การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางกาย การเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ5
พิการเรียนรู้โดยการมีปฏิสัมพัทธกับคนอื่นถ้าคนพิการศึกษาโดยระบบการสอนทางไกลเท่านั้น คนพิการจะขาดประสบการณ์ดังกล่าวไป 3.4จัดการศึกษาในรูปแบบบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม - นับเป็นบริการทางการศึกษาที่สำคัญอย่างมากในการช่วยเหลือฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยเร็วตั้งแต่แรกพบ และเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ให้คำปรึกษาแนะนำรวมทั้งจัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ครอบครัวหรือผู้ปกครอง คนพิการ เพื่อให้ครอบครัวสามารถมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนการฟื้นฟูสมรรถภาพแก่คนพิการ
ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการแพทย์ ศึกษา สังคม และอาชีพ เพื่อให้การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการมีประสิทธิภาพ ครบวงจร และบรรลุเป้าหมายที่จะให้คนพิการสามารถพึ่งตนเอง และดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และศักดิ์ศรี 3.5จัดการศึกษาในรูปแบบโรงเรียนเฉพาะคนพิการทางกายฯ
-โดยที่ลักษณะของคนพิการทางกายฯแตกต่างจากคนพิการประเภทอื่นคือคนพิการทางกายฯ ส่วนใหญ่สามารถรับการรักษา ผ่าตัด หรือฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ให้พัฒนาการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายช่วยเหลือตนเอง เคลื่อนไหว เดินทาง และสื่อสารด้วยภาษาพูด เป็นต้น ในระดับหนึ่ง บางคนอาจพัฒนาถึงระดับใกล้เคียงกับคนปกติ แต่การรักษา ผ่าตัดหรือฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ต้องใช้เวลานานเป็นปี หรือหลายๆ ปี ดังนั้น คนพิการทางกายฯ จึงต้องการจัดการศึกษาให้ในแบบ “ โรงเรียนเฉพาะความพิการทางกายฯ ” เพื่อทำหน้าที่ซึ่งโรงเรียนปกติหรือโรงเรียนเรียนร่วมไม่สามารถ รับภาระได้ นั่นคือ รับผิดชอบเตรียมความพร้อมคนพิการ ซึ่งยังไม่สามารถศึกษาในสถานศึกษาทั่วไปได้ ให้สามารถเข้าสู่การศึกษาในรูปแบบเรียนร่วมโดยเร็วที่สุดโดยโรงเรียนเฉพาะความพิการทางกาย ต้องจัดการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของแต่ละคน ทั้งนี้บางคนอาจเรียนในระบบในระบบหนึ่ง แต่บางคนอาจะเรียนมากกว่า 1 ระบบพร้อมกัน เช่น คนที่มีสติปัญญาดี แต่เข้าเรียนช้า หรือพักการเรียนนาน จนอายุมากกว่าคนในชั้นเรียนเดียวกัน เพื่อปรับสถานภาพการเรียนให้ใกล้เคียงกับวุฒิภาวะ และคนวัยเดียวกันให้มากที่สุด นอกจากนั้นโรงเรียนเฉพาะความพิการทางกายฯ ควรทำหน้าที่เป็นโรงเรียนต้นแบบในการสอนเด็กพิการ ทางกายฯ ที่มีความบกพร่องด้านสติปัญญา หรือการสื่อสาร ตลอดจน ให้บริการประสานงาน ด้านรักษา บริการให้พักฟื้นหลังผ่าตัด บริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ สังคม และอาชีพ
บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มเป็นต้นรวมทั้งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับการจัดการศึกษา แก่คนพิการทางกายฯ ในด้านต่างๆ เช่น ศูนย์วิชาการ ศูนย์ข้อมูล ศูนย์ประสานงาน ศูนย์วิจัย และพัฒนา ศูนย์พัฒนาบุคลากร ศูนย์พัฒนาหลักสูตร เทคโนโลยี และสื่อการเรียนการสอน เป็นต้น ปัจจุบัน โรงเรียนเฉพาะความพิการทางกายฯ มี 2 แห่งคือ โรงเรียนศรีสังวาลย์ และโรงเรียนการศึกษาพิเศษขอนแก่น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตั้งโรงเรียนเฉพาะความพิการทางกายฯ เพิ่มขึ้นอีก 4.คนพิการทางกายฯที่อยู่ในระหว่างฟื้นฟูสมรรถภาพหรือรักษาเป็นครั้งคราวกล่าวคือต้องไปสถานพยาบาล ครั้งละประมาณ1วัน เป็นระยะๆ ต้องการจัดให้ศึกษาในรูปแบบโรงเรียนเรียนร่วม ที่สามารถจัดครูสอนเสริม และประสานงานให้คนพิการทางกายฯไปรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพได้ คนพิการทางกายฯ แต่ละคนอาจต้องศึกษา มากกว่า 1 ระบบ และอาจต้องศึกษาในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่องกันหรือสลับกลับไปกลับมาตามความต้องการจำเป็นของแต่ละคนเช่นเริ่มต้นศึกษาในรูปแบบ บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการเมื่อต้องรับการผ่าตัดในโรงพยาบาล จึงไปรับการศึกษาในรูปแบบศูนย์การเรียนหลังผ่าตัดและออกจากโรงพยาบาลแล้วหากต้องพักฟื้นระยะยาว อาจไปรับการศึกษาต่อในรูปแบบโรงเรียนเฉพาะความพิการที่ให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วย เมื่อได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพแล้วระดับหนึ่งจึงส่งไปศึกษาต่อในโรงเรียนเรียนร่วมโดยระหว่างเรียน อาจต้องไปฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นครั้งคราวและรับบริการสอนเสริมจากโรงเรียนต่อมาหากต้องรับการผ่าตัด อีกครั้งหนึ่งและต้องเข้าเฝือกนานถึง6เดือนหรือมากกว่าอาจต้องขอรับการศึกษานอกระบบในรูปแบบ การศึกษาโดยชุมชนหรือการศึกษาทางไกลหรือการศึกษาตามอัธยาศัยจนกว่าจะถอดเฝือก และกลับไปศึกษาในรูปแบบศูนย์การเรียนในสถานศึกษาที่ให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังถอดเฝือก เป็นต้น การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการทางกายการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ จึงต้องคำนึงถึงการจัดการศึกษาแบบหลากหลายรูปแบบยืดหยุ่นมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของคนพิการแต่ละคนในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งจัดระบบให้มีการประสานงานระหว่างสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสำหรับคนพิการทางกายฯกับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ คนพิการ ทางกายฯ มีข้อจำกัดที่แตกต่างจากคนทั่วไป ดังนั้น ในการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการนั้น จึงจำเป็นต้องปรับ หรือพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสม ทั้ง เนื้อหาสาระ วิธีการเรียนการสอน และการประเมินผลเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นจริงทั้งของคนพิการ และครูผู้สอนในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสำหรับคนพิการจำเป็นต้องคำนึงถึงการจัดการฟื้นฟูสมรรถภาพ ของคนพิการในโรงเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ 1.ต้องจัดโครงสร้างและเนื้อหาของหลักสูตรบนหลักการและจุดมุ่งหมายว่าคนพิการต้องเรียนรู้เนื้อหา เท่ากับเด็กทั่วไปแต่ต้องปรับภาษาที่ใช้ในการสอนสื่ออุปกรณ์วิธีการเรียนการสอนการวัดและประเมิน ผลตลอดจน เกณฑ์การจบหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของเด็กพิการแต่ละคน 2.ในการจัดเวลาเรียนต้องจัดให้คนพิการมีเวลาไปรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งในโรงเรียน และที่หน่วยงานนอกโรงเรียนนอกจากนั้นต้องคำนึงถึงการจัดเวลาเรียนแต่ละวิชาเนื่องจาก คนพิการทางกายฯบางคนต้องใช้เวลาในการสื่อสารและการเคลื่อนย้ายจากห้องเรียนหนึ่งไปอีก ห้องเรียนหนึ่งมากกว่าคนทั่วไป 3.จัดการเรียนการสอนโดยให้มีครูพิการเป็นผู้สอนคนพิการตามความเหมาะสมเพื่อคนพิการจะได้มีบุคคล พิการเป็นแบบอย่าง 4. จัดคณะกรรมการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล 5. จัดทำแผนการสอนโดยวิธีการที่มีประสิทธิภาพ และทันสมัย เช่น การยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และการเรียนรู้จากปัญหา เป็นต้น 1.จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในลักษณะส่งเสริมการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านต่างๆเช่นส่งเสริมการฟื้นฟู สมรรถภาพด้านสังคมโดยให้เด็กพิการได้ร่วมกิจกรรมทั้งกับเด็กพิการประเภทเดียวกัน ร่วมกิจกรรมกับคนทั่วไป และร่วมกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน และสังคม เป็นต้น 2.จัดให้มีการบูรณาการฟื้นฟูสมรรถภาพในการเรียนการสอนในทุกวิชาโดยให้มีความเชื่อมโยง หรือต่อเนื่องกันของโปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคลแผนการสอนรายบุคคลและแผนการฟื้นฟ ูสมรรถภาพ รายบุคคล 3.จัดให้มีแฟ้มประวัตินักเรียนรายบุคคลเพื่อให้ผู้ทำหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพแต่ละด้านและครู ได้ติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคนในภาพรวม 4.จัดให้มีการบ้านฝึกการฟื้นฟูสมรรถภาพซึ่งมีความสอดคล้องหรือเป็นส่วนหนึ่งของการบ้านของการ เรียนวิชาต่างๆ
Create Date : 26 กันยายน 2551 |
Last Update : 26 กันยายน 2551 22:12:40 น. |
|
3 comments
|
Counter : 8088 Pageviews. |
|
|