"ประกายไฟน้อยๆ ลามทุ่งได้"

 
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 มิถุนายน 2549
 

จดหมาย


ขอบคุณที่ยังจำวันเกิดผมได้

ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกันเมื่อเห็นลายมือที่เคยคุ้นตากลับมาอยู่บนซองจดหมายที่จ่าหน้าถึงผมอีกครั้ง

ถ้าความจำผมยังไม่เลอะเลือน ครั้งสุดท้ายที่ได้รับจดหมายพร้อมการ์ดวันเกิดจากคุณคือเมื่อสิบสามสิบสี่ปีก่อน หลังจากวันนั้นเราได้พบกันอีกเพียงแค่ครั้งเดียว

ผมไม่แปลกใจนักที่คุณกำลังคิดจะกลับมาเมืองไทย เพราะผมทราบดีว่าแม้ครอบครัวคุณจะย้ายไปลงหลักปักฐานที่อเมริกากันนานแล้ว แต่ซักวันหนึ่งพวกเขาก็จะต้องหวนกลับมายังบ้านที่แท้จริงของพวกเขาอีกครั้ง ผมดีใจที่คุณเป็นคนแรกที่จะเดินทางกลับมาก่อนใคร

ที่ผมแปลกใจกลับเป็นจดหมายที่คุณเขียนมาหา เพราะนอกจากจะเป็นจดหมายฉบับที่เขียนมาอย่างยาวเหยียดแล้ว ยังเหลือเชื่อที่ว่า แทนที่จะเขียนเล่าเรื่องราวของคุณเอง คุณกลับเขียนถึงแต่เหตุกาณ์ในครั้งแรกที่เรารู้จักกัน

เมื่อย้อนนึกถึงวันนั้น มันก็อย่างที่คุณว่ามานั่นแหละ คือเป็นครั้งแรกที่ผมเข้าไปทำความรู้จักกับผู้หญิง

บ่ายวันนั้นอากาศแจ่มใส และเป็นฤดูหนาวที่น่าจดจำ

บนท้องถนนแถวบางรักการจราจรติดขัดเหมือนเช่นทุกวัน หลังจากที่ผมกับเพื่อนทานอาหารเช้าที่ร้านประจำไม่ไกลจากโรงเรียนแล้ว ขณะที่กำลังเดินกลับไปให้ทันเข้าเรียน สายตาของผมก็มองไปเห็นเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถประจำทางที่จอดสนิทติดอยู่ริมทางเท้าทางด้านขวามือของผมนั่นเอง

คุณหรือเธอในวันนั้น อยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนและกำลังใช้ดวงตากลมโตมองผ่านหน้าต่างรถประจำทางที่เปิดอยู่เพียงครึ่งหนึ่งมายังพวกเรา แน่นอนมันมีเสี้ยววินาทีที่สายตาคู่นั้นอยู่ในระนาบสายตาเดียวกันกับผม

ผมยึดมือเพื่อนๆอีกสามสี่คนให้หยุด และหยุดแบบแทบที่จะเรียกได้ว่าหยุดเอาดื้อๆ จ้องมองดูแต่คุณไม่ไปไหน พวกเราพร้อมใจกันแสร้งทำเหมือนว่ากำลังยืนรอรถหรืออะไรสักอย่างในลักษณะที่ไม่สมจริงเป็นที่สุด

แน่นอน หลังจากที่คุณหันมามองได้เพียงแวบเดียวก็คงจะรู้ตัวในทันทีแล้วว่า กำลังถูกสายตาหลายคู่ซึ่งเป็นของใครก็ไม่รู้ จับจ้องมองอยู่

คุณก้มหน้าก้มตามองลงพื้นโดยฉับพลัน ลักษณะอาการดูคล้ายกับว่าจะไม่หันมามองออกนอกหน้าต่างเป็นครั้งที่สองเป็นอันขาด

สองสามคนที่อยู่บนรถประจำทางเริ่มเข้าใจแล้วว่าเด็กนักเรียนพวกนี้กำลังทำอะไร บางคนแสดงอาการอมยิ้ม รู้สึกขำกริยาของพวกเราระคนสงสารแม่เด็กนักเรียนสาวที่ถูกเด็กนักเรียนชายแกล้งยืนมองกันเป็นกลุ่มอย่างไม่ลดราวาศอก

รถบนถนนขยับเล็กน้อย แต่ก็ไม่เพียงพอให้รถประจำทางที่คุณนั่งอยู่ผ่านพ้นสัญญาณไฟจราจรของสี่แยกนี้ไปได้ ผมและเพื่อนๆทยอยกันเดินตามมา และมาหยุดเท้าลงที่ริมทางเท้าตรงกับหน้าต่างบานเดิมและรถประจำทางคันเก่า

ขณะที่เพื่อนๆ เริ่มแตกแถว หันมาพูดคุยหยอกล้อ และทยอยเดินออกไปทางโน้นคนทางนี้คน ผมก็พลันนึกถึงคำพูดของเพื่อนคนหนึ่งที่คาดว่ามันคงฟังมาจากพี่ชายหรือใครสักคนแล้วมาบอกต่อให้เพื่อนฟังว่า “จงฉวยเอาวันเวลาเอาไว้” ผมคิดว่าประโยคนี้มันช่างคล้ายกับ “จงฉวยโอกาสเอาไว้” ยิ่งนัก แต่ก็พอจะทราบอยู่ว่าประโยคแรกให้ความรู้สึกและมีความหมายที่ดีกว่ามาก

ขณะที่รถมีทีท่าว่ากำลังจะขยับอีกครั้งในไม่ช้าและครั้งนี้รถน่าจะพาเธอจากไปเป็นแน่ ผมก็พลันตัดสินใจก้าวขาข้างหนึ่งสอดขึ้นไปเหยียบบนล้อรถประจำทางคันนั้น ผมใช้สองมือเอื้อมขึ้นไปยึดเอาขอบหน้าต่าง แล้วดึงตัวขึ้นมายืนอยู่บนล้อรถประจำทางขนาดสูงกว่าเอวตัวเอง

ผมโผล่ขึ้นมาพอดิบพอกับที่ๆคุณนั่งอยู่ คุณนั่งตัวตรงคล้ายกับแข็งทื่อไปแล้วด้วยความหนาว คนบนรถเริ่มหันมามอง ส่วนบนท้องถนน คนก็เริ่มหันมามองกันบ้างเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะคิดไปว่าผมกำลังปีนรถขึ้นไปทักทายกับเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่บังเอิญมาเจอะเจอกันเข้าพอดีก็เป็นได้ แต่แน่แหละไอ้พวกเพื่อนผมรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่

“สวัสดีครับ” เป็นคำแรกที่ผมกล่าวทักทาย คุณเพียงแต่หันมามองแว่บหนึ่งแล้วก็รีบหันกลับไปในทันที หลายคนคงเดาออกว่าจะไม่มีการสนทนาพูดคุยตอบโต้อะไรกลับมาจากปากของคุณ เสียงเพื่อนที่ร้องบอกว่ารถกำลังจะเคลื่อนตัวอย่างไปแว่วเข้าหูผสมปนเปไปกับเสียงเต้นของหัวในที่เต้นจนแทบจะกระดอนออกมาจากปากด้วยความตื่นเต้น เพียงไม่ถึงห้าวินาทีผมก็ก้าวถอยลงมา แล้วจ้องมองดูคุณและรถที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านไป

จากหลังจากวันนั้นผมกลับมาคิดดูอีกทีว่าตัวเองโชคดีพอตัวที่ไม่ถูกตบตกลงมาจากล้อรถเสียก่อนในวันนั้น แต่ผมยังโชคดีกว่าที่ตัวเองคิดไว้มากมายนัก เพราะหลังจากวันนั้นผมก็มีโอกาสได้พบคุณอีกครั้ง

การเริ่มต้นในครั้งที่สองแม้ไม่ฉุกละหุกพลุกพล่านเหมือนในคราวแรก แต่ที่คล้ายคลึงกันก็คือ จู่ๆผมก็โผล่เข้าไปทักทายคุณโดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัวเหมือนเดิม วันนั้นคุณกำลังเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยเพื่อไปพบพี่สาวที่เรียนอยู่ที่นั่น ช่างบังเอิญจริงๆที่ผมก็มีญาติผู้พี่เรียนอยู่ที่นั่น และโทรมาชวนผมไปดูเธอเล่นละครที่คณะในวันนั้นเช่นเดียวกัน

คุณตกใจที่ผมเข้าไปทัก แต่คุณก็จำผมได้แม้วันนี้จะห่างจากวันนั้นนานนับเดือน จากนั้นเราก็เริ่มทำความรู้จักกัน แม้คุณจะดูประหม่าอยู่บ้างแต่มันก็กลายเป็นความสนิทสนมคุ้นเคยทดแทนเข้ามาภายในเวลาอันรวดเร็ว

สิบกว่าปีมาแล้ว ผมแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าในช่วงท้ายที่เราพบกันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

แต่อย่างไรก็ดี ผมขอบคุณที่คุณยังนึกถึงผม

ขอให้โชคดีในการเดินทาง


Create Date : 08 มิถุนายน 2549
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2550 17:13:28 น. 0 comments
Counter : 457 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อาบูหะซัน
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add อาบูหะซัน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com