Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
22 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 

กาแฟ กับ อัลคาลอยด์ เพื่อสุขภาพที่ดี

อัลคาลอยด์กับกาแฟเพื่อสุขภาพ ชงอย่างไรให้ได้ประโยชน์จากกาแฟโดย คุณหมอ ดร.รสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์ แพทย์ทางเลือก ธรรมชาติบำบัด







อัลคาลอยด์ กับกาแฟ เพื่อสุขภาพ


อัลคาลอยด์ก็คือ ตัวอนุพันธ์ของไขมันที่จะเปลี่ยนรูปไปเป็นฮอร์โมนที่จะไปดูแลน้ำเมือกในร่างกาย หรือเป็นตัวลดแรงเสียดดื่มของกระแสโลหิต ซึ่งจะไปทำให้ปลายสมองไม่แห้ง อัลคาลอยด์จะเปลี่ยนรูปเป็นน้ำหล่อเลี้ยงไปหุ้มปลายประสาทให้แข็งแรง


กาแฟเกี่ยวข้องอย่างไร?


กาแฟเป็นตัวเร่งให้อัลคาลอยด์เปลี่ยนรูปไปเป็นน้ำเมือกได้เร็วขึ้นระบบประสาทก็จะรู้สึกชุ่มชื่น เพราะเมื่อดื่มเข้าไปเราก็จะรู้สึกสบาย หัวใจจะไม่เต้นแรง


กาแฟไม่เหมาะกับใครบ้าง

คนที่เป็นโรคไตและหืดหอบ เพราะ คาเฟอีนและอัลคาลอยด์ มันจะไปกระตุ้นต่อมหมวกไต ซึ่งอ่อนแอจะทำให้เนื้อเยื่อฉีกขาด มันจะมีอาการเหมือนหน้ามืดและเจ็บหน้าอก


แต่สำหรับใน”คนปกติ” ถ้าทานอาหารและน้ำผักได้สัดส่วนเราสามารถดื่มได้หลังอาหาร เพราะจะไปทำให้การหมุนเวียนโลหิตเร็วขึ้น ในขณะเดียวกัน


ถ้ากาแฟนั้นมีอัลคาลอยด์ การจะกำจัดของเสียในเซลล์สมองทิ้งจะทำได้เร็วขึ้นและเซลล์สมองก็จะแข็งแรงขึ้น พวกผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง จริงๆดื่มได้ แต่ต้องดื่มหลังดื่มน้ำผักปั่นเพราะในกลุ่มไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดจะมีไขมันหุ้มอยู่ พอดื่มกาแฟจะไปกระตุ้นให้หลอดเลือดบีบตังแรง เมื่อมีไขมัน อยู่ก็จะบีบตัวแรงไม่ได้ หัวใจก็จะโตทำให้อึกอัด


ซึ่งกาแฟที่ผลิตโดยทั่วไปนั้น จะต้องผ่านขบวนการ ทำให้แห้งด้วยความร้อนสูง ที่นี้กลุ่มที่ต้องใช้ความร้อนสูงในการทำเกล็ด หรือคั่ว อัลคาลอยด์จะหมดไปเลยไม่เหลือ เพราะ อัลคาลอยด์เป็นอนุพันธ์ไขมันเป็นความชื้น(Moisture) สูญสลายในความร้อนหมด เมื่อเราดื่มกาแฟพวกนี้ก็จะไปเร่งหัวใจให้เต้นอย่างเดียวแต่ไม่มีตัวประสานดังกล่าว


เคล็ดลับการชงกาแฟสดเพื่อเป็นอาหารสุขภาพ


1. กาแฟสดที่มีอัลคาลอยด์ และคาเฟอีน

ต้องเป็นกาแฟที่มีการปลูกใต้ต้นไม้ผลและไม่ใช้สารเดมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช รวมถึงไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีใดๆ กาแฟจะดูดซบสารฮอร์โมนธรรมชาติ จากหญ้าและรากไม้ผล


2. ส่วนผสมของกาแฟ

2.1 กาแฟไม่มีน้ำตาลหรือนมจะมีคุณสมบัติเป็นด่างที่มีไวตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลเนียม

2.2 กาแฟที่ผสมกับน้ำตาลธรรมชาติจะมีไวตามินบีรวมและแคลเซียม 2.3 กาแฟผสมกับน้ำตาลและนมจะได้พลังงานและแลเซียมเพิ่มขึ้น


3. วิธีชง

ต้องใส่น้ำตาลและนมในแก้ว ก่อนชงแล้วจึงเทน้ำกาแฟที่ชงแล้ว ด้วยเครื่องหรือถุงผ้าที่มีน้ำร้อนผ่าน จะทำให้เกิดน้ำมันหอมะเหยแต่ถาชงโดยไม่ใส่น้ำตาลและนมก่อน อัลคาลอยด์จะเปลี่ยนรูปไปเป็นกรด และ GUM (ยาง) ซึ่งจะทำให้เลือดข้นขึ้นเคลื่อนตังช้าลง และเกิดความดันโลหิตสูงซึ่งจะเป็นโทษกับร่างกาย


ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือเล่าสู่กันฟัง ฯโดย ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์





ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี (kandanalike)







 

Create Date : 22 มิถุนายน 2554
2 comments
Last Update : 22 มิถุนายน 2554 10:54:41 น.
Counter : 2783 Pageviews.

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ ทักทายค่ะ

แวะชมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ อย่าลืม Vote ให้ด้วยนะค่ะ

ThaiLand Travel สถานที่ท่องเที่ยว

 

โดย: nonguide 22 มิถุนายน 2554 11:09:10 น.  

 

ขอบคุณนะคะ ที่เอาความรู้มาฝาก

 

โดย: สัญญาลมปาก 22 มิถุนายน 2554 12:34:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kandanalike
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




Friends' blogs
[Add kandanalike's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.