<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 ธันวาคม 2554
 

ทริปผจญภัย...ปายหน้าฝน : Part VI - วัดน้ำฮู้ กราบพระอุ่นเมือง



ทำไมเราจั่วหัวทริปนี้ว่า "ทริปผจญภัย" ...เพื่อนๆ อาจสงสัย
ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิด

เนื่องจากเวลาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศกับเพื่อนๆ ก๊วนศิษย์ศน.
เรามีหน้าที่แค่ "ไปเที่ยว" คือ ออกความเห็นในเรื่องสถานที่เที่ยว
แต่ทริปนี้ ...เหมือนเราเป็นคน "จัดการ" ซึ่งไม่ได้จัดการแค่ตัวเราเองคนเดียว
เหมือนกับเดินเที่ยวในกรุงเทพฯ แต่เป็นการจัดการพาเพื่อนไปด้วย
ทั้งจองห้องพัก ทั้งพาเดินทาง ...ไปในสถานที่ที่เราเองก็เพิ่งไปครั้งแรก
ก็เลยออกจาก "หวั่นใจ" อยู่บ้าง ... เท่านั้นแหละ การผจญภัย ในความหมายของเรา


ความเดิมในตอนที่แล้ว

เอาล่ะ ...มาเที่ยวเมืองปายกันต่อ ...
หลังจากที่ปั่นข้ามสี่แยกตัดถนนใหญ่มาแล้ว
แล้วก็ปั่นไป สลับหยุดพักขาไป ...ในที่สุด เราก็เพื่อนก็มองเห็น "วัดน้ำฮู้"



วัดน้ำฮู อยู่ที่บ้านน้ำฮู หมู่ที่ 5 ตำบลเวียงใต้ อำเภอปายห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร (แล้ว 6 กิโลเมตรที่เราปั่นมาเนี่ย นับจากตรงไหนนะ) เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญ และมีลักษณะพิเศษ




แต่ทว่า ณ เวลานั้นคือ 5 โมงเย็นแล้ว ประตูวิหาร (หรือโบสถ์) ก็ปิดแล้ว ไร้เงานักท่องเที่ยว
มีเพียง 2 สาวที่เพิ่งตั้งจักรยานจอดหน้าประตูวัดเท่านั้นเอง
มองไปมองมา ไม่เห็นใคร ก็เลยพากันเดินไปกราบพระเจดีย์หลังพระวิหาร




และที่วัดน้ำฮูแห่งนี้มีพระเกษาของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาด้วย หากมองดูดีๆจะเห็นพระเจดีย์สีทองอยู่หลังวิหารหรือโบสถ์ของวัดน้ำฮูแห่งนี้ และมองออกไปข้างกันนั้นก็มีศาลาประดิษฐานที่มีรูปพระพี่นางอยู่เนืองแน่น พระเจดีย์นี้ไม่มีบันทึกประวัติการสร้างอย่างชัดเจน เชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ซึ่งได้เสด็จไปเป็นตัวประกันที่พม่าแทนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่ต่อมาได้ถูกปลงพระชนม์ที่พม่านั่นเอง ภายในพระเจดีย์นี้ยังบรรจุเส้นพระเกษาของสมเด็จพระพี่นางฯ ไว้ด้วย สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาเป็นวีรสตรีไทยที่ประวัติศาสตร์ควรจำรึกไว้ หากไม่มีพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชอาจไม่มีโอกาสกลับมากอบกู้เอกราช และอาจไม่ทรงทราบข่าวการเคลื่อนไหวของทัพพม่าก่อนทุกครั้ง ชาวไทยจึงควรระลึกถึงวีรกรรมของพระองค์ และถวายสักการะดวงวิญญาณของพระองค์โดยทั่วกัน


ตอนที่กราบสักการะอธิษฐานจิตถึงดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระพี่นาง
เพื่อนเราก็หันไปเห็นพระรูปนึงเดินผ่านมา ก็เลยขอให้ท่านเปิดโบสถ์ให้
พระท่านคงเห็นว่า ยัยสองคนนี้มาไกล ท่านก็เลยไปหยิบกุญแจมาเปิดโบสถ์
เราจึงได้โอกาสเข้าไปกราบสักการะพระประธานในโบสถ์
ถ้าไม่ได้เพื่อนคนนี้ เราก็คงไม่ได้เข้ามาหรอก เพราะเรามักจะทำตัวยอมรับว่า "มาช้า" ไปเองแบบนี้ได้
แต่เพื่อนเราไม่ไช่ คุณเธอมักจะ "สร้างโอกาส" ให้ตัวเองเสมอ
และเราก็ได้รับโอกาสอันดีนี้กับเพื่อนเราด้วย



ความสำคัญของการเข้ามาในโบสถ์นี้ ก็เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
ชาวเมืองปายให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก



หลวงพ่ออุ่นเมือง (องค์เล็กด้านหน้า) พระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะล้านนา) ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองปายมาช้านาน ประดิษฐานอยู่ที่วัดน้ำฮู ซึ่งชื่อวัดนี้ก็ได้มาจากการที่บนพระเศียรของพระพุทธรูปองค์นี้พระเศียรกลวง ส่วนบนปิดเปิดได้และมีน้ำขังอยู่เสมอ โดยได้เคยมีการพิสูจน์กันมาแล้วว่า หลังจากที่ได้มีการตักน้ำ ออกจากพระเศียรของท่านจนหมดแล้ว ทำการปิดวิหาร ห้ามเข้าออก เมื่อมาเปิดดูในพระเศียรของท่านก็จะมีน้ำ ซึ่งแปลกมาก


เราตักน้ำมนต์จากเศียรพระจากบาตรใหญ่หน้าโบสถ์ เอากลับมาฝากทางบ้านด้วย
แล้วก็พากันมายังศาลาริมน้ำ กราบรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวร
พระเอกาทศรถ และพระพี่นางสุพรรณกัลยา





พักผ่อนหย่อนขากันให้เต็มที่ แล้วก็ปั่นออกจากวัดกลับเข้าเมือง
ขากลับ ปั่นกันแบบสบายๆ เพราะเป็นทางลงเขา ไม่ต้องออกแรงมากอย่างขามา
แต่ความที่ลงเร็ว เราก็เลยไม่อาจหยุดรถเพื่อถ่ายรูปได้ทันเลย
มักจะเลยวิวทั้งต้องการมาตลอด ...จนกระทั่งมองเห็น "รุ้งกินน้ำ"
แบบนี้ยังไงก็ต้องหยุดเก็บภาพให้ได้



กลับเข้ามาถึงตัวเมือง ก็ปั่นไปเดินชมตลาดเย็นของชาวเมืองปาย
อาหารสด ผักสด น่าซื้อ และอาหารปรุงสำเร็จก็มีอาหารแบบไทยใหญ่ด้วย
เดินดู แต่ไม่ซื้ออะไร เพราะไม่รู้จะซื้อไปทำกินตรงไหน
แล้วก็มาเที่ยวชม บ้านชนเผ่าต่างๆ ที่จัดสร้างจำลองไว้ที่หน้าอำเภอปาย




หลักเมืองเก่าแก่ หน้าที่ว่าการอำเภอปาย


ถ่ายรูปบ้านแต่ละแบบเอาไว้ แต่ไม่ค่อยถูกใจ ก็เลยขอไม่ post นะ
ที่หน้าอำเภอมีมุมให้ถ่ายรูปเล่น น่ารัก ก็เลยผลัดกันถ่ายรูปจนหมดแดด



แล้วก็กินอาหารตามสั่งจากร้านตรงหน้าอำเภอนั่นแหละ
กินอิ่มแล้ว ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ..นักปั่นมือใหม่ ก็เลยพากันปั่นกลับที่พัก
เพราะรู้ว่า ระหว่างเส้นทางมัน มึด...เดี๋ยวจะพากันปั่นตกถนนซะเปล่าๆ

ถึงที่พัก ก็อาบน้ำ นอนดูทีวี แล้วก็นอนพักกันอย่างจริงจัง
ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนิ...พักขาไว้ปั่นกันต่อในวันรุ่งขึ้น



โปรดติดตามตอนต่อไป


ปล. ข้อมูลประวัติเมืองปาย อ่าน >> //www.moohin.com/trips/maehongson/namhu/




Create Date : 25 ธันวาคม 2554
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 18:40:50 น. 6 comments
Counter : 1724 Pageviews.  
 
 
 
 


สวัสดีปีใหม่นะค่ะ

ขอให้ไม่เจ็บ ไม่จน

บ้านน้ำไม่ท่วมด้วยค่ะ

ไปทำบุญ 5 วัดกะ 1 ศาลหลักเมืองมาค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆในทุกๆวันด้วยนะค่ะ

 
 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:21:14:04 น.  

 
 
 
อยากไปบ้างจังค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันที่บล็อกให้หวานเย็นได้ดีใจนะคะคุณนัทธ์

จริง ๆ แล้วช่วงนี้ที่อ่านอยู่ไม่ใช่ผลงานของอาจารย์ชมัยภรหรอค่ะ แต่เพิ่งอ่านของคุณปิยะพร ศักดิ์เกษมจบน่ะค่ะ ตามด้วยเพิ่งพักจากงานเขียนของคุณวรรณวรรธน์ และกำลังเข้าสู่หมวดเรื่องสั้นของนานานักเขียนและสำนักนักพิมพ์ ...ที่เห็นรีวิวอยู่นี้คือตามเก็บที่อ่านไว้ตามลำดับ แต่...รีวิวไม่ทันน่ะค่ะ ก็พยายามจะเร่งอยู่นะคะ ยังสงสัยว่าลิสต์ที่อ่านในปีนี้คงต้องรีวิวยาวข้ามไปปีหน้ากระมัง เพราะหวานเย็นขยันรีวิวเหลือเกิน
 
 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:17:55:10 น.  

 
 
 


สวัสดีปีใหม่2555ค่ะคุณนัทธ์..

ขอให้มีความสุขมากๆในทุกๆวัน..

ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์..

และมีรักที่สมหวังตลอดไปนะค่ะ

พรุ่งนี้อ้อมแอ้มได้มีโอกาสใส่บาตรร่วมกับสมเด็จพระเทพฯ

และท่านทรงมีพระราชโอวาสแด่บุคคลากรทุกปี

เป็นพรที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีเก่า-รับปีใหม่ค่ะ


 
 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:20:25:15 น.  

 
 
 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
คุณนัทธ์
มีความสุขตลอดปีใหม่นะคะ



Happy new year flower wishes, scraps, comments and greetings

 
 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:21:39:19 น.  

 
 
 
เห็นด้วยกับคุณนัทธ์เรื่องพระพี่นางสุพรรณกัลยา น่ะค่ะ

เมื่อต้นเดิอนพิชญ์ได้ไปดูละครเวทีอิงประวัติศาสตร์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มาค่ะ ในละครมีบทของพระองค์ท่านเมากพอควร
ดูแล้วก็ยิ่งรำลึกถึงพระองค์ท่านที่ทรงเสียสละเพื่อประเทศชาติค่ะ

นึกแล้วบรรยากาศน่าโรแมนติกจังค่ะ ขี่จักรยายยามเย็น ผ่านทุ่งแล้วมีสายรุ้งอยู่ที่ปลายฟ้า น่ะค่ะ
 
 

โดย: pichayaratana วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:19:56:34 น.  

 
 
 
ภาพสุดท้ายนี่เหมือนย้อนยุคเลยเนอะ มาถึงที่ไหนต้องถ่ายรูปคู่กะป้าย ไม่งั้นเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงสถานที่นั้นจริง ^^

อ้อ... แล้วไอ้การปั่นจักรยานขึ้นเขานี่ เราไม่ไหวแล้วนะ เหมือนเส้นทางมันหลอกสายตาน่ะ กว่าจะไปได้แต่ละถีบนี่ ลมแทบจับ ซ้ำยังคิดว่าเพิ่งปั่นไปได้ชั่วโมงเดียว ที่ไหนได้ล่อไป 2 ชั่วโมง ไม่รู้ตัวเลย
 
 

โดย: นู๋เมี่ยง IP: 110.168.170.60 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:16:56:57 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com