Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 

ชมทะเล ฟังเสียงคลื่น ที่ภาวิดา รีสอร์ท ชะอำ

> ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่า “สวัสดี” เพื่อน ๆ ชาว bloggang ทุกท่าน ต้อยห่างหายจากการอัพบล้อกไปนานมาก จนอาจมีเพื่อนบางคนคิดว่า ต้อยไปลั้นล้าโลกอื่นแล้วก็เป็นได้ แต่เปล่าหรอกนะ..ยัง ฉันยังไม่ตาย ยังหายใจสบาย และยิ้มได้เต็มหน้า กลับมาคราวนี้จะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการไปเที่ยวทะเลชะอำพร้อมกับครอบครัวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันสักหน่อย

ทริปนี้เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากหลานชายสุดเลิฟของป้าบุ๋มอยากไปเล่นสวนน้ำที่ซานโตรินี่ ป้าบุ๋มจึงปรึกษากับพ่อแม่ของเจ้ายูฟ่า ในที่สุดก็ลงมติว่า เราจะไปเที่ยวชะอำกัน จากนั้นคุณย่าต้อยก็ท่องเน็ตหาที่พัก ที่เขาอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ หาอยู่นานจนไปลงเอยที่ ภาวิดารีสอร์ท จัดการจองที่พักตั้งแต่ต้นปี 2557 พร้อมติดต่อรถตู้ที่จะเป็นพาหนะพาเราไป กำหนดวันเดินทางคือวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557 ถึงวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2557

และแล้ววันเวลาที่เจ้ายูฟ่ารอคอยก็มาถึง ครอบครัวเราพร้อมเจ้าข้าวตังมะหมา ออกเดินทางจากเชียงใหม่ในค่ำคืนของวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557 โดยรถตู้ของคุณโป้งโชเฟอร์คนเก่ง แวะพักรถ พักเติมพลังคนไปตลอดทางถึงเพชรบุรีเช้าวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคมเวลาประมาณ 08.00 น. แวะรับประทานอาหารเช้า จากนั้นตรงดิ่งไปวัดห้วยมงคล สักการะหลวงปู่ทวด










สถานที่ต่อไปคือ ตลาดสามพันนาม เดินเล่นชิลล์ ๆ กินบะหมี่หมูย่าง แล้วตีรถไปที่พัก เนื่องจากนัดหลานสาวไว้ที่รีสอร์ทเวลาบ่ายโมง ถึงภาวิดารีสอร์ทบ่ายโมงกว่าเล็กน้อย ให้ลูกบุ๋มไปจัดการเรื่องที่พัก ซึ่งเราจองไว้ 2 หลัง บ้านตึกหน้าสระ และบ้านหน้าทะเลสีฟ้า สำหรับบ้านหน้าทะเลสีฟ้า จองไว้ให้ปุ๊ หลานสาวที่ตามมาร่วมแจมด้วย บ้านทั้งสองหลังอยู่ใกล้กัน







จัดการเรื่องที่พักและขนของเข้าบ้านเรียบร้อย ก็มาเดินชมทะเล โอ๊ะโอ่ว.. ทะเลแบบนี้จะเล่นน้ำได้ไง เป็นช่วงน้ำทะเลขึ้นคลื่นซัดสาดมาถึงบันไดทางลงไปชายหาด มองไม่เห็นชายหาดเลย ได้แต่ยืนมองคลื่นซัด ครืน ครืนซ่าที่ภาวิดา หมดสิทธิ์ลงเล่นน้ำทะเล อีกทั้งมีแมงกะพรุนลอยฟ่อง ยูฟ่ากับพ่อน้อตลงเล่นน้ำในสระสบายใจเฉิบกันสองคน ยืนมองทะเลฟังเสียงคลื่น ชโงกหน้าไปดูชายหาดฝั่งซ้ายมือและขวามือ เอ..ทำไมของเขาจึงมองเห็นหาดทราย และน่าจะลงเล่นน้ำทะเลได้ แม้เป็นช่วงน้ำขึ้นก็ตาม แต่ที่ภาวิดาและบริเวณคอนโดใกล้ ๆ กันที่กำลังปรับปรุงกลับมองไม่เห็นชายหาด และไม่น่าจะลงเล่นน้ำได้เพราะเกรงจะเกิดอันตราย มันแปลกดีนะ ชายหาดเดียวกันแต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มองทะเลสักพักก็เดินมาจัดของที่เตรียมมาไว้บนโต๊ะใต้ถุนบ้านหน้าทะเล และเดินไปเช่าที่นอนเสริมเพิ่มอีก 1 ชุด ปล่อยให้เจ้าข้าวตังเดินเล่น ความที่ตาเขามองไม่ค่อยเห็น จึงเดินสะเปะสะปะไปที่บันไดทางลงหาด คลื่นซัดมาตูมพัดเจ้าข้าวตังลงน้ำทะเล คนที่เขานั่งเล่นในซุ้มเห็นก็ร้องโวยวายว่า “หมาตกน้ำ” พี่ตู่อยู่แถวนั้นจึงวิ่งไปดูและลงไปคว้าเจ้าข้าวตังขึ้นมาเช็ดเนื้อตัวให้ เกือบไปแล้วสินะ..ข้าวตัง ลูกแม่









ตกเย็นจะออกไปหาอะไรทาน พี่ตุ๊กับพี่ติ๋มอาสาเฝ้าบ้านและอยู่ดูแลเจ้ามะหมาสองหน่อ พวกเราจึงออกไปกัน คุณโป้งโชเฟอร์แนะนำร้านป้าสมใจซีฟู้ด อยู่ซอยข้าง ๆ ค่ายนเรศวร ไม่เด่นไม่ดัง แต่อาหารทุกอย่างถูกปาก ราคาก็ไม่แพงเกินไป สั่งอาหารมาประมาณ 7-8 อย่างจ่ายค่าเสียหายไป 1,710 บาท จะไปแพงที่ปลากะพงทอด เขาคิดตัวละ 300 บาท







รถกลับมาส่งพวกที่ไม่ประสงค์จะไปท่องราตรีหัวหิน ที่บ้านพัก เราเดินมาจะรับเจ้าข้าวตังกลับบ้าน ข้าวตังได้ยินเสียงแม่ ดีใจรีบลงบันไดมา ได้เรื่องเลย คุณข้าวตังตกบันไดสิเจ้าค่ะ กลิ้งลุน ๆ สัก 3 ขั้นได้มั่งดีที่ไม่ตกไประหว่างขั้นบันได ไม่งั้นขาหักแน่

เช้าวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม เดินไปดูน้ำทะเล โฮเฮะ.. แมงกะพรุนเต็มหาด ลงเล่นน้ำไม่ได้อีกแล้วสิเรา เลยชวนปุ๊ พี่ติ๋มและคุณสามีไปตลาดชะอำเพื่อไปหาซื้ออาหารทะเลสดสำหรับปิ้ง ย่าง ตอนเย็น มาคราวนี้ราคาอาหารทะเลพอสู้ไหว ปู กิโลกรัมละ 350 บาท กุ้ง กิโลกรัมละ 350 บาท ปลาหมึก กิโลกรัมละ 160 บาท ปลากะพงกิโลกรัมละ 150 บาท ( 1 ตัว = 1 กิโล) กลับมาที่พักก็จัดการเรื่องอาหารเช้าอันประกอบด้วย กาแฟ ไข่ดาว เบคอน ไส้กรอก ขนมปัง พอทานอาหารเช้าเสร็จ ยูฟ่าพร้อมพ่อแม่ ต๊ะ และ เนียร์ ก็ไป Black Mountain Water Park ที่ต้องเปลี่ยนจากสวนน้ำซานโตรินี่ก็เพราะที่นี่เขาอนุญาตให้เด็กอายุตั้งแต่ 10 ขวบเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ได้ ซึ่งเจ้ายูฟ่าอายุ 6 ขวบเองเล่นได้แค่ 2 อย่างเสียเงินแล้วเล่นไม่คุ้มจึงเปลี่ยนมาเล่นที่ Black Mountain Water Park แทน ที่นี่ผู้ใหญ่เสียค่าผ่านประตู 600 บาท เด็ก 300 บาทเล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิด ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าภายในบริเวณสวนน้ำ









สาย ๆ หน่อยเราก็ทอดปลากะพงเอาแค่พอสุกนิดหน่อย กันไม่ให้ปลาเน่าแล้วพักไว้ นั่งคุย เล่นน้ำในสระกัน สักบ่ายสามเรากับปุ๊ก็ช่วยกันแกะปูที่ให้แม่ค้านึ่งมาเรียบร้อย แกะใส่กระดองเตรียมไว้ ปู 7 กิโลได้มา 27 ตัวนั่งแกะปูจนมือหงิก พอวัยรุ่นกลับจากเล่นน้ำ ก็ให้เขาก่อไฟ จัดการกับกุ้งและปลาหมึก ส่วนปลากระพงที่ทอดไว้พอสุกก็ให้ชายต๊ะเป็นคนทอดให้เหลืองกรอบน่ากิน เสร็จสรรพก็ตั้งวง เราใช้สองซุ้มโจ้อาหารกัน เรากับปุ๊กินกันน้อยมาก คงเซ็งกับการแกะปู แต่เราก็ดีใจที่เจ้าน้อตลูกชาย enjoy กับอาหารมื้อนี้ ยูฟ่าก็อร่อยกับปลากะพงทอดกรอบ อ้อ.. ทางรีสอร์ทมีเตา พร้อมที่ปิ้ง ย่างให้ทุกซุ้มและทุกบ้าน ยกเว้นบ้านทรงกลม















พอเราอิ่มก็แปลงร่างเป็นแจ๋ว เก็บจานชามมาล้างโดยมีลุกสาวคนสวยคอยช่วย เตรียมแพ็คเครื่องครัวใส่ตะกร้ากลับเชียงใหม่ในวันรุ่งขึ้น ให้เจ้าข้าวตังนั่งรอตรงเก้าอี้สีฟ้าสกปรกสุด ๆ ไม่อยากให้เขาเดินไปไหนมาไหนอีก เจ้าข้าวตังก็น่ารัก ไม่ร้อง ไม่งอแง นั่งรอแม่ทำงานจนเสร็จ อุ้มเขาขึ้นบ้านให้ขนมกิน เราอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนหัวถึงหมอนก็หลับ เพราะเหนื่อยโคตร ๆ



เช้าวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2557 เช้านี้น้ำทะเลน่าเล่นมาก แมงกะพรุนก็ไม่ค่อยมี แต่เราเล่นไม่ได้เพราะต้องเดินทางกลับเชียงใหม่แล้ว เสียดายมาก มาคราวนี้ไม่ได้เล่นน้ำทะเลเลย ก่อนกลับก็ชักรูปกับบ้านพี่ติ๋มไว้เป็นที่ระลึก ขาดน้องเนียร์ไปคนเพราะยังไม่ลงจากบ้าน ออกเดินทางจากภาวิดารีสอร์ทประมาณ 7 โมงกว่าเล็กน้อย แวะทานอาหารเช้าและซื้อของฝากที่ร้านแม่กิมลั้ง แวะเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก เข้ากรุงเทพฯ เพราะคุณโป้งจะเปลี่ยนยางรถแถวฟิวเจอร์ปาร์ค แต่จำทางไม่ได้กอร์ปกับรถติดมาก เลยกลับรถเข้าทางสุพรรณบุรี ถึงบ้านเชียงใหม่เวลา 21.30 น. ตลอดระยะเวลาการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ ข้าวตัง ไม่มีโยเยให้ปวดหัว นอนนิ่งในที่นอนที่จัดให้ น่ารักมาก..ข้าวตัง ลูกแม่











เกร็ดเล็กน้อยสำหรับภาวิดารีสอร์ท

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน

น้ำทะเลหากเป็นช่วงเวลาน้ำขึ้น จะลงเล่นน้ำไม่ได้ เพราะน้ำทะเลจะขึ้นถึงบันไดทางลง มองไม่เห็นหาดทรายเลย เกรงจะเป็นอันตราย

โต๊ะม้าหิน เก้าอี้สีฟ้า น่าจะทำความสะอาดสักนิด ดูสกปรกไม่น่านั่ง

เครื่องใช้ที่ชำรุดก็ไม่ซ่อมแซม ปล่อยทิ้งไว้ น่าจะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้

ความปลอดภัยในทรัพย์สินยังไม่ดีพอ จะเห็นได้ว่าทางรีสอร์ทติดประกาศเตือนไม่ให้วางของมีค่าไว้ด้านล่าง และประตูห้องนอนควรล้อคทุกครั้ง จากการสังเกตของเราที่เป็นเช่นนี้เพราะ ประตูทางเข้ารีสอร์ทเปิดตลอดเวลา ไม่มียาม คนจึงเดินเข้าออกได้อย่างสบาย

บันไดขึ้นบ้านพักหน้าทะเล ควรจะหาไม้กระดานหรือไม้อัดมาตีทับใต้ขั้นบันได กันคนลื่นไถลตกระหว่างขั้นบันได



ผู้ที่นำสัตว์เลี้ยงมาด้วยจะเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 500 บาท
ราคาน้ำแข็ง กระติกละ 30 บาท (กระติกของทางรีสอร์ท)
ที่นอนเสริมชุดละ 150 บาท
ราคาบ้านพัก
ราคา
ประเภทที่พัก Mon - Thu Fri - Sun
- บ้านหน้าทะเล 4,000 ฿ 4,500
- บ้านหน้าสระ(บ้านตึก) 3,200 ฿ 4,000
- บ้านทรงกลม 2,000 ฿ 2,500
- ห้องพักภาวิดา 1,200 ฿ 1,500





 

Create Date : 27 ตุลาคม 2557
10 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 9:40:50 น.
Counter : 19848 Pageviews.

 






โห .. พี่ต้อย ..


หายยยยยยยย .. ไปเลยนะคะ ..

ปรกติ ป๋องจะไม่ค่อย เปิดหน้า Bloggang ดูว่าใคร Up Blog หรอกนะคะ ..

บัง เอิ้นนนนนนนนนนนน ..



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
KeRiDa Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




 

โดย: foreverlovemom 27 ตุลาคม 2557 15:44:17 น.  

 




มัว ตะ โม้ .. กะเด๋ว อด เจิม ..

แต่ .. ป๋อง ทั้ง อ่าน ทั้ง ชมภาพ หมดแล้วนะคะ ถึงค่อย โหวต ..

พี่ต้อย สบายดีนะคะ ..

คิดถึง จัง ..

แต่ จากภาพที่เห็น พี่ต้อย มีความสุขดี ..

ได้เที่ยวกับคนที่รัก ด้วย .. น่าอิจฉา ..

น้องยูฟ่า โตขึ้นมากนะคะ ..

ดูแข็งแรงด้วย ..


ดีใจด้วยค่ะ ..








 

โดย: foreverlovemom 27 ตุลาคม 2557 15:46:24 น.  

 

สวัสดีครับ
หายไปนานมากเลยครับ
ตามมาเที่ยวด้วย
ชอบใจตรงเอาสัตว์เลี้ยงเข้าที่พักได้
อาจตามรอยไปที่นี้สักครั้งครับ

 

โดย: moresaw IP: 1.2.147.61 27 ตุลาคม 2557 19:31:08 น.  

 

สวัสดีครับ พี่ต้อย
น่าจะไปเล่นที่หาดชะอำก็ได้ครับ เสร็จแล้วอาบน้ำจืด กลับมานอนพักผ่อน

 

โดย: เศษเสี้ยว 27 ตุลาคม 2557 23:23:14 น.  

 

ชะอำ แมงกระพรุนดุจริงๆ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 1795981 27 ตุลาคม 2557 23:42:00 น.  

 

ทักทายค่ะคุณต้อย

หายไปนานมากนะคะ แต่กลับมาก็สุดคุ้ม เล่าเรื่องได้ละเอียดยิบ อ่านตามทุกตัวอักษร นึกภาพตามได้เลยค่ะ

คุณต้อยดูสดใสขึ้นค่ะ หลานยูฟ่าก็โตขึ้นมาก ตอนนี้เรียนชั้นไหนแล้วคะเนี่ย

ทริปนี้จองที่พักตั้งแต่ต้นปี มาใช้บริการเอาเกือบสิ้นปี ทิ้งไว้เกือบลืมเลยนิ

โหวตให้กับทริปที่เล่าได้ละเอียดยิบค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
KeRiDa Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ร่มไม้เย็น 28 ตุลาคม 2557 19:18:58 น.  

 

สวัสดีครับคุณต้อย ดีใจมากครับที่เห็นอัพบล๊อกอีก..ต้อง
สุขภาพดีขึ้นแน่ด้วย...

แถมแกะปูเก่งด้วย... น่ากินมาก
ได้ไปเที่ยวไกลบ้าน ดีเหมือนกัน... หลานชายน่ารักครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 28 ตุลาคม 2557 21:44:33 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 29 ตุลาคม 2557 4:42:39 น.  

 

เข้าพัก28มี.ค.58 บรรยากาศก็ดีนะติดทะเล แต่ว่าแออัด ความเป็นส่วนตัวไม่มี เจ้าของไม่สามารถควบคุม แขกที่เข้าพักได้ เพราะปล่อยให้มีการร้องเพลงเปิดเครื่องขยายเสียงกันได้ ยังกะผับตอนนี้ก็21.30แล้วดังมากๆ ขาดความสงบอย่างมาก ผมคิดว่าจะไม่มาที่นี้อีกแล้ว เข็ดจริงๆ ถ้าปล่อยให้
เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมว่าเจ้ง
แน่ๆๆ ผมมาที่นี่ตั้งแต่สมัยคุณลุงพูนเจ้าของเดิมยังอยู่เลยครับ ก็ประมาณ15ปีขึ้นไป น่าเสีนดายจริงๆครับ เฮ้อ....อ

 

โดย: ศราวุธ IP: 49.230.30.153 28 มีนาคม 2558 21:42:59 น.  

 

รบกวนขอเบอร์เพื่อติดต่อจองห้องพักที่คุณต้อยโทรจองได้หน่อยสิคะ ดิฉันหาเบอร์จากเว็บต่างๆ เป็นเบอร์มือถือจำนวน 4 เบอร์ 2 เบอร์จาก 4 เบอร์ ไม่มีผู้รับสาย อีก 2 เบอร์เป็นเบอร์นายหน้าจัดหาที่พัก ซึ่งแจ้งว่า ภาวิดา รีสอร์ทไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นแล้ว ชอบบรรยากาศบ้าน 3 หลังริมทะเล และมีสระว่ายน้ำให้ด้วย รบกวนแจ้งกลับทางอีเมล์ก็ได้ค่ะ toey_1511@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

 

โดย: เต้ย IP: 125.27.170.242 30 พฤษภาคม 2558 22:54:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


KeRiDa
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




ชื่อเล่นว่าต้อย เป็นคนกรุงเทพฯ ย้ายตามสามีซึ่งรับราชการมาประจำที่จังหวัดเชียงใหม่ มีลูกสาวและลูกชายอย่างละ 1 หน่อ และมีหลานชายวัยกำลังซนผู้เป็นกำลังใจให้คุณย่าได้ต่อสู้กับโรคร้าย

อุปนิสัยส่วนตัวพูดไม่ค่อยเก่ง เขียนเล่าเรื่องราวไม่ค่อยจะิเป็น ถนัดแต่เรื่องเพลง ฉะนั้นบ้านนี้จึงมีเสียงเพลงเสียเป็นส่วนใหญ่

เรือนเพลงรัก KeRiDa ยินดีต้อนรับเพื่อน ทุกท่านด้วย ความเต็มใจค่ะ

"ชนใดไม่มีดนตรีกาล
ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ
เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์"

บทกลอนตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6



Friends' blogs
[Add KeRiDa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.