ภาพข้างบนนี้คือ ชายไทย วัยสูงอายุ ที่เป็นเจ้าของบล็อกนี้ในนามว่า "หนุ่มร้อยปี"
วันนี้เขามีตัวเลขมาเพิ่มอายุให้เขาอีกหนึ่งตัวคือ อายุ 69 ปี เพราะเขาเพิ่งผ่านวันคล้ายวันเกิดมาหมาดๆเมื่อวานนี้ (14 พค.) เคยมีนักข่าวนิรนาม ไร้สังกัดสำนักพิมพ์ไปสัมภาษณ์เขาว่า กลัวใหมที่แก่ขึ้นทุกวัน เขาตอบนักข่าวนิรนามผู้นั้นนั้นว่า ไม่กลัวแก่ เพราะความแก่เป็นสัญญลักษณ์ของการมีโอกาสอยู่บนโลกนี้มานานแล้วกี่ปี เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้นแหละน้องเอ๋ย (ฮา)แล้วเขาก็สาธยายศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการความเป็นคนแก่ให้นักข่าวนิรนามคนนั้นฟังโดยไม่ได้ขอร้องแต่อย่างใด มีความสำคัญสรุปโดยสังเขปดังนี้
เขากล่าวว่าคนแก่โดยทั่วไปที่รู้จักศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการ จะต้องรู้ว่าร่างกายของคนเรามีส่วนประกอบโดยหลักๆสองส่วนคือ ร่างกาย และ จิตใจ โดยสอดคล้องกับหลักทางพระพุทธศาสนาที่ว่า ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว นั่นเองมาพูดถึงร่างกายกันก่อน เขากล่าวว่าร่างกายเปรียบเสมือนฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมฯที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง มีการเสื่อมสลายชำรุดไปตามสภาพการใช้งาน ปัจจุบันวงการแพทย์มีความเจริญมากขึ้นสามารถเปลี่ยนถ่ายอวัยวะบางส่วนของร่างกายได้แล้ว แต่มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการเปลี่ยนอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์
โดยตามธรรมชาติแล้วคนเราได้รับการสร้างสรรค์อวัยวะทุกชิ้นส่วนมาอย่างอย่างประณีตและมีประสิทธิภาพสูงสุดสามารถใช้งานได้นานเป็นร้อยปี ถ้าคนๆนั้นไม่ทำลายร่างกายของตัวเองโดยความประมาทหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การเสพย์ติดเครื่องดองของเมา คือสุรา บุหรี่ ยาเสพย์ติด หรือการกินอาหารที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากร่างกายจะทรุดโทรมก่อนถึงวัยอันสมควรแล้ว ยังจะมีโรคร้ายมารุมเร้าช่วยทำลายร่างกายให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกเป็นทวีคูณถ้าเราไปดูตามโรงพยาบาลต่างๆ จะเห็นคนมาให้หมอฟอร์แมทและบูตร่างกายกันมากมายมหาศาล บางคนอาการไม่มากนักก็กลับบ้านได้ บางคนอาการหนักน่าเป็นห่วงหมอก็ต้องให้นอนโรงพยาบาลตามความเหมาะสม
ที่กล่าวมาตอนต้นนั้นเป็นการพูดถึงเรื่องร่างกาย ตอนนี้เราจะมาพูดเรื่องเกี่ยวกับจิตใจบ้าง เพราะจิตใจเป็นของคู่กับร่างกาย เปรียบเสมือนเป็นซอฟแวร์ของร่างกายนั่นเอง โดยเฉพาะสมองของคนเราเป็นศูนย์รวมการบังคับบัญชาที่สำคัญยิ่ง มีกลไกสลับซับซ้อนอันจะหาเครื่องกลใดๆในโลกมาเทียบเคียงได้ แม้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรายกย่องในความสามารถของมัน ก็มาจากความคิดในสมองของคนเรานี่เอง
พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญกับจิตใจของคนเรามาก เราจะพบว่าหลักธรรมคำสอนส่วนมากจะเป็นเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับจิตใจ เพราะถ้าจิตใจเราสะอาดสงบ ไม่มีเรื่องไม่ดีมารบกวน ก็เปรียบเสมือนซอฟแวร์ของคอมฯไม่มีไวรัสมารบกวน ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น คนเราก็เช่นเดียวกัน ถ้าเรารู้จักบริหารจัดการใจให้ดี ก็สามารถจะดำเนินชีวิตไปได้ด้วยดีตามสมควรแก่อัตถภาพของแต่ละคน
ส่วนมากจิตใจของคนมักจะถูกโปรแกรมความคิดมาจากกรรมพันธ์ สภาพสิ่งแวดล้อม การศึกษาเรียนรู้ จารีตวัฒนธรรมของแต่ถิ่น เราจึงต้องสำรวจและพยายามให้จิตใจของเรายอมรับสภาพความเป็นจริง เช่นการเปลี่ยนแปงของร่างกายซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ เราจึงไม่ควรกังวลใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่นความแก่ที่ทุกคนจะต้องพบ เมื่อถึงเวลาของมัน เราจะไม่ต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อที่จะหาทางชะลอความแก่เช่นคนจำนวนมากที่มีความเชื่อว่าจะหาทางชะลอมันได้ แต่ความเป็นจริงเราไม่มีทางที่จะชะลอมันได้หรอก
เพราะความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรมของชีวิตทุกผู้ทุกคนสำหรับสิ่งที่ควรจะคิดทำให้กับชีวิตน่าจะเป็นเรื่องการบำรุงรักษาร่างกายและจิตใจ ให้มีความพอเหมาะพอควรมากกว่า เมื่อทำได้อย่างนี้แล้วเราจะไม่กลัวและกังวลกับความแก่ที่จะมาเยือนเรา ไม่สนใจที่จะคอยนับว่าอายุเราเท่าไรแล้ว
เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้นนะ จะบอกให้ ฮิฮิฮิ
อายุ วรรณะ สุขะ พละ พลานามัยสมบูรณ์ครับ