"ประกายไฟน้อยๆ ลามทุ่งได้"

<<
กันยายน 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 กันยายน 2549
 

อบรมสัมมนาที่เชียงใหม่ - ชมมหกรรมพืชสวนโลก


กระแสความสนใจที่มีต่องานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 - 31 มกราคม 2550 นี้ เชื่อแน่ครับว่าจะส่งผลให้การท่องเที่ยวจัดหวัดเชียงใหม่ในปีนี้คึกคักขึ้นเป็นประวัติการณ์

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯนี้ นับได้ว่าเป็นงานมหกรรมพืชสวนที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และยิ่งมีวัตถุประสงค์การจัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯพระมหากษัตริย์ผู้เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยด้วยแล้ว การจัดงานในครั้งนี้จึงได้มีการเตรียมกำหนดการจัดกิจกรรมต่างๆกันอย่างยิ่งใหญ่ โดยภายในบริเวณงานมีการจัดสรรพื้นที่ไว้กว่า 470 ไร่ สำหรับจัดแสดงความหลากหลายของพืชพรรณไม้ต่างๆกว่า 2,200 ชนิด จำนวนกว่า 2 ล้าน 5 แสนต้น ซึ่งถ้านับตามขนาดพื้นที่และจำนวนพืชพันธุ์นานาๆชนิดตลอดจนกิจกรรมต่างๆอีกมากมายที่น่าสนใจแล้ว ก็คงกล่าวได้เต็มปากเต็มคำครับว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเขตร้อนชื้นที่สมบูรณ์ที่สุดของโลกอีกครั้งหนึ่ง

กิจกรรมสำคัญอีกประการหนึ่งภายในงาน ราชพฤกษ์ 2549 ก็คือ การจัดสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งบริษัทมหาชนและรัฐวิสาหกิจ ได้มีส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายความจงรักภักดี ด้วยการร่วมจัดสวนและการจัดแสดงกิจกรรมประเภทต่างๆภายในงาน ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่จะไหลรวมกระแสธารแห่งความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมถวายพระพรชัยแด่ในหลวงของเราอีกวาระหนึ่ง

สำหรับผลตอบรับในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ทางศูนย์วิจัยกสิกรได้คาดการณ์ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่เพิ่มขึ้นและส่งผลให้โดยรวมตลอดทั้งปี 2549 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังเชียงใหม่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15 จากปี 2548 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 4.6 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณ 2.6 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปี 2548 ที่เหลืออีกประมาณ 2.0 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปี 2548

ในด้านเม็ดเงินหมุนเวียนก็มีการประมาณกันว่า การใช้จ่ายในด้านต่างๆของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ในปี 2549 คาดว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินคิดเป็นมูลค่าประมาณ 42,000 ล้านบาทสะพัดสู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 31 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาทสะพัดไปสู่ธุรกิจจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสินค้าโอทอปประเภทงานหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลัก ผลิตภัณฑ์กระดาษสา ผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน และผลิตภัณฑ์เซรามิก เป็นต้น รองลงมา คือ ร้อยละ 22 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,200 ล้านบาทสะพัดสู่ธุรกิจด้านที่พักในเชียงใหม่ที่มีจำนวนกว่า 270 แห่งซึ่งมีจำนวนห้องพักรวมกันประมาณ 18,000 ห้องในปี 2548

ครับแค่นึกภาพตามไปถึงบรรยากาศที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างพากันเดินเที่ยวชมพันธุ์ไม้หลากสีสันท่ามกลางภูมิอากาศที่หนาวเย็นคละเคล้าไปด้วยไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณที่จัดงานก็ชักจะเคลิบเคลิ้มและตื่นเต้นใคร่จะไปสัมผัสด้วยตนเองไวๆซะแล้ว และโดยส่วนตัวก็คิดว่าคงไม่น่าจะพลาดงานนี้ เพราะในช่วงเดือนธันวาคม 49 บริษัท ฝึกอบรมและสัมมนาธรรมนิติ จำกัด จะมีหลักสูตรอบรมสัมมนาที่น่าสนใจอยู่ 2 หลักสูตร ซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่และมีกำหนดการที่จะเข้าเที่ยวชมงานดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน ก็ขอใช้โอกาสตรงนี้บอกกล่าวและประชาสัมพันธ์ไปสู่ผู้อ่านที่มีความสนใจที่จะไปเที่ยวงานมหกรรมพืชสวนโลกฯครั้งนี้อยู่แล้ว หรือกำลังคิดที่จะเข้าอบรมสัมมนาในช่วงเดือนธันวาคมให้ลองพิจารณาหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งในสองหลักสูตรที่จะกล่าวถึงนี้กันอีกทางหนึ่ง

สองหลักสูตรนี้มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ เสาร์ที่ 2 ถึงวันอังคารที่ 5 ธันวาคม 49 กำหนดการคร่าวๆก็คือ วันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. เวลา 17.00 น. - ผู้เข้าอบรมสัมมนาเดินทางมาพร้อมกันที่รถไฟสถานีหัวลำโพง โดยคณะจะเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษสำหรับเดินทางไปร่วมชมงานกิจกรรมพืชสวนโลกฯ ซึ่งจะเดินทางออกจากสถานีหัวลำโพงเวลาประมาณ 17.45 น.

เวลาที่บรรดาผู้ร่วมเดินทางมีอยู่บนรถไฟประมาณ 12 ชั่วโมงนั้น หากไม่นับเวลานอนหลับพักผ่อนราวๆ 6-7 ชั่วโมงแล้ว เวลาที่เหลือก็คงจะเป็นเวลาของกิจกรรมเล็กๆน้อยแบบเป็นกันเองตามความเหมาะสม นอกเหนือไปจากนั้นใครประสงค์ที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ หรือทำความรู้จักกันให้มากขึ้นก็คงจะตามแต่อัธยาศัยครับ ส่วนเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทางนั้นก็คงไม่น่าจะต้องเป็นกังวลอะไรมาก เพราะแม้จะเป็นตู้โดยสารแบบนั่ง แต่ก็เป็นขบวนรถพิเศษที่การรถไฟได้จัดเตรียมเอาไว้สำหรับการเดินทางไปร่วมงานกิจกรรมพืชสวนโลกเป็นการเฉพาะ อีกทั้งตู้โดยสารที่ได้จับจองเอาไว้ก็เป็นตู้โดยสารที่จองไว้สำหรับกลุ่มผู้เข้าร่วมการสัมมนาเกือบจะทั้งหมด ดังนั้นจึงน่าจะมีความเป็นส่วนตัวและเป็นกันเองที่รวมๆกันอยู่ในปริมาณที่กำลังพอเหมาะพอควร

ขบวนรถไฟจะเดินทางมาจอดนิ่งสนิทที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ในเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค. เวลาประมาณ 8.30 น. ตามกำหนดการณ์ที่พอจะไปสืบทราบมาก็คือ เหมื่อถึงเชียงใหม่แล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาคณะจะมุ่งตรงไปยังศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง เพื่อเข้าชมกิจกรรมงานพืชสวนโลกฯกันเลย โดยจัดเวลาให้ผู้เข้าอบรมได้เที่ยวชมกันอย่างเต็มอิ่มไปจนถึงเวลาเย็น จากนั้นจึงค่อยเดินทางเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนหรือโลดแล่นไปช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย

สำหรับภาควิชาการในส่วนของการอบรมที่คงจะเข้มข้นเต็มที่แม้จะอยู่ในบรรยากาศสบายๆก็ตามนั้น จะมีขึ้นหลังอาหารเช้าของวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค. โดยจะเริ่มการบรรยายตั้งแต่เวลา 9.00 น. ซึ่งผู้เข้าสัมมนาจะเข้ารับการสัมมนาตามหัวข้อเรื่องที่ได้สำรองที่นั่งไว้ และหลังจากเสร็จสิ้นการอบรมสัมมนาในเวลา 16.00 น. แล้ว ในเวลา 19.00 น. หลังจากพักผ่อนและเก็บข้าวเก็บของหรือช้อปปิ้งส่งท้ายเสร็จ คณะผู้เข้าอบรมก็จะออกเดินทางกลับโดยรถบัสซึ่งจะถึงกรุงเทพฯในเช้าวันอังคารที่ 5 ธ.ค. เวลาประมาณ 06.00 น.

ทั้ง 2 หลักสูตรเดินทางพร้อมกันมีกำหนดการณ์เหมือนกันครับ แต่แน่นอนเนื้อหาของหลักสูตรที่จะมีการอบรมกันในวันที่ 4 ธ.ค. 49 ย่อมจะต้องแตกต่างกันไปตามหัวข้อตามความสนใจของผู้เข้าอบรมสัมมนาที่จะเลือกให้สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน

หลักสูตรแรกเป็นเรื่อง Tax Planning Strategy 2007 (สุดยอดกลยุทธ์การวางแผนภาษี ปี ’50) บรรยายโดยอาจารย์สมเดช โรจคุรีเสถียร ประกอบไปด้วยเรื่องการวางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและสวัสดิการพนักงาน การวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมไปถึงเรื่องของมาตราฐานทางวิชาชีพนักบัญชีสมัยใหม่ และวิเคราะห์แนวนโยบายทางภาษีและมาตราการทางภาษีของราชการในปี 2550 เรียกได้ว่าเนื้อหาสุดเข้มข้นและเจาะลึกไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ส่วนหลักสูตรที่ 2 เป็นเรื่อง Management for Chief (ศาสตร์และศิลปด้านการบริหารสำหรับผู้บังคับบัญชา) บรรยายโดย อ.สุขุม นวลสกุล) หลักสูตรนี้พูดถึงเรื่องหลักจิตวิทยาในการบริหารคน แนวทางการบริหารเพื่อสร้างแรงจูงใจและแรงกระตุ้นในการปฎิบัติงาน เทคนิคการบริหารความคิดและอารมณ์ในการบริหารและทำงานร่วมกับผู้อื่น ฯลฯ รวมความแล้วก็เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจอย่างยิ่งอีกเช่นกัน

ถือเป็นกิจกรรมพิเศษดีๆในช่วงปลายปีที่มีโอกาสไม่มากครั้งนักหรอกครับที่จะเกิดขึ้นได้ ยังไงก็ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่สนใจเข้าไปดูรายละเอียดของทั้ง 2 หลักสูตรกันได้ที่ //www.dharmniti.co.th ครับ แต่ยังไงถ้าประสงค์จะไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ขอให้รีบสำรองที่นั่งสักนิดครับ เนื่องจากต้องจำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมไว้ตามที่กำหนดครับ.


(สำรองที่นั่งโทร. 02831-7300 กด 1)

**เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549

-เนื่องจากมีกาคาดการณ์กันว่าจะมีผู้ที่สจในไปเที่ยวชมงานนี้กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางผู้จัดจึงแนะนำให้ผู้สนใจจองบัตรเข้าชมงานล่วงหน้า (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 49 ที่ผ่านมา) โดยบัตรทุกใบจะออกโดยการระบุวันเข้าชมไว้แน่นอนเพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้เข้าชมงาน ซึ่งมหกรรมราชพฤกษ์ 2549 จะเปิดรับผู้เข้าชมงานเพียงวันละ 35,000 คนเท่านั้น
-Mascot หรือสัญลักษณ์ตุ๊กตางานมหกรรมพืชสวนโลก เป็นตัวการ์ตูนที่เป็นดอกไม้สำคัญชนิดต่างๆ เช่น “น้องคูน” หรือดอกคูณ หรือชื่อจริงราชพฤกษ์, น้องกุหลาบ, น้องนารี, น้องบัว, น้องก้านยาว (แทนทุเรียน), น้องมังคุด เป็นต้น
-ราชพฤกษ์” ซึ่งใช้เป็นชื่อและตราสัญลักษณ์ของมหกรรมพืชสวนโลกฯในครั้งนี้ เป็นชื่อของต้นไม้ประจำชาติ ซึ่งถือว่าเป็นไม้มงคลที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย เนื่องจากมีดอกเป็นพวงระย้า สีเหลืองสด อันเป็นสีแห่งพระพุทธศาสนา และนอกจากนี้ สีเหลืองยังเป็นสีประจำวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี.




 

Create Date : 12 กันยายน 2549
0 comments
Last Update : 12 กันยายน 2549 11:48:01 น.
Counter : 632 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

อาบูหะซัน
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add อาบูหะซัน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com