ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

รหัสรักในดวงใจ ตอน ๖

ขออภัยที่ช่วงนี้มาดึกๆ ค่ะ งานเข้าเล็กน้อย... คราวหน้าจะพยายามมาให้เร็วขึ้นนะคะ


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ...ช่วงนี้ขอเป็นทุกวันจันทร์ก่อนนะคะ ยังไม่สามารถเพิ่มเป็นสัปดาห์ละสองตอนได้ แต่ในอนาคต(ไม่แน่ใจว่าอันไกลหรือใกล้) คงจะสามารถอัพได้ถี่กว่านี้ค่ะ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



รหัสรักในดวงใจ ตอน ๖



“หน้าตาไม่เห็นเหมือนหมอเลยแฮะ” ของขวัญพึมพำ มองภาพถ่ายแล้วเหลือบไปยังห้องอาจารย์นิพนธ์ซึ่งเจ้าของภาพยังอยู่ในห้องนั้น ภาพของหนุ่มหล่อแบบลูกครึ่งในชุดสูทหรูที่เจอในโรงแรมใหญ่และเหยี่ยวราตรีในผับเมื่อคืนทำให้หล่อนคิดว่าเขาน่าจะเป็นพวกหนุ่มออฟฟิศหรือนักธุรกิจคล้ายๆ ญาติผู้พี่มากกว่า

ของขวัญนึกถึงบรรดาหมอในโรงพยาบาลที่หล่อนทำงาน ไม่เคยเห็นมีหมอหน้าตาแบบนี้สักคน แต่ถ้ามีรับรองว่าคนไข้สาวๆ คงแห่กันมาจนโรงพยาบาลแตกแน่

“อืม...แปลกดีแฮะ” ของขวัญยักไหล่แล้วเดินต่อไปยังห้องพักสาขาที่หล่อนรู้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องเดินผ่านห้องปฏิบัติการใหญ่ มีห้องเล็กๆ ข้างกันซึ่งหล่อนคิดว่าเป็นเพียงห้องเก็บของแต่เป็นทางเดินเชื่อมเข้าไปยังห้องพักได้ด้วย

หากเป็นกลางคืนคงจะเป็นทางเดินที่ไม่ค่อยน่าพิสมัยสำหรับหล่อนเท่าไร

ทว่า...ในตอนกลางวันแบบนี้ หล่อนสามารถจะเดินผ่านห้องซึ่งผนังทั้งสองด้านเรียงรายไปด้วยตู้ไม้ขนาดใหญ่ติดกระจกใสแบบโบราณสำหรับเก็บเครื่องไม้เครื่องมือวิจัยหน้าตาแปลกๆ บรรยากาศและกลิ่นอายอับทึบของห้องชวนให้ขนลุกอยู่ไม่น้อย

ของขวัญเดินเร็วๆ ไปยังสุดห้องซึ่งมีประตูเปิดเข้าสูห้องโถงกลางซึ่งเปิดไฟสว่างไสวตลอดเวลา หล่อนยิ้มทักทายเพื่อนนิสิตต่างสาขาที่ใช้ห้องโถงนี้เป็นห้องพักและห้องทำงาน ก่อนจะผลักประตูกระจกใสของห้องพักสาขาของหล่อนเข้าไปข้างใน ของขวัญเห็นสายตาหลายคู่ตวัดมายังหล่อนอย่างกระตือรือร้น ต้องการรู้เรื่องที่หล่อนไปพบอาจารย์

“เป็นไงบ้างพี่ขวัญ” พิชญาถามขึ้นก่อนใคร

“ไม่เป็นไงจ้า แค่บอกอาจารย์ว่าเรียนต่อแน่ๆ จ้ะ” หล่อนตอบเพื่อนรุ่นน้องยิ้มๆ

“อาจารย์ไม่ดุเหรอพี่”

“ก็ไม่นี่...” ของขวัญนึกถึงสายตาคมกริบของอาจารย์นิพนธ์ ไม่ดุ...แต่ชวนขยาดอยู่ไม่น้อย หล่อนคิดว่าคนเป็นครูมักมีสายตาที่ทำให้ลูกศิษย์นึกเกรงอยู่เสมอ “แล้วนี่ทำอะไรกันน่ะ” หล่อนถามเพราะเห็นเพื่อนร่วมรุ่นผู้ชายกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งไฟฟ้า มีเครื่องมือหน้าตาคล้ายกับหน้ากากออกซิเจนครอบปากและจมูก

“อ๋อ... พี่ปิ่นกำลังลองรันแล็บ ก็เลยให้พวกเพื่อนๆ ช่วยเป็นซับเจคให้” พิชญาตอบ หล่อนกำลังสนใจการทำแล็บของรุ่นพี่อยู่เหมือนกัน

“แล็บอะไรเหรอ” ของขวัญถามอย่างสงสัย

“แล็บวีโอทูแม็ก...เดี๋ยวเราก็ได้เรียนล่ะพี่” พิชญาตอบ หล่อนเองก็ยังไม่เคยลองทำการวัดค่า VO2max หรือ Maximal Oxygen Consumption มาก่อน ซึ่งเป็นการวัดอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดของร่างกาย สามารถบ่งบอกถึงสมรรถภาพของร่างกายด้านแอโรบิก โดยปกติแล็บนี้มักจะใช้ในการวิจัยเท่านั้น ในการหาอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดเพื่อวางโปรแกรมการออกกำลังกายโดยทั่วไปมักจะใช้การวัดค่าที่ง่ายกว่านี้

ของขวัญเองก็ดูการทำแล็บของรุ่นพี่อย่างสนใจ เพราะสาขาที่หล่อนจบมาแทบไม่ได้เกี่ยวกับข้องกับแล็บเหล่านี้เลย

ดูน่าสนุกดี...






“อาจารย์นิพนธ์บอกว่าให้เราเริ่มคิดหัวข้อธีสีสกันได้แล้ว” ของขวัญเอ่ยกับเพื่อนๆ ซึ่งนั่งกระจายกันอยู่ในห้องพักเพื่อเตรียมตัวเรียนวิชาต่อไป โดยมีเพื่อนที่เป็นตัวอย่างทดลองเมื่อครู่นั่งแผ่อยู่ที่พื้นเพราะต้องวิ่งจนแทบหมดแรง โดยมีรุ่นพี่เจ้าของแล็บนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์

“แหม...อาจารย์ย้ำจริงๆ” นิลุบลเอ่ยเบาๆ

“ใช่...ห้ามช้านะจ๊ะ” ปิ่นนภาเงยหน้าจากโน้ตบุ๊กซึ่งกำลังแสดงผลแล็บเมื่อครู่ “หาหัวข้อแล้วก็หาพ่อแม่ใจดีๆ จะได้รุ่งๆ เนอะลีเนอะ” หล่อนพยักพเยิดกับเพื่อนสาวที่กำลังง่วนกับโน้ตบุ๊กเช่นกัน

“พ่อแม่... อะไรคะพี่ปิ่น” พิชญาถามอย่างงงๆ

“ก็อาจารย์ที่ปรึกษาไง ได้พ่อแม่ใจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ปิ่นนภาตอบกลั้วหัวเราะ “ถ้าได้แบบไม่ถูกชะตากันก็คิดจนลาออก...หมายถึงพวกเรานะ”

“อย่างนั้นเลยเหรอพี่”

“อืม... หรือจะให้ดีนะ หาพ่อหล่อๆ ใจๆ แบบพ่อเจ๊ลีของพวกน้องนี่” คำพูดของปิ่นนภาทำให้รุ่นน้องผู้หญิงหันขวับไปมายังรุ่นพี่ที่ยิ้มกริ่ม

“หล่อจริงอ่ะเจ๊” พิชญาถามอย่างสนใจเต็มที่ “หล่อเท่าอาจารย์ธีร์ไหมเจ๊”

“อันนี้ก็เทียบกันไม่ได้นะ” ลีลาหันโน้ตบุ๊กของตัวเองไปยังน้องๆ หน้าจอเป็นภาพอาจารย์ที่ปรึกษาของหล่อนในเว็บไซต์คณะ “พ่อเจ๊น่ะหล่อน่ารัก น้องชายป๋าหล่อเข้ม แต่เรื่องใจดีพ่อเจ๊กินขาด”

ของขวัญมองภาพอาจารย์ที่ปรึกษาของรุ่นพี่เช่นเดียวกับเพื่อนๆ หากสะดุดคำพูดของรุ่นพี่ หล่อนทราบจากเพื่อนแล้วว่าถูก ‘อาจารย์ป๋า’ เรียกให้ไปพบ

อาจารย์ธีร์เป็นน้องอาจารย์นิพนธ์เหรอ...ไม่เห็นเหมือนกันสักนิด

“โห... แล้วนี่พ่อของเจ๊ยังรับแอดไวซี่อีกไหมคะ ญาจะไปสมัคร” พิชญาถาม โดยมีเพื่อนๆ โห่ฮาปนหัวเราะอย่างครื้นเครง

“อันนี้ก็ต้องลองดูนะจ๊ะ แต่บอกก่อนว่าพ่อเจ๊มีลูกเมียครบแล้ว ขอให้เป็นที่ปรึกษาได้อย่างเดียว ห้ามคิดอะไรเกินเลย ถ้าอยากได้แอดไวเซอร์แบบหล่อๆ โสดๆ ก็น้องชายป๋าไง”

“อาจารย์ธีร์เหรอคะ... หนูไม่ค่อยถูกกับโรคหัวใจน่ะ ขอผ่านไปก่อนก็แล้วกัน” พิชญาชักเสียงอ่อย

“แล้วจะถูกกับโรคอะไรก็ให้เร็วๆ นะ เดี๋ยวพวกอาจารย์รับแอดไวซี่ครบแล้วจะเศร้า” ปิ่นนภาเอ่ยกลั้วหัวเราะ “กว่าจะเขียนพรอบโพซอล สอบย่อย สอบใหญ่ รอพิจารณาด้านจริยธรรม เก็บข้อมูล เขียนเล่มแล้วก็สอบจบ ใช้เวลาทั้งนั้นนะจ๊ะ อะไรๆ ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้หรอก นี่พี่ไม่ได้ขู่นะ”

“โห...ขนาดไม่ขู่นะพี่” พิชญางึมงำ หันกลับมามองเพื่อนๆ ที่มองตากันปริบๆ เส้นทางการเรียนดูหฤโหดขึ้นทุกที

“แล้วนี่ตกลงมีใครคิดบ้างหรือยังว่าจะทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร ไม่ต้องหัวข้อก็ได้” ปิ่นนภาลองถาม หล่อนหวังดีกับพวกน้องๆ ไม่อยากให้ปล่อยเวลาผ่านไปเฉยๆ

“ขวัญสนใจเรื่องสารเคมีบางตัวในเลือดตอนที่เกิดการบาดเจ็บ พี่ว่าไงคะ” ของขวัญเอ่ยขึ้นเพราะเพื่อนๆ เงียบกันหมด แต่ละคนยังไม่ค่อยแน่ใจว่าอยากทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไร

“อืม... ก็น่าสนใจนะ สาขาเราไม่ค่อยมีคนทำ หรือว่าไงลี” ปิ่นนภาหันไปทางเพื่อนซึ่งฝ่ายนั้นพยักหน้า

“ถ้าสนใจจริงก็ลองไปคุยกับอาจารย์แม่หรือไม่ก็อาจารย์รวินันท์นะ ที่อยู่ไบโอเคมน่ะ” ลีลาบอก และเสริมอีก “ไปแบบมีข้อมูลเยอะๆ หน่อยนะ”

“เอ่อ... อาจารย์แม่นี่อาจารย์อะไรเหรอเจ๊” ของขวัญเริ่มรู้แล้วว่าพวกรุ่นพี่ไม่ค่อยเรียกชื่ออาจารย์ตรงๆ กันสักเท่าไร แสดงว่า ‘น้องชายป๋า’ ก็ไม่น่าจะใช่น้องชายแท้ๆ ของอาจารย์นิพนธ์

“โทษทีเจ๊ลืม... อาจารย์ศจี อาจารย์ใจดีดูแลสาขาพวกเราเหมือนเป็นแม่น่ะก็เลยติดปากกัน พี่ไม่แน่ใจว่าปีนี้อาจารย์รับแอดไวซี่ไปกี่คนแล้ว ยังไงไปขอคุยกับอาจารย์ก็ได้ หรือจะอาจารย์รวินันท์ก็ดี เก่งมาก เห็นว่าจบดอกเตอร์ตั้งแต่ยังไม่ถึงสามสิบนะ”

“ใช่...แถมสวยมากอีกต่างหาก” ปั่นนภาเสริม หล่อนยิ้มเมื่อรุ่นน้องผู้ชายที่นั่งแผ่เพราะหมดแรงจากการวิ่งเมื่อครู่เด้งตัวขึ้นมา

“จริงเหรอพี่”

“จริง...” หล่อนตอบเสียงหนัก เหลือบมองหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้วตวัดสายตาไปยังรุ่นน้อง “อาจารย์สวยจริง แล้วค่าวีโอทูแมกของน้องก็ต่ำมากจริงๆ ไม่ฟิตเลยคธาเอ๊ย เด็กวิทย์กีฬาซะเปล่าไปออกกำลังกายได้แล้ว”

“โห...ผมนอนก่อนแล้วกันพี่” ไม่ทันจบประโยคคธาก็ทิ้งตัวกลับลงไปนอนแผ่ที่พื้นท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ และรุ่นพี่







เมืองขวัญสำรวจตึกเรียนของฝาแฝดแล้วต้องส่ายหน้า ถ้าของขวัญได้สำรวจตึกเสียก่อนเขายังสงสัยว่าเจ้าหล่อนจะยอมมาเรียนที่นี่หรือไม่ นอกจากจะแบ่งห้องได้ดูลึกลับซับซ้อนแล้ว ไม่ว่าจะในห้องหรือทางเดินยังสลัว คงเพราะตัวตึกที่ออกแบบค่อนข้างทึบ แสงเข้าน้อย แล้วยังไม่เปิดหน้าต่างซ้ำยังกั้นม่านทึบทำให้ดูวังเวงอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะเวลาที่พระอาทิตย์ยอแสงเช่นนี้

แต่เขาอยู่ในนี้ได้อย่างสบายไม่เหมือนเมื่อออกนอกตึกไปซึ่งมีผู้คนมากมาย พลังงานต่างๆ ปนเปทำให้ต้องใช้สมาธิและพลังมากกว่าปกติ ตลอดเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมาเขาเรียนรู้ที่จะอยู่ในสภาพของวิญญาณได้เป็นอย่างดี และยังมีสิ่งอื่นๆ ที่เขาสามารถทำเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ

เมืองขวัญมาหยุดที่หน้าห้องของ ‘หมอนั่น’ เขาพบคนที่มองเห็นเขาได้ไม่บ่อยนัก หมอนั่นไม่เพียงมองเห็นและสื่อสารกับเขาได้เท่านั้น ยังท้าทายเขาด้วยการแตะต้องของขวัญของเขาด้วย

ต้องมีวิธีกำจัดไอ้หมอนั่นออกจากชีวิตของขวัญสิน่า

ประตูห้องถูกเปิดออก โดยมีเด็กหญิงก้าวออกมาจากห้อง เมืองขวัญมองเด็กหญิงหน้าตาเหมือนตุ๊กตาฝรั่งในชุดสีชมพูอย่างสนใจ เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมองตอบเขาหรือว่ามองทะลุร่างของเขาไปยังเบื้องหลัง ดวงตาสีน้ำตาลทองใสแจ๋วกะพริบสองสามครั้ง ริมฝีปากสีชมพูจัดเปิดออกเป็นยิ้มกว้าง

“มาหาอาธีร์เหรอคะ”

เมืองขวัญเป็นฝ่ายกะพริบตาปริบๆ เสียเอง ทางเดินหน้าห้องของ ‘หมอนั่น’ มีเพียงเด็กหญิงคนนี้เพียงคนเดียวที่เป็น ‘คน’ แสดงว่าเขาพบกับคนที่สื่อสารกับเขาได้อีกคนใช่ไหม

“ทำไมพี่หน้าซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่า” เด็กหญิงยังเอ่ยต่อในแบบที่เมืองขวัญไม่มีข้อสงสัยอีกแล้ว เขาเปิดยิ้มกว้างให้เด็กหญิงหน้าฝรั่งแต่พูดไทยเกือบชัด เขานึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก

“เปล่า...พี่สบายดี”

เด็กหญิงยิ้มแป้น

“พี่จะเข้าไปหาอาธีร์เหรอคะ”

เมืองขวัญส่ายหน้า ทั้งที่ตอนแรกก็คิดอยากจะไปเข้าไปหา ‘อาธีร์’ ของเด็กหญิงอยู่เหมือนกัน แต่เขาได้ยินเสียงพูดคุยกันเบาๆ ลอดออกมาจึงยังไม่อยากเข้าไป ‘จัดการ’ ในตอนนี้

“เปล่า...พี่แค่ผ่านมาน่ะ หนูจะไปไหน”

“แองจี้ออกมากินไอติม” เด็กหญิงชูมือที่ถือด้วยไอศกรีมขึ้น “ห้องอาธีร์แคบจัง แองจี้ชอบที่กว้างๆ พี่ชอบกินไอติมไหม”

เมืองขวัญส่ายหน้า

“อร่อยน้า... รสช็อกโกแล็ตด้วยล่ะ ลองกินไหม แองจี้ไม่หวงหรอก”

เมืองขวัญหัวเราะเบาๆ

“แองจี้กินเถอะ พี่กินไม่ได้หรอก”

เด็กหญิงเอียงคอมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย แล้วดวงตาสีน้ำตาลทองก็เปล่งประกาย “อ๋อ...พี่แบบเป็นคุณตาทวดใช่ไหม”

“คุณตาทวด...” เมืองขวัญเลิกคิ้ว ย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับเด็กหญิง

“คุณตาทวดก็ตัวซีดๆ ไม่กินอะไร แล้วก็...” แองจี้ยืนมือไปแตะร่างของเด็กหนุ่มรุ่นพี่ “จับตัวไม่ได้แบบนี้” เด็กหญิงหัวเราะคิกคัก

“อืม...” เมืองขวัญทำเสียงเบาๆ มองเด็กหญิงอย่างสนใจมากขึ้น “หนูไม่กลัวเหรอ”

“กลัวทำไมคะ คุณตาทวดใจดีออก...พี่ก็ใจดีใช่ไหม” ดวงตาสีน้ำตาลทองใสแจ๋วมีแววออดอ้อนที่เมืองขวัญอยากคว้าเด็กหญิงมากอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างมันเขี้ยวสักที

เด็กอะไรน่ารักชะมัด...ไม่เห็นเหมือน ‘อาธีร์’ นั่นเลย

“ใช่...พี่ใจดีที่สุดเลย”






ของขวัญปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วหันไปหยิบกระเป๋าถือเตรียมตัวกลับ ในห้องพักนิสิตเหลือเพียงหล่อนและรุ่นพี่ปีสามซึ่งยังอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น หล่อนไม่ได้ตั้งใจอยู่จนถึงเย็นหรอก แต่เพราะเพลินไปกับการหางานวิจัยต่างๆ จากฐานข้อมูลของวารสารต่างๆในอินเตอร์เน็ต หล่อนขาดเรียนไปไม่กี่วันแต่ทุกวิชามีการบ้านและรายงานให้ทำมากมาย

“เจ๊ลี เย็นแล้วยังไม่กลับอีกเหรอ” หล่อนถามรุ่นพี่ แม้ในห้องพักจะปิดทึบทั้งหมดไม่เห็นบรรยากาศภายนอก แต่นาฬิกาบอกเวลาเย็นแล้ว เวลาที่หล่อนควรจะรีบออกจากตึกก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง

“ยังจ้ะ ไปตอนนี้คนเยอะน่ะ เดี๋ยวสักทุ่มสองทุ่มโน่นแหละ”

ของขวัญกลืนน้ำลาย...

“เจ๊ไม่กลัวเหรอ”

“กลัวอะไร...”

ของขวัญไม่ตอบแต่สีหน้าคงบ่งบอกได้เป็นอย่างดี รุ่นพี่สาวจึงหัวเราะและถามย้อนกลับ

“แล้วทำไมเรียนเมดเทคล่ะ ไม่กลัวเหรอ”

“ก็ไม่ได้เกี่ยวกับผีนี่เจ๊ ห้องเมดเทคออกจะสว่างไสวเปิดไฟตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนเรียนตึกก็ใหม่กิ๊กเลย” ของขวัญบอก ถ้าบรรยากาศตอนเรียนปริญญาตรีและทำงานเหมือนตึกนี้ละก็ หล่อนคงจะเรียนไม่จบเสียก็ได้ เพราะบ่อยครั้งที่จะต้องทำแล็บถึงเย็นหรือค่ำ

“ดีนะที่ไม่ได้เรียนที่โรงพยาบาลนี้ ตึกเมดเทคที่นี่...”

“เอ่อ...เจ๊ไม่ต้องเล่าก็ได้” ของขวัญตาโตรีบขัดขึ้นก่อนที่รุ่นพี่จะอธิบายอะไรให้เห็นภาพน่ากลัวไปกว่านี้ หล่อนลุกขึ้นแล้วลารุ่นพี่ ก่อนจะรีบจ้ำออกจากห้อง ไม่เพียงรุ่นพี่ของหล่อนเท่านั้น หล่อนเหลือบไปมองห้องแล็บข้างๆ ห้องพักก็ยังแสงไฟแปลว่ายังมีคนทำแล็บอยู่ข้างใน

คนแถวนี้ใจกล้ากันจริงๆ

ของขวัญหายใจโล่งเมื่อออกมาถึงโถงหน้าลิฟต์ เมื่อเช้าหล่อนขับรถของนพนันท์ไปทิ้งไว้ที่คอนโดมิเนียมซึ่งเป็นสินบนเช่นกันแล้วค่อยขึ้นรถไฟฟ้ามา เพราะไม่ต้องการขับรถฝ่าถนนที่รถติดมหาศาล และหล่อนก็ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องที่จอดรถของโรงพยาบาลด้วยว่าจะมีเหลือให้หล่อนจอดหรือไม่







“พี่ต้องกลับแล้วล่ะ” เมืองขวัญบอกเด็กหญิงเมื่อเห็นของขวัญเดินตรงมา แองจี้มองตามสายตา ‘พี่ชายคนใหม่’ ไป

“ใครเหรอคะ”

“ฝาแฝดพี่เองล่ะ แต่...พี่สาวเขามองไม่เห็นพี่หรอก แองจี้อย่าบอกว่าเห็นพี่นะ เดี๋ยวเค้าจะกลัว” เมืองขวัญบอกยิ้มๆ แองจี้พยักหน้าแต่ถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

“กลัวทำไมคะ พี่ชายใจดีออก”

เมืองขวัญหัวเราะ

“เขาไม่ได้กลัวพี่หรอก...เขากลัวผีต่างหากล่ะ”

“อ้าว...ก็พี่ชายเป็นผีนี่นา” แองจี้ทวนงงๆ “พี่ชายพูดวกวนจัง ปาป้าบอกกว่าแองจี้เก่งภาษาไทยแล้วนะ”






ของขวัญเลิกคิ้วนิดๆ สบตาเด็กหญิงที่จ้องเป๋งมายังหล่อน เด็กหญิงที่หน้าตาออกชัดว่าเชื้อสายตะวันตก อายุน่าจะไม่เกินสิบขวบยิ้มแป้นให้กับหล่อน ของขวัญไม่ใช่คนที่รักเด็กขนาดต้องปรี่เข้าไปหาเด็กทุกครั้งก็จริง แต่เด็กคนนี้ทำให้หล่อนอยากดึงตัวมากอดแล้วหอมแก้มยุ้ยๆ สักที

ลูกสาวใครนะ มานั่งอยู่แถวนี้

“สวัสดีค่า...พี่สาว”

ของขวัญแปลกใจ ไม่นึกว่าเด็กหญิงจะเอ่ยออกมาเป็นภาษาไทย หล่อนก้าวเข้าไปหาเด็กหญิงทันที แล้วย่อตัวนิดๆ เพื่อคุยกับเด็กหญิง

“สวัสดีค่ะสาวน้อย... ทำไมหนูมานั่งอยู่คนเดียวคะ คุณพ่อคุณแม่ล่ะ”

“แองจี้มากินไอติม... มอมโรสอยู่ในห้องโน้นค่ะ” แองจี้ยกถ้วยไอศกรีมที่เหลือเพียงคราบติดขึ้น ส่วนอีกมือชี้นิ้วไปทางปีกขวา

สงสัยจะลูกอาจารย์ล่ะมั้ง...

“มอมโรส...” แองจี้ร้องเมื่อเห็นมารดาเดินออกมาจากทางเดินปีกขวา เด็กหญิงกระโดดลงจากม้านั่งวิ่งไปหาผู้เป็นมารดาทันที

ของขวัญมองตามเด็กหญิงก็ได้เห็นหญิงสาวที่สวยที่สุดคนหนึ่ง เธอเป็นเหมือนภาพของเด็กหญิงตัวน้อยในอีกหลายปีข้างหน้า

“เจอแองจี้ไหมครับคุณนางฟ้า” เสียงห้าวๆ ทำให้ของขวัญหลุดออกจากภวังค์ แต่ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างสาวสวยทำให้หล่อนตะลึงอีกครั้ง

นางฟ้ากับแองจี้... เป็นชื่อที่เหมาะสมกับเจ้าตัวมากๆ และดูเป็นครอบครัวที่หน้าตาดีจนน่าทึ่งกันจริงๆ

ไหนพวกรุ่นพี่ว่าอาจารย์ธีร์ยังโสดล่ะ...พวกแอบโสดล่ะสิ

“คุณของขวัญ...” ธีร์สบตาหญิงสาวที่ยืนมองเขาตาโต

ของขวัญกะพริบตา เรียกรอยยิ้มออกมาแต่ก็ไม่ค่อยออกมานักเพราะนัยน์ตาคมกริบที่สบตาหล่อนอยู่นั้นมีแววขุ่นๆ อย่างไรบอกไม่ถูก

“เอ่อ...อาจารย์”

ธีร์เลิกคิ้วนิดๆ หล่อนเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาเป็นอาจารย์ หากที่เรียกความสนใจเขาได้มากกว่าคือกรอบร่างจางๆ ที่ซ้อนหลังหล่อนอยู่ต่างหาก

ก็ไม่ได้หายไปไหนนี่

ธีร์ยกมุมปากขึ้นนิดๆ เป็นการโต้ตอบสายตาขุ่นเคืองของวิญญาณเด็กหนุ่ม

“จะกลับแล้วเหรอคุณ”

ของขวัญกะพริบตาปริบๆ อยากยกมือขึ้นมาเกาศีรษะ เพราะท่าทีและทำเสียงที่เปลี่ยนไปของคนที่หน้าตาไม่ค่อยจะเหมือนหมอในความรู้สึกของหล่อน เมื่อกี้หล่อนยังเห็นแววขุ่นๆ ในดวงตาสีน้ำตาลทองอยู่เลยแต่คราวนี้ฟังหวานๆ นุ่มๆ อย่างบอกไม่ถูก

“ค่ะ...อาจารย์” หล่อนตอบถนอมเสียง ยังรู้สึกวางตัวไม่ถูกในการเปลี่ยนสถานะเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์

“ผมก็กำลังจะกลับเหมือนกัน...แล้วค่อยเจอกัน” ธีร์พยักหน้า ยิ้มให้หญิงสาวและเผื่อเลยไปยังร่างโปร่งแสง “อ้อ...อย่าโดดเรียนบ่อยนักนะคุณ”





ของขวัญมองภาพครอบครัวสุขสันต์ที่เดินลงจากตึกไปยังลานจอดรถด้านหลัง เด็กหญิงยังหันมาโบกมือลาหล่อน หากคำพูดทิ้งท้ายของ ‘อาจารย์ธีร์’ ทำให้ริมฝีปากบางเม้มน้อยๆ

หล่อนตั้งใจโดดเรียนเสียทีไหนกัน







ธีร์พาสองนางฟ้าของชาญชนนท์กลับมาถึงบ้านวรรณวิจักษ์ก็พบว่ามีพี่ๆ น้องๆ หลายคนกลับมาถึงก่อน ขณะที่เขาจูงหลานสาวเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงกรกฎดังขึ้นมา

“โอ๊ะโอ๋... ทำไมวันนี้ธีร์ควงพี่นางฟ้าเข้าบ้านล่ะนี่ คิดจะตีท้ายครัวชาส์ลหรือเปล่า”

“คงจะตีหัวนายก่อนล่ะ” เขาถลึงตาใส่น้องชายจอมกวน วันนี้เป็นวันนัดตรวจร่างกายของแองจี้ซึ่งเคยถูกคนร้ายฉีดสารบางอย่างเข้าไปในร่างกาย แต่ได้รับการบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันวิจันของโรซาริน่า จนแทบไม่หลงเหลือความผิดปกติใดๆ หากก็ต้องมีการนัดตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อติดตามผล โดยอาจารย์ของเขาช่วยดูแลให้เป็นพิเศษ

หลังจากตกลงจะอยู่ที่เมืองไทยกับชาญชนนท์ โรซาริน่าก็รับเป็นนักวิจัยในสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศซึ่งมีความตกลงร่วมมือเรื่องงานวิจัยอยู่กับสถาบันวิจัยที่หล่อนทำงานอยู่ตามที่เพื่อนสนิทของบิดามารดาซึ่งเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของหล่อนแนะนำ รวมทั้งรับเป็นอาจารย์พิเศษในบ้างครั้งด้วย

ส่วนแองจี้ซึ่งก่อนหน้านี้เรียนอยู่ในโปรแกรมพิเศษของสถาบันวิจัยในแบบเดียวกับโรซาริน่าเพื่อพัฒนาศักยภาพให้ได้สูงสุดตามไอคิวระดับอัจฉริยะของเจ้าตัว แต่ทั้งชาญชนนท์และโรซาริน่าต่างก็ไม่อยากอยู่ห่างจากบุตรสาว โดยเฉพาะโรซาริน่าเองก็ต้องการให้แองจี้เรียนรู้สังคมให้มากกว่าตนเองจึงตกลงให้แองจี้เรียนในระบบปกติของโรงเรียนนานาชาติที่เมืองไทย ซึ่งหลานสาวเขาก็ไม่ได้เดือดร้อน ขอเพียงมีเจ้าโน้ตบุ๊กสีชมพูติดตัวก็พอใจ

เมื่อตรวจร่างกายเสร็จแล้ว เลขานุการของชาญชนนท์โทรศัพท์มาตามให้เขาเข้าไปที่สำนักพิมพ์ด่วน ชาญชนนท์จึงฝากสองสาวให้เขาช่วยพากลับบ้านด้วย

“พี่สะใภ้นะโว๊ย...ระวังปากหน่อย”

กรกฎหัวเราะ เขาไม่ค่อยกลัวเสียงเข้มๆ ของธีร์เท่าไร แต่ก็ระวังไม่เข้ามาใกล้รัศมีมือและเท้าของญาติผู้พี่ ทว่าคำพูดของธีร์ก็ทำให้เขานึกได้ว่าพูดเล่นเกินไปหน่อยจึงหันไปทางพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้าน

“ขอโทษครับพี่นางฟ้า ผมแค่พูดเล่นเฉยๆ อย่าโกรธนะครับ”

โรซาริน่าเอียงคอนิดๆ มองลูกพี่ลูกน้องของสามีด้วยแววตางุนงง

“ทำไมต้องโกรธด้วยคะ ว่าแต่ทำไมกฎต้องไปตีครัวของชาส์ลด้วยล่ะ”

ธีร์หัวเราะหึๆ แล้วสำทับน้องชาย

“นายอธิบายให้คุณนางฟ้าเข้าใจดีกว่านะ ก่อนที่คุณนางฟ้าจะไปถามท่านบก.ใหญ่ รับรองได้ว่านายหัวแตกแน่ๆ”

“อ้าว... ฉันเข้าใจอะไรผิดเหรอคะ” โรซาริน่ามองน้องชายทั้งสองของสามีสลับกัน แม้หล่อนจะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาตลอดสามสิบปีก่อนจะมาเมืองไทยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่หล่อนค่อนข้างแน่ใจว่าใช้ภาษาไทยได้ดี หรือว่าหล่อนจะเข้าใจผิดไปเอง

“อ่า...เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังครับ” กรกฎก้าวเข้ามาหาพี่สะใภ้ ขืนให้โรซาริน่าไปถามความหมายกับชาญชนนท์ มีหวังสภาพของเขาไม่ผิดไปจากที่ธีร์พูดไว้แน่ๆ

“งั้นเราเข้าไปหายายชื่นกันก่อนดีกว่านะคะแองจี้” ธีร์ก้มลงบอกกับหลานสาวซึ่งพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

“เดี๋ยวแองจี้ไปดูให้ก่อนนะคะว่ายายชื่นทำแกงเขียวหวานหรือเปล่า...มอมโรสรีบตามไปเร็วๆ นะคะ” แองจี้เงยขึ้นบอกมารดาด้วยเสียงใสแจ๋ว “ไปค่ะอาธีร์...แองจี้หิวแล้ว”

ธีร์ยิ้มให้โรซาริน่าและแยกเขี้ยวใส่กรกฎก่อนจะเดินตามแรงลากของหลานสาวเข้าไปในบ้าน ทั้งสองเดินตัดห้องโถงเพื่อไปยังห้องครัว จู่ๆ ธีร์ก็ได้ยินเสียงใสๆ ของหลานสาวเอ่ยถามขึ้น

“อาธีร์ทะเลาะกับพี่ชายเหรอคะ”

“อากฎก็เป็นน้องชายของอาธีร์ค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้ทะเลาะกัน” เขาแก้ความเข้าใจของหลานสาวอย่างอ่อนหวาน

“แองจี้ไม่ได้หมายถึงอากฎ แองจี้หมายถึงพี่ชายที่ออฟฟิศของอาธีร์ต่างหาก”

“หือ...” ธีร์ทำเสียงแปลกใจเบาๆ “ใครคะ อาธีร์ไม่ได้ทะเลาะกับใครนา”

“ก็...” แองจี้คิดหาคำอธิบาย “ก็พี่ชายที่อยู่กับพี่สาว ตอนที่อาธีร์กับมอมโรสออกมาจากออฟฟิศของอาธีร์ไง แองจี้เห็นน้าว่าอาธีร์กับพี่ชายทำตาพองๆ ใส่กันน่ะ”

คำพูดยาวๆ ของหลานสาวทำให้ธีร์ชะงัก หยุดเดินแล้วย่อตัวลงจนใบหน้าเสมอกับหลานสาว

ตั้งแต่ได้พบกับวิญญาณเด็กหนุ่มนั่น เขาก็อยากคุยกับใครสักคนที่มี ‘สัมผัสพิเศษ’ ซึ่งเท่าที่เขารู้จักก็มีอยู่เพียงสองคน คือ เพลงพิณ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็กลับไปบ้านที่อุบล และอีกคนก็คือหลานสาวตัวน้อยที่เขาไม่รู้จะคุยด้วยอย่างไร

“พี่ชายใจดีออก... อาธีร์ไม่ชอบพี่ชายเหรอคะ”

“แองจี้คุยกับ... เอ่อ พี่ชายด้วยเหรอคะ” ถ้าเป็นสักไม่นานมานี้มีคนมาพูดกับเขาว่าเคยเห็นผีละก็เขาคงจะหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง แต่ตอนนี้เขาหัวเราะไม่ออกแล้ว

“พี่ชายคุยสนุก” เด็กหญิงพยักหน้า ยิ้มกว้างให้กับอาหนุ่มแล้วกันไปพยักพเยิดกับอากาศข้างกาย “ถ้าคุณตาทวดได้เจอพี่ชายต้องชอบเหมือนแองจี้แน่เลย”

ธีร์กลืนน้ำลาย มองหลานสาวทำท่าเหมือนพูดกับใครบางคน...คุณตาทวด

“แองจี้...คุณตาทวดอยู่แถวนี้เหรอคะ”

แองจี้หันกลับมา เอียงคอนิดๆ มองอาหนุ่มอย่างแปลกใจ

“ก็อยู่ตรงนี้ไงคะ...อาธีร์ไม่เห็นเหรอ”



............. พบกันวันจันทร์หน้านะคะ ................




 

Create Date : 22 มิถุนายน 2552
43 comments
Last Update : 22 มิถุนายน 2552 23:57:49 น.
Counter : 1395 Pageviews.

 

ดีใจจังเลย
อยากอ่านต่อจัง
คริๆ

 

โดย: nam IP: 112.143.1.117 23 มิถุนายน 2552 0:15:11 น.  

 

วาว..แองจี้ออกโรง

ฮิ..ฮิ

 

โดย: หนอนฮับ IP: 202.12.73.18 23 มิถุนายน 2552 0:17:25 น.  

 

Thank you so much ka.
I have to go to read first.
see u next monday na ka.

 

โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 23 มิถุนายน 2552 0:23:02 น.  

 

เด็กหนอเด็ก

ถามกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้

ใครจะไม่ขนลึกกันบ้าง - -

 

โดย: GoOsHa!R IP: unknown, 202.44.135.34 23 มิถุนายน 2552 0:31:40 น.  

 

ขอยาวๆ อีกหน่อยนะพี่ฬีฬา รอมาทั้งอาทิตย์ อ่านยังไม่จุใจเลยคะ ^^

 

โดย: pat IP: 124.121.221.157 23 มิถุนายน 2552 0:36:15 น.  

 

ช่ายๆ เห็นด้วยก๊าบ ขอตอนยาวๆ เลยก็ได้ก๊าบ หมอธีร์ก็ให้แองจี้ช่วยจัดการได้สิเนี่ย

 

โดย: ตากุ๊ก IP: 61.90.107.51 23 มิถุนายน 2552 1:08:04 น.  

 

มาตอนดึก ก็อ่านตอนดึกๆค่ะ

 

โดย: นู๋กบ IP: 192.168.16.1, 202.129.44.130 23 มิถุนายน 2552 4:24:48 น.  

 

พี่น้องธีร์คงงงน่าดู ทำไมทีคุณตาทวดไม่ยักกะเห็น โฮะๆ

 

โดย: Yuii IP: 58.9.25.250 23 มิถุนายน 2552 6:27:21 น.  

 

อยากอ่านต่อ
รอตอนต่อไปค่ะ

 

โดย: แก้ว IP: 10.0.100.9, 202.28.248.140 23 มิถุนายน 2552 6:56:39 น.  

 

มาแล้วตอนหก

 

โดย: bee IP: 58.8.166.214 23 มิถุนายน 2552 6:59:39 น.  

 

สรุปว่าหมอธีร์เห็นแต่เมืองขวัญเนอะ เอ้ ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ

 

โดย: Milky_bread IP: 114.128.233.51 23 มิถุนายน 2552 7:26:24 น.  

 

จะโลภมากไปไหมค่ะเนี่ย อยากให้รวมเล่มเร็วๆจังเลย น่าตื่นเต้นมากขึ้นๆเรื่อยๆนะคะ (ไม่ได้เร่งแต่รีบหน่อยก็ดีค่ะ ก่อนที่แฟนๆจะลงแดงกันหมดนะคะ)

 

โดย: อัจ IP: 10.0.70.38, 203.209.80.45 23 มิถุนายน 2552 7:48:54 น.  

 

ขบวนการตาวิเศษมาแล้วจ้า

 

โดย: นู๋หยง IP: 125.27.210.34 23 มิถุนายน 2552 7:50:05 น.  

 

ให้ปราชญ์ออกมั่งชอบปราชญ์งะ

 

โดย: bee (wasi ) 23 มิถุนายน 2552 8:00:55 น.  

 

โอ๊ย จะลงแดงแล้วค่ะ
อยากรู้ต่อจังเลย

 

โดย: hlee IP: 118.174.178.155 23 มิถุนายน 2552 8:39:09 น.  

 

แง แง เอาอีก เอาอีก

 

โดย: ngek IP: 203.121.167.241 23 มิถุนายน 2552 9:36:20 น.  

 

ทำไมคุณหมอถึงเห็นแต่เมืองขวัญหล่ะค่ะ แต่ไม่เห็นคุณตาเลย อยากรู้จังเลยค่ะ.....*v*

 

โดย: นู๋เต่า IP: 168.120.102.177 23 มิถุนายน 2552 9:45:38 น.  

 

55555555บ้านวรรณวิจักษ์นี่น่าจะไปเป็นสมาชิกชมรมของคุณป๋องเนอะเอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: panon IP: 203.158.141.238 23 มิถุนายน 2552 9:48:11 น.  

 

ว้า จบและ อยากอ่านอีกๆๆๆ มาเร็วๆนะคะ

 

โดย: ฟ้าเคียงเดือน IP: 58.9.105.163 23 มิถุนายน 2552 9:55:48 น.  

 

อยากให้แต่งเรื่องนี้ยาวๆหน่อยค่ะแบบ 2 เล่มจบนะ 2 เรื่องก่อนหน้านี้อ่านไม่จุใจเลยเล่มเดียวจบ เนี๊ยะ

 

โดย: โนโตะ IP: 203.146.251.232 23 มิถุนายน 2552 10:59:33 น.  

 

อยากให้แต่งยาวๆ จังค่ะ เราเต็มใจให้คุณฬีฬา หายไปสัก 2-3 สัปดาห์ แต่มีตอนมาอัพเพิ่ม 5 ตอนยาวๆๆๆๆ เลย (มากไปหรือเปล่าเนี่ย)

ชอบแองจี้มากค่ะ เรื่องนี้มากันครบเลยน้าาา

 

โดย: เรย์ IP: 58.137.127.2 23 มิถุนายน 2552 11:26:11 น.  

 

อยากให้ถึงวันจันทร์เร็ว ๆ จัง แล้วอย่าลืมท่านรองนะ

 

โดย: นกกระเต็น IP: 203.158.226.253 23 มิถุนายน 2552 11:26:16 น.  

 

เย้...ได้อ่านต่อแล้ว ดีจัง...พี่ฬีฬาหายไปนานเลย...

เป็นงง...ไหงหมอธีร์เห็นแต่เมืองขวัญ แต่ไม่เห็นปู่ตัวเองอ่ะ...

 

โดย: Arare IP: 124.120.57.198 23 มิถุนายน 2552 13:23:11 น.  

 

คิดถึงเพลงพิณ เอาพี่เพลงมาออกบ้าง

และขอยาวๆกว่านี้ด้วยนะค่ะ

ขอบคุณ

 

โดย: jeab IP: 192.168.0.156, 61.19.69.30 23 มิถุนายน 2552 14:01:41 น.  

 

หมอธีร์ เห็นแต่เมืองขวัญ เพราะเมืองขวัญมีเอี่ยวกับของขวัญแน่ๆ เลย หุหุ

 

โดย: rice IP: 172.16.20.59, 203.170.231.232 23 มิถุนายน 2552 15:13:11 น.  

 

ยุ่งจนลืมว่ามีนัดกับคุณหมอธีร์
แหะๆ แต่ก็ไม่ลืมสนิทมาสายบ้างคุณหมอคงไม่ว่าอะไร นะค่ะ

 

โดย: sweeT IP: 192.168.128.9, 203.158.4.114 23 มิถุนายน 2552 17:18:39 น.  

 

ชอบค่ะ รอด้วยใจจดจ่อ เมื่อลงได้บ่อย ๆ คงดีมิใช่น้อยนะคะ

 

โดย: กาต่าย IP: 192.168.1.31, 115.31.144.218, 117.121.208.2 23 มิถุนายน 2552 17:48:11 น.  

 

อ่านแล้วชอบจังค่ะ
รอคอยให้ร่วมเล่มไวๆ นะคะ
อ่านเรื่องเกี่ยวกับหนุ่มๆ บ้านนี้แล้วมีความสุขที่สุดเลยค่ะ

 

โดย: แก่นฝัน 23 มิถุนายน 2552 20:02:02 น.  

 

ชอบอีกแล้ว

 

โดย: ฬ้า IP: 124.121.124.105 23 มิถุนายน 2552 21:16:39 น.  

 

ยาวได้ใจมากๆ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: yuy IP: 112.143.8.197 23 มิถุนายน 2552 22:01:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ สนุกมากๆค่ะ เมื่อไหร่จะออกเป็นเล่มค่ะ รออยู่ค่ะ

 

โดย: ผ่านเข้ามา IP: 59.66.241.159 23 มิถุนายน 2552 22:03:22 น.  

 

สนกมากๆ................
จะคอยติดตามนะค่ะ

 

โดย: yuy IP: 112.143.8.197 23 มิถุนายน 2552 22:19:28 น.  

 

เอ๊ะๆๆ คุณตาทวดนี่ไม่มีวาสนาให้หลายเห็นซะบ้างเล๊ยยยย

 

โดย: jinx IP: 124.122.64.228 23 มิถุนายน 2552 23:04:46 น.  

 

ขอบอกว่าทั้งผีทั้งคน น่ารักไปหมด

 

โดย: ปูน IP: 125.27.251.72 24 มิถุนายน 2552 13:13:44 น.  

 

ตั้งหน้าตั้งตารอวันจันทร์
ชอบบบ หมอธีร์ของพี่หนูฬีค่ะ

 

โดย: อาสู่จึง IP: 125.24.163.56 24 มิถุนายน 2552 22:11:37 น.  

 

จริงๆแล้วอ่านตั้งแต่คืนวันจัทร์เช้าวันอังคารแล้วเพราะอยู่ดึก ทำงานอยู่ค่ะ
แต่เข้ามารายงานตัวไม่ได้เพราะอ่านผ่านมือถืออ่ะค่ะ

เฮ้อ ^~^ ไม่เคยจะรักวันจันทร์เท่านี้เลย

 

โดย: เสาวภาคินทร์ IP: 202.91.18.194 25 มิถุนายน 2552 18:10:44 น.  

 

พี่น้องธีร์นี่นะ

จะหล่อ สูง หุ่นดี มีชาติตระกูล ไปถึงหนาย
รูไม๊เนี่ยว่า
"ฉันกำลังจะหายใจไม่ไหว ก็ใจมันหายละลาย ละลาย ละลาย ไปกับเธอ"^_^

 

โดย: เสาวภาคินทร์ IP: 202.91.18.194 25 มิถุนายน 2552 18:18:54 น.  

 

สนุกดีจ้าน้องฬี
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจัง

 

โดย: อรุณทอแสง IP: 112.143.64.92 25 มิถุนายน 2552 23:37:55 น.  

 

แหม หมอธีร์ไม่กลัวเมืองขวัญแต่กลัวคุณตาทวดเนี่ยนะ

 

โดย: หนุงหนิง IP: 125.24.111.149 26 มิถุนายน 2552 23:02:06 น.  

 

จะถึงวันจันทร์แล้วนะคะ รออยู่นะคะ

 

โดย: เสาวภาคินทร์ IP: 202.91.19.201 28 มิถุนายน 2552 12:40:24 น.  

 

วันจันทร์แล้วค่ะ ขอมาเกาะหน้าจอรออ่านหมอธีร์ อิอิ

 

โดย: Milky_bread IP: 114.128.233.51 29 มิถุนายน 2552 7:01:30 น.  

 

พี่ฬีฬาจ๋า วันจันทร์แล้วน้า

คิดถึงหมอธีร์อ่ะ

 

โดย: jeab IP: 192.168.0.156, 61.19.69.30 29 มิถุนายน 2552 12:51:41 น.  

 

สวัสดีค่า มาใหม่ค่ะ แต่ติดตามผลงานมาตลอดเลยนะคะ มีครบทุกเล่มแล้ว
และก็รอเล่มนี้ด้วย ^^


ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ

 

โดย: Aom IP: 58.8.177.69 29 มิถุนายน 2552 13:32:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.