ขุมทรัพย์ทางปัญญา
แต่ไหนแต่ไรมาชีวิตของผมกับร้านขายหนังสือไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่ อยู่ในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด มักจะไม่พรากจากกัน ต้องเข้าไปดูหนังสือให้ได้ บางครั้งก็ไม่ได้ซื้อนะ เพราะตอนนี้มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณการจัดซื้อหนังสือ ขืนซื้อหนังสือเหมือนตอนมีรายได้ดีสมัยยังทำงานประจำอยู่ มีหวังอดข้าวตายแน่
ร้านหนังสือในความคิดส่วนตัวของผม เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ทางปัญญา เพราะผมจะได้รู้เรื่องราวต่างๆจากหนังสือ เพราะหนังสือถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม ให้ทั้งความรู้ สร้างสรรค์สติปัญญา และให้ข้อมูลหลากหลาย หากจะนับจำนวนหนังสือและนิตยสารต่างๆที่ผมซื้อมาในช่วงเวลาที่ผ่านมา คิดว่าน่าจะหลายพันเล่ม/ฉบับ คิดเป็นจำนวนเงินก็คงหลายแสนบาททีเดียวแหละ
ต่อมาชีวิตผมก็เปลี่ยนไป เพราะมีข้อจำกัดทางสายตาที่ไม่สามารถจะอ่านหนังสือได้นานๆ มันมีอาการเมื่อยตา ปวดตา เพราะสังขารที่ร่วงโรยไปตามวัย (อายุ 100 ปี)ก็มาคิดว่าแล้วผมจะหาขุมทรัพย์ทางปัญญาแบบไหนมาชดเชยให้ชีวิต ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆและอ่านจากหนังสือต่างๆว่า
วันนี้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตคือโลกอันไร้พรมแดน และเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่กว้างใหญ่มหาศาล ไม่มีสิ่งใดมาเทียบเทียมได้ ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันหน้า แล้วผมก็ลงมือศึกษาค้นคว้าเรื่องอินเตอร์เน็ต ก็จากหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มากมายในร้านหนังสือนั่นแหละ
ถึงตรงนี้ผมก็ได้สัจธรรมอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าวันนี้เราจะมีเทคโนโลยี่ก้าวไกลไปเพียงใดก็ตาม สุดท้ายหนังสือก็ยังเป็นพระเอกตลอดกาล ในเรื่องของความรู้อันหลากหลาย เพราะหนังสือเป็นเครื่องมือที่ใช้ง่ายที่สุด ไม่มีอะไรซับซ้อนวุ่นวายเหมือนเครื่องมืออื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นต้นเมื่อศึกษาเรียนรู้ไปได้ระดับหนึ่งก็ปรากฏความจริงว่า การจะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นพาหะท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ตอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น มันไม่ง่ายเหมือนเราซื้อ ทีวี มาแล้ว ต่อสายอากาศใช้รีโมทเปิดดูได้เลย แต่เมื่อมีความมุ่งมั่นตั้งใจแล้วก็ไม่ท้อแท้ท้อถอย โดยความอนุเคราะห์จากภรรยาให้คอมพิวเตอร์มาชุดหนึ่ง แต่มันเป็นเครื่องรุ่นเก่าไม่สามารถต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ ถึงได้ก็ช้ามากๆ ลูกชายคนกลางจึงอนุเคราะห์จัดหาเครื่องรุ่นใหม่ให้ คราวนี้ต่อระบบอินเตอร์เน็ตได้ ก็ต้องมาฝึกใช้เครื่องคอมฯ เรียนรู้ระบบอินเตอร์เน็ตอีกระยะหนึ่ง จนสามารถเข้าใจเรื่องต่างๆได้อีกระดับหนึ่ง เข้ามาที่เว็บพันทิปนี้ ฝึกหัดสร้างบล็อกจากบล็อกของผู้รู้ต่างๆ ขออนุญาตเอ่ยนามของท่านไว้ ณ ที่นี้คือ คุณDharmma คุณป้ามด และท่านอื่นๆอีกหลายท่าน กว่าจะหาทางเข้าขุมทรัพย์ทางปัญญาได้อย่างวันนี้ ผมใช้เวลาประมาณ 10 เดือน (เดือนกุมภาพันธ์ -เดือนพฤศจิกายน 2549)
ณวันนี้ขุมทรัพย์ทางปัญญาเดิม (ร้านจำหน่ายหนังสือ) ก็ห่างเหินกันไปพอสมควร ผมมาใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมฯประมาณวันละ 5-6 ชั่วโมง ผมท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ตพบเว็บไซต์จำนวนมากมาย และจดบันทึกไว้จำนวนหลายร้อยเว็บทั้งเว็บไทบและต่างประเทศ
วันนี้ผมกำลังศึกษาหาขุมทรัพย์ทางการเงินในอินเตอร์เน็ตอยู่ เชื่อว่าไม่นานเกินรอคงจะมีเรื่องราวน่าสนใจมาให้อ่านกันบ้าง ขอบคุณท่านทั้งหลายที่กรุณาอ่านมาจนถึงบันทัดนี้ แล้วพบกันใหม่นะครับ สวัสดีครับผม