เด็กสมาธิสั้น
เด็กสมาธิสั้น หมายถึง เด็กที่มีความผิดปกติทางพฤติกรรมแสดงออกซ้ำๆ จนเป็นลักษณะเฉพาะตัวของเด็ก มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับอายุหรือระดับพัฒนาการในเรื่องของการขาดสมาธิ ความหุนหันพลันแล่นยับยั้งตัวเองไม่ค่อยได้ อาการดังกล่าวจะปรากฏก่อนอายุ 7 ปี การให้ความช่วยเหลือ เด็กสมาธิสั้น เป็นเด็กที่มีความรับผิดปกติด้านสมาธิ สาเหตุอาจจะเกิดจากพันธุกรรม ปัญหาความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง หรือความผิดปกติในระบบประสาท การให้ความช่วยเหลือจึงต้องกระทำให้หลายอย่างหลายด้าน ดร. พัชรีวัลย์ เกตุแก่นจันทร์ ( 2541:18 - 27 )ได้เสนอไว้ 2 ลักษณะคือ 1. การบำบัดรักษาแบบมาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย - ด้านการศึกษา - ด้านจิตวิทยาและพฤติกรรม - ด้านการรักษาด้วยยา 2. จิตบำบัด ครูผู้สอนให้การช่วยเหลือได้ในด้านการศึกษา เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเด็กสมาธิสั้น ซึ่งมีปัญหาในชั้นเรียนได้ดังนี้ 2.1 เขียนคำสั่งชัดเจนสั้นๆ ไว้บนกระดานอ่านให้นักเรียนฟัง 2.2 แบ่งคำสั่งเป็นระบบขั้นตอนย่อยๆ 2.3 จัดให้เด็กที่มีสมาธิสั้น นั่งหน้าชั้นเรียน หรือนั่งกับเพื่อนที่มีศักยภาพ และความเข้าใจการช่วยเหลือเพื่อน 2.4 ให้เวลาเพิ่มขึ้นในการทดสอบและการทำงานเกี่ยวกับการเรียน 2.5 เตือนให้เด็กสมาธิสั้นส่งการบ้านทุกวันที่มีการบ้าน 2.6 จัดสถานการณ์ในชั้นเรียนให้เหมาะสมกับสภาพการเรียนรู้ 2.7 เปิดโอการให้เด็กใช้เทปบันทึกเสียง บันทึกคำอธิบายของครู 2.8 เวลาครูพูดหรืออธิบาย ต้องแน่ใจว่าเด็กสมาธิสั้นสนใจฟัง 2.9 ใช้การเตือนเป็นระยะเป็นการส่วนตัว 2.10 เลือกใช้หนังสือเรียนที่ไม่ซับซ้อน 2.11 แบ่งการบ้านออกเป็นส่วนๆ จำนวนน้อยลง 2.12 ให้รางวัลพฤติกรรมที่พึงประสงค์ 2.13 อย่ากาเครื่องหมายผิด ในสมุดทำงานของเด็กเมื่อเด็กทำผิด หรือทำไม่ได้ให้ เว้นไว้ ครูอธิบายเพิ่มเติม หรือทำเป็นตัวอย่างก่อนจึงให้เด็กทำใหม่ 2.14 อย่าทำโทษเด็ก หากมีปัญหาเกี่ยวกับการสะเพร่าเลินเล่อหรือขาดความเป็น ระเบียบ หรือขาดความสนใจ การเรียนร่วมระหว่างเด็กสมาธิสั้นกับเด็กปกติ เด็กสมาธิสั้นส่วนใหญ่จะมีระดับเชาว์ปัญญาอยู่ในเกณฑ์ปกติ น้อยรายที่จะมีปัญญาทึบร่วมด้วย การที่เด็กมีสมาธิสั้นมิได้หมายความว่าเด็กจะเรียนไม่ได้ หรือมีปัญหาในการเรียนทุกราย เพียงแต่มีระยะเวลาติดตามการเรียนสั้นกว่าเด็กปกติ เด็กสมาธิสั้นที่ควบคุมตนเองไม่ได้ ครูผู้สอนจึงต้องช่วยจัดระเบียบไม่ให้ซับซ้อนครูจึงต้องมีแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลสำหรับเด็กสมาธิสั้นและมีเทคนิคในการสอนดังนี้ 1.กิจกรรมประจำวัน กิจกรรมในแต่ละวันต้องมีลักษณะคงที่ มีตารางเรียนที่แน่นอน ครูต้องบอกล่วงหน้าและย้ำเตือนความจำทุกครั้งก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง 2.การจัดห้องเรียน ต้องทำข้อตกลงร่วมกัน มีป้ายข้อความสั้นๆชัดเจนเข้าใจง่าย เช่น ถอดรองเท้าก่อนเข้าเรียน ส่งการบ้านที่นี่เป็นต้น 3.การจัดที่นั่ง จัดให้นั่งข้างหน้าหรือแถวกลาง ไม่ให้นั่งใกล้หน้าต่าง นั่งใกล้เพื่อนที่สามารถดูแลได้ ไม่ให้นั่งใกล้เพื่อนที่ซุกซน 4.การเตรียมการสอน งานที่ทำทำให้พอเหมาะกับความสนใจของเด็ก ครูต้องแบ่งงานเป็นขั้นตอนย่อยๆใช้เวลาไม่เกิน 4นาที ทำทีละขั้น เมื่อเสร็จวันหนึ่งแล้ว จึงให้ทำขั้นตอนที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ 5.การมอบหมาย ครูควรพูดช้าๆชัดเจน กระชับ ครอบคลุมไม่บ่น ไม่ใช้คำสั่งคลุมเครือจนเด็กแยกไม่ออกว่าครูสั่งอะไร 6.การควบคุมขณะทำงาน ให้เด็กทำงานที่ละขั้นตอน อย่าให้เด็กรู้สึกว่ามากเกินไป ฝึกให้เด็กควบคุมตนเองขณะทำงาน ครูตรวจเป็นคราวๆ ทำให้เสร็จเป็นข้อหรือเป็นชิ้น จึงเริ่มงานใหม่ การประเมินผล การประเมินผล ก็ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลและประเมินผลจุดประสงค์ที่กำหนด
Free TextEditor
Create Date : 13 กันยายน 2551 |
Last Update : 13 กันยายน 2551 20:45:24 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2882 Pageviews. |
|
|