เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ สิ่งหนึ่งที่ตัวคุณแม่เองและคนรอบๆ ข้าง
ต่างตื่นเต้นสนใจที่สุด ก็คือ เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
ซึ่งหากต้องการรู้ก็สามารถทราบได้ด้วยการทำ อัลตราซาวด์ หรือจะรอลุ้นทีเดียวตอนคลอดนั่นเอง
แต่ก็ยังมีทริคที่หลาย ๆ คนเชื่อและยังทำกันต่อๆ มาตามคำบอกเล่าที่ว่า
ถ้าท้องใหญ่จะได้น้องผู้ชาย แต่ความจริงแล้วถ้าอยากทำนายให้แม่นขึ้น
เขาไม่ได้ดูกันที่ขนาดท้องหรอกค่ะ แต่ว่าดูกันที่ขนาดหน้าอกของคุณแม่ต่างหาก
นี่เป็นทริคในหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับคุณแม่และการตั้งครรภ์
ที่ได้เขียนเอาไว้ใน หนังสือ Do Chocolate Lovers Have Sweeter Babies?
ของ เจน่า พินคอตต์ ที่ได้เผยเรื่องการทายเพศของเจ้าตัวน้อยเอาไว้ว่า
หากอยากรู้ว่าจะได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชายให้ดูที่ขนาดหน้าอกของคุณแม่
โดยในช่วงตั้งครรภ์หน้าอกของคุณแม่ทุกคนขยายใหญ่ขึ้น
และจากการสำรวจได้พบว่า
► คุณแม่ที่มีขนาดรอบอกเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 8 เซนติเมตร มักจะได้ลูกสาว
► ในขณะที่คุณแม่ที่ได้ลูกชายจะรอบอกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยน้อยกว่าอยู่ที่ 6.3 เซนติเมตร เท่านั้น
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ
ทารกเพศชายทำให้ร่างกายคุณแม่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงขึ้น
ซึ่งจะไปกดความสามารถในการขยายของขนาดหน้าอกไว้ส่วนหนึ่ง
ทำให้หน้าอกขยายได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้คุณแม่ที่อุ้มท้องลูกชาย
มีหน้าอกเล็กกว่าคุณแม่ที่อุ้มท้องลูกสาวนั่นเอง
นอกจากจะทายเพศทารกน้อยจากขนาดหน้าอกของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์แล้ว
หนังสือเล่มนี้ยังให้ข้อสังเกตต่อแนวโน้มของหนูน้อยในท้องของคุณแม่ว่า
หากคุณพ่อที่มีพี่น้องเป็นผู้ชายมากมักจะได้ลูกชาย
ในขณะที่หากมีพี่น้องส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงก็มักจะได้ลูกสาวด้วย
นอกจากเรื่องของเพศทารกแล้ว ยังได้กล่าวถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์
ไว้อีกหลายประการ เช่น เรื่องการแพ้ท้องในคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ราว 75% จะมีอาการแพ้ท้อง
ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยเป็นอาการวิงเวียน หรือคลื่นไส้ในยามเช้า
อันเป็นกลไกหนึ่งของการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับอาหารที่อาจเป็นพิษต่อลูกน้อยในท้องนั่นเอง
และยังได้พบว่าคุณแม่ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่นิยมรับประทานข้าวโพด เฉลี่ยแล้ว
ไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องมากเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับแม่ๆ จากประเทศญี่ปุ่น
ที่มักบริโภคเนื้อปลา และอาหารทะเลเป็นหลัก ซึ่งเป็นประเทศที่คุณแม่มีอัตราการแพ้ท้องสูงที่สุด
อย่างไรก็ดี เรื่องการทายเพศที่กล่าวมานี้เป็นแค่เรื่องของสถิติและแนวโน้มเท่านั้น
และยังไม่ได้รับการทดลองอย่างเป็นทางการในทางวิทยาศาสตร์นะคะ
แต่ถ้าใครเคยทายเพศเจ้าตัวน้อยแล้วได้ผลตรงเผง ลองมาแชร์วิธีกันดูบ้างนะคะ
ว่าที่คุณแม่คนอื่นๆ จะได้ลองเอาไปทายกันดูบ้างเนอะ ♥
ที่มา baby.kapook.com/57961.html