ผมขอใช้เนื้อที่ห้องรับแขกของ "กระท่อมหนุ่มร้อยปี" แสดงความอาลัยต่อ ศ.ดร.นิพนธ์ ศศิธร ซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อวันจันทีที่ 18 พฤกษภาคม 2552 สิริอายุรวม 78 ปี ด้วยโรคชรา ในภาพ ที่สองจากซ้ายมือ อ.สมิต สัชฌุกร และ ศ.ดร.นิพนธ์ ศศิธร(คนกลาง)ที่สองจากขวามือ หนุ่มร้อยปี ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดการสัมมนาของ สถาบันพัฒนาทรัพยากรบุคคลกรุงเทพฯ 19 พ.ค. 52 - ศ.ดร.นิพนธ์ ศศิธร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) คนที่ 2
เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ด้วยโรคชรา สิริอายุ 78 ปี ตั้งศพ ณ ศาลา 3 วัดธาตุทอง กำหนดพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ วันนี้ (19 พ.ค.) เวลา 15.00 น.สำหรับประวัติ ศ.ดร.นิพนธ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2474 ที่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ด้านการศึกษาจบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ที่ 1 ของรุ่น 3 ปริญญาตรีนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ปริญญาโทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากโรงเรียนการทูตเฟลทเชอร์ มหาวิทยาลัยทัฟท์ ปริญญาโท-เอก รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอินเดียน่า สหรัฐ ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญา ที่ AUTONOMNUS UNIVERSITY OF GUUNDALUJARO สาธารณรัฐเม็กซิโก ปี 2530 รับราชการเริ่มตั้งแต่อาจารย์โท และเติบโตด้านหน้าที่ เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดี มศว 2 สมัย ลาออกจากราชการปี 2518 สมัครเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.ราชบุรี ตำแหน่งด้านการเมือง เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย.
- สำนักข่าวไทยโดยส่วนตัวแล้วผมรู้จักกันท่านอาจารย์นิพนธ์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2521 โดยการแนะนำของอาจารย์สมิต สัชฌุกร เมื่อครั้งที่ผมไปเป็นผู้จัดการ สมาคมรัฐศาสตร์แห่งประเทศไทย โดย พล.ต.ท.กริช ปัจฉิมสวัสด์ เป็นนายกสมาคม
ต่อมาเมื่อผมหันมาจัดสัมมนาและฝึกอบรมทางธุรกิจ ในนามของสถาบันต่างๆ เช่น สถาบันพัฒนาทรัพยากรบุคคล ท่านอาจารย์ก็กรุณาให้เกยรติรับเชิญมาเป็นวิทยากรผู้บรรยาย และบางครั้งก็มาเป็นประธานเปิดการสัมมนา ดังภาพประกอบข้างต้น
สรุปแล้วผมมีความสนิทและคุ้นเคยกับท่านค่อนข้างมาก ท่านเคยให้กำลังใจผมเนืองๆยามที่ผมไม่ประสบความสำเร็จในการจัดสัมมนา โดยให้ผมมีกำลังใจต่อสู้ต่อไป ผมไม่ได้ติดต่อท่านมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากภาระกิจและอาชีพที่ผันแปรอยู่เสมอ มาทราบข่าวก็เมื่อท่านถึงแก่กรรมแล้ว
ผมขอแสดงความอาลัยต่อท่านและครอบครัวมา ณ โอกาสนี้ด้วยเป็นอย่างสูง และจะระลึกถึงท่านตลอดไปชั่วกาลนาน