<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
18 เมษายน 2553
 

ไหว้พระ 9 วัดกับเขตจอมทอง : วัดนางนองและวัดหนัง



ถัดจาก วัดราชโอรส เราก็ลงเรือมุ่งหน้าสู่วัดที่ 4 ของทริป

วัดนางนอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเขตจอมทอง โดยเฉพาะเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่คับคั่งมาแต่โบราณ คือ คลองด่านหรือคลองสนามชัย อยู่ริมคลองฝั่งใต้ตรงข้ามวัดหนัง ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ.2375 โปรดให้ทำเป็นงานใหญ่ รื้อของเก่าและปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอารามดังปรากฎงานศิลปกรรมแบบพระราชนิยมในพระองค์ที่พระอุโบสถและพระวิหารคู่




การทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนางนองนั้น สืบเนื่องจากวัดนางนองในแขวงบางนางนอง เดิมเป็นนิวาสถานของ สมเด็จพระศรีสุลาลัย พระนามเดิมคือเจ้าจอมมารดาเรียม พระราชชนนี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาตระกูลของสมเด็จพระศรีสุลาลัย ย้ายข้ามฟากไปอยู่บริเวณวัดหนัง ฉะนั้นวัดหนังและวัดนางนองจึงเป็นวัดที่เนื่องในสมเด็จพระราชมารดา

ลักษณะเป็นศิลปแบบพระราชนิยม คือ ศิลปกรรมที่เลียนแบบศิลปจีน อันจะปรากฏในงานสถาปัตยกรรมเป็นหลัก จากรูปแบบการวางแผนผังพระอารามในรัชสมัยและงานสถาปัตยกรรมไทยที่สร้างสรรค์ผสมผสานศิลปจีน อาคารที่สำคัญได้แก่ พระอุโบสถ พระวิหาร งานศิลปกรรมจะอยู่ที่ส่วนหลังคา หน้าจั่วหรือหน้าบัน อันเป็นส่วนที่ถูกแดดฝนอยู่เสมอ จึงทำเป็นงานก่ออิฐถือปูนทำเลียนแบบจีน ทำให้ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ยาวนานกว่างานเครื่องไม้ที่ทำตามแบบศิลปะดั้งเดิม ที่เป็นช่อฟ้าใบระกาแต่โบราณ อย่างไรก็ตาม ทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร หรืออาคารสถาปัตยกรรมประเภทอื่น ถึงแม้จะสร้างขึ้นเลียนแบบจีนก็ตาม ก็ทรงระมัดระวังที่จะรักษาลักษณะความเป็นไทยไว้ เช่น การซ้อนหลังคาในส่วนที่เด่นของอาคาร และมุงกระเบื้องตามลักษณะของไทย การบูรณะปฏิสังขรณ์ใช้เวลาหลายปีจึงแล้วเสร็จได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาพระอุโบสถเมื่อพุทธศักราช 2384


น่าเสียดาย ที่ช่วงเวลานี้ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
เราไม่สามารถเข้าชมพระอุโบสถหรือพระวิหารได้เลย แต่น้องไกด์ก็พาเดินไปชมศิลปะแต่ภายนอก
ซึ่งก็งามมาก หวังว่าการบูรณะครั้งนี้ จะไม่ทำลายของเดิมนะ
ได้ชะโงกเข้าไปดูภายใน แล้วน้อมใจนมัสการพระประธานในพระอุโบสถ



พระประธานในพระอุโบสถคือ พระพุทธรูปสำริดปิดทอง พระนาม "พระพุทธมหาจักรพรรดิ์"เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย พระพักตร์พุทธศิลป์อย่างสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 2 เมตร 25 เซนติเมตร (4 ศอกครึ่ง) เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องที่ทำเครื่องทรงเครื่องประดับตกแต่งทุกชิ้นแยกออกจากองค์พระสวมทับลงไว้ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีปั้นลายปิดทองประดับกระจก กล่าวได้ว่าพระพุทธมหาจักรพรรดิ์ คือ งานประติมากรรมชิ้นเยี่ยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีความงามอย่างวิจิตรอลังการ และปลูกความเลื่อมใส ศรัทธาแก่ผู้เข้ามาสักการะให้มีความอิ่มเอิบยึดมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างสงบเยือกเย็น

เรื่องมงกุฎทรงของพระพุทธมหาจักรพรรดิ์เฉพาะเครื่องศิราภรณ์ คือ มงกุฎของพระพุทธมหาจักรพรรดิ์ มีประวัติว่า องค์ที่สวมอยู่นี้เป็นองค์ที่ 2 องค์แรกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า ได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดนภศูลพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เมื่อครั้งทรงปฏิสังขรณ์พระปรางค์วัดให้สูงขึ้นจากเดิม

พระพุทธมหาจักรพรรดิ์ เดิมไม่มีพระนาม ได้มีการถวายพระนามในภายหลัง
ด้วยพิจารณาว่าพุทธลักษณะแสดงถึงพระพุทธมหาจักรพรรดิ์ทางธรรม




ใช้เวลากันที่วัดนางนองไม่นานนัก เพียงแค่เก็บภาพ แล้วไปกราบพระที่พระวิหาร
จากนั้นก็รีบลงเรือเดินทางกันต่อไปยังวัดถัดไปที่อยู่ตรงข้ามฝั่งคลอง



วัดหนัง เป็นอารามหลวงชั้นตรีชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ ณ ฝั่งขวาหรือนัยหนึ่งฝั่งเหนือคลองด่าน เดิมเป็นวัดราษฎร์ มีสืบมาแต่โบราณ มีนามว่าวัดหนังมาแต่เดิม แม้ได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวงแล้ว ก็มิได้พระราชทานนามใหม่

วัดนี้เป็นวัดโบราณ ร้างมานาน 200 ปีเศษ จึงไม่ทราบว่าเดิมใครเป็นผู้สร้าง กล่าวเฉพาะ ยุคเป็นพระอารามหลวงนี้ สมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนี ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาใหม่ทั้งพระอาราม มูลเหตุที่ทรงสถาปนาวัดหนังเป็นพระอารามหลวง น่าจักเนื่องด้วย ราชินิกูลสายท่านเพ็ง พระชนนีสมเด็จพระศรีสุลาลัย เป็นชาวสวนวัดหนัง มีนิวาสสถานอยู่ในถิ่นนั้น




พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ พ.ศ.2367 ระยะกาลตอนนี้นับว่าสมเด็จพระศรีสุลาลัย บรรลุถึงภาวะเป็นอัฉริยนารี ผู้สูงศักดิ์อย่างสูงสุดในพระชนม์ชีพ เป็นกาลระยะหนึ่ง ซึ่งพระองค์ควรจะพึงคำนึงถึง การทรงทำกรณีอะไรสักอย่างหนึ่ง อันเป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติ ทั้งส่วนพระองค์ทั้งส่วนราชินิกูล ให้ปรากฏอยู่ชั่วกาลนาน เรื่องที่นิยมมากที่สุดในยุคนั้น ไม่มีอะไรอื่นดีกว่าการสร้างวัด สมเด็จพระศรีสุลาลัยสวรรคตวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2380 ปรากฏว่าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการฉลองวัดหนัง ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2380นั่นเอง การเริ่มสถาปนาคงอยู่ในระหว่าง พ.ศ.2367 ถึง พ.ศ.2378


ขณะนี้วัดหนังอยู่ระหว่างบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ
เราก็เลยได้โอกาสเข้าไปดูการซ่อมภาพอย่างใกล้ชิด



ทราบจากจิตรกรว่า เป็นงานของกรมศิลปากรจัดจ้างมาดำเนินการ
ซ่อมภาพเดิมซึ่งวาดจากสีฝุ่นมาเป็นภาพสีน้ำ เพื่อความคงทนยาวนานยิ่งขึ้น



เรายังพอมองเห็นร่องรอยเดิมที่เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา
คงเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ (มั้ง)



มองงานจิตรกรรมฝาผนังตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาด้วยความซาบซึ้งแกมทึ่ง
และได้ค้นพบว่า วัดในย่านฝั่งธนบุรีนั้น มีวัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งกรุงเก่าอยู่มากมาย
บางวัดก็ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง
บางวัดก็ยังคงสถานะเป็นวัดราษฎร์เช่นเดิม
แต่จิตศรัทธาของชาวบ้านยังไม่เสื่อมคลาย จึงมีการบูรณะปฏิสังขรณ์กันเรื่อยมา
แม้ว่าการบูรณะบางวัดออกจะเลยเถิดไปบ้าง แต่นั่นก็คงเป็นวิธีการสืบสานพระศาสนาอีกทางนึง
อย่างไรก็ตาม เราก็ได้แต่หวังว่า กรมศิลปากร จะมีเวลา มีบุคลากร และมีงบประมาณ
เข้ามาช่วยตรวจสอบและดูแลการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดราษฎร์บ้าง
ก่อนที่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะลดคุณค่าของงานพุทธศิลป์เหล่านี้ลงไป

ผ่านไปแล้ว 5 วัดใช้เวลาไปเพียง 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง
ทำเวลาอันน่าดูเลยนะเนี่ย เหลืออีกแค่ 4 วัด ยังไงก็
ติดตามตอนต่อไป

ปล. ข้อมูลประวัติเรียบเรียงจากเวปไซค์ของวัด
วัดนางนอง >> //www.nangnong.com/news/nangnong/histrory1.html
วัดหนัง >> //watnang.com/history/history.html



Create Date : 18 เมษายน 2553
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 23:30:30 น. 10 comments
Counter : 2710 Pageviews.  
 
 
 
 
ถ้าจะบอกว่า แวะมาเยี่ยมเฉยๆ
กลัวคุณนัทธ์จะแอบด่าในใจ 555+
แต่ว่างเว้นจากบล็อกไปเยหลายวัน
ตามเก็บบล็อกคุณนัทธ์ไม่ทันเลยค่ะ
จะค่อยๆ ตามเก็บ ตามดูบรรยากาศ
ไปอย่างช้าๆ เรื่อยๆ ..เที่ยวเยอะจริงๆ
 
 

โดย: nikanda วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:4:50:24 น.  

 
 
 
คุณแจง >> เราเองก็มัวแต่จัดการเล่าๆ เรื่องของตัวเองอยู่ที่ blog สลับกับ Facebook
Blog เพื่อนๆ ก็ไม่ค่อยได้แวะไปเยี่ยมเยียนและทักทายมากนักเช่นกันค่ะ
หวังว่าคุณแจง จะไล่เก็บ blog เก่าๆ จนครบนะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:7:11:38 น.  

 
 
 
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:9:40:27 น.  

 
 
 
มาจากกระทู้ HHR ค่ะ
เห็นในรีวิว "เย็นวันเสาร์ - เช้าวันอาทิตย์"

คุณนัทธอยากเป็นนักเขียน
ตูนมาเป็นกำลังใจยุให้ฮึดอีกแรงค่ะ
 
 

โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:13:24:02 น.  

 
 
 
คุณเกศ >> จะตามไปชมภาพค่ะ

คุณตูน >> ฮึดอยู่ค่ะ ...ค่อยๆ ลงมือทำไป ขอบคุณที่เป็นกำลังใจค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:13:59:54 น.  

 
 
 
ไล่ตามไปดูวัดที่ผ่านมาแล้วน่าสนใจนะคะ
แต่ละวัดก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป
เราชอบไปวัดนะมันสบายใจดี
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:21:51:30 น.  

 
 
 
คุณส้ม >> ค่อยๆ ตามไปเที่ยวด้วยกันต่อนะคะ
เราก็ชอบเที่ยววัด ..แม้ว่าบางวัดจะเป็นพุทธพาณิชย์จ๋าไปหน่อย
แต่ก็ยังมีมุมสงบและงานพุทธศิลป์ให้ศึกษามากมายเลยล่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:22:10:48 น.  

 
 
 
แจกสกินhi5/คอมเม้นน่ารักๆส่งต่อให้เพื่อนคลิกเลยจ้า

เพิ่งจะทราบประวัติวัดนี้ก็เพราะคุณนัทธ์นี่ล่ะค่ะ เมื่อตอนสมัยเรียนที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จฯดิฉันพักแถวๆวัดสิงห์ก้ผ่านวัดนี้อยู่ประจำค่ะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:9:54:44 น.  

 
 
 
ส่วนใหญ่เป็นวัดในช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลง
การปกครองอีกไม่กี่ปี ทั้งน่านเลยนะขอรับ
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:1:06:50 น.  

 
 
 
ครูเกศ >>

คุณชาญ >> เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 นี่คะ ...อันนี้มัน 23 นะคุณ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:8:39:58 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com