ป่ะ กลับไปหาอะไรกินกันดีกว่า เรื่องอื่นก็ปล่อยๆ ไปบ้างเถอะ อะไรที่มันไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อย่าไปฝืนเลยน่า”

รานีสะบัดหน้า เดินนำนายแบบหนุ่ม

“ฉันแค่พยายาม...มันผิดตรงไหน”









พิมลวรรณกวาดสายตาเร็วๆ เมื่อมาถึงหน้าตึกเรียน ม้าหินอ่อนซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของนักศึกษามีคนนั่งอยู่ประปราย คงเพราะยังมีเวลาอีกนานก่อนจะถึงเวลาเรียนในคาบแรก ส่วนเธอนั้นมาเช้าเป็นปกติอยู่แล้ว และดูเหมือนจะมีเพื่อนในกลุ่มที่มาเร็วกว่า

“เป็นอะไรไปน้ำปิงหน้าตาซีเรียสเชียว” พิมลวรรณเอ่ยถามเพื่อนสนิทเมื่อทรุดนั่งลงบนม้าหินฝั่งตรงข้ามน้ำปิง

“เปล่าจ้ะ” น้ำปิงปฏิเสธ

“ถ้าเปล่าแล้วนี่อะไร” พูดจบก็ใช้นิ้วชี้จิ้มที่บริเวณหัวคิ้วของเพื่อนสนิทเบาๆ เธอเห็นน้ำปิงนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียวที่โต๊ะกลุ่ม

“ก็ไม่มีอะไร” น้ำปิงยังปฏิเสธ ทำให้อีกฝ่ายโคลงศีรษะในความปากแข็งของเพื่อน แล้วสายตาพิมลวรรณก็เหลือบเห็นแผ่นกระดาษที่ถูกหนังสือเรียนของน้ำปิงวางทับไว้ มือเร็วเท่าความสงสัยจึงดึงออกมาดู น้ำปิงตะครุบไว้แต่ไม่ทัน

พิมลวรรณมองแผ่นโฆษณากล้องถ่ายภาพตัวใหญ่ ก็เลิกคิ้ว เบนสายตากลับไปยังเพื่อนสนิท

“น้ำปิงจะซื้อกล้องเหรอ” พิมลวรรณถามอย่างแปลกใจ ขนาดกล้องคอมแพ็กตัวเล็กยังไม่เคยเห็นน้ำปิงใช้ แต่นี่กลับมาสนใจกล้อง DSLR ตัวใหญ่ เธอรู้จักกล้องถ่ายภาพบ้างเพราะพี่ชายก็ชอบเล่นกล้องตัวใหญ่ๆ แบบนี้

น้ำปิงพยักหน้า

“คิดไงเนี่ย ไม่เคยเห็นน้ำปิงสนใจ” พิมลวรรณยังถามต่อด้วยความสงสัย ปกติเรื่องที่น้ำปิงสนใจก็มีแค่เรื่องเรียนกับเรื่องเพลงเท่านั้น น้ำปิงชอบเพลงแนวอาร์แอนด์บี มีแผ่นซีดีสะสมไว้เป็นร้อยแผ่นเลย

“ก็...อยากถ่ายรูปสวยๆ น่ะ” น้ำปิงตอบอย่างอึกอักเล็กน้อย

“หืม...เอาจริงน่ะ” พิมลวรรณสบตาเพื่อนสนิท เห็นท่าทางเรื่อยๆ ไม่ค่อยจะสนใจอะไรรอบตัวเท่าไรอย่างนี้น้ำปิงก็เป็นประเภทจริงจัง ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วลุยเต็มที่

“อือ” น้ำปิงพยักหน้า

“ดีๆ เรายอมเป็นนางแบบให้เต็มที่ ไม่คิดค่าตัว” พิมลวรรณหัวเราะคิกคัก พลอยทำให้น้ำปิงหัวเราะไปด้วย “แล้วทำไมถึงมาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียวล่ะ” อดวกกลับมาเรื่องเมื่อครู่ไม่ได้

“ก็...” น้ำปิงอึกอัก ก่อนจะยอมเล่าเรื่องที่เธอไปที่แบล็กเพิร์ลเอเจนซี่ เธอไม่รู้ว่าจะไปตามหาเอเธนส์ได้ที่ไหน

มุกมณีถอนหายใจยาวเมื่อเธอบอกความตั้งใจ และบอกว่าคงช่วยอะไรไม่ได้ เธอให้ไม่ได้แม้กระทั่งหมายเลขโทรศัพท์ เพราะเอเธนส์ไม่อนุญาต และยังบอกว่าไม่ใช่ไม่เคยมีคนที่อยากเรียนถ่ายภาพกับเอเธนส์มาก่อน แต่เอเธนส์ไม่เคยรับใครเป็นลูกศิษย์

เธอรับปากบอกว่าถ้าเจอเอเธนส์จะบอกให้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเมื่อไร ผลจะเป็นอย่างไร อย่าหวังจากเธอให้มากนัก และสุดท้ายมุกมณีก็หยอดว่า ถ้าอยากเจอเอเธนส์แบบชัวร์ๆ ละก็ ให้มาเป็นนางแบบสิ รับรองว่าได้เจอกับเอเธนส์แน่นอน

น้ำปิงเลยต้องถอยกลับมาตั้งหลัก แต่คิดยังไงก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะได้เจอเอเธนส์

“ที่คุณเพิร์ลพูดก็ถูกนะ ถ้าน้ำปิงเป็นนางแบบก็ได้ทำงานกับคุณเอเธนส์ ได้เจอเขาไง” พิมลวรรณพยักหน้าหงึกหงัก เพราะโอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ บางคนอยากเป็นนางแบบ พยายามแทบตายแต่ก็ไม่ได้เป็น ถูกหลอกเสียก็มาก

“เราไม่อยากเป็นนางแบบนี่นา เราแค่อยากเรียนถ่ายรูปกับเขาเท่านั้น” น้ำปิงส่ายหน้า พูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก ทำให้เพื่อนสาวหัวเราะเบาๆ

“ยากกว่าเป็นนางแบบอีกนะนั่น” พิมลวรรณพูดกลั้วหัวเราะ เพราะเท่าที่เธอรู้เกี่ยวกับเจ้าของฉายาพ่อมดแห่งวงการแฟชั่นนั้น เขาเป็นพวกเข้าถึงยาก ทั้งตัวทั้งความคิดนั่นแหละ

“ไม่รู้ล่ะ น้ำปิงตั้งใจแล้ว ยังไงก็ต้องลองดู” พูดไปแล้วก็ต้องถอนหายใจ เพราะเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ เพราะหนทางหาตัวเอเธนส์ดูยากเย็น

คอยดูนะ...ถ้าได้เจออีกจะเกาะไม่ปล่อยเลยทีเดียว







“เจ้าชาย...?” เวเนเซียอุทานเบาๆ เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งที่ก้าวเข้ามาหาเธอ แปลว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ได้พบกับศศินทร์ภายในสนามบิน

ใบหน้าคมคายนั้นเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ร่างสูงโปร่งสวมแสล็กสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลปลดกระดุมสองเม็ดเห็นแผ่นอกรำไร สวมทับด้วยสูทลำลอง สิ่งที่ฉายชัดที่สุดคือบุคลิกแสดงความมั่นใจในตนเอง

ศศินทร์อาจจะไม่ใช่คนหล่อจัด แต่ทุกอย่างในตัวเขาหยุดสายตาคนได้ไม่ยาก

“พี่มารับน้องเวครับ”

เวเนเซียเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มออกมา เธอไม่รู้หรอกว่าศศินทร์จะมาไม้ไหน แต่ตามน้ำไปก่อนก็เป็นเรื่องที่ไม่เสียหาย

“ขอบคุณค่ะ”

“หวัดดีธาร” ศศินทร์หันไปทักคนที่เข็นรถเข็นกระเป๋าตามหลังเวเนเซีย ทันเห็นแววตาสงสัยของธาราก่อนจะกลายมาเป็นปกติ

ก็เป็นธรรมดา...ตอนนี้เขาควรจะอยู่ที่เชียงใหม่ หรือไม่ก็โรงแรมสาขาอื่นๆ ในภาคเหนือที่เขาดูแลรับผิดชอบ แม้จะไม่เป็นทางการแต่ทุกคนในอัญมณีมันตราก็รู้ว่าเขากับเวเนเซียเป็นคู่ชิงตำแหน่งสูงสุดขององค์กร

เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างจับตามอง

“สวัสดีครับคุณโต” ธาราค้อมศีรษะให้อีกฝ่าย

ครอบครัวของศศินทร์กับบ้านอัญมณีก็เป็นเครือญาติกันอยู่ ทั้งสองบ้านจึงสนิทสนมกัน และศศินทร์เข้านอกออกในบ้านนี้มาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าในบ้านอัญมณีมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันสี่คน โดยมีศศินทร์อายุมากที่สุด รองลงมาคือธารา เวเนเซีย และสายธาร หากเมื่อโตขึ้นจึงแยกย้ายกันเดินไปตามเส้นทางที่เลือกและถูกเลือกไว้ให้

หลังจากเรียนจบมัธยมต้นจากโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง ศศินทร์ถูกส่งตัวไปเรียนมัธยมปลายที่อเมริกาและเรียนต่อจนจบปริญญาตรีและโทสาขาการโรงแรมและบริหารธุรกิจที่นั่น ก่อนจะกลับมาทำงานในอัญมณีมันตรา ด้วยเป้าหมายเดียวกับเวเนเซีย

ทั้งศศินทร์กับเวเนเซียนั้นเดินด้วยเส้นทางที่ไม่ต่างกัน

“ไปกันเลยดีกว่าครับ มาเหนื่อยๆ น้องเวคงอยากพักผ่อน” ศศินทร์หันกลับมายังหญิงสาว ก่อนจะเริ่มออกเดินเคียงข้างกัน

ธาราโคลงศีรษะ เข็นรถตามทั้งสองเพื่อไปยังลานจอดรถ

แม้จะผ่านไปหนึ่งวันแล้ว แต่ข่าวนั้นยังเป็นประเด็นให้พูดถึงกันอยู่เพราะยังมีโทรศัพท์มายังเขาและเวเนเซียอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเขาก็รับมือเช่นเดิม เวเนเซียก็ยังคงใช้ความเงียบสยบเรื่องต่างๆ เช่นเดียวกับเอเธนส์ เท่าที่รู้ก็คือไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร









ร่างสูงใหญ่สะพายกระเป๋ากล้องใบใหญ่พร้อมถือช่อดอกรักกำลังจะก้าวออกจากล็อบบี้โรงแรม เมื่อเห็น Lexus RX270 รถที่ใช้ประจำแล่นมาเทียบประตูหน้าล็อบบี้ แล้วต้องชะงักเพราะเสียงร้องจากด้านหลัง

“คุณเอเธนส์คะ รอรานีด้วยค่ะ” รานีแทบตะโกน รีบวิ่งออกจากลิฟต์เพื่อไปให้ทันช่างภาพหนุ่มโดยไม่รอนายแบบที่ถือกระเป๋าตามหลังเธอออกจากลิฟต์มา

เอเธนส์ชะงัก หันมายังต้นเสียงก่อนจะถอนหายใจช้าๆ

“มีอะไรครับ” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบๆ

“คือว่ารานีกับ...ฟ้าจะขอติดรถกลับกรุงเทพด้วยค่ะ” รานียิ้มหวานหยด หากเมื่อสายตาปะทะช่อดอกรักในมือของช่างภาพหนุ่มก็แทบสะอึก

“พอดีเราต้องไปงานอีเวนต์เย็นนี้ครับ ถ้ารอกลับพร้อมรถทีมงาน ผมว่าเกรงจะไม่ทันงาน เลยขอรบกวนคุณเอเธนส์สักครั้งนะครับ” ฟากฟ้ารีบเข้ามาชี้แจง งานเสร็จเมื่อตอนบ่ายสองนี้เอง ถ้าจะรอรถตู้ของทีมงานที่ต้องเก็บอุปกรณ์และอื่นๆ อีกคงจะใช้เวลาอีกอย่างนี้เป็นชั่วโมง เขาไม่อยากเข้าไปถึงกรุงเทพในช่วงการจราจรติดขัด รานีจึงเสนอว่าควรจะขอติดรถเอเธนส์กลับ แม้จะรู้ว่านางแบบสาวคิดอะไรอยู่ แต่ก็เป็นวิธีที่ดีในตอนนี้

“อืม...” เอเธนส์พยักหน้าอนุญาต

“ขอบคุณมากค่ะ” รานีพยายามคงรอยยิ้ม แม้ในใจยังขุ่นข้องทั้งเจ้าช่อดอกรักปริศนานั่น...ยังไม่มีใครรู้และไม่มีใครกล้าถามหรือเอ่ยอะไรกับเอเธนส์ รวมทั้งตัวเธอเองก็ด้วย ได้แต่เก็บความสงสัยไว้แทบใจระเบิด และยังเรื่องข่าวของเอเธนส์กับไฮโซสาว คนที่เธอจำได้ว่าเจอที่โรงแรมใหญ่เมื่อไม่กี่วันก่อน

คนที่ทำให้เอเธนส์หันไปมองจนลับตา

ฟากฟ้าโคลงศีรษะ คนที่กระฟัดกระเฟียดตลอดเวลานั้นกลายเป็นหวานระยับยามอยู่ต่อหน้าช่างภาพหนุ่ม แต่เป็นอย่างรานีก็ดีไปอย่าง

ดูง่าย... ไม่ซับซ้อน

นายแบบหนุ่มปล่อยให้พนักงานโรงแรมที่กรูกันเข้ามาช่วยหิ้วกระเป๋าทั้งของเขาและรานีไปที่รถของเอเธนส์ เขารีบก้าวตามเจ้าตัวแล้วก็แทบเซเมื่อถูกรานีใช้ไหล่เบียดขณะเขาจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ

“ให้สุภาพสตรีนั่งข้างหน้าสิยะ” รานีจิกตามองฟากฟ้า ไม่ให้เขาค้าน เรื่องอะไรที่จะปล่อยให้โอกาสในการใกล้ชิดเอเธนส์หลุดมือ

ฟากฟ้ายักไหล่ ก่อนจะยอมเปิดประตูที่นั่งด้านหลังอย่างปลงๆ ไปกับการกระทำของรานี หากเมื่อสบตาคมของคนที่กำลังจัดกระเป๋ากล้องให้ได้ที่ตรงเบาะหลังก็พึมพำขอโทษ เพราะอาจจะทำให้เอเธนส์ต้องรำคาญกับคนที่รีบขึ้นไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับแล้ว

เอเธนส์ยกมุมปากน้อยๆ

สงสัยว่ากลับไปคราวนี้คงจะต้องเลี้ยงตอบแทนฟากฟ้ามื้อใหญ่ เพราะนายแบบหนุ่มนั้นคอยกันไม่ให้รานีเข้าใกล้เขาได้บ่อยๆ เขาไม่ได้กลัวจะเผลอใจไปกับรานีหรอก แต่ค่อนข้างจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ กลัวจะเผลอทำอะไรรุนแรงไปเพื่อขจัดความรำคาญมากกว่า



เอเธนส์ส่งสองหนุ่มสาวที่แบล็กเพิร์ล แม้จะท่าทางรานีจะอยากให้เขาไปส่งที่บ้านมากกว่า แต่ถูกฟากฟ้าขัดว่ายังไงก็ต้องมาที่แบล็กเพิร์ลอยู่แล้วเพราะว่าห้องเสื้อที่เป็นสปอร์นเซอร์ของทั้งคู่ส่งชุดมาให้ที่แบล็กเพิร์ล จะย้อนกลับไปมาให้เสียเวลาทำไม

รานีได้แต่มองนายแบบตาเขียว ส่วนฟากฟ้ายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

สมกับที่มุกมณีบ่นไว้จริงๆ ว่าสองคนนี้กัดกันตลอด แต่ก็ไม่เคยโกรธกันจริงๆ จังๆ สักที แล้วมักจะคอยช่วยเหลือกันโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว เป็นมิตรภาพแบบแปลกๆ

แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้ที่จะรักกันไหม...ก็คงตอบแบบยืนยันไม่ได้ แต่มุกมณีบอกว่าสองคนนี้เหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากว่าจะเป็นคนรัก

ส่งทั้งคู่เสร็จเขาก็ตรงไปคอนโดมิเนียมเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดเสียใหม่ ก่อนที่จะไปตามนัดของนิตย์รดา

เหลือบมองนาฬิกา เห็นว่ายังพอจะมีเวลาเหลือจึงเปิดโน้ตบุ๊กเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อดูโปรแกรมถ่ายทอดสดกีฬา

วันนี้จะนัดเดตกับคุณหนูเวกี่โมงดี...

แต่จะดีกว่านี้ถ้าได้เจอตัวจริง









เอเธนส์จอดรถหน้าตึกใหญ่โอ่โถงของอดีตนายพลใหญ่ที่เสียชีวิตไปเมื่อกว่าสิบปีก่อน เหลือเพียงคุณหญิงผู้เป็นภรรยาปกครองบ้านหลังโตกับบุตรสาวคนกลาง

คุณหญิงพิสมัยเองก็เคยชวนเขามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่เขาปฏิเสธ อาจจะเพราะตอนนั้นเขายังอยู่ในวัยรักอิสระ อีกทั้งงานที่ทำก็ไม่เป็นเวลาจึงเลือกที่จะอยู่คนเดียวแต่แวะมาเยี่ยมเป็นประจำ

“คุณหญิงท่านอยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ” แม่บ้านสูงวัยคนเดินออกมาจากตัวตึกพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

“ผมไปพัทยามาครับ” เอเธนส์ส่งถุงของฝากในมือให้กับแม่บ้าน แล้วเดินเข้าตึกอย่างคุ้นเคย เสียงหัวเราะของเจ้าบ้านกับบุตรสาวทำให้เขาเร่งฝีเท้าตรงไป

“สวัสดีครับ yaya” เอเธนส์ตรงเข้ากอดร่างท้วม แต่กระนั้นก็แทบจะหายเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะกราบลงบนอก

“เป็นไงบ้างตาเอ หมู่นี้ไม่ค่อยเข้ามาหาเลย” คุณหญิงพิสมัยลูบผมชายหนุ่มเบาๆ “นึกว่าไม่อยู่เมืองไทยแล้วซะอีก”

“ช่วงนี้อยู่เมืองไทยตลอดล่ะครับ งานเยอะนิดหน่อย” เอเธนส์ขยับมานั่งข้างๆ เจ้าบ้านซึ่งยิ้มกว้างด้วยความปลื้มใจ

“งานหรือสาวๆ จ๊ะ” นิตย์รดายักคิ้ว

“ใครเขาจะหนุ่มเยอะเหมือนนีน่าละครับ สับรางแทบไม่ทัน” เอเธนส์โต้กลับยิ้มๆ

“แหมๆ ไม่ต้องหาเรื่องนีน่ากลบเกลื่อนเรื่องของตัวเองเลย ไม่รอดหรอก” สาวใหญ่ค้อนควับ หากนัยน์ตาพราวพราย

“นั่นสิตาเอ...ข่าวนั่นยังไงกัน” คุณหญิงพิสมัยพิศใบหน้าคมเข้ม “กับลูกสาวคุณปริทัศน์น่ะยังไงกัน เดี๋ยวผู้ใหญ่จะมองหน้ากันไม่ติด” ตั้งแต่สามีเสียชีวิตไปท่านก็ไม่ค่อยได้ออกงานสังคมสักเท่าไร นานๆ ทีเฉพาะงานการกุศลเท่านั้น ส่วนใหญ่ท่านก็มักจะออกไปทำบุญต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่เบื่องานเลี้ยงเดิมๆ กันแล้ว มีแต่นิตย์รดานั้นแหละที่สนุกกับงานสังคมทั้งหลาย ท่านเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นเป็นความสุขของบุตรสาว และนิตย์รดาก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรมาให้เดือดร้อน แม้บางครั้งจะมีเรื่องแผลงๆ ตามนิสัยของเจ้าตัวมาให้อ่อนใจบ้างก็ตาม

โดยเฉพาะเรื่องระหว่างเอเธนส์กับนิตย์รดา

ท่านไม่ได้เดือดร้อนอะไรไปกับคำที่คนพูดกันไป...ได้แต่อ่อนใจเท่านั้นเอง

“yaya รู้จักคุณพ่อของคุณหนูเวด้วยเหรอครับ” เอเธนส์เอ่ยถาม แม้จะพอเดาได้ว่ายังไงคุณหญิงพิสมัยก็น่าจะรู้จักครอบครัวอัญมณีบ้าง นิตย์รดาเองก็เหมือนกัน แต่ครั้งแรกที่เขาเลือกจะถามเรื่องของเวเนเซียจากมุกมณีก็เพราะรู้ว่าอดีตนางแบบสาวจะไม่ซักไซ้เขา ไม่เหมือนกับนิตย์รดาซึ่งคงจะเซ้าซี้เขาจนเจ้าตัวจะรู้ทุกอย่าง

หากตอนนี้ไม่เล่าก็คงไม่ได้แล้ว

“อุ๊ยๆ...คุณหนูเว...น่ารักน่าเอ็นดู” นิตย์รดาเสียงสูงพลางหัวเราะคิกคัก

เอเธนส์โคลงศีรษะ

“เมื่อก่อนก็สนิทกันดีกับพ่อแม่ของปริทัศน์ ส่วนคนสนิทด้วยจริงๆ น่ะนีน่าของตาเอนั่นแหละ ก๊วนเดียวกันไม่ใช่หรือไง” คุณหญิงหันไปทางบุตรสาว

นิตย์รดาฉีกยิ้ม...

คุณปริทัศน์เป็นรุ่นพี่เธออยู่หลายปีทีเดียว แต่มาสนิทกันเพราะเล่นกอล์ฟก๊วนเดียวกัน จากการชักชวนของเพื่อนแต่ละฝ่าย

“นีน่าถึงบอกไงเอเธนส์ คุณพ่อของหนูเว...ยิงปืนแม่นมาก”

“ดู...แม่คนนี้” คุณหญิงพิสมัยส่ายหน้า ก่อนจะเหลือบไปเห็นร่างบางประคองถาดใบใหญ่เข้ามาในห้องนั่งเล่น “อ้าว...ทำไมไม่ให้แม่บ้านช่วยถือมาล่ะลูก”

“น้ำปิงถือได้ค่ะ แค่สี่ใบเอง ป้ายิ้มบอกว่าพี่เอมาแล้ว น้ำปิงก็เลยยกมาเผื่อด้วยเลย” เด็กสาวตอบพลางประคองถาดอย่างระวัง “ชาดอกไม้เย็นๆ รับรองติดใจค่ะ...เอ๋” น้ำปิงชะงัก มองคนที่นั่งอยู่กับผู้เป็นยายงงๆ

“เธอ...” เอเธนส์ขมวดคิ้ว มองหน้าเด็กสาว

“คุณช่างภาพ...” น้ำปิงกลืนคำว่า จอมเผด็จการเอาไว้ทัน เด็กสาวรีบวางถาดลง

“อ้าว... จำกันได้ด้วยเหรอ” นิตย์รดามองเอเธนส์และเด็กสาวสลับกัน แต่ไม่มีใครตอบคำถาม ไฮโซสาวใหญ่จึงได้แต่เลิกคิ้ว






""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""



เจอกันใหม่หลังสงกรานต์นะคะ


สนุกสนาน เดินทางปลอดภัย มีความสุขถ้วนหน้าค่ะ^^






Create Date : 11 เมษายน 2554
Last Update : 11 เมษายน 2554 10:17:18 น. 25 comments
Counter : 1942 Pageviews.

 
หนูฬี ทำไมไม่เห็นลงที่เว็บอื่น

ลงที่นี่ที่เดียวเหรอ นึกว่าหายไปไหนซะอีก

อิอิ คิดถึงจ้า


โดย: LonelySeason วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:11:41:34 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยคะ

ขอให้คุณฬีมีความสุขมากๆ นะคะ


โดย: กระรอกจัง IP: 76.85.160.108 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:12:30:21 น.  

 
อ้าวววน้ำปิง ท่าทางจะได้เรียนถ่ายรูปแล้วล่ะสิเนี่ยยย อิอิ


โดย: sai IP: 58.137.154.162 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:15:09:23 น.  

 
เอ...หวังว่าน้ำปิงคงไม่ทำให้เอเธนกะนู๋เว สั่นคลอนนะคะ
คุณฬีฬา ไปเล่นสงกรานต์เผื่อด้วยนะคะ แฟนคลับจะเฝ้า กทม.รอค่ะ



โดย: bijin วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:18:10:43 น.  

 
คิดถึงนะคะ


โดย: Natee IP: 98.27.161.7 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:19:10:28 น.  

 
คุณหนูเวจำอดีตไม่ได้เลย หรือเพราะยังเด็ก
น้ำปิงกับคุณเอญาติกันอย่างนี้ จะตื๊อเรียนได้มั้ยเนี่ย


โดย: goldensun IP: 203.144.220.241 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:20:23:07 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์คะคุณฬีฬา

ตอนนี้เวปเลิฟเปิดเวอร์ชั่นสองแล้วนะคะ แวะไปทักทายกันนะคะ ทุกคนคิดถึงคุณฬีแน่นอนค่ะ ^^


โดย: จิรารัตน์ IP: 118.174.59.95 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:22:16:18 น.  

 
เมื่อไรจะทำภาคต่อของ พลับพลึงสีรุ้งค่ะ อยากอ่านเรื่องของพี่เพชรจังค่ะ และใครจะเป็นนางเอกของพี่เพชร


โดย: iceblue IP: 125.26.57.55 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:10:10:01 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยคะ,,ติดตามต่อค่ะ :D


โดย: นู๋เต่า IP: 58.8.66.3 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:22:38:25 น.  

 
ขอบคุณครับคุณฬี
งานเข้า พ่อมดละที่นี้ ^^


โดย: ตากุ๊ก IP: 58.9.92.111 วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:2:55:31 น.  

 
รอตอนต่อไปหลังสงกรานต์นะคะ


โดย: incanto IP: 115.67.37.176 วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:18:20:39 น.  

 
รอย่างมีความหวังนะค่ะ ไม่ใช่หายไปยาวเลย คิดถึงนิยายคุณฬีมาก......


โดย: Pook IP: 223.205.161.56 วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:9:23:25 น.  

 
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ


โดย: อร IP: 101.108.173.139 วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:22:34:01 น.  

 
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 58.97.55.158 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:22:04:04 น.  

 
ดีใจจัง ได้อ่านตอนต่อไปแล้ว แต่ยังรออยู่นะจ๊ะ ขอบคุณจ้า


โดย: นกกระเต็น IP: 223.205.172.101 วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:20:14:35 น.  

 
รอจนอ่อนใจแต่ก็จะรอต่อไป

มาอัพอีกนะพี่ฬี^___^


โดย: บ่าบี๋ วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:9:20:40 น.  

 
ขอบคุณ คุณฬีขอรับ
แบบว่าพี่เอมีน้องสาวโดยไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย


โดย: hayee IP: 110.168.83.183 วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:18:54:54 น.  

 
มาแว้ว คุณช่างภาพกับคุณน้องนางแบบ


โดย: คามุย IP: 110.164.90.7 วันที่: 20 เมษายน 2554 เวลา:15:24:32 น.  

 
มาแว้ว คุณช่างภาพกับคุณน้องนางแบบ


โดย: คามุย IP: 110.164.90.7 วันที่: 20 เมษายน 2554 เวลา:15:24:37 น.  

 
มาต่อเร็วๆ นะคะคุณฬีฬา


โดย: เจ้าชายน้อย IP: 202.12.74.65 วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:13:00:49 น.  

 
เหอ เหอ ตกลงคุณช่างภาพกับหนูน้ำปิงเป็นญาติกันเหรอเนี่ย


โดย: นู๋หยง IP: 192.168.20.187, 202.143.150.93 วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:14:39:18 น.  

 
เมื่อไหร่คุณฬีจะรวมเล่มคะ เบื่อรอเป็นตอน ๆแล้วคะ


โดย: สุ IP: 118.173.130.229 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:9:12:09 น.  

 
ตามมารอคุณฬิฬาต่อค่ะ
และอยากทราบว่าคุณฬิฬาไม่อัพในเวปสิรินดาแล้วหรือค่ะ


โดย: วิ/ไรน้ำ IP: 202.12.74.1 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:18:49:14 น.  

 
แวะเข้ามาเยี่ยม และจะติดตามผลงานต่อไปนะค่ะ ^o^


โดย: รมณ IP: 58.11.91.190 วันที่: 29 เมษายน 2554 เวลา:19:18:30 น.  

 
จบแบบคาใจสุด ๆ ถ้าเป็นญาติกัน..ก็โอ
แต่ถ้าไม่ใช่..สงสารคุณหนูเวสุด ๆ มีสาวมาป้วนเปี้ยนคุณเอเธนส์อ่ะ
เริ่มมีมือที่ 3 - 4 - 5 มาป่วนคู่นี้แล้วนะคะ คุณฬีวางระเบิดไว้กลางใจคนอ่านเลยคะ
ขอบคุณค่า


โดย: arso IP: 27.130.12.72 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:17:12:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.